✨考試院、監察院廢除議題❤️新聞報導❤️
新聞報導說明請右滑👉
在看之前~告訴大家,Sabrina英文小教室有ig呦!
ig帳號:sabrina_teachyoubetter
ig名稱:Sabrina英文小教室
歡迎大家追蹤😄
📰最近新聞吵得沸沸揚揚的當然非考監兩院廢除的議題莫屬囉~ 考試院、監察院可以說是神奇的存在,舉監察院為例,監察院可以彈劾、糾舉、審計、糾正,卻不能直接針對公務員或公務機關事件做出處分,像是彈劾必須透過公務員懲戒委員會才能做出處分,自身並無直接的懲戒權。考試院則是負責處理公務員相關撫卹、任免之類的事項。但是~若想廢除這兩院,必須要進行「修憲」(amendment of constitution),真的是浩大工程😖
📖單字整理
📍五院
行政院→ Executive Yuan
立法院→ Legislative Yuan
司法院→ Judical Yuan
監察院→ The Control Yuan
考試院→ The Examination Yuan
📍新聞報導
The Legislature on Friday approved the appointment of 11 members of the Examination Yuan, the branch of government that is responsible for administering national civil servant exams and appointing, training and protecting the rights of civil service personnel.
📍新聞報導單字整理:
legislature (n.)立法機構
approve (v.) 贊成;同意
appointment (n.) 任命;職務
Examination Yuan 考試院
branch (n.) 分支;分公司
administer (v.) 管理;執行
civil servant(n.) 公務員
personnel (n.) 全體人員
📍考試院職責:
civil service examinations 公務員考試
public service pension fund 公務員撫卹金
civil service retirement 公務員退休
📍監察院職責:
impeachment 彈劾
corrective measures糾正
censure糾舉
#時事 #新聞 #時事英文熱點 #英文 #學英文 #考試院 #學測 #指考 #2020跟著sabrina一起看世界脈動 #taiwan #台灣 #監察院 #英文教學
civil service examination 在 方志恒 Brian Fong Facebook 的最佳解答
【#新聞點評Viewpoint】
考評局被閹割,映照整個香港半民主政制之崩潰。英國在1970至1990年代留下的半民主政制之精髓,是以各種架構制衡非普選產生之特首,包括半民主化議會、獨立法院、中立公務員、自主公營機構、活躍公民社會、批判性傳媒、自由學術界。不幸地,近年這些架構都像骨牌一樣逐塊倒下。現時,唯一的制衡,恐怕只剩下國際監察。
The fall of Examination Authority is indicative of the wider breakdown of HK semi-democracy. The essence of the semi-democracy engineered by the British in the 1970s-1990s, i.e. putting in place check-and-balance mechanism on the non-popularly-elected CE, including a partially-democratized legislature, an independent judiciary, an impartial civil service, self-governed public organizations, a vibrant civil society, a critical media, a free academia. Sadly, all these institutions fall down like dominoes in recent years. Now the only check-and-balance is international oversight.
📰 https://www.scmp.com/…/hong-kong-exam-chiefs-need-more-time…
▋Further reading
Autonomy Without Democracy Is Proving Unsustainable in Hong Kong/Brian C. H. Fong
https://bit.ly/2TlltWN
#香港自治 #香港人 #中國 #自由世界 #國際共治 #考評局 #DSE
#HKAutonomy #HongKongAutonomy #Hongkonger #China #FreeWorld
------------------------------
Follow me in social media
------------------------------
👍Facebook: facebook.com/brianfonghk
🐦Twitter: twitter.com/brianfonghk
📱Telegram: t.me/brianfonghk
📝Medium: medium.com/@brianfonghk
📷Instagram: instagram.com/brianfonghk
civil service examination 在 sittikorn saksang Facebook 的最讚貼文
ระบบศาลของประเทศเกาหลีใต้
ศาลฎีกา
ศาลฎีกาเป็นศาลสูงสุดของประเทศ ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ประกอบด้วยประธานศาลฎีกาและผู้พิพากษา จำนวน 13 คน ในการพิจารณาคดีของศาลฎีกา อาจจะมีการร่วมพิจารณาคดีกันทั้งคณะ หรือแยกออกเป็นคณะเล็กที่ประกอบด้วยผู้พิพากษาคณะละ 4 คนศาลฎีกาทำหน้าที่ในการพิจารณาคดี ที่มีผู้ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลสูง (high court) ศาลอุทธรณ์ และศาลชั้นต้น รวมทั้งตัดสิน เพื่อรับรองผลการเลือกตั้งทั่วไป และการเลือกตั้งประธานาธิบดี อีกทั้ง มีอำนาจในการตรวจสอบ ขั้นสุดท้ายทางด้านกฎหมายของพระราชกฤษฎีกา กฎระเบียบ หรือข้อกำหนดในการบริหารราชการต่างๆ
ศาลฎีกาสามารถออกกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระเบียบการภายในของศาลฎีกา ได้แก่แนวการบริหารของศาล และกระบวนการพิจารณาคดีความ ในการยื่นคดีต่อศาลฎีกาให้พิจารณาคดีนั้น จะต้องมีหลักฐานแน่ชัด ตรงตามแนวปฏิบัติ กล่าวคือ สำหรับคดีแพ่งต้องมีข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ศาล ชั้นต้นสามารถตัดสินความในระดับหนึ่งก่อน ส่วนคดีอาญานั้น การที่จะยื่นคดีต่อศาลฎีกาได้ก็ต่อเมื่อเป็นคดี ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือต่อกฎหมาย เช่น เรื่องการทำแท้ง (abolition) หรือการกลับคำพิพากษาตัดสินลงโทษ ที่มีการรวบรวมหลักฐานผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัด หรือเป็นกรณีที่ถูกลงโทษจำคุกที่ไม่สมเหตุสมผล เพื่อที่จะช่วยให้ผู้พิพากษาทำงานในคดีความที่มีออกมากมายมหาศาลนั้น ผู้พิพากษานักวิจัย (research judges) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้พิพากษาสูงจะศึกษาคดีและวินิจฉัยเบื้องต้นก่อน โดยผู้พิพากษาวิจัยกลุ่มละ 2 คน ทำงานในแต่ละคดี ปัจจุบัน ผู้พิพากษานักวิจัยดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 20 – 30 คน
ศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ประกอบด้วยประธานผู้พิพากษา และผู้พิพากษาร่วมอีก 3 คน ทำ หน้าที่ในการ พิจารณาคดี ที่ได้รับการ อุทธรณ์ภายหลังที่ได้รับการตัดสินจากศาลชั้นต้นและศาลครอบครัว ทั้งที่เป็นคดีแพ่งและคดีอาญา คดีการปกครอง หรือคดีอื่นใดที่ได้ระบุไว้ในกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ในเกาหลีใต้มี 5 แห่ง ตั้งอยู่ที่กรุงโซล เตกู กวางจู ปูซานและเตจอน ในการพิจารณาคดีนั้น ศาลอุทธรณ์จะรื้อฟื้นการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง ซึ่งคำตัดสินอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของศาลชั้นต้นก็ได้
อนึ่ง ศาลอุทธรณ์เท่านั้นที่สามารถตัดสินคดีความที่บุคคลหรือองค์กร ทำการฟ้องร้องในผลการตัดสิน หรือคำสั่งของหน่วยงานราชการ หรือฟ้องร้องในเรื่องการถูกถอดถอนให้ออกจากตำแหน่งได้
ศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นทำหน้าที่ในการพิจารณาตัดสินคดีทั่วไปแทบทุกคดี ปัจจุบัน ศาลชั้นต้นตั้งอยู่ที่กรุงโซล และในเมืองหลักอีก 12 เมือง ศาลชั้นต้นในกรุงโซลแบ่งออกเป็น 2 ศาล คือ ศาลแพ่งแห่งกรุงโซล และศาลอาญาแห่งกรุงโซลตามปกติ ในการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นนั้น จะมีผู้พิพากษา 1 คน ทำหน้าที่ดังกล่าว ยกเว้นเป็นคดีร้ายแรง เช่น คดีแพ่งที่มีมูลค่าทรัพย์สินตั้งแต่ 50 ล้านวอน (37,000 เหรียญสหรัฐ) ขึ้นไป หรือคดีอาญาที่จะต้อง ตัดสินให้ผู้ต้องหาต้องโทษประหารถึงชีวิตที่จะมีคณะผู้พิพาษาพิจารณาคดีร่วมหลายคน
ศาลชั้นต้นมีสาขาศาล หรือเรียกว่า ศาลชั้นต้นสาขาย่อย ที่ให้ผู้พิพากษาพิจารณาคดี 1 คน ซึ่งมีอยู่จำนวน 42 แห่ง และมีศาลเทศบาลอีก 105 แห่ง (นับจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 1998) เป้าหมายของศาลชั้นต้นสาขาย่อยก็คือ ดำเนินการพิจารณาคดีเช่นเดียวกับงานของศาลชั้นต้นทั่วไป ส่วนศาลเทศบาลทำหน้าที่บริการ ทางด้านกฎหมายแก่ประชาชน
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ศาลชั้นต้นสาขาย่อยและศาลเทศบาลทำหน้าที่ใน การตัดสินคดีความเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การทะเลาะวิวาท การหย่าร้าง หรือคดีที่มีการยอมความกันได้
ศาลครอบครัว
ศาลครอบครัวทำหน้าที่พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน คดีเยาวชน หรือคดีในครอบครัวศาลครอบครัว จะไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้ารับฟังเพราะต้องการสงวนคดีความที่เป็นเรื่องส่วนตัวปัจจุบัน ศาลครอบครัวตั้งอยู่ ในกรุงโซลแห่งเดียว ส่วนท้องที่อื่นจะให้ศาลชั้นต้นทำหน้าที่แทน
ศาลปกครอง (administrative court)
ศาลปกครองเปิดทำการครั้งแรกที่กรุงโซล ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1998 เพื่อพิจารณาคดีเรื่องราวเกี่ยว กับการปกครองเท่านั้น ศาลชั้นต้นที่ตั้งอยู่นอกกรุงโซลจะทำหน้าที่พิจารณาคดีเรื่องการปกครอง
ศาลสิทธิบัตร (Patent court)
ศาลสิทธิบัตรเริ่มเปิดครั้งแรกในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1998 ที่เมือง เตจอน ทำหน้าที่ในการพิจารณา ข้อพิพาทด้าน สิทธิบัตร ที่ได้รับการส่งขึ้นมาจากงานสิทธิบัตร หรือเป็นตัวกลางในการพิจารณาเรื่อง นี้ก่อนที่จะส่งต่อให้ศาลฎีกาเพื่อตัดสินขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้นทั่วไปก็สามารถ พิจารณาคดีข้อพิพาทด้านสิทธิบัตรได้เช่นกัน
ศาลทหาร (Courts – martial)
ศาลทหารทำหน้าที่พิจารณาตีความของทหารและข้าราชการพลเรือนที่ทำงานในกองทัพที่กระทำผิด เช่น คดีความผิดฐานกบฏ การหนีทหาร การไม่เชื่อฟังคำสั่ง หรือการกระทำผิดทางอาญา ส่วนพลเรือนที่ต้องขึ้นศาล ทหารต่อเมื่อกระทำผิดในเรื่องการจารกรรมทางทหาร การเข้าไปแทรกแซงกิจการของทหาร หรือคดีที่ได้ระบุไว้ใน กฎหมายอย่างชัดแจ้ง
คุณสมบัติและการแต่งตั้งผู้พิพากษา
ประธานศาลฎีกา และผู้พิพากษาศาลฎีกาจะต้องมีอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีประสบการณ์ในหน้าที่ผู้พิพากษา อัยการ หรือนักกฎหมายมาแล้วไม่น้อยกว่า 15 ปี ส่วนผู้พิพากษาในศาลอื่นๆ จะต้องสอบผ่านเนติบัณฑิต (Judicial Civil Service Examination) และได้รับการอบรมที่ สถาบันวิจัยตุลาการ (Judicial Research and Training Institute) เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี รวมทั้งต้องเข้ารับตำแหน่งทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาทดลอง (probationary judge) เป็นเวลา 2 ปีอีกด้วย หรือจะต้องได้รับการรับรองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอัยการ หรือเป็นนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญ (qualified prosecutor / lawyer)
ประธานศาลฎีกาได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีตามความเห็นชอบของรัฐสภา ส่วนผู้พิพากษาศาล ฎีกาท่านอื่นๆ ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี โดยการเสนอของผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ผู้พิพากษาศาลที่ต่ำลง มาได้รับการแต่งตั้งจากผู้พิพากษาหัวหน้าศาล
วาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับ 6 ปี แล้วจะไม่ได้รับการแต่งตั้งซ้ำอีก อนึ่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจะต้องออกจาก ตำแหน่งเมื่ออายุได้ 70 ปี ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งของคณะเท่ากับ 6 ปีเท่ากัน และอาจได้รับตำแหน่ง ต่อไปอีกภายใต้ระเบียบ ของกฎหมายที่กำหนด แต่จะต้องออกจากตำแหน่งเมื่ออายุครบ 65 ปี ส่วนอายุเกษียน ข้าราชการของผู้พิพากษาอื่นๆ เท่ากับ 63 ปี
การค้ำประกันสถานภาพ เพื่อให้สามารถตัดสินคดีความได้อย่างเป็นอิสระ ผู้พิพากษาได้รับการคุ้มครอง การทำงานจากรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษาจะไม่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เว้นแต่จะถูกไต่สวนถอดถอน (impeachment) หรือกระทำผิดทางอาญา ในขณะเดียวกัน ผู้พิพากษาจะไม่ถูกให้สำรองราชการ หรือลดเงินเดือน เว้นแต่จะได้รับการตัดสินจากอนุญาโตตุลาการ
การบริหารงานของฝ่ายตุลาการ
ศาลฎีกามีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานด้านตุลาการอย่างกว้างขวาง ประธานศาลฎีกาจะรับผิดชอบ ต่องานบริหารของศาลทุกประเภท และจะเขียนคำร้องไปยังรัฐสภาเพื่อ ให้ออกเป็นกฎหมาย หากเห็นว่ามีความจำเป็น งานบริหารของฝ่ายตุลาการอาจจำแนกได้ดังนี้
1.คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา ประกอบด้วยผู้พิพากษา 14 คน และมีประธานศาลฎีกาเป็นหัวหน้า ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาหารือเพื่อแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลในระดับต่ำลงมา สร้างกฎระเบียบของศาลฎีกา พิจารณาการแปรงบประมาณ หรือข้อกำหนดอื่นใด รวมทั้งเรื่องราวที่สำคัญๆ
กระทรวงการบริหารงานตุลาการ (Ministry of Court Administration) กระทรวงยุติธรรมจะ ทำหน้าที่ในการดำเนินงานทางด้านธุรการในศาลตามมติของคณะผู้พิพากษาศาลฎีกา ประธานศาลฎีกาจะเป็น ผู้แต่งตั้งรัฐมนตรีของกระทรวงนี้ โดยเลือกจากผู้พิพากษาคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่ กระทรวงนี้แบ่งงานออก เป็นสำนักวางแผน สำนักการวิจัยนโยบายตุลาการ สำนักบริหารบุคคล และ 4 กรม (Litigation, Property and Family Registry, Court Construction, General Affairs) รวมทั้งฝ่ายประชาสัมพันธ์
2.สถาบันวิจัยทางตุลาการ และฝึกอบรม (Judicial Research and Training Institution) เป็นสถาบันเดียวที่ให้การศึกษา (the bench) และเนติบัณฑิต (the bar) ในเกาหลี โดยให้ความ รู้ทางทฤษฎีและการฝึกหัดแก่ผู้ฝึกหัด ที่ผ่านข้อสอบเนติบัณฑิต (Judicial Civil Service Examination) แล้ว สถาบันแห่งนี้มีหลักสูตร 2 ปี ในการฝึกอบรมผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นนักกฎหมายอาชีพ ในขณะเดียวกัน สถาบันแห่งนี้เป็นแหล่งให้ผู้พิพากษาใช้เป็นสถานที่เพิ่มพูนความรู้และทำการว่าจ้างทางด้านกฎหมายอีกด้วย
civil service examination 在 Civil Service Exam PH - Home | Facebook 的推薦與評價
The Civil Service Commission (CSC) has announced the 2022 calendar of national civil service written examinations through Examination Anno. ... <看更多>