英國推出迄今最大綠能發展方案,光在離岸風電就投入逾 2 億英鎊經費!(09/13/2021 TechNews科技新報)
(作者 Daisy Chuang)英國政府在綠能領域投入大量資金,最近更宣布有史以來最大規模再生能源方案,包括於離岸風電挹注 2 億英鎊、在新興再生能源技術投入 5,500 萬英鎊。
英國政府支持低碳能源的方式為差價合約(Contracts for Difference,CfD),符合條件的再生能源計畫就能申請 CfD,能以固定價格出售電力,降低開發風險,其中多家賣方競標決定履約價格後,接下來再與英國國營的低碳合約公司(Low Carbon Contracts Company,LCCC)簽約,合約期限為 15 年。
英國電力市場自由,發電商出售電力公司的價格是浮動的,假如履約價格高出市場參考價格, LCCC 就會負責補貼發電商,這項機制主要代替直接補貼,反之則返還差額,雖然不一定是「補助」,但能保證業者不會因市場價格波動而損失。
英國政府指出,在年底最新一輪的差價合約中,提供 2 億英鎊支持離岸風電,且沒有容量上限,同時為潮汐能、地熱、波浪能、浮動式離岸風電等新興再生技術提供 5,500 萬英鎊,更希望可以為浮動風電挹注 2,400 萬英鎊。英國能源和氣候變遷部長 Anne-Marie Trevelyan 指出,新計畫將鼓勵下一代再生能源發展,不僅為住家供電,還能實現英國領先全球的氣候目標。
英國商業、能源暨工業策略部(BEIS)表示,第四輪差價合約的目標,拚採購量較上一輪、也就是 2019 年底結束的採購合約增加一倍。目前英國政府承諾兩年舉行一次拍賣,不過第四輪差價合約可能要到 2022 年第二或第三季度才會結束。
Britain announces biggest round of its renewable energy scheme | Reuters
https://www.reuters.com/world/uk/britain-announces-biggest-round-its-renewable-energy-scheme-2021-09-12/
UK puts £265m into CfD auction pot
https://renews.biz/72199/uk-puts-265m-into-cfd-auction-pot/
完整內容請見:
https://technews.tw/2021/09/13/uk-cfd-4-auction
♡
「energy reuters」的推薦目錄:
energy reuters 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最讚貼文
*** ทะเลเม็กซิโกลุกเป็นไฟ เหตุท่อส่งแก๊สรั่ว! ***
วันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุท่อส่งแก๊สรั่วในทะเลเม็กซิโก ทำให้เกิดไฟไหม้ผิวน้ำของทะเลเม็กซิโกดังภาพแนบ ซึ่งภาพดังกล่าวแพร่หลายบนสื่อสังคมและได้ชื่อว่า “ตาไฟ” (eye of fire) ด้านบริษัทปิโตรเลียมเม็กซิโกยืนยันคุมเพลิงได้แล้ว
ท่อส่งแก๊สดังกล่าวเป็นของพีเม็กซ์ รัฐวิสาหกิจปิโตรเลียมของเม็กซิโก ซึ่งมีประวัติเกิดอุบัติเหตุแล้วหลายครั้ง เฉพาะในปี 2021 เกิดอุบัติเหตุแล้วถึง 2 ครั้ง
ท่อดังกล่าวเชื่อมต่อกับแท่นขุดเจาะกลางทะเลใหญ่สุดของบริษัท ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันกว่า 726,000 บาร์เรลต่อวัน และขณะเกิดเหตุนั้นไฟลุกอยู่ห่างจากแท่นนี้เพียง 150 เมตร
พีเม็กซ์ออกแถลงการณ์ระบุว่าเกิดเพลิงไหม้จากท่อส่งแก๊สใต้น้ำรั่วนอกคาบสมุทรยูคาตาน และพนักงานบริษัทใช้ไนโตรเจนเพื่อดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ และเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากพายุฟ้าคะนองและฝนตกหนัก ทั้งนี้ ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือการอพยพแท่นขุดเจาะกลางทะเล
หัวหน้าหน่วยงานควบคุมความปลอดภัยด้านน้ำมันของเม็กซิโกยืนยันว่าไม่มีปิโตรเลียมรั่วไหลสู่ทะเลอย่างแน่นอน แต่ไม่ตอบว่าอะไรเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดไฟไหม้ทีผิวน้ำ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ไฟยังโหมกระหน่ำซึ่งดูคล้ายลาวาเหลวนั้น ภาพถ่ายทางอากาศของเหตุการณ์ดังกล่าวกลับได้รับความนิยมมากในโซเชียลมีเดีย จนมีคนตั้งชื่อมันว่า “ตาไฟ” นำสู่การนำไปทำเป็นมีมล้อเปรียบเทียบกับดวงตาของเซารอนในหนังเรื่องลอร์ดออฟเดอะริงส์
::: อ้างอิง :::
reuters ดอต com/business/energy/fire-offshore-pemex-platform-gulf-mexico-under-control-2021-07-02/
nypost ดอต com/2021/07/02/massive-eye-of-fire-breaks-out-from-pipeline-leak-in-gulf-of-mexico/?
cbsnews ดอต com/news/fire-ocean-gulf-of-mexico-burst-pipeline-eye-of-fire/
theguardian ดอต com/world/2021/jul/03/eye-of-fire-gas-leak-sparks-huge-blaze-on-ocean-surface-off-mexico?
energy reuters 在 KIM Property Live Facebook 的最讚貼文
8 เหตุผลที่ทำให้บัฟเฟตต์ซื้อหุ้น 5 บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่น
วอร์เรน บัฟเฟตต์สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อทำการฉลองวันเกิดครบรอบ 90 ปีด้วยการซื้อหุ้นผู้นำกลุ่ม Trading Companies ของญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่พูดมาตลอดว่า "อย่าเดิมพันตรงข้ามอเมริกา" ซึ่งญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่เผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซามานานกว่า 30 ปีและอนาคตก็ยังต้องเจอโจทย์ท้าทายมากมายทั้งเรื่องการระบาดที่ยังไม่จบ, สังคมผู้สูงอายุ, เทคโนโลยีปรับตัวได้ช้ากว่าสหรัฐและจีน และล่าสุดนายกก็พึ่งลาออกอีก
มันจึงสร้างความงงงวยให้แก่นักลงทุนทั่วโลก แต่ละคนก็พยายามหาคำตอบว่าปู่คิดอะไรอยู่ ทำไมต้องเป็นญี่ปุ่น? แล้วรอบนี้ไม่ได้ซื้อน้อย ๆ นะครับ มูลค่าหุ้นที่ซื้อรอบนี้รวมกันกว่า 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ แถมยังมีท่าทีจะซื้อเพิ่มอีกเกือบเท่าตัวด้วย แปลว่ารอบนี้ปู่ “เอาจริง”
ผมจึงได้สรุป 8 เหตุผลจากการวิเคราะห์ของสื่อและนิตยสารชื่อดังต่าง ๆ ทั่ง Bloomberg, Financial Time ,Reuters และ Forbes ที่พยายามอ่านใจปู่บัฟเฟตต์
1. การอ่อนค่าของดอลลาร์และนโยบายดอกเบี้ยต่ำของสหรัฐ
นักวิเคราะห์มองว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้นโยบายเหล่านี้มานานแล้ว และผลที่ได้คือภาวะเศรษฐกิจซบเซามายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ญี่ปุ่นเลยดูไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับสหรัฐที่ GDP เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่พอสหรัฐกำลังทำนโยบายตามญี่ปุ่นก็อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐซบเซาเหมือนญี่ปุ่น ฉะนั้นเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วญี่ปุ่นจึงดูน่าสนใจขึ้นมา
2. ความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพสูง
เป็นจุดเด่นของประเทศญี่ปุ่นที่ผู้คนขยัน มีวินัยและความน่าเชื่อถือสูง ทำให้แม้ว่า GDP จะไม่โต แต่ก็ไม่ร่วงเช่นกัน ในอีกมุมนึงมันก็แสดงถึงความสม่ำเสมอของแดนปลาดิบแห่งนี้
3. เป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย
แม้ว่าทั้ง 5 บริษัทจะมีการทำธุรกิจที่หลากหลาย อย่างเช่น Mitsubishi ที่น่าจะคุ้นหูคนไทยก็มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ไม่ได้พูดเล่นนะครับ เพราะทำเรือรบด้วยจริง ๆ อีกทั่งยังทำธุรกิจเหมืองแร่ ธนาคาร รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ แต่ถึงจะซับซ้อนแค่ไหนก็เป็นธุรกิจที่เข้าใจไม่ยาก พอจะคาดการณ์กระแสเงินสดได้ตามสไตล์บัฟเฟตต์
4. เป็นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
พอไปดูไส้ในของแต่ละบริษัทแล้ว พบว่ากว่าครึ่งของธุรกิจมีความเกี่ยวเนื่องกับสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งพลังงาน, สินแร่, โลหะและสินค้าเกษตร จึงสอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่บัฟเฟตต์ทำการซื้อท่อก๊าซของ Dominion Energy และหุ้นเหมืองทองไป ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบัฟเฟตต์คาดการณ์ว่าสินค้าโภคภัณฑ์จะมีราคาสูงขึ้นหลังจากนี้ แต่ด้วยสไตล์จึงซื้อเป็นธุรกิจแทนการซื้อสินค้าโภคภัณฑ์โดยตรง
5. แนวโน้มดีในระยะยาว
นอกจากเรื่องเสถียรภาพแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังมีประชากรที่หนาแน่นและมีทรัพยากรค่อนข้างน้อย ทำให้มีความต้องการบริโภคสินค้าเหล่านี้มาก แม้ว่าธุรกิจเหล่านี้จะ Margin น้อย แต่ได้ค่อนข้างชัวร์
6. ความยืดหยุ่นของบริษัท
แม้ว่าจะมีสินค้าบางประเภทที่อาจถูก disrupt แต่ด้วยธุรกิจที่หลากหลายนั้นทำให้ไม่กระทบต่อตัวบริษัทมาก และสามารถปรับตัวกับเทรนด์ใหม่ ๆ ได้ อีกทั้งธุรกิจหลักมักเกี่ยวกับสินแร่และโลหะต่าง ๆ ที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ อารมณ์ประมาณว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแค่ไหน แต่วัตถุดิบต้นน้ำก็ไม่เปลี่ยนหน้าตาไปมาก จะล้ำแค่ไหนวัสดุก็ไม่ค่อยพ้นเหล็ก อลูมิเนียม พอลิเมอร์ วน ๆ อยู่แถวนี้แหละ
7. ความแข็งแกร่งของบริษัท
สืบเนื่องจากความยืดหยุ่น ทำให้บริษัทเหล่านี้มีความแข็งแกร่งมาก บางบริษัทอายุกว่า 400 ปี (Sumitomo ก่อตั้งในปี 1615) ก่อตั้งก่อนประเทศสหรัฐด้วยซ้ำ คือไม่รู้ผ่านมากี่สงคราม ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแค่ไหน ก็ยังอยู่มาได้ ใจคอถ้าจะล้มในรอบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเหลือบริษัทไหนอยู่รอดบ้างนะครับ
8. ราคาเหมาะสม
ถือเป็นท่าไม้ตายของ VI เลย คือต่อให้ดีแค่ไหน แต่แพงไปก็ไม่ซื้อ โดยเกือบทุกหุ้นที่บัฟเฟตต์ซื้อในรอบนี้นั้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (PBV<1) ยกเว้นแค่ Itochu ที่ PBV=1.2 แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ Nikkei225 ที่ PBV=1.8
สรุปแล้วเหมือนว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์จะส่งสัญญาณไปที่กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์นะครับ ส่วนที่ต้องเป็นญี่ปุ่นนั้นเพราะเรื่องเสถียรภาพ คือก่อนหน้านี้ทุกประเทศดูดีทำให้ญี่ปุ่นดูไม่น่าสนใจ แต่ในยามที่ทุกประเทศกำลังแย่ ญี่ปุ่นกลับดูน่าสนใจขึ้นมา เพราะเป็นประเทศทนทานต่อวิกฤตได้ดีกว่าประเทศอื่น ผิดถูกอย่างไรก็ลองใช้วิจารณญาณกันดูนะครับ
แล้วเพื่อน ๆ คิดเห็นอย่างไร มีใครจะเป็นสาวกบัฟเฟตต์บ้าง จะซื้อตามกันไหมครับ? หรือว่ายังอึ้งกันอยู่เพราะไม่รู้ปู่คิดอะไร คอมเมนท์มาคุยกันครับ
.
แอดปุง
energy reuters 在 Powering the Energy Transition: Initiatives from the ... - YouTube 的推薦與評價
Part of the 2021 Reuters Global Energy Transition forum, this roundtable showcased the innovative and transformational climate action we are ... ... <看更多>