💕
ตำรับไทย สมุนไพรไทยชวนกลับบ้าน สงกรานต์นี้กลับมากอดกัน
“บ้าน” สำหรับใครหลายคน ไม่ได้หมายถึงที่พักอาศัย แต่หมายถึง “คนในครอบครัว” ความหมายของการได้ “กลับบ้าน” จึงไม่ใช่แค่การกลับไปที่ที่คุ้นเคย แต่หมายถึงการกลับไปใช้เวลาอยู่กับคนในครอบครัว
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เราจึงได้เห็นกรุงเทพมหานคร ตกอยู่ในบรรยากาศเงียบเหงา ปลอดรถรา เพราะช่วงเวลาสำคัญ ใคร ๆ ก็อยากกลับไปใช้เวลากับคนในครอบครัว
“กลับบ้าน” จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “ตำรับไทย สมุนไพรไทยชวนกลับบ้าน” ที่ “มหาคุณ เทพสุทิน” ผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย จัดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อตอบแทนพนักงานร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย ทุกคน ที่ทำงานอย่างขันแข็งตลอด 365 วัน และเสียสละเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัว โดยให้พนักงานเขียนเล่าความรู้สึก ว่าการได้อยู่กับครอบครัวสำคัญกับชีวิตขนาดไหน พนักงานที่ได้รับคัดเลือกจะได้กลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์
“พนักงานหน้าร้านมีวันหยุดงานตามกฎหมายแรงงาน สัปดาห์ละ 1-2 วัน แต่ในช่วงเทศกาลสำคัญ เราอยากให้พนักงานของเรามีโอกาสได้ไปใช้เวลากับครอบครัว จึงได้จัดแคมเปญ “ตำรับไทย สมุนไพรไทยชวนกลับบ้าน” ซึ่งจุดประสงค์ของเรา ไม่ได้คิดถึงแค่พนักงานที่เราดูแลเท่านั้น แต่ตำรับไทย สมุนไพรไทย ต้องการบอกกับทุกคนว่า ช่วงเวลาที่ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวเป็นช่วงเวลาสำคัญและมีค่า บางคนอาจจะหลงลืมไป แต่คนที่อยู่ที่บ้านต่างเฝ้ารอเวลาที่จะได้เจอหน้าและทำกิจกรรมร่วมกัน” ผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย กล่าว
ครั้งนี้ “หมอออย - สุรชัย ไชยลังการ” แพทย์แผนไทยประจำร้านตำรับไทย สมุนไพรไทย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เป็นพนักงานที่ได้รับเลือกให้ได้กลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งหมอออยบอกว่า พ่อกับแม่จะถามเสมอว่า ช่วงเทศกาลจะได้กลับบ้านไหม ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้กลับบ้านในเทศกาลสำคัญ จะใช้วิธีโทรศัพท์พูดคุยกัน แต่หลังจากเทศกาลแล้วถึงจะได้กลับไปหา
“พอรู้ว่าได้รับเลือกให้กลับบ้านช่วงสงกรานต์ ผมดีใจมาก เพราะการได้อยู่บ้าน ได้เห็นหน้าพ่อแม่ ล้อมวงกินข้าวร่วมกัน ได้อยู่ข้าง ๆ คนในครอบครัว เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราไม่จำเป็นต้องมีคำพูดอะไรเลย”
หมอออย เล่าพร้อมรอยยิ้มว่า เวลาที่ได้กลับบ้าน เป็นเวลาที่ไม่เพียงแค่พ่อกับแม่เฝ้ารอ ตาและยายก็จะเฝ้ารอเวลาได้เจอหน้ากัน โดยทั้งคู่จะลงมือเข้าครัวด้วยตนเอง คุณยายทำปลานึ่ง ขณะที่คุณตาทำลาบคั่ว ซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของหมอออย จัดขึ้นสำรับอาหารมื้อสำราญของครอบครัว เป็นหลักฐานของความรักและความผูกพันของคนในบ้าน ที่ส่งผ่านมากับอาหารจานโปรดของหมอออย โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาใด ๆ ก็รับรู้ได้ถึงความ “รักและคิดถึง” ที่ตาและยายมีให้กับลูกหลานที่ไปอยู่ไกลตาอย่างหมอออย
สงกรานต์ของหมอออยปีนี้ จึงเป็นการกลับสู่อ้อมกอดของคนในครอบครัวในช่วงเวลาสำคัญ พร้อมนำความรักและปรารถนาดีจากตำรับไทย สมุนไพรไทย ไปสู่สถาบันครอบครัว ตำรับไทยฯ ขออาสาเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสร้างสถาบันครอบครัวไทยให้เข้มแข็ง เพราะสังคมไทย คือ ครอบครัวใหญ่ของเราทุกคน
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซด์ >> http://bit.ly/2UtoyXm
#ร้านตำรับไทยสมุนไพรไทยชวนกลับบ้าน #ร้านตำรับไทยสมุนไพรไทย #88สาขาทั่วประเทศ
Thai herbs Thai herbs invite you to go home to this songkran. Come back to hug each other.
" Home " for many people doesn't mean living, but means " family " the meaning of " home " is not just going back to a familiar place, but going back to spend time with family.
During the Songkran festival, we saw Bangkok, lonely, free, because of the important time. Everyone wants to go back to spend time with family.
" Back home " is the source of " Thai herbal recipe " at " Maha Thepsuthin " the founder and director of Thai herb Thai herb recipe organised during Songkran festival to pay back to the staff of Thai herbal restaurant staff. All Thai people who work hard for 365 days and sacrifice time to be with family. Let the staff write about how important it is to be with their lives with their lives. They will be home during Songkran Festival.
" Staff in front of the shop has 1-2 days off at the law, but during the important festival, we want our staff to have a chance to spend time with family, so we have a " Thai herb " campaign to go home " which our purpose is not only miss staff. We only take care of Thai herbal recipe. We want to tell everyone that the time to be with family is important and valuable time. Some people at home are waiting for the time to see and do activities together. " Founder and manager. Thai recipe shop. Thai herbs says.
This time, "Noi-Surachai Chaiel cuddle ngk" Thai traditional medicine in Thai herb restaurant, which has phum lam nae at Wiang kaen district, Chiang Rai province. It is a chosen staff. Let's go home during the Songkran Festival. Which is always asked if the festival will be able to go home. Most of them won't go home during the important festival. They will use the phone way to talk, but after the festival. I will be able to go back.
" When I know that I have been chosen to go home during songkran, I am so glad because being home, seeing parents surrounded by the band, eating together. It's an important time that we don't need any words
Aoy told me that when we come home, it's time not only for dad and grandma and grandma will wait for the time to see each other. Both of them will go to the kitchen by themselves. Grandma makes steamed fish while grandpa makes spicy salad. Wor is my favorite food for family meal. It is proof of the love and bonding of people in the house sent through with my favorite food without saying any words. I can feel the "love and miss" that grandfather and grandmother have for the children who are far away from my eyes.
This year's trans are a family hug in the important time and good wishes from Thai herbs to the Thai herbs to be a part of the family institute. We would like to be part of the family institute. Thai to be strong because Thai society is our big family.
Stay tuned for more details on the website >> http://bit.ly/2UtoyXm
#ร้านตำรับไทยสมุนไพรไทยชวนกลับบ้าน #ร้านตำรับไทยสมุนไพรไทย #88สาขาทั่วประเทศTranslated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅クレイユーキーズKureiYuki's,也在其Youtube影片中提到,EKABO Download & Streaming : https://big-up.style/6ryhl759QV クレイユーキーズの9thシングル。クレイ勇輝、Kafu Sato、Martin(OAU)、杉本雄治(WEAVER)、 真船勝博が参加し、ボーカリストはファーストシングル以来再び...
「glad to talk with you on the phone」的推薦目錄:
glad to talk with you on the phone 在 แอ๊ปเปิ้ล (Apple Show) Facebook 的精選貼文
เช้านี้..จงใช้ชีวิตให้มีความสุขซะ
เพราะชีวิตนั้นมันสั้นนัก
แชร์ไว้.. #AppleShow อยากให้เธอได้อ่าน
ผมใช้เวลา 1 ชั่วโมงนี้ เพื่อแปลโพสต์สุดท้ายของ " Holly Butcher" สุภาพสตรีที่ป่วยเป็นมะเร็งในวัย 26 ปี เธอเสียชีวิตหลังจากโพสต์ข้อความนี้ใน Facebook เพียง 24 ชั่วโมง และครอบครัวก็นำมาเผยแพร่เพื่อให้ผู้อื่นอ่านและรับรู้ว่าชีวิตนี้มีค่ามาก
แม้จะเป็นการแปลแบบมือสมัครเล่นที่ไม่ได้ลุ่มลึกในเรื่องของการใช้ภาษานัก แต่ผมตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะถ่ายทอดมันออกมาให้ใครก็ตามที่ได้อ่านข้อความนี้
ผมขออุทิศโพสต์นี้ให้เธอ
******************************************************
"มันก็แปลกอยู่นะที่ฉันจะต้องยอมรับความตายในวัยแค่26ปี
ความตายเป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวอย่างเรามักจะเพิกเฉย เพราะเราคิดว่ายังจะมีวันพรุ่งนี้เสมอ เราจะมีชีวิตไปเรื่อยๆ ความตายเป็นเรื่องของวันข้างหน้าที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ฉันนึกภาพตัวเองตอนแก่ หน้าเหี่ยว ผมหงอกเต็มหัว อยู่ท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น มีหลานๆวิ่งเต็มบ้าน ฉันอยากจะสร้างครอบครัวกับคนรักอย่างที่ฝันไว้
ฉันอยากได้ชีวิตแบบนั้น
คิดแล้วก็ทรมานเหลือเกิน
ชีวิตที่เรารักนี้มันเปราะบาง คาดเดาอะไรไม่ได้เลย ทุกวันที่มีชีวิตคือของขวัญต่างหาก ไม่ใช่การดำรงอยู่เพราะเรามีสิทธิที่จะมีชีวิตต่อไปอย่างที่เข้าใจ ตอนนี้ฉันอายุ 27 ปีแล้ว ฉันรักชีวิตของฉัน ฉันมีความสุขกับมัน ฉันมีความรักที่ดี
แต่ไม่มีใครควบคุมชะตาชีวิตได้ทั้งนั้น
ฉันเขียนโพสต์นี้ก่อนฉันจะตาย ความตายน่ากลัว แต่เราต่างก็มองข้ามและพยายามไม่คิดถึงมัน ฉันก็เคยคิดว่ามันคงไม่ได้จะเกิดกับตัวเองหรือใครในเร็ววัน การคิดถึงความตายเป็นเรื่องที่แย่จริงๆ
สิ่งที่ฉันอยากจะบอกคือ คุณเลิกกังวลกับปัญหางี่เง่าเล็กๆน้อยๆ ความเครียดที่ไม่ได้สลักสำคัญที่เกิดกับชีวิตเสียเถอะ และพึงระลึกว่าเราต่างต้องเผชิญกับโชคชะตาทั้งนั้น สิ่งที่เราทำได้ควรจะเป็นการใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความรู้สึกที่ดี มีคุณค่าในตัวเอง ตัดเรื่องปัญญาอ่อนออกไปเหอะ
ฉันใช้เวลาคิด ไตร่ตรองชีวิตของตัวเองในวาระสุดท้ายนี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และมันมักจะโผล่ขึ้นมากลางดึกซะด้วย ในช่วงเวลาที่คุณเอาแต่บ่นกระปอดกระแปด ขอให้รู้ว่าคนอื่นก็เจอปัญหาแบบเดียวกับคุณและอาจจะอยู่้ในเงื่อนไขที่แย่กว่า โยนมันทิ้งไปเถอะ
ต้องยอมรับนะว่าบางเรื่องมันก็กระทบจิตใจและสร้างความรำคาญให้ชีวิต แต่อย่าแบกมันเอาไว้ เพราะตัวคุณเองก็จะส่งต่อผลกระทบทางลบไปที่ชีวิตของคนอื่นรอบข้างด้วย
เมื่อคุณเริ่มเหวี่ยงหรือปล่อยพลังลบให้คนอืิ่่น ขอให้เดินออกมาจากตรงนั้นก่อน หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด ดูท้องฟ้าที่ยังสดใส ดูความเขียวชะอุ่มของต้นไม้ เห็นไหมว่ามันสวยงามมากเลย คุณโชคดีแค่ไหนแล้วที่คุณยังมีชีวิตและหายใจได้ในตอนนี้
วันที่คุณเซ็งกับรถติดหรืออาจจะนอนน้อยเพราะลูกปลุกคุณทั้งคืน ช่างตัดผมตัดให้คุณสั้นเกินไป เล็บที่ไปต่อมาเป็นรอยไม่สวย คิดว่าตัวเองนมเล็กเกินไป หรือคุณอาจกังวลกับเซลลูไลท์ที่ต้นขาและพุงที่น่าเกลียดของตัวเอง
คุณปล่อยเรื่องบ้าๆพวกนี้ทิ้งไปเหอะ
ฉันสาบานว่าคุณจะไม่มีวันคิดเรื่องพวกนี้อีกถ้าคุณกำลังจะตายในอีกไม่ช้า เป็นเรื่องสำคัญนะที่คุณจะต้องถอยออกมาแล้วมองชีวิตแบบภาพรวมทั้งหมด ตัวฉันเองเห็นร่่างกายของตัวเองเสื่อมสลายไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ฉันทำอะไรกับมันไม่ได้เลย สิ่งที่ฉันต้องการคือ ฉันอยากจะอยู่ให้ถึงวันเกิดของตัวเองหรือวันคริสต์มาสที่ได้ใช้เวลากับครอบครัว วันที่ฉันจะได้เล่นกับหมา มีความสุขกับคนที่รัก
แค่อีกสักครั้งเท่านั้น
ฉันได้ยินคนเอาแต่บ่นเรื่องปัญหาจากการทำงาน หรืออ้างแต่ว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย จงสำนึกในตอนนี้เถอะว่ามันดีแค่ไหนแล้วที่ร่างกายคุณยังทำงานหรือขยับเขยื้อนได้ แต่ละวันที่คุณทำงานหรือแต่ละก้าวที่คุณออกวิ่ง มันดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมากๆนะ แต่มันจะมีค่ามาก ถ้าคุณพบกับวันที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยอีกต่อไป
ฉันพยายามที่จะดูแลตัวเอง นั่นเป็นPassionของฉันเลยล่ะที่อยากจะมีสุขภาพแข็งแรง จงรักร่างกายของตัวเองเถอะ แม้ว่ารูปร่างเราอาจจะไม่ได้เป๊ะอย่างที่อยากก็ตาม ดูความมหัศจรรย์ของมัน กินอาหารที่สดและเป็นประโยชน์ รักตัวเอง แต่อย่าหลงใหลมันเกินเหตุนะ
จำเอาไว้ คำว่าสุขภาพที่ดีความหมายกว้างกว่าการมีร่างกายแข็งแรง สิ่งที่สำคัญคือสุขภาพจิต อารมณ์ และความสุขในระดับจิตวิญญาณต่างหาก เมื่อกลับมามองใหม่ คุณจะพบว่าเรื่องที่มีสาระยังมีมากกว่าการมีรูปร่างที่ดีไว้อวดในโซเชียลมีเดีย ไปลบหรือunfollowเพจที่คุณอ่านแล้วทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ซะ หรืิอกระทั่งเลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนหรือใครก็ตามทีที่ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำ
จงดีใจเถอะถ้าวันนี้ร่างกายคุณยังแข็งแรงดีอยู่ หรืออาจจะแค่เป็นหวัด เมื่อยหลัง หรือข้อเท้าเคล็ดก็ตาม อาการพวกนี้ไม่ทำให้ถึงตายหรอก เดี๋ยวก็หาย
บ่นให้น้อยลง แล้วเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเถอะ
โปรดให้ ให้ และให้ผู้อื่นเสมอ เรามักจะมีความสุขเวลาที่ทำสิ่งดีๆให้คนอื่นมากกว่าตอนที่ทำเพื่อตัวเองเสมอล่ะ ตัวฉันเองก็ยังอยากจะทำดีกับคนอื่นให้มากกว่านี้
ตั้งแต่ป่วยมา ฉันพบกับสิ่งวิเศษ ผู้คนที่จิตใจดีทั้งคนรู้จักและคนแปลกหน้า ความรักและกำลังใจจากครอบครัวที่ยอดเยี่ยมของฉัน พวกเขาให้ฉันมากเหลือเกิน มากกว่าที่ฉันจะตอบแทนได้หมด ฉันจะไม่มีวันลืมพวกเขาและสิ่งดีๆนี้เลย
เรื่องเงินก็ด้วย บทจะตายจริงๆ ฉันไม่ได้คิดเรื่องการใช้เงินเลย มันไม่ใช่เวลาที่เราจะออกไปชอปปิ้งและซื้อของที่ชอบ ซื้อชุดใหม่ที่อยากใส่ ตัวฉันเองคิดได้ว่าตัวเรานี่ใช้เงินไปเยอะมากกับเรื่องเสื้อผ้าและเรื่องสิ้นเปลืองอื่นๆในชีวิต ตลอดช่วงที่ผ่านมา
วันๆคุณอาจจะคิดแต่เรื่องการซื้อชุดใหม่ ของสวยงาม เครื่องประดับที่จะใส่ไปงานแต่งงานของเพื่อนครั้งต่อไป โดยที่คุณไม่รู้หรอกว่า 1. ไม่มีใครมานั่งดูหรอกว่าคุณใส่ชุดซ้ำหรือเปล่า 2. เป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะเอาเงินไปใช้ชีวิต กินข้าว ได้อยู่กับเพื่อนๆ อาจจะซื้อต้นไม้ หรืิอชุดสวยๆไปให้พวกเขา หรือจะหากิจกรรมดีๆด้วยกันก็ได้ จงเห็นคุณค่าในเวลาชีวิตของคนอื่น อย่าปล่อยให้พวกเขารอคุณเพราะนิสัยสายเสมอของคุณ เพื่อนๆอยากใช้เวลากับคนที่ไปถึงก่อนเวลาและแชร์สิ่งที่ดีกับพวกเขา ตัวคุณเองก็จะได้รับความเคารพจากพวกเขาเช่นกัน
ปีนี้ ครอบครัวของฉันไม่ได้ให้ของขวัญกันหรือตกแต่งต้นคริสมาสต์เหมือนเคย มันก็ดีเหมือนกันนะ จะได้ไม่ต้องกดดันว่าต้องไปหาซื้อของหรือเขียนการ์ดให้คนอื่น แต่ฉันก็แอบคิดนะว่าฉันน่าจะได้ของขวัญ มันอาจจะดูเหยาะแยะ แต่พวกการ์ดอวยพรที่เขียนให้กันมีความหมายกับฉันมากกว่าของขวัญที่ซื้อกันช่วงเทศกาลเสียอีก แต่่นั่นก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่กว่าคริสต์มาสที่มีความหมายหรอก
ใช้เงินของคุณไปกับประสบการณ์ที่ดีเถอะ หรืออย่างน้อยก็อย่าผลาญเงินไปจนหมดจนคุณไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ฺเลย คุณอาจจะขับรถไปชายหาดสักที่ จุ่มเท้าในน้ำหรือแทรกมันลงในกองทราย ให้น้ำทะเลเปื้อนหน้าบ้าง
จงอยู่กับธรรมชาติ
ดื่มด่ำกับสิ่งรอบตัวในช่วงเวลาที่ดี ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายรูปหรือเล่นมือถืออย่างเดียว ชีวิตจริงไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่หน้าจอหรือคอยแต่มามุมถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบ ใช้ชีวิตกับมัน อยู่ตรงนั้น มีความสุขกับช่วงเวลานั้นเถอะ ไม่ต้องเผื่อแผ่คนอื่น
เรื่องที่ฉันไม่เข้าใจคือ ทำไมผู้หญิงต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงเพื่อแต่งหน้าทำผมในแต่ละวัน หรือกระทั่งคืนที่ออกไปเที่ยวก็ตาม ลองตื่นให้เช้าขึ้นสิ ฟังเสียงนกร้องและดูความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น ฟังเพลง ฟังมันจริงๆถึงรายละเอียด การบำบัดด้วยดนตรีมันดีจริงนะ
เล่นกับหมาที่คุณเลี้ยงด้วย
แย่จัง ฉันจะไม่ได้ทำมันแล้ว
คุยกับเพื่อน เลิกสนใจมือถือ ใส่ใจหน่อยว่าชีวิตเพื่อนคุณโอเคหรือเปล่า
ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ อย่าพลีชีพเพื่อการทำงาน
คุณต้องทำให้หัวใจของคุณมีความสุข
กินเค้กเหอะ ไม่ต้องรู้สึกผิด
ไม่ต้องไปไล่ตามคนอื่น ไม่ต้องพยายามเติมเต็มชีวิตแบบที่คนอื่นทำ คุณอาจต้องการแค่ชีวิตพื้นๆ สบายๆเท่านั้น มันโอเคนะ!
บอกรักคนที่คุณรักทุกครั้งที่มีโอกาส รักในทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมี
และเมื่อมีสิ่งใดที่ทำให้คุณทุกข์ คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ จะเรื่องงาน เรื่องความรักหรือเรื่องอะไรก็ตามที คุณเปลี่ยนมันได้แน่ คุณไม่รู้หรอกว่าคุณเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้อีกนานแค่ไหน อย่าไปเสียเวลากับปัญหาเลย ทุกคนพูดประโยคนี้กันหมดและมันเป็นเรื่องจริงที่สุด
เอาเถอะ ถือว่าเป็นคำแนะนำจากฉัน คุณจะสนใจหรือไม่ก็ตามที
โอ้..และสิ่งสุดท้าย ถ้าคุณสามารถทำอะไรดีๆเพื่อเพื่อนมนุษย์อย่างเช่นการบริจาคเลืิอด มันจะทำให้คุณรู้สึกยอดเยี่ยมที่ได้ช่วยชีวิตคนอื่น การบริจาคแต่ละครั้งช่วยผูุ้ที่ต้องการมันได้ถึง 3 คนแน่ะ มันทำง่ายและผลของมันยิ่งใหญ่จริงๆ
ฉันมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ก็เพราะเลือดบริจาคของคนอื่นนี่แหละ ทำให้ฉันอยู่ต่อได้อีกตั้งปีนึง ปีที่ฉันตั้งใจจะใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดบนโลกใบนี้กับครอบครัว เพื่อน และหมาที่ฉันรัก อีกสักปีที่จะยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของฉัน
หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ,
ฮอล"
**********************************************************
ขอบคุณและขอให้ไปสู่สุขคติ ฮอลที่รัก
เล็ก-มนต์ชัย
21 มกราคม 2561 , บ่ายวันอาทิตย์
ปล. อ่านต้นฉบับโพสต์ของฮอลได้ที่ https://www.facebook.com/hollybutcher90/posts/10213711745460694
It took me 1 hours to translate the last post of " Holly Butcher a lady with cancer at the age of 26 years old. She died after posting this message on Facebook for only 24 hours, and family published so others read and aware. That this life is so precious.
Despite an amateur translation that is not in the subject of using language, I am very brave to convey it to anyone who reads this message.
I dedicate this post to her
******************************************************
" It's strange that I have to accept death at 26 years old.
Death is something that young people like us often ignore because we think there will always be tomorrow. We will live. Death is a matter of the future that no one knows when will happen. I imagine myself when I am old, full of gray hair. Heads in the midst of a warm family, grandchildren running. I want to build a family with love as I dream of.
I want that kind of life
Thinking about it and suffering.
This life that we love is fragile. It's unpredictable. Everyday living is a gift. Not existence because we have the right to live as we understand. Now I'm 27 years old. I love my life. I'm happy with it. I have. Good love
But no one can control the fate.
I wrote this post before I die. Death is scary. But we all overlook and try not to think about it. I thought it wouldn't happen to myself or anyone soon. Missing death is really bad.
What I want to say is that you stop worrying about the little stupid problems, stress that doesn't have to life and remember that we all have to face our destiny. What we can do should be living each day with good feelings. In myself, cut off the moron.
I've spent my own life in the last few months, and it's always popping up in the middle of the night. In the moment you keep complaining about the same problems as you and may be in terms. Worse than throw it away
I have to admit that some things hit the mind and annoy your life. But don't carry it because you will pass the negative impact on other people's lives around you.
When you start swinging or releasing negative power to people. Let's walk out of there. Take a deep breath. Look at the bright sky. See the green of the trees. See how beautiful it is how lucky you are. So you can still be alive and breathing now
The day when you're upset with traffic jam or maybe a little sleep because the baby wakes you up all night. The barber cut you too short. Nails that go later are not pretty. Think of yourself too small or you may worry about cellulite on your ugly belly and belly. Self-self
You let go of this crazy stuff
I swear you will never think about these things again if you're dying soon. It's important to step back and look at my whole life. I see my own body is broken in front of your eyes. I can't do anything with it. All I want is that I want to stay until my own birthday or Christmas to spend with my family. The day I can play with dogs. Happy with loved ones.
Just one more time
I hear people complain about work problems or claim that I don't have time to exercise. Be grateful that your body can still work or move each day you work or each step you run. It seems like a little thing but It would be worth it if you met a day that can't do anything anymore.
I'm trying to take care of myself. That's my Passion to be healthy. Love your body. Even though we may not be perfect as you want. Watch its magic. Eat fresh and beneficial food. Love yourself, but don't be passionate. It's beyond the cause.
Remember, the word good health is wider than having a healthy body. What matters is mental health, emotional and happiness. When you come back to see again, you will find that there are more sensible things than having a good shape to show off on social. Media go delete or unfollow the page you read and make yourself feel bad or stop interfere with friends or anyone who makes your quality of your life.
Be glad if your body is still healthy today or maybe just have a cold or sprained ankle. These symptoms won't make you die soon.
Complaining less and bountiful human friends together
Please always give and give to others. We always be happy when we do good things for others than when we do for myself. I still want to be more good to others.
Since I have been sick, I met magical things, kind hearted people, and strangers, love and encouragement from my wonderful family. They have given me so much more than I could ever repay. I will never forget them and this good things.
I really don't think about spending money. It's not time we go shopping and buy a new dress that I want to wear. I think that I have spent a lot of money on clothes and Other waste in life throughout the past.
You may only think about buying a new dress, jewelry to wear to your next friend's wedding without knowing if you have no one to see if you're wearing a repeated dress. Haha. It's better to take money. Go live, eat with friends. Maybe buy them a beautiful dress or find a good event together. Be valuable in other people's life time. Don't let them wait for you because of your always late, friends. Want to spend time with people who get there before time and share good things with them. You will also get respect from them.
This year my family is not giving gifts or Christmas decorations as usual. It's good too. I don't have to pressure to buy or write cards for others, but I think I should get gifts. It might look. So many greetings cards that mean more to me than the festive gifts, but that's not much bigger than Christmas.
Spend your money on a good experience or at least don't waste your money until you don't do anything beneficial. You might drive to the beach somewhere in the water or insert it in the sand. Sea water stained in the face
Be with nature
Immerse yourself in good times, not only taking photos or playing mobile phone. Real life is not a screen movement or waiting for the perfect photo corner. Live with it. Be happy with that moment. No need to spread other people.
What I don't understand is why women take hours to make up, do hair each day or even night out. Wake up early. Listen to the birds sing and see the beauty of the sunrise. Listen to it. It's really good music therapy. It's true.
Play with the dogs you raise with
Too bad I'm not doing it anymore
Talk to friends. Stop paying attention to the phone. Pay attention if your friend's life is okay.
Work for a living, don't martyred for work.
You have to make your heart happy
Eat cake. Don't feel guilty.
No need to chase others. Don't try to fulfill your life. You may only want a comfortable life. It's okay!
Say love someone you love every time you have a chance to love everything you have.
And when there is something that makes you suffer, you can change it, work, love or whatever you can change it. You don't know how long you have left on earth. Don't waste your time on problems, everyone. All say this sentence and it's so true
Well, it's my advice. You're interested or not.
Oh.. and one last thing if you can do something good for a fellow human being, such as a small donation, it would make you feel great to save someone else's life. Each donation helps 3 people who needs it. Easy to do and the result is really great.
I'm alive until now because of other people's blood. This has made me live for another year that I intend to live the best life on earth with my family, friends and my beloved dog. Another year that will be the most wonderful year of my life. I am.
Hope to see you again,
Hall "
**********************************************************
Thank you and rest in peace dear hall
Lek - Radchai
21 January 2561, Sunday afternoon
Ps. Read the original Hall post at https://www.facebook.com/hollybutcher90/posts/10213711745460694Translated
glad to talk with you on the phone 在 謙預 Qianyu.sg Facebook 的最讚貼文
【防狼之心不可無】
My mum didn't teach me about the birds and the bees.
I was a voracious reader and figured it out on my own at the age of 8, while reading a Charlie Brown encyclopedia.
But what my mum relentlessly taught me was to be wary of wolves. Stranger or family, they can morph into big bad wolves.
My parents worked 12 hours a day to provide for me.
As they were often not around, my mum commando trained me to be fiercely independent since I was a little girl.
I would be home alone for as long as 8 hours after school.
Mum drilled into me never to answer the door if a stranger knocks.
Once when I was 5, I was crossing the small road, to find my grandpa at the market.
I was on my own.
(Told you I was trained young. I would also like to think we lived in a generally safe neighborhood.)
A stranger man stopped me in my track and asked me if I wanted sweets.
My red alert antenna shot up.
I said no firmly to the man.
(I had never liked candy anyway.)
He persisted and told me he could bring me to his car where there were many sweets and toys.
I glared at him as fiercely as a 5-year-old could and threatened to scream if he didn't leave.
The man hurriedly backed off.
My mum's script for dealing with such strangers worked!
When I was 7, I was taking buses on my own to my mum's office at Keppel, after school.
I worked part-time in my mum's office as a tele-operator, Girl Friday and did all sorts of admin duties. #childabuse
Mum was very strict in my telephone etiquette. Few people could tell that they were speaking to a 7-year-old over the phone.
It was a male-dominated environment, and my dad would insist that I wear more trousers than dresses. I rarely had any dress except for CNY. No mini skirts, no strappy revealing tops, no hot pants, no masquerading as a Disney princess looking for a Prince.
Before I was 12, my mum would often reinforced to me:
No man should be allowed to touch me. That would be molest and is a criminal offense.
Never get into a lift alone with another male stranger. If the man comes in after me, I must quickly exit the lift.
Don't talk to strangers, even if they are females.
Don't accept gifts, drinks or foods from strangers, in case they are drugged.
Learn to run quickly.
Learn to shout loudly and fiercely.
Don't show your fear in front of wolves.
Bite as hard as I can.
Kick right with all the strength I can.
Don't walk in dark streets.
Don't sleep on the bus.
Avoid sharing seats with men on the bus.
Always check to see if anyone is tailing me.
#ninjaintraining
For umpteen times throughout my childhood and teenage years, my mum would say, that I MUST let her know if any man touches me. Even if it's a male relative or my own father.
She said she would definitely pursue legal action if I was molested. Because my safety is of paramount importance to her than anything else.
Mum also went through many times, how I should react/slap/kick if there was an outrage of my modesty.
She told me why it was important to respect my body and not have it manipulated by others.
She emphasized to me about the virtue of celibacy before marriage and why girls should not abuse their bodies.
She also warned me not to trust men when they use love as a bait to get into bed with them or use excessive flowery words. Such men would never make good husbands.
And never never get myself drunk. #thankBuddhaIdontdrink
Mum also said, if she had to bring me up alone, without daddy, she would NEVER have another man live with us, in case anything happened to me. Blood is thicker than water, Mum would reiterate.
A woman never has to build her life and happiness on another man.
Mum led by example and held her word to the very end. #soproudofmymum
You can say I grew up in a very protective environment and had a distinct sense of what is right and wrong because of my mum.
I count myself fortunate that I had never been put in compromising situations.
Or rather, I was quick to jump out when the situation isn't going right.
Like when passengers make funny requests to me on board.
The worst was when a Chief Steward walked behind me, at a narrow aisle and slided his hand against the back of my waist.
I was ready to crack his wrist and then "apologise" profusely if he did it again.
#crackfirstthenreport #大不了丟工作罷了
I also do not like it when taking photos with men, and their hands slide up to my shoulders.
Your hand got no better place to put? Did you ask for permission? #crack
About a year ago, I visited this new cafe for its desserts.
When I stepped into the cafe, this vibe of sadness enveloped me.
I was slightly perturbed. It was a newly renovated cafe, with highly Instagrammable decor.
Why the gloom? Could my Feng Shui antenna have sensed things wrongly?
I had my Luo Pan with me but didn't take the sitting directions of the cafe. It didn't seem appropriate at that time.
A few days ago, I read of its owner having depression since she was a child.
Her parents fought often and after the divorce, she stayed with her mum and her mum's boyfriend's family.
She was only 9 years old when the father of her mum's boyfriend molested her. It was her second time being molested by an adult figure.
The old man orchestrated to first win her trust and reliance, when the old man offered to pick her up from school, as her mum worked long hours. Sometimes she had to wait 5 hours before her mum could picked her up.
Not once did she spoke a word about this to her mum. She didn't wanted to burden her mother who worked 3 jobs and being lonely and bullied in school, she was "wrongly" glad that someone wanted her.
Ever since such a turbulent childhood, she had never felt emotionally secure. When she broke up with her boyfriend of 6 years, she sunk further into clinical depression, feeling that she had lost her safety net in life.
One lady I knew had a father who molested her younger sister. Ever since she knew, she became very wary of him.
Once while she was sleeping, her father came up to her bed, on the pretext of covering her with the blanket.
She woke up in time before anything happened.
I also heard of a real-life story where all the 3 daughters were molested in turn by their father. I knew one of them.
None of them told their mother.
One day, the father died at his work site, due to a crane accident. At his funeral, the eldest daughter said coldly to his dead body that she would now forgive him.
Why do you think he died such a horrible death, my friend?
To all parents out there, as you send your children to one enrichment class after another, please do not neglect to teach your children about wolves.
Your children need to feel safe to confide into you.
You need to educate them what is unacceptable behaviour when it comes to their bodies.
The world is getting more dangerous.
Our children must be skilled in handling unexpected situations where trust is breached.
Don't assume it will never happen to your children.
If it does, I hope for the good of your common sense, that you will do what is necessary to protect your child. Don't sweep things under the blanket and jeopardize your child's emotional sanity for the rest of his/her life.
Bad things don't just happen to little girls. Little boys should be well-informed too.
If you fail in your protective duty as a parent, the first adult that a child trust, you will not be spared from the clutches of Yin punishment.
And if you are a wolf in a sheep's clothing reading this, wake up your idea and repent soon.
Even if the police is unable to arrest you,
no one gets away from Karma.
The consequences of your evil deeds will always haunt you, even in your next life and next next life, till the people you hurt get their revenge and you truly repent, never to repeat your misdeeds again.
.........
天知地知 你知我知 何謂無知,
善報惡報 遲報速報 終須有報。
陽世官刑雖幸免,
陰司法網總難逃。
~ 新加坡韭菜芭城隍廟
glad to talk with you on the phone 在 クレイユーキーズKureiYuki's Youtube 的最讚貼文
EKABO
Download & Streaming : https://big-up.style/6ryhl759QV
クレイユーキーズの9thシングル。クレイ勇輝、Kafu Sato、Martin(OAU)、杉本雄治(WEAVER)、
真船勝博が参加し、ボーカリストはファーストシングル以来再びDAZBEEを迎えた。
淡々と日々が過ぎて中、突然死んでしまう主人公と置いてかれてしまう彼女の話。
MV、ジャケットのアートワークはイラストレーター、アニメーション作家として活躍し、自主制作アニメーション「片道切符の夢」ではASIAGRAPH 2018年度 第2部門で最優秀賞を受賞したbanishment(@yokaibanish)が手がけた。
The 9th Release for the Kureiyuki's Band!!
"EKABO with DAZBEE"
This will be the second time we release a song together!
The story of a girl being left behind by her boyfriends sudden death?
As always, banishment has done all the artwork?
Follow クレイユーキーズ/KureiYuki's
https://twitter.com/kimakurei
https://www.instagram.com/kimaguren_kurei/?hl=ja/
https://open.spotify.com/playlist/6lhJ8y3bREsKv0hGjF1uGf?si=d03074ab50be42b4
Follow DAZBEE
https://www.youtube.com/user/Dazbeeee
https://twitter.com/nicodaZzz
作曲 Kafu Sato/クレイ勇輝
作詞 クレイ勇輝
編曲 クレイユーキーズ
Vocal:DAZBEE/クレイ勇輝
Chorus:Kafu Sato/杉本雄治(WEAVER)
Guitar:Kafu Sato
KeyBoard:杉本雄治(WEAVER)
Bass:真船勝博
Violin:Martin(OAU)
Programming:福島貴夫
Engineer:馬場毅
ArtWork:banishment(FLAT STUDIO)
『EKABO』
あれは確か よく晴れた日 風が強すぎて 家を出る時
勢い付けて 玄関の扉開けた 外に出ると 眩しすぎる日差しが
うん、いい日になりそうだ
こないだ彼女と喧嘩してさ 些細な事 どうでもいい事さって
そんな事言ってるから 怒られるんだろうね
駅までの道 ふと考える のらりくらり生きてきた
俺の人生きっと明日から変わるのさって 毎日言ってる
明日からきっとって
駅前の横断歩道 赤信号 隣に親子 母の手繋ぐ女の子
目が合う 手を振られる 微笑み返す 俺もいつか
携帯取り出して 彼女に連絡「こないだはごめん 今夜話そう」
見上げると 眩しい日差し 信号が変わって 歩き出す
振り返ると車の影 とっさに
夜空に浮かんで消えた あなたは勝手に星になった
悲しいはずなのに 泣けないのは まだ側にいる気がしてさ
When you feel like you can’t take anymore
When you lose all your fate HEY!
When you think it’s so FU**ED UP
When you can’t stand living another day
I FEEL THE SAME
When you can’t feel the love anymore
When you had just enough HEY!
When you think it’s SO DAMN WRONG
When you can’t stand living another day
I FEEL THE SAME
横断歩 人だかり それを見下ろす自分
何で見下ろしてるんだ?
あそこにいるのは俺 もしかして死んだ?
明日から変わるのさって言ってたばかりなのに
いくら何でもあっけなさすぎる
ってか彼女とも話せてないし
妹は結婚したばかり 親は?仕事は?全部中途半端
まだ何も始まってないのに 終わるのか?
そういえばとっさにかばった女の子 良かった無事か
一つぐらい胸を張れる事が出来てよかった
彼女にも一言謝りたかった くだらない事で喧嘩なんかしなきゃよかった
ずっと側にいるからねって 伝えたかった
もし最後に声が届くなら ごめんね どうか 幸せに
夜空を見上げたらいつでも あなたが見守ってくれてる
悲しいはずなのに そう思えば 大丈夫 歩いてゆける
When you feel like you can’t take anymore
When you lose all your fate HEY!
When you think it’s so FU**ED UP
When you can’t stand living another day
I FEEL THE SAME
When you can’t feel the love anymore
When you had just enough HEY!
When you think it’s SO DAMN WRONG
When you can’t stand living another day
I FEEL THE SAME
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////
『EKABO』
One windy day, I put my weight on the door to leave
As I opened the door, the dazzling sunshine made me squint
Yeah, it's gonna be a good day
The other day I had a fight with my GF, not a big deal, she was just being picky
Well I guess she’s annoyed of me not taking it serious
Thoughts just bouncing around in my mind on the way to the station
Nothing big in my life, so ordinary, but my life will surely change from tomorrow
I'm sure from tomorrow
Crossroad in front of the station, Red light, a girl holding her mothers hand
eyes meet, she waves at me, I smile back, maybe someday I might become...
Take out my cell phone and text my GF "I'm sorry about the other day, lets talk tonight"
I look up to squint at the sunshine, lights change and I start to walk,
I Look back, shadow of a car heading for the little girl
You floated into the night sky and disappeared, leaving me behind you chose to become a star
I know I should be bursting out in to tears, but I still feel you right next to me
もう我慢できない時
もう何も信じられなくなった時
もう全て壊したくなった時
もう一日たりとも生きていたくないと思う日があるとして
安心して 一人じゃないから
もう愛に触れられなくなった時
もう大概にしろよと心で叫んだ時
全てが間違ってるはずなのに頷いた時
もう一日たりとも生きていたくないと思う日があるとして
安心して 一人じゃないから
Looking down at a cross road
Looking down? Is that me down there?
Sh*t, did I die?
I just was saying that my life is going to change from tomorrow
Did it end that easily?
I haven’t even talked to my GF yet,
My sister just got married and am I leaving behind my parents? How about my job?
Is it gonna end this easily, with nothing started yet?
Wait, what happened to the girl I tried to save, thank god she’s safe
I'm glad I have at least one thing to be proud about
I wanted to apologize to my Girlfriend about the fight we had
I wanted to tell you that I’ll always be there for you
If my voice will reach you for one last time
I want to tell you that I’m sorry and I wish for your happiness
When I look up in the night sky, I see you looking out for me
I know I should be bursting out in to tears, but I know you are still here with me
もう我慢できない時
もう何も信じられなくなった時
もう全て壊したくなった時
もう一日たりとも生きていたくないと思う日があるとして
安心して 一人じゃないから
もう愛に触れられなくなった時
もう大概にしろよと心で叫んだ時
全てが間違ってるはずなのに首を縦に振った時
もう一日たりとも生きていたくないと思う日があるとして
安心して 私が側にいるから
#クレイユーキーズ
#kureiyukis