10 อันดับเศรษฐีธุรกิจ Healthcare ที่มีทรัพย์สินพุ่งสูงขึ้นจากการระบาดของ COVID-19
คนที่ได้รับผลกระทบก็เพียบ! คนที่ได้ผลประโยชน์ก็มี! โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจประเภท Healthcare ที่หลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตพัฒนาวัคซีน ยารักษา และชุดทดสอบโควิด-19 พุ่งทะยานสูงขึ้น จนทำให้เกิดมหาเศรษฐีหน้าใหม่ ทั้งยังเพิ่มความมั่งคั่ง ทรัพย์สินที่มีมหาศาลอยู่แล้ว ยิ่งทวีคูณเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
.
วันนี้อายุน้อยร้อยล้านจะพาไปดูว่ามหาเศรษฐีคนไหนในธุรกิจประเภท Healthcare ที่มีทรัพย์สินพุ่งสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
.
1. Stéphane Bancel (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 109% โดยอยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญ หรือราว 4.6 หมื่นล้านบาท)
CEO บริษัท Moderna Therapeutics ซึ่งบริษัทนี้ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 483 ล้านเหรียญ หรือราว 1.5 หมื่นล้านบาท จากกระทรวงสาธารณสุขและการบริการของสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาวัคซีนโรค COVID-19
.
2. Gustavo Denegri (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 32% โดยอยู่ที่ 4.5 พันล้านเหรียญ หรือราว 14 หมื่นล้านบาท)
กำลังถือหุ้น 45% ในบริษัทไบโอเทคสัญชาติอิตาลีอย่าง DiaSorin บริษัทที่เปิดตัววิธีการตรวจไวรัสด้วยวิธี swab และชุดตรวจ COVID-19 โดยใช้แอนติบอดี้ ซึ่งบริษัทมีโรงงานผลิตอยู่หลายแห่งทั้ง สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี และอิตาลี
.
3. Alain Mérieux (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 25% โดยอยู่ที่ 7.6 พันล้านเหรียญ หรือราว 23.6 หมื่นล้านบาท)
ก่อตั้งบริษัท BioMérieux ในปี 1963 เพื่อเป็นหน่วยทดสอบการวินิจฉัยให้กับ Institut Mérieux บริษัททางการแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยปู่ของเขา และได้เปิดตัวชุดตรวจ COVID-19 ซึ่งเป็นชุดที่ลดเวลาการรู้ผลทดสอบไวรัสให้เหลือเพียง 45 นาทีเท่านั้น
.
4. Seo Jung-Jin (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 25% โดยอยู่ที่ 4.5 พันล้านเหรียญ หรือราว 14 หมื่นล้านบาท)
ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Celltrion มีการพัฒนาทั้งชุดทดสอบและวิธีการรักษาโรค COVID-19 ซึ่งบริษัทอ้างว่าชุดทดสอบโรคสามารถทราบผลภายใน 15-20 นาที และคาดว่าแนวทางการรักษาด้วยยาต้านไวรัสของบริษัทจะสามารถทดลองในมนุษย์ได้ประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้
.
5. George Yancopoulos (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 14% โดยอยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญ หรือราว 3.7 หมื่นล้านบาท)
บริษัทที่สร้างความมั่งคั่งให้กับเขาคือ Regeneron Pharmaceuticals ซึ่งบริษัทได้เริ่มทำการทดลองชั้นคลินิกในการใช้ยารักษาโรค รูมาตอยด์อย่าง sarilumab เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ใน New York โดยร่วมมือกับบริษัท Sanofi
.
6. Leonard Schleifer (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 11% โดยอยู่ที่ 2.2 พันล้านเหรียญ หรือราว 6.8 หมื่นล้านบาท)
CEO ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตยา Regeneron Pharmaceuticals จาก New York ขึ้นในปี 1988 ก่อนที่ George Yancopoulos เข้ามาร่วมงานด้วยในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์
.
7. Thomas Struengmann และ 8. Andreas Struengmann
(ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 11% โดยอยู่ที่ 6.9 พันล้านเหรียญ หรือราว 2.1 หมื่นล้านบาท)
มหาเศรษฐีฝาแฝดตระกูล Struengmann ร่ำรวยขึ้นครั้งแรกจากการขายบริษัทผลิตยา Hexal ให้กับ Novartis ปัจจุบันลงทุนในบริษัทด้านไบโอเทค และเฮลท์แคร์ แต่บริษัทที่พวกเขาเดิมพันมากสุดคือ BioNTech เยอรมนี ซึ่งได้ร่วมงานกับ Pfizer และ Fosun Pharmaceuticals ทดลองวัคซีนโควิด-19 ในมนุษย์ครั้งแรกเมื่อ 23 เม.ย. และวางแผนขยายการใช้ไปยังสหรัฐฯ
.
9. Maja Oeri (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 10% โดยอยู่ที่ 3.2 พันล้านเหรียญ หรือราว 9.9 หมื่นล้านบาท)
ทายาท ritz Hoffmann-La Roche โดยเธอถือหุ้นบริษัทอยู่ 5% โดยขณะนี้บริษัทกำลังเริ่มทดลองทางคลินิก เฟส 3 ในการใช้ยา tocilizumab (รักษาโรคไขข้ออักเสบ) มาใช้รักษาโรค COVID-19 ในสหรัฐฯ และพัฒนาทดสอบเซรุ่มแบบใหม่ ตรวจสอบแอนติบอดีในคนที่เคยเป็นโรค
.
10. Li Xiting สัญชาติสิงคโปร์ (ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1% โดยอยู่ที่ 1.26 หมื่นล้านเหรียญ หรือราว 37.3 หมื่นล้านบาท)
ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Mindray บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์การแพทย์จาก Shenzhen เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่พบโรคนี้ครั้งแรกในจีน โดยผลิตเครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น 3 เท่ามาเป็น 3,000 เครื่องต่อเดือน บริจาคเงินอุปกรณ์การแพทย์มูลค่ารวม 4.6 ล้านเหรียญให้กับโรงพยาบาลทั่วโลก
ที่มา : https://forbesthailand.com/news/10-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%ae%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b9%8c%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b1.html
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Healthcare #Billionaire #COVID19
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...