Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ ผู้เคยเป็นประธานบริษัท Facebook /โดย ลงทุนแมน
หากใครที่เคยรับชมภาพยนตร์ “The Social Network”
ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบริษัท Facebook
รวมถึงผู้ก่อตั้งวัยหนุ่มที่ชื่อว่า Mark Zuckerberg
คงไม่มีทางลืมตัวละครหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Sean Parker อย่างแน่นอน
ชายที่มีความยียวนกวนใจ แต่ก็แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาด
ซึ่งเขาคนนี้ เป็นคนที่ไม่ว่าจะพูดอะไร Mark Zuckerberg ก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
ถึงขนาดที่ยกตำแหน่งประธานบริษัท Facebook ให้กับ Parker ไปเลย
แม้ว่าในช่วงเวลานั้นเขาจะมีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น
ซึ่งถ้าหากดูประวัติของ Sean Parker อย่างละเอียด
ก็คงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายคนนี้ถึงสามารถจูงใจ
และมีอิทธิพลต่อ Mark Zuckerberg อย่างมาก
แล้วประวัติของ Sean Parker น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Sean Parker เกิดที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1979
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พ่อของเขาทำให้เขาได้รู้จักอีกโลกหนึ่งนั่นคือ โลกของคอมพิวเตอร์
โดยพ่อของเขาได้สอนวิธีเขียนโปรแกรมบนเจ้าคอมพิวเตอร์รุ่น Atari 800
ตั้งแต่นั้นมา Sean Parker ก็ได้หลงรักและสามารถเขียนโคดเป็นตั้งแต่เด็ก
จากทักษะและความชอบสิ่งนี้ ส่งผลให้ชีวิตของ Sean Parker เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
เริ่มตั้งแต่ในช่วง 15 ปี Sean Parker ได้สร้างวีรกรรมที่โด่งดัง จน FBI ต้องสืบและตามจับ
โดยสิ่งที่เขาทำคือการแฮกฐานระบบข้อมูลของมหาวิทยาลัยและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก
จริง ๆ แล้ว เขามักจะแฮกข้อมูลเป็นงานอดิเรกเพราะไม่มีใครตามจับได้
แต่ในที่สุดเขาก็ถูก FBI จับได้ ขณะที่กำลังแฮกข้อมูลบริษัทอื่นอยู่
และเหตุผลที่เขาโดน FBI ตามตัวจนพบ
ก็เพราะว่าพ่อของเขาเข้ามายึดคีย์บอร์ดไว้ เนื่องจากเห็นว่าลูกของตนเล่นคอมพิวเตอร์มากจนเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถออกจากระบบได้ทันเวลา จึงส่งผลให้ FBI ตามสืบได้
แต่เนื่องจาก Sean Parker มีอายุเพียง 15 ปี
โทษที่เขาได้รับจึงเป็นเพียง การบำเพ็ญประโยชน์ให้กับชุมชนเท่านั้น
จากเรื่องนี้แม้สุดท้าย Sean Parker จะโดนจับได้
แต่ก็ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการนี้มากขึ้น
ทำให้เขาได้รู้จักกับชาวแฮกเกอร์วัยเดียวกันที่ชื่อว่า “Shawn Fanning”
ซึ่งคนนี้เองเป็นคนที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของเขา
ด้วยนิสัยใจคอและความชอบที่เหมือนกัน จึงทำให้ทั้งสองตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน
โดยไอเดียธุรกิจแรกที่พวกเขาคิดคือ Crosswalk ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์
แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังมีประสบการณ์ที่น้อย จึงยังไม่สามารถผลักดันให้กลายเป็นธุรกิจจริงได้
ทั้งสองจึงตกลงแยกย้ายกันไปฝึกทักษะและหาประสบการณ์เพิ่มเติม
เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้กลับมาร่วมทำธุรกิจกันอีก
ปีต่อมาเมื่อ Sean Parker อายุ 16 ปี เขาก็ได้ทำโปรแกรมที่รวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ในยุคแรก ๆ ขึ้นมาสำเร็จ ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลงานวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์แห่งรัฐเวอร์จิเนีย
และเป็นที่ถูกอกถูกใจของหน่วยงาน CIA เป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องการจ้างเขาเข้ามาทำงาน
แต่ Sean Parker ก็ได้ปฏิเสธเพราะตนสนใจเรื่องธุรกิจมากกว่า
จึงทำให้เขาเลือกทำงานกับเหล่าบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ
เช่น FreeLoader และ UUNet บริษัทผู้บุกเบิกการให้บริการทางอินเทอร์เน็ต
ในปีสุดท้ายของการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลาย เขาสามารถสร้างเงินได้ถึง 2.5 ล้านบาท
ซึ่งเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้พ่อแม่ของเขาปล่อยให้เขาเลือกที่จะไม่เรียนมหาวิทยาลัยต่อ
ช่วงเวลานี้เองที่ Shawn Fanning เพื่อนแฮกเกอร์คนสนิทของเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
และเขาก็ได้เล่าถึงโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมา ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ไฟล์เพลงบนโลกอินเทอร์เน็ตได้
Sean Parker เห็นว่าโปรแกรมนี้สามารถต่อยอดไปได้อีกไกล
จึงเกลี้ยกล่อมเพื่อนของเขาให้นำมาสร้างเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ต่อยอดโปรแกรมดังกล่าวกลายมาเป็น “Napster”
แพลตฟอร์มที่ให้ผู้คนสามารถแชร์และดาวน์โหลดเพลงด้วยกัน
Napster ได้สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมวงการเพลงอย่างมาก
ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตเพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาดาวน์โหลดเพลง
บนโลกอินเทอร์เน็ตแทนการซื้อเพลงแบบออฟไลน์ อย่างเช่น แผ่นเสียงและซีดี
เรื่องดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนยุคหลังเปลี่ยนพฤติกรรมมาฟังเพลงบนโลกออนไลน์
และ Napster ยังสร้างสถิติผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มมากที่สุด มีจำนวนถึง 80 ล้านคนเลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่ผู้คนนำเพลงมาแจกผ่านแพลตฟอร์มแบบนี้
ถือเป็นสิ่งที่ผิดลิขสิทธิ์และค่ายเพลงเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล
จึงทำให้สุดท้าย Napster ถูกฟ้องร้องและต้องปิดตัวลงไป
แต่รู้หรือไม่ว่า จากกระแสที่มาแรงของ Napster ทำให้เกิดบริการหนึ่งในเวลาต่อมา
นั่นก็คือ iTunes ของ Apple เพราะ Steve Jobs เห็นแล้วว่าพฤติกรรมของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ซื้อแบบแผ่นเสียง แต่ตอนนี้กลับมาดาวน์โหลดผ่านโลกออนไลน์
เขาจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ ในการเข้าไปผูกมิตรกับค่ายเพลง
เพื่อที่ตนจะสามารถนำเพลงมาวางขายบน iTunes ได้อย่างถูกต้อง
และอย่างที่รู้กัน iTunes ก็ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เรื่องนี้เองทำให้ Sean Parker ไม่พอใจอย่างมาก
แต่ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงตัดสินใจคิดหาธุรกิจตัวใหม่ขึ้นมา
โดยใช้ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากธุรกิจที่แล้ว
ทั้งเรื่องการเงิน กฎหมายธุรกิจต่าง ๆ และความเป็นผู้ประกอบการ
และแล้วก็ได้เกิดธุรกิจใหม่ที่มีชื่อว่า “Plaxo” ซึ่งเป็นบริการที่มาช่วยเหลือสำหรับขยายกลุ่มผู้ใช้งานบนเครือข่ายสังคมออนไลน์และบริการนี้เองมีส่วนช่วยให้ LinkedIn และ Facebook ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เมื่อธุรกิจเริ่มดำเนินไปได้ดี Sean Parker กลับละเลยการทำงาน
ทำให้สุดท้ายเขาก็โดนเพื่อน ๆ ที่ร่วมก่อตั้งกันมาไล่ออกในที่สุด
และแล้วในช่วงหลังจากนี้เอง ที่เขาได้รู้จักกับเว็บไซต์
ที่ในช่วงนั้นกำลังเป็นกระแสที่ชื่อว่า “Facebook”
เขาทดลองเล่น พบว่าโซเชียลมีเดียตัวนี้ทำให้ตนเองติดมาก
จึงรีบหาช่องทางติดต่อกับ Mark Zuckerberg เพื่อมาพูดคุยสานความสัมพันธ์กัน
ซึ่ง Mark Zuckerberg ก็ตอบตกลงเพราะนับถือ Sean Parker เป็นดั่งไอดอลอยู่แล้ว
จากวีรกรรมแฮกฐานข้อมูล และการก่อตั้งบริษัทสุดเจ๋งอย่าง Napster
ในช่วงเวลานั้น Facebook ยังให้บริการเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น
แต่ Sean Parker คิดว่า Facebook มีศักยภาพมากกว่านั้น
จึงแนะนำให้ Mark Zuckerberg ขยายฐานผู้ใช้งาน
และเขาก็เป็นคนแนะแนวทางให้ด้วยว่า
Facebook ยังไม่ต้องเร่งรีบหารายได้ ให้เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานก่อน
เพราะถ้าหากหารายได้จะเกิดข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน
เช่น โฆษณาอาจจะอยู่รกเต็มบนเว็บไซต์ จนผู้ใช้งานหนีไปใช้ของคู่แข่งรายอื่น
นอกจากคำแนะนำแล้ว Sean Parker ก็ได้เข้ามาช่วย Facebook ตั้งแต่เรื่องการเจรจาขอเงินทุน
ทั้งจาก Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และ Accel Partners บริษัทร่วมลงทุน
เพราะแม้ว่าช่วงนั้น Facebook จะไปได้ดี มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
แต่ก็ไม่มีใครร่วมลงทุนด้วย เนื่องจากไม่เห็นโอกาสทางธุรกิจ
แต่ Sean Parker กลับสามารถดึงดูดนักลงทุน
ด้วยวิสัยทัศน์ที่วาดไว้ให้กับ Facebook
จึงทำให้บริษัทสามารถคงอยู่รอดต่อไปได้
เริ่มตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ของ Facebook ช่วงแรก
ที่เน้นตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานก่อนหารายได้
การผลักดันฟังก์ชันของ Facebook ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถลงรูปได้ นอกจากข้อความ
รวมถึงปุ่มแชร์ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้อัปโหลดบทความข่าว วิดีโอ และเนื้อหาของบุคคลที่สาม
แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Sean Parker ทำให้กับ Facebook คือ
การวางโครงสร้างองค์กรที่ทำให้ Mark Zuckerberg สามารถควบคุมบริษัท
ได้อย่างสมบูรณ์และถาวร โดยเขาใช้ประสบการณ์อันเจ็บปวดที่เคยได้รับจาก Plaxo
ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงทำให้ Mark Zuckerberg
แต่งตั้ง Sean Parker เป็นประธานของบริษัท
แต่สุดท้ายเขาก็ถูกไล่ออกจากบริษัทอีกครั้ง หลังถูกจับได้ว่าเสพโคเคนในงานปาร์ตี..
แม้ว่าจะออกจาก Facebook ไปแล้ว
แต่ Sean Parker ยังคงให้คำแนะนำ Mark Zuckerberg
เกี่ยวกับกลยุทธ์และสรรหาผู้บริหารระดับสูงอย่าง Chamath Palihapitiya
หลังจากออกจาก Facebook เขาก็ไปเป็นหุ้นส่วนของ Founders Fund
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจ Startup โดยมีผู้ก่อตั้งคือ Peter Thiel
เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปี แต่ Sean Parker ก็ยังไม่หยุดคิดถึง Napster
แพลตฟอร์มสุดรักที่ตนสร้างขึ้น เขาจึงค้นหาบริษัทที่มีอุดมการณ์เช่นเดียวกัน
และแล้วก็ไปเจอกับสตรีมมิงที่ชื่อว่า Spotify
แม้ว่าเขาจะอยากลงทุนในบริษัทแห่งนี้มากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถลงทุนได้
เนื่องจาก Spotify ได้รับเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Sean Parker จึงหาทางสนับสนุนทางอื่น หนึ่งในนั้นก็คือการโปรโมต Spotify ผ่าน Facebook
เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มสตรีมมิงจากยุโรปตัวนี้ เข้ามาตีตลาดเพลงในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนั้นมี iTunes เป็นคู่แข่งหลัก รวมถึงเขาก็ยังได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Spotify และค่ายเพลงอย่าง Warner และ Universal อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่ทำให้เขาชนะใจคณะกรรมการของบริษัท Spotify
จนได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในที่สุด
ด้วยความที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงหลงใหลในความท้าทายตลอดเวลา
ทำให้ชีวิตหลังจากนั้น Sean Parker ก็ยังเป็นทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนอยู่เรื่อยมา
โดยปัจจุบัน เขามีมูลค่าทรัพย์สินที่ 90,000 ล้านบาท
และนี่ก็คือเส้นทางชีวิตของ Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ และเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังความสำเร็จของ Facebook ที่ตอนนี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 6 ของโลกไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/sean-parker-life-career-napster-facebook-billionaire-pictures-2020-3#parker-is-also-a-philanthropist-and-a-friend-described-him-to-vanity-fair-as-one-of-the-most-generous-people-i-know-in-2015-he-donated-600-million-to-launch-the-parker-foundation-which-focuses-on-funding-programs-in-life-sciences-global-public-health-and-civic-engagement-20
-https://www.forbes.com/sites/stevenbertoni/2019/12/23/best-stories-of-the-decade-sean-parker-agent-of-disruption/?sh=6aa467237a01
-https://www.biography.com/business-figure/sean-parker
-https://www.forbes.com/profile/sean-parker/?sh=5c3413014b73
-https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/itunes-10th-anniversary-how-steve-jobs-turned-the-industry-upside-down-68985/
-https://startuptalky.com/sean-parker-story/
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過53萬的網紅วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB,也在其Youtube影片中提到,สมัครสมาชิก WBL ฟรี! (สถาบันการเรียนรู้การทำธุรกิจ ของ วรัทภพ) แอดไลน์โดยคลิกลิงก์นี้ครับ https://line.me/ti/p/~@warattapob หรือแอดไลน์โดยไอดี @wara...
「social network คือ」的推薦目錄:
- 關於social network คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於social network คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於social network คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於social network คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的最佳貼文
- 關於social network คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的最佳貼文
- 關於social network คือ 在 Bundit Ungrangsee บัณฑิต อึ้งรังษี Youtube 的最佳解答
social network คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
"จริงหรือ ที่แอพ Voila แปลงหน้าเป็นการ์ตูน สามารถจะแฮ็คบัญชีคุณได้ ?"
มีการแชร์คำเตือนกันว่า ห้ามใช้แอพ Voila (วัวล่า) บนมือถือเพราะมันจะทำให้มิจฉาชีพสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้ ด้วยการเจาะผ่านการจดจำใบหน้า (face recognition) !?
คำตอบคือ ไม่จริงหรอกครับ มันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น ! แต่ๆ ๆ ก็มีประเด็นให้ต้องระวัง ต้องพิจารณาก่อนจะใช้แอพนี้ นะครับ
คำเตือนที่แชร์กันเป็นภาษาอังกฤษ จะพูดทำนองว่า "การใช้ app นี้มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในการใช้มือถือของคุณ เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากคุณได้ให้ภาพใบหน้าที่ชัดเจนไป ในขณะที่ แอพนี้ก็ขอเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ใน facebook ของคุณด้วย ทำให้มิจฉาชีพสามารถเอาภาพใบหน้า และข้อมูลของคุณ ไปใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ได้ ผ่านการฟิชชิ่ง (phishing) จนมีคนเสียทรัพย์สินไปกันเยอะแล้ว"
#มารู้จักกับแอพVoila
Voila AI Artist เป็นแอพพลิเคชั่นตกแต่งภาพถ่าย ที่มีทั้งบน iOS และ Android โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เอไอ (artificial intelligence) การเปลี่ยนภาพของคุณให้กลายเป็นภาพการ์ตูนแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดยุคเรเนสซองส์ ภาพการ์ตูนของพิกซ่า ภาพการ์ตูนของดิสนีย์ และอื่นๆ โดยกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในตอนนี้
แอพนี้เป็นแอพใช้ฟรี แต่จะมีโฆษณาแถมติดมาด้วย ซึ่งถ้าสมัครสมาชิก (ราคาตั้งแต่ $3 จนถึง $30) โฆษณาก็จะถูกเอาออก และการแปลงภาพก็จะเร็วขึ้น
#ความปลอดภัยของข้อมูลจากการใช้แอพVoila
ประการแรก จริงๆ แล้ว ทุกแอพโทรศัพท์มือถือที่ขอเอารูปหน้าของคุณไปนั้น คุณจำเป็นจะต้องใช้มันด้วยความระมัดระวังด้วยเสมอ .. ซึ่งคำชี้แจงของแอพ Voila บอกไปว่ามันจะลบรูปภาพของคุณภายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมง (ซึ่งไม่มีทาง ที่เราจะตรวจสอบได้ว่ามันทำอย่างนั้นจริงหรือเปล่า)
ประกันที่ 2 คือ แอพนี้มีการรวบรวมข้อมูลต่างๆ จาก facebook ของคุณไป จริง โดยเอาไปใช้วิเคราะห์สำหรับการทำ ad targeting หรือการส่งโฆษณาให้คุณแบบตรงเป้า
แต่ก็ค่อนข้างเป็นแนวทางที่แอพอื่นๆ ก็ใช้กันโดยทั่วไป ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราควรต้องระมัดระวังในทุกๆ แอพอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะในแอพ Voila นี้
#แล้วคำเตือนของแอปVoilaที่แชร์กันอยู่ล่ะ
คำเตือนที่แชร์กันอยู่นั้น แยกแยะได้เป็น 3 ประเด็นคือ
(1) การให้รูปถ่ายของคุณกับแอป Voila จะทำให้บุคคลที่ 3 สามารถเปิดบัญชี ในชื่อของคุณได้ (2) คุณสูญเสียการควบคุมเรื่องการจดจำใบหน้า (facial recognition control)
และ (3) คุณยอมให้บุคคลที่ 3 เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ
ซึ่งข้อ 3 นั้นก็เป็นไปอย่างที่พูดไปแล้วว่า มันเป็นเรื่องปกติ .... แต่ข้อ 1 กับข้อ 2 นั้นยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเกิดขึ้นจริง อย่างที่แชร์เตือนกัน
สำหรับคำเตือนข้อ 1 นั้น จะพบว่า แอพ Voila พัฒนาโดยบริษัท Wemagine.AI. ซึ่งระบุนโยบายว่า ได้กำหนดให้แพลตฟอร์ม Google Cloud Platform ทำการลบภาพและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับภาพนั้น ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากที่ภาพถูกนำมาใช้กับแอพ (เพื่อให้คุณยังมีเวลากลับมาดัดแปลงแก้ไขรูปนั้นได้)
จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่พบว่ามีรายงานของการที่บริษัท Wemagine.AI ได้นำเอารูปถ่ายของลูกค้าไปใช้เปิดบัญชีปลอม บัญชีโคลน ใน social network ใดๆ (ซึ่งจริงๆ การทำบัญชีปลอมมันง่ายมาก แค่ก็อปปี้รูปจากบัญชีจริง มาทำ ก็ได้)
ส่วนประเด็นคำเตือนข้อ 2 นั้น ก็ไม่มีหลักฐานว่าเคยเกิดขึ้นจริงเช่นกัน และความจริงแล้ว การนำเอารูปถ่ายที่มีระดับความละเอียดปานกลาง มาใช้เพื่อเจาะผ่านระบบการจดจำใบหน้านั้น ก็ยังแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ยกเว้นจะมีภาพที่มีความละเอียดสูงสุดๆ
#โดยสรุป แม้ว่าการลง application ต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือ จะต้องระมัดระวังกันอยู่แล้วว่าจะถูกนำเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้ โดยเฉพาะเรื่องการลงโฆษณา .... แต่ข้อกล่าวหาว่า แอพ Voila นี้ จะเอาภาพใบหน้าคุณไปใช้แฮ็กบัญชี ผ่านการจดจำใบหน้าได้นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องจริง อย่างที่แชร์คำเตือนกันครับ !
ข้อมูลจาก https://www.thatsnonsense.com/warning-outlines-security-risks-of-installing-voila-app-fact-check/ และ https://fox8.com/news/heres-what-you-need-to-know-about-the-app-thats-turning-everyone-into-a-cartoon-character/
social network คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
คู่แฝด Winklevoss จากคู่อริ ซักเคอร์เบิร์ก สู่เศรษฐีบิตคอยน์ /โดย ลงทุนแมน
ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Social Network คงจะจำฝาแฝด ที่ฟ้องร้อง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ว่าขโมยไอเดียของพวกเขาไปสร้างเฟซบุ๊กกันได้
ทั้งสองคน คือ Cameron และ Tyler ฝาแฝดตระกูล Winklevoss
ซึ่งฉากสุดท้ายในภาพยนตร์ จบลงตรงที่พวกเขาเรียกร้องเงินชดเชยมูลค่ามหาศาล แลกกับการยอมคดีความ
แล้วชีวิตจริงหลังจากนั้นของคู่แฝด Winklevoss เป็นอย่างไรต่อ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ร่วมติดตามข่าวสารคริปโทเคอร์เรนซี จากมุมมองหลายเพจ ได้ในแพลตฟอร์ม Blockdit ลองอ่านตัวอย่างได้ที่ www.blockdit.com/explore/cryptocurrency
╚═══════════╝
คุณ Cameron และ Tyler Winklevoss เป็นนักลงทุนชาวอเมริกัน
เกิดเมื่อปี 1981 ปัจจุบันมีอายุ 39 ปี
พวกเขาเป็นคนที่มีความสามารถอยู่หลายด้าน
โดยด้านการศึกษา เรียนจบปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย Harvard และปริญญาโท MBA จากมหาวิทยาลัย Oxford
ส่วนด้านกีฬา ทั้งคู่เป็นตัวแทนนักกีฬาพายเรือทีมชาติสหรัฐอเมริกา ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี 2008 และทำเวลาได้เป็นอันดับ 6 ของรายการ
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้สังคมรู้จักชื่อ Winklevoss
คงต้องย้อนไปเมื่อปี 2003 สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard
ในขณะนั้น Cameron และ Tyler มีไอเดีย ต้องการสร้างเครือข่ายสังคมบนโลกออนไลน์ เพื่อเชื่อมต่อนักศึกษาทุกคนเข้าหากัน ชื่อว่า HarvardConnection
ซึ่งต่อมา พวกเขาได้รู้จักกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก จึงชักชวนให้มาช่วยเขียนโปรแกรมเว็บไซต์ดังกล่าว
แต่ผ่านมาถึง เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 ขณะที่ HarvardConnection ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ปรากฏว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ ชื่อว่า TheFacebook ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์ในลักษณะคล้ายกัน
และอย่างที่ทุกคนรู้ว่าเฟซบุ๊กเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลก มีผู้ใช้งานกว่า 2,800 ล้านบัญชี
ซึ่งคู่แฝด Winklevoss มองว่า พวกเขาถูกขโมยไอเดีย และโคดโปรแกรมบางส่วนถูกนำไปใช้สร้างเฟซบุ๊กจึงได้ตัดสินใจดำเนินการยื่นฟ้องร้องคดี บริษัทเฟซบุ๊ก
จนสุดท้ายในปี 2008 ก็ได้มีการตกลงยอมความกัน โดยฝั่ง Winklevoss ได้รับค่าชดเชยเป็นเงิน 630 ล้านบาท และหุ้นเฟซบุ๊ก มูลค่า 1,400 ล้านบาท
ต่อมา หลังจากจบปัญหากับเฟซบุ๊กแล้ว
พวกเขานำเงินที่ได้รับชดเชย ไปก่อตั้งกองทุน Venture Capital เพื่อหาโอกาสลงทุนในสตาร์ตอัป อย่างไรก็ตามไม่มีบริษัทไหนอยากได้เงินลงทุนจากพวกเขาเลย
แต่อยู่มาวันหนึ่ง พวกเขาก็พบสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และสามารถลงทุนได้เองทันที
สิ่งนั้นก็คือ “บิตคอยน์”
Winklevoss วิเคราะห์ว่าในอนาคต บิตคอยน์จะก้าวขึ้นมาเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ รวมทั้งรักษาความมั่งคั่งได้ เหมือนกับทองคำ
จึงทยอยเข้าซื้อบิตคอยน์ ด้วยเงิน 340 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปี 2012-2013 และถือลงทุนแบบระยะยาว
โดยพวกเขาอ้างว่า พวกเขาถือครองบิตคอยน์ อยู่จำนวน 1% ของเหรียญทั้งหมดในตลาดตอนนี้ หรือเกือบ 180,000 เหรียญ ซึ่งถ้าเป็นจริงตามคำกล่าวอ้างของพวกเขานั้น ก็จะประมาณการได้ว่า ต้นทุนเฉลี่ยต่อเหรียญของพวกเขา อยู่ที่เพียง ไม่ถึง 1,900 บาทต่อเหรียญ เท่านั้น
ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าโลกจะหมุนไปตามที่พวกเขาคาดการณ์ไว้
เพราะหลายฝ่าย ต่างเริ่มยอมรับและใช้ประโยชน์จากบิตคอยน์กันมากขึ้น
ทำให้ราคาซื้อขายบิตคอยน์พุ่งสูงขึ้น จนมีราคาเหนือหลักล้านบาท
ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้น “หลายร้อยเท่า” จากประมาณการต้นทุนเฉลี่ยของพวกเขา
ส่งผลให้คู่แฝด Winklevoss กลายเป็นมหาเศรษฐีในระดับ Billionaire
โดยในปี 2020 นิตยสาร Forbes ประเมินว่า ทั้งคู่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกัน อยู่ที่ราว 188,000 ล้านบาท
นอกจากนั้น พวกเขายังทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ คริปโทเคอร์เรนซีด้วย
ในปี 2014 ทั้งคู่ได้ก่อตั้ง Gemini แพลตฟอร์มตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี
ซึ่งในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มชั้นนำของโลก มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 16,500 ล้านบาทต่อวัน
และในปี 2019 บริษัท Gemini ได้เข้าซื้อกิจการของ Nifty Gateway แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Non-Fungible Token (NFT) ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
โดยอ้างอิงข้อมูลจาก CryptoArt.io แพลตฟอร์ม Nifty Gateway ถือเป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 มีมูลค่าการซื้อขาย 2,300 ล้านบาท คิดเป็น 82% ของตลาดซื้อขาย NFT
เดือนมีนาคม ปี 2021 มีมูลค่าการซื้อขาย 4,100 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของตลาดซื้อขาย NFT
ซึ่ง Nifty Gateway มีการเก็บค่าคอมมิชชันจากผู้ขาย NFT ที่อัตรา 15% ของมูลค่าการซื้อขาย
ทั้งนี้ Winklevoss มีแผนที่จะเชื่อมต่อแพลตฟอร์ม Gemini และ Nifty Gateway เข้าด้วยกัน
เพื่อต่อยอดให้บริการสินเชื่อคริปโทเคอร์เรนซี ที่ค้ำประกันด้วยสินทรัพย์ NFT ได้
ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของระบบการเงินไร้ตัวกลาง หรือ Decentralized Finance (DeFi) ที่มีโอกาสเติบโตสูงมากในอนาคต
แน่นอนว่า คู่แฝด Winklevoss คงเสียดายโอกาสในการก่อตั้งธุรกิจโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่หากเกิดขึ้นก่อน อาจมาแทนที่เฟซบุ๊กทุกวันนี้ ก็เป็นได้
แต่ประเด็นที่สำคัญของเรื่องนี้ก็คือ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพลาดไป แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดมองหาโอกาสที่น่าสนใจใหม่ ๆ จนพวกเขาได้รู้จักและลงทุนในบิตคอยน์ในช่วงเริ่มต้น
ทำให้ค่าชดเชยที่พวกเขาได้รับจากการฟ้องร้องเฟซบุ๊กในตอนนั้น เป็นแค่เศษเสี้ยวของ มูลค่าทรัพย์สินของพวกเขาในตอนนี้..
คำเตือน: บทความนี้ไม่ได้เป็นการแนะนำการลงทุน การซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
╔═══════════╗
ร่วมติดตามข่าวสารคริปโทเคอร์เรนซี จากมุมมองหลายเพจ ได้ในแพลตฟอร์ม Blockdit ลองอ่านตัวอย่างได้ที่ www.blockdit.com/explore/cryptocurrency
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.entrepreneur.com/article/369372
-https://www.celebritynetworth.com/articles/billionaire-news/what-have-the-winklevoss-twins-been-up-to/
-https://www.cnbc.com/2017/12/04/winklevoss-twins-may-have-become-first-bitcoin-billionaires.html
-https://coinmarketcap.com/rankings/exchanges/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tyler_Winklevoss
social network คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的最佳貼文
สมัครสมาชิก WBL ฟรี! (สถาบันการเรียนรู้การทำธุรกิจ ของ วรัทภพ) แอดไลน์โดยคลิกลิงก์นี้ครับ https://line.me/ti/p/~@warattapob หรือแอดไลน์โดยไอดี @warattapob (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้าครับ)
คุณคิดว่าการ Live สด ผ่านทาง social network มีประโยชน์หรือแค่การเล่นสนุกไปวันวัน? วันนี้ผมจะมาแนะนำนาย Li Jiaqi (หลี่ จาฉี) ที่ตะบี้ตะบัน Live แบบบ้าคลั่ง จนสุดท้ายไปดังระเบิด ใน app TIKTOK ของจีน เขาพบวิธีการ Live หาเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นกอบเป็นกำถึงหลักหลายล้านบาทต่อเดือน เขาทำอย่างไร? ไปชม...
? พบกับวิดีโอใหม่ทุกวัน ? ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จและรวย "เร็วขึ้น"
จากประสบการณ์การทำธุรกิจไทย-จีน มาแล้ว 14 ธุรกิจของผม
? คลิกลิงก์แล้วกด “SUBSCRIBE - ติดตาม และกดกระดิ่งแจ้งเตือน ตอนนี้เลย!! ?
https://www.youtube.com/channel/UC6GkGouzOitA6vUzOEBEqwA?sub_confirmation=1
—
// ดูวิดีโอของ "วรัทภพ" ตามเพลย์ลิสต์
? คลิปใหม่ล่าสุด (มีคลิปใหม่ทุกวัน) https://bit.ly/2OCDdvb
========================
?ลงทุนอะไรดี https://bit.ly/2kH0Lm0
?วิธีขายของ LAZADA https://bit.ly/2TUxuRn
?วิธีขายของ SHOPEE https://bit.ly/2lJ5LHe
?วิธีสั่งสินค้าจากจีน https://bit.ly/2IERdmE
?วิธีส้รางรายได้บน YOUTUBE https://bit.ly/2NT8l8L
?การทำตลาดจีน และส่งออกจีน https://bit.ly/2GWdITq
?วิธีขายสินค้าแบบ ดรอปชิป https://bit.ly/2x2sOPf
?WARATTAPOB PODCAST https://bit.ly/2SBlrHR
?วิธีทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ https://bit.ly/2lRZuZn
?วิธีปลดหนี้ https://bit.ly/2PKNplE
========================
??VLOG IN CHINA ชีวิตในจีนของผม https://bit.ly/2AqaFNB
??VLOG IN THAILAND ชีวิตในไทยของผม https://bit.ly/2AUvnWf
========================
?แกะคำคม ข้อคิด นักปราชญ์ และนักธุรกิจ https://bit.ly/2SDzHjh
?5 นาที หาเงินแบบมหาเศรษฐี https://bit.ly/2k9oyuu
?รีวิวหนังสือที่ผมชอบ http://bit.ly/2lRZJnf
?วิธีเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน https://bit.ly/2ChCNT7
?ความรู้ หาเงิน เพิ่มรายได้ ที่จะทำให้คุณรวยเร็วขึ้น https://bit.ly/2CR2Jqc
?เคล็ดลับ การตลาดและการขาย https://bit.ly/2M8P7cV
?ไอเดียธุรกิจเงินล้าน https://bit.ly/2TrY2IT
?พัฒนาตัวเอง เพื่อความสำเร็จในด้านที่ต้องการ https://bit.ly/2LTPms2
?แรงบันดาลใจและกำลังใจ ในการใช้ชีวิต https://bit.ly/2TKQAbW
?รีวิว ธุรกิจจีนและเศรษฐกิจจีน https://bit.ly/2M8Phkx
?ความรู้ไทย-จีน อื่นๆ http://bit.ly/2kIZaMn
—
// วรัทภพ รชตนามวงษ์ คือ ใคร?
ผม "วรัทภพ รชตนามวงษ์" เป็นคนไทย เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่
เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาแล้ว 14 ธุรกิจ
ทั้งในประเทศไทย และ จีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน
ผมตั้งใจทำสื่อเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์
ให้คนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและรวย “เร็วขึ้น”
?คุณสามารถดูคลิปจากลิงก์ล่างนี้ ว่าผมมีประสบการณ์ธุรกิจอะไรบ้าง?
http://bit.ly/2kHDgt4
—
// ติดตาม วรัทภพ รชตนามวงษ์ เพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.warattapob.com
?SOCIAL
Instagram : https://www.instagram.com/warattapob_rachatanamwong
Facebook : https://fb.me/WarattapobRachatanamwong
YouTube: https://www.youtube.com/c/WarattapobRachatanamwong
Line official : http://line.me/ti/p/~@warattapob
Twitter : https://twitter.com/warattapob
Tiktok : ค้นหา WARATTAPOB
?PODCAST
--สำหรับ Android
Soundcloud : https://bit.ly/2QjfVYm
Spotify : https://spoti.fi/2Jcwh6Y
--สำหรับ iOS
Apple Podcast : https://apple.co/2QjW5fM
—
#WARATTAPOB #ส่องธุรกิจจีน #การตลาดจีน
วิดีโอนี้เกี่ยวกับ หาเงินออนไลน์ LIVE สด ได้ 4 ล้านบาท/เดือน (LI JIAQI ดังจากTIKTOK จีน) | ส่องธุรกิจและการตลาดจีน EP3
LINK https://youtu.be/Q6RHqZRr_UY
LINK https://youtu.be/Q6RHqZRr_UY
social network คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的最佳貼文
สัมมนาออนไลน์ฟรี! บุกตลาดจีนยุคใหม่ บุกแบบยั่งยืน
เข้าร่วมโดยแอดไลน์ http://line.me/ti/p/~@warattapob หรือแอดโดยไอดี @warattapob (อย่าลืมใส่ @ นำหน้า)
คุณอาจจะคิดว่า คนจีน ก็ใช้ app ในมือถือ เหมือนๆกับคนไทย
เพราะว่า app ที่เราใช้กัน ก็เป็น app ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งนั้น
เช่น Facebook, Instagram, Line, Youtube, Twitter ฯลฯ
คุณกำลังเข้าใจผิด!!!
คนจีน ใช้ app ในมือถือ ที่ไม่เหมือนกับที่ คนไทยหรือคนทั่วโลกใช้
พวกเขาใช้ app หลักๆในชีวิตประจำวัน ที่เป็นของประเทศจีนเองทั้งหมด
คุณอาจจะคิดว่า ก็ช่างมันเถอะ
ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้เลย มันเป็นเรื่อง "ไกลตัว"
ถูกต้องครับ มันไกลตัว
แต่อีกไม่นาน สิ่งที่คุณคิดว่าไกลตัวนี้
มันจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลก
เพราะอีกไม่กี่ปี ประเทศจีนจะเป็น "มหาอำนาจ อันดับ 1 ของโลก"
ซึ่งคุณจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ "จีน" ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน!
ถ้าคุณไม่รู้ไว้ คุณจะตามไม่ทัน
ดังนั้น คลิกดูเลยครับ! ว่าคนจีนใช้ app อะไรบ้าง
? พบกับวิดีโอใหม่ทุกวัน ? ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จและรวย "เร็วขึ้น"
จากประสบการณ์การทำธุรกิจไทย-จีน มาแล้ว 14 ธุรกิจของผม
? คลิกลิงก์แล้วกด “SUBSCRIBE - ติดตาม และกดกระดิ่งแจ้งเตือน ตอนนี้เลย!! ?
https://www.youtube.com/c/warattapobrachatanamwong/list25?sub_confirmation=1
—
// ดูวิดีโอของ "วรัทภพ" ตามเพลย์ลิสต์
วิธีขายของ LAZADA
https://bit.ly/2TUxuRn
วิธีสั่งสินค้าจากจีน
https://bit.ly/2IERdmE
การทำตลาดจีน และส่งออกจีน สำหรับสินค้าไทย
https://bit.ly/2GWdITq
วิธีเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน
https://bit.ly/2ChCNT7
ความรู้ หาเงิน เพิ่มรายได้ ที่จะทำให้คุณรวยเร็วขึ้น
https://bit.ly/2CR2Jqc
การตลาดและการขาย สมัยใหม่
https://bit.ly/2M8P7cV
ไอเดียธุรกิจเงินล้าน
https://bit.ly/2TrY2IT
พัฒนาตัวเอง เพื่อความสำเร็จในด้านที่ต้องการ
https://bit.ly/2LTPms2
แรงบันดาลใจและกำลังใจ ในการใช้ชีวิต
https://bit.ly/2TKQAbW
แกะคำคม ข้อคิด นักปราชญ์ และนักธุรกิจ
https://bit.ly/2SDzHjh
WARATTAPOB PODCAST (เสียงจาก วรัทภพ)
https://bit.ly/2SBlrHR
VLOG IN CHINA ชีวิตในจีน กินเที่ยว
https://bit.ly/2AqaFNB
รีวิว ธุรกิจจีนและเศรษฐกิจจีน
https://bit.ly/2M8Phkx
VLOG IN THAILAND ชีวิตในไทย
https://bit.ly/2AUvnWf
// วรัทภพ รชตนามวงษ์ คือ ใคร?
ผม "วรัทภพ รชตนามวงษ์" เป็นคนไทย เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่
เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาแล้ว 14 ธุรกิจ
ทั้งในประเทศไทย และ จีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน
ผมตั้งใจทำสื่อเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์
ให้คนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและรวย “เร็วขึ้น”
—
// ติดตาม วรัทภพ รชตนามวงษ์ เพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.warattapob.com
SOCIAL
Instagram : https://www.instagram.com/warattapob_rachatanamwong
Facebook : https://fb.me/WarattapobRachatanamwong
YouTube: https://www.youtube.com/c/WarattapobRachatanamwong
Line official : http://line.me/ti/p/~@warattapob
Twitter : https://twitter.com/warattapob
PODCAST
--สำหรับ Android
Soundcloud : https://bit.ly/2QjfVYm
Spotify : https://spoti.fi/2Jcwh6Y
--สำหรับ iOS
Apple Podcast : https://apple.co/2QjW5fM
—
#ตลาดออนไลน์จีน #บุกตลาดจีน #ส่งออกจีน
วิดีโอนี้เกี่ยวกับ คนจีน ใช้ app อะไร - Social Media จีน ที่คุณต้องรู้ ถ้าอยากทำตลาดจีน (ปี 2021)
https://youtu.be/KL8IUQNSEYo
https://youtu.be/KL8IUQNSEYo
social network คือ 在 Bundit Ungrangsee บัณฑิต อึ้งรังษี Youtube 的最佳解答
ก่อนอื่นเลยนะ ...คลิปนี้ ตอนแรก กะว่าจะ "ไม่โพสต์" แล้ว
เพราะมีสิ่งที่อาจทำให้ผู้ชมวอกแวก เสียสมาธิ ไม่ตั้งใจรับความรู้
และผม...ยอมรับว่าเป็นความผิดผมเอง :)
แต่คิดไปคิดมา ...เสียดาย เนื้อหาความรู้ และแขกรับเชิญ ที่อุตส่าห์เดินทางมาไกล
คุยกับทีมงาน... ผมเสนอให้ "เบลอ" ส่วนที่อาจทำให้คนดูวอกแวก (หัวนม)
คือ ....เซนเซอร์ตัวเองเลย 555
(คือ มีประวัติ ... คลิปก่อนหน้าอันหนึ่ง (หัวข้อ "คิดสิ่งนี้ 5 นาทีก่อนนอน") ก็มีหลายคนคอมเม้นต์แบบแซวๆ มา ....แต่คลิปนี้ เห็นหัวนมชัดยิ่งกว่า)
เห็นมั้ยครับว่า ...ผมทำทุกอย่าง ....ที่จะทำให้คุณ ได้รับความรู้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย 555
(เสียสละนะเนี่ย)
....
ถ้ายังรบกวนสายตาใคร ...ก็ปิดตา ..ฟังแค่เสียงก็ได้นะครับ ไม่ว่ากัน :)
ด้วยรัก
บัณฑิต
ปล. สาวสวยในคลิป คือ น้องเขมมิกา
เพจ สอนเป็นนางเอก By Khemika's Herb มาส์กนางเอก
เธอมีเรื่องราวที่เยี่ยมมาก
เนื้อหาสำหรับคนที่อยากมีรายได้จากออนไลน์
-------
ติดตามผลงานผม เพิ่มเติมได้ที่
Website : http://bundit.org/
Instagram : Bunditu
Twitter : BunditUngrangse
Facebook : https://www.facebook.com/BunditUngrangsee
FB messenger : @BunditUngrangsee
Youtube : https://www.youtube.com/user/TheBunditChannel
Line@Bundit หรือกดได้ที่ลิงค์นี้ http://line.me/ti/p/%40mdl4971x
Search ทุกคําถามเกี่ยวกับปัญหา หรือ ความสําเร็จ ที่
www.AskBundit.com