“ภูมิใจ และ ยินดีกับเจ้าของข้อความ”
ที่ธุรกิจโตก้าวกระโดด สวนกระแสวิกฤติ
และ…..
เป็น1ในหลักฐานที่ยืนยันคำว่า…
“ยิ่งไม่ลดราคา ยิ่งขายดี”
มันทำได้จริง!
———ข้อความจากเฮียตี๋ย์
“”””””””“Winning day
เมื่อวานลูกค้าแน่นร้านมากครับ
ขอบคุณอาจารย์เอ อาจารย์อั๋น
พี่ปลา มากๆครับ”””””””””
———-ถ้าพี่น้องที่อ่านอยู่ตามหน้าเพจประจำ
น่าจะจำชายคนนี้
ที่อยู่ใน2คลิปล่าสุด
เมื่อ5-6วันที่แล้วได้
——
ความเดิม…
ที่หลังจากได้คุยกันหลังจากเข้ามาใน1yearCLUB(เมื่อ1เดือนที่แล้ว)
เค้าคนนี้ทำเต็นท์รถยนต์มือ2
2-3เดือนที่ผ่านมามีปัญหาวิกฤติปิดเมือง
ลูกค้าหาย
เค้าก็
แก้ปัญหาด้วยการทำโปรโมชั่น
แต่สุดท้าย
ยิ่งลดราคาเท่าไหร่
ลูกค้าก็ไม่ได้มาหามากขึ้น
และตรงข้าม
ยิ่งถูกตัดราคา
ถูกเปรียบ
แข่งราคาตลอด
ผมสังเกตุข้อนึงว่า
เดิมทีธุรกิจเค้า
ตัวเค้า
มีความThx economy
ซี่อสัตย์ต่อลูกค้า
จนลูกค้าแนะนำบอกต่ออยู่แล้ว
“แต่ไม่ทันกับความต้องการ”
“และรู้สึกว่าเค้ายังไม่ได้ใช้จุดแข็งที่มีจริงๆของเค้า”
——————วันนั้น(ตอนPrivate Consult)
ผมได้แนะนำเค้าไปเรื่อง
การทำการตลาดแบบ High Ticket
ว่าปกติลูกค้า80%จะสนใจเรื่องราคา
(สนใจแต่เรื่องถูกที่สุดเท่านั้น)
แต่จะมีลูกค้าอีก20%สนใจเรื่องคุณค่า
(ยินดีจ่ายเงินมากกว่า เพราะคุณค่าจากเรา)
———-หลังคุยกันเสร็จ
ผมเลยแนะนำเค้าไปว่า
Actionนึงที่ผมอยากให้เค้าทำทันทีคือ
“ให้เอาเรื่องลดราคาออกไปให้หมด”
“ไม่ต้องพูดถึงเลย”
“ถ้าจะลดก็ให้เป็นของขวัญกับลูกค้า
แต่ไม่ต้องเอาเรื่องโปรโมชั่นมาเป็นจุดขาย”
——————เค้าทำท่าคิดหนัก
และบอกกับผมว่า…
“ถ้าไม่ลด มันจะขายได้เหรอครับ?”
“ขนาดลดราคายังขายไม่ได้เลย
แล้วไม่ลดจะขายได้ยังไง?”
————-ผมบอกเค้าว่า…..
แล้วถ้ายังทำแบบเดิม
ทุกอย่างเหมือนเดิม
คืดว่าจะขายได้ไหม?
เค้าส่ายหน้า
————ผมบอกต่อว่า…
งั้น
อยากจะลองวิธี
การตลาดแบบ High Ticket
ไปServe ลูกค้า20%
ของผมไหม?
เฮียไม่มีอะไรจะเสียนี่?
ถ้าทำแล้วwork
“ก็ก้าวกระโดด”
แต่ถ้าทำไปแล้ว1-2เดือน
ไม่work
วันนั้น
เฮียก็กลับไปลดไปทำแบบเดิม
เมื่อไหร่ก็ได้
เอาไหม?
————-เค้าพยักหน้าและ
“เค้าก็ตัดสินใจลงมือทำ”
ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็นด้วยกับเค้าเลย
แม้แต่คนรอบตัว
ก็ถามคำถามเดียวกัน
คือ ลดราคายังขายไม่ได้
แล้วไม่ลดราคา
จะขายได้ยังไง?
————แต่เค้าเลือกแล้วว่าจะทำ
ก็ลงมือทำ
“เค้าเปลี่ยนทุกอย่างในเพจ”
“ปรับการสื่อสาร”
—————และรูปpostด้านล่างนี่คือ…
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
เค้าส่งข้อความมาWinning Day
กับพี่น้องใน1YeatrClub
ว่า ตอนนี้
“ลูกค้าแน่นร้าน
(ติดต่อกันมา2สัปดาห์ติดๆ)
“และมีแต่ลูกค้าที่น่ารัก
ที่สนที่คุณค่า
ที่เฮียตี๋ย์มอบให้ มากกว่าเรื่องถูกแพง”
———-ซึ่งตรงกับที่
ผมพูดกับพี่น้องในLIVEวันก่อน
และเป็นหลักฐานชั้นดี
ว่าตลาด
“High ticket Market”
เป็นที่ต้องการของตลาด
มีลูกค้าจำนวนมากรอการตอบโจทย์
รอการAdd value
แต่มีน้อยมากที่ใครจะทำ
(ทั่วไปมีแต่คนเล่นเกมส์แห่งการแข่งราคา)
พี่น้องใน1year ปีที่ผ่านมา
หันมาfocus ตลาด
High ticket
ผลคือธุรกิจ
ยอดขายโตก้าวกระโดดกันตั้งแต่2-20เท่า
โดยไม่ต้องเหนื่อยทำงานหนัก
—————-ซึ่งวันนี้ก็ถูกพิสูจน์อีก1ครั้ง
โดยเฮียตี๋ย์ เจ้าของเต็นท์รถมือ2
“ตี๋ย์รถสวย”
ก็วันนี้….
ขอแสดงความยินดี
และ…
“Winning day ให้กับเฮียตี๋ย์ครับ”
ภูมิใจ
และยินดีด้วยมากๆ
=============ทิ้งท้าย
ถึงทุกคน
ผมแนะนำ
ให้ทุกคนลองมองตลาด High ticket
มันจะเป็นทางออกที่แท้จริง
ของการทำธุรกิจ
เพราะลูกค้า ชอบ และบอกต่อคุณค่าที่แท้จริงของคุณ
เป็นพลังใจให้ทุกคนครับ
ลุย 10x
A10(เอเท็น)
*******วันนี้วันสุดท้ายแล้ว
ใคร
ที่มีธุรกิจที่ดี Thx economy ต่อผู้คน
อยากจะ….
ทำการตลาดให้ธุรกิจโต2-10เท่า
(และโตอย่างยั่งยืน)
โดยไม่ต้องแข่งเรื่องราคา
(แทบทุกธุรกิจ ทำสิ่งนี้ได้)
โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นเจ้าของเอง
มาลุยเรียนรู้วิธีทำการตลาด
มาลุยสร้างmodel ธุรกิจ
เพื่อนำธุรกิจคุณไปสู่ลูกค้ากลุ่ม Premium
ที่พร้อมเต็มใจจ่ายให้กับคุณค่าที่แท้จริง
ในตัวคุณ/ธุรกิจ
ก็มาจอยด้วยกันใน
คลาส i34- High ticket market
***“วันนี้เป็นราคาพิเศษวันสุดท้ายแล้ว”***
พรุ่งนี้จะเป็นราคาเต็มที่75,000
ดูรายละเอียดและสมัครได้ที่
https://www.facebook.com/atenarnon/posts/4205848676119243
มาลุยโตธุรกิจก้าวกระโดด
อย่างยั่งยืนไปด้วยกันครับ
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過21萬的網紅JONYZAA ID.,也在其Youtube影片中提到,คือ งงๆ ว่าทำไมขนาดละเอียด ต่ำลง IP Server : play.killerzsv.tk Version : 1.7.2-1.7.10 เว็บเติมเงิน (อัตโนมัติ) : http://goo.gl/I26J1S resources packเ...
thx คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳貼文
“อะไรที่ทำให้คนยอมเดินทาง1,000กิโล???”
“ทั้งขับรถ และบินมาหา เรา”
“โดยที่ไม่ต้องมีการขายเลยแม้แต่Postเดียว”
ดูคนในรูปนี้ไว้นะครับ เค้าชื่อหมอยุ้ย
นี่จะเป็นต้นเรื่องของเรื่องราวในวันนี้
(ใครทนไม่ไหวก็แอบไปอ่านบทสรุป
ข้างล่างก่อนก็ได้ครับ)
———————————ไม่ขายแล้วจะได้เงินได้ยังไง??
สมัยเด็กๆตอนผมทำงานขายแรกๆ
ผมถูกผู้ใหญ่กว่าพูดใส่เสมอเลยว่า
ออกไปขายสิ จะได้ได้เงิน
เอาแต่นั่งหน้าคอมแบบนี้
ไม่ขายแล้วจะได้เงินได้ยังไง
จะมีลูกค้าได้ยัง?
ไปๆไปขาย
แล้วยุคนั้นผมก็ต้องไปขาย
ขายจนเลี้ยงตัวเองได้แล้วก็
เป็นจุดตั้งต้นชีวิตเลยก็ว่าได้จากช่วงเวลานั้น
ต้องขอบคุณทุกคนที่เคี่ยวเข็ญ
คนที่introvert จัดๆคนนึง
ที่มันไม่ค่อยพูดกับใครยิ้มให้อย่างเดียว
แต่ไม่ค่อยพูดค่อยพูดค่อยจา
ให้ตั้งต้นชีวิตจากวั้นนั้นได้จนวันนี้
————แต่เอาตรงๆผมก็คิดอยู่ตลอดในใจว่า
ถ้าเราทำบางอย่างได้ดี
บางทีเราอาจจะไม่ต้องขายเลยก็ได้
ถ้าเราทำการตลาดได้ดีจนลูกค้าวิ่งเข้ามาหา
และ....
เรามีProductที่ดีช่วยเค้าได้จริง
และ
เราใส่ใจลูกค้าที่วิ่งเข้ามาหา
แล้วเค้าก็ซื้อซ้ำ แนะนำ บอกต่อ
"เราทำการตลาด
และลูกค้าเป็นคนอยากจะไปขายให้เรา"
จริงๆแล้วเราอาจจะไม่ต้องขายเลยก็ได้
แต่ธุรกิจก็โตได้
แนวคิดนี้อยู่ในหัวตลอดเวลา
แต่ก็ไม่ได้เคยได้ทำแบบเต็ม100%
ด้วยความที่ต้องขาย
ผมเลยแชร์กับพี่น้องในคลาส OTO
ว่า....
มันมีเพจ4แบบที่
ผมพี่อั๋นและทีมiClass
คิดค้นขึ้นมาตลอด7ปี
ที่ทำเพจนี้
————————จนได้สูตรที่ลงตัวที่สุด
แล้วถ่ายทอดลงไป
ในคลาส OTO Online Take Over2021
มันมีเพจ4 แบบ
นี่คือสิ่งที่ชาวOTO
ทุกคนจะใช้สูตรด้านล่างนี้เป็นจุดตั้งต้น
ก่อนที่จะไปเจาะแต่ละเทคนิคที่ทำให้ขายดียิ่งขึ้น
(พี่น้องที่อ่านอยู่แค่รู้อันนี้ ยังไม่ได้ไปลุยOTO
ผมก็ผมมั่นใจว่า
มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ในการค้าขายของทุกคน)
----------แต่ละเพจจะแบ่งเป็น 3สิ่งคือ....
(จดไปกันนะครับ)
Contentคุณค่า /รีวิว หรือ สิงที่ทำให้คนเชื่อถือ/ขาย
แบ่งสัดส่วนเป็น 4 Level
Level1.: 0-0-100
เพจทั่วไป
(ไม่มีตัวอื่นเลย มีแต่ขายอย่างเดียว)
Level2 : 5-15-80
(เพจเน้นขาย. มีคุณค่า 5% มีรีวิว15% มีขาย80%)
Level3:
(เพจเน้นโชว์ผลงาน มีคุณค่า 5% มีรีวิว80% มีขาย15%)
Level4:
(เพจเน้นคุณค่า มีคุณค่า 80% มีรีวิว15% มีขาย5%)
—————
ทริคที่ผมบอกกับพี่น้องในOTO คือ
ถ้าตลาดเป็นแบบไหนอยู่
ให้ขยับขึ้นมา1Level
คุณก็ขายดีในวงการของคุณแล้ว
อย่างในไทยปัจจุบันเพจแบบ 0-0-100
ที่ขายอย่างเดียวเยอะมาก
คุณก็แค่ปรับเป็น Lv2
คือ มีคอนเทนต์คุณออกมาบ้างสัก5%
รีวิวสัก15%
ขาย80%
"ในมุมลูกค้า"
"คุณก็เป็นตัวเลือกแรกๆในตลาดแล้ว"
------แต่ถ้าในตลาดของคุณ
มันเป็น Lv2กันอยู่
คุณปรับมาLevel3
หรือ....
เป็นเพจแบบLevel4คุณค่า 80%
รีวิว15 ขาย5%
พี่น้องในOTO ปรับไปนิดเดียว
ตั้งแต่ต้นคลาสมี winningday เกิดขึ้นทุกวัน
มีพี่น้องจากขายไม่ดีกลายเป็นขายดี
จากขายดีอยู่แล้ว คนมาหามากกว่าที่เคย
ตั้งแต่3-4วันแรกที่เปิดคลาส OTOเลย
ขนาดยังไม่ได้ลงลึกในแต่ละหัวข้อย่อย
(ยังมีประเด็น
ในส่วนแต่ละ%
เราจะเล่นอะไรได้อีกเป็น10บท)
ยังไม่ถึงบทเรียนเหล่านี้หลายคนก็โตได้แล้ว
จากข้อมูลที่ผมกำลังจะแชร์กับพี่น้องในวันนี้
เพราะฉะนั้นคนที่ค้าขาย เปิดร้าน คลีนิค
คนที่มีสินค้าที่Thx economy
ที้สินค้าหรือบริการดีต่อผู้คน
ที่เค้าใช้แล้วอยากแนะนำบอกต่อ
ก็กลายเป็น
รายได้เริ่มโตตั้งแต่เริ่มคลาสไป3-4วัน
โดยที่ยังไม่ได้เข้าเรื่องของเทคนิค
หรือแก่นเลย
ซึ่งวันนี้ผมคงไม่ได้ไปลงแก่นตรงนั้นนะ
เพราะจะพูดประเด็นในวันนี้ที่สัญญาไว้
—————————ข้อที่แตกต่าง
จำได้ไหมครับที่ผมเกริ่นไปแต่แรก
ว่ามีคนไล่ให้ผมไปขาย
จนในท้ายสุดผมก็ขายดี
แต่ที่ผมบอกว่าผมติดในใจ
ที่ผมเชื่อว่า
“ถ้าเราทำการตลาดดีๆ”
“จนคนสนใจเรา”
“มีลูกค้ารายแรกของเราซื้อไปใช้”
“เค้าประทับใจ ในความThx Economyของเรา”
“เค้ากลับมาซื้อซ้ำบอกต่อ”
“และเค้ากลายเป็นคนที่ขายให้เรา”
เราไม่ต้องขายเลยก็ได้
ลองนึกดีๆครับ
ถ้าเทียบกับตารางด้านบน
มันคืออะไรรู้ไหมครับ?
มันคือ....
80-15-5
ที่บอกด้านบน
มันคือคอนเซปต์ที่อยู่ในใจผม
มาตั้งแต่วันแรกที่ค้าขาย
และ....
ถ้าดูดีๆตัวอย่าง4Levelด้านบน
ชาวOTOรุ่นก่อนๆ
ก็จะคิดว่า
อ่าวพี่ ถ้าไม่ขายเลย แล้วมันจะได้ขายได้ๆยังไง?
จริงครับ
เพจแบบ Lv1,2,3 การกระทำมันดูชัดเจนกว่าในแง่ขาย
แต่ในแง่ผลลัพธ์แล้ว
ถ้าคุณได้ดูคลิปนึงที่ผมทำไว้
เมื่อตอนต้นปี เรื่อง ZMOT
ที่บอกทุกคนว่าลูกค้าจะค้าหาข้อมูลก่อนซื้อ
และเค้าต้องเชื่อใจก่อนที่จะทักเข้าไป
ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ทักแต่แรกไปซื้อที่อื่น
เพราะฉะนั้น
เพจแบบ 0-0-100
ที่ไม่มีตัวหน้ากับตัวกลางเลย
เลยถูกลูกค้าตัดออกจากสาระบบไปดื้อๆ
ไอ้นี่เลยเป็นเหตุผลว่า
“Concept
อยากได้เงิน
ให้ขายๆๆๆๆๆๆๆ
ใช้ไม่ได้ผลในยุคนี้”
———————
ผลลัพธ์มันเลยกลายเป็นว่า
ยิ่งคุณเตรียมสิ่งที่เป็นประโยชน์
ต่อลูกค้ามากเท่าไหร่
โดนใจเค้ามากเท่าไหร่
(ในOTO เราเจาะกันลึกมากในเรื่องนี้
ในเรื่องการทำการบ้าน
ในการหาคุณค่าที่ลูกค้าคุณต้องการรู้
จริงๆเป็นแบบไหน
ผมสรุปสั้นๆให้คือ ไม่ใช่
นึกจะให้อะไรก็ให้โยนๆไปในเพจ
แต่มันต้องเป็นคุณค่าสำหรับเค้าด้วย)
เค้าจะเลือกเจ้านั้น!
—————————เพราะฉะนั้นภาพมันเลยกลับหัว
กลายเป็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป
เพจที่ให้ข้อมูล
แบบ Level2,3,4,
ยอดขายโตแบบคนละเรื่องจาก
เพจที่ขายอย่างเดียว
อยากกรณีตัวอย่าง
รุ่นพี่iClass Brotherทั้ง4คนในpostด้านล่าง
(ลองกดเข้าไปในเพจแล้วแวะไปตามอ่านกันดูนะครับ)
นี่คือกลุ่มคนทำอยู่ในเกณฑ์แบบLv4
80-15-5
(โดยประมาณ)
ที่แทบไม่ได้มีการขายเลย
แต่.....
ลูกค้ามาเพราะคุณค่า
ซื้อซ้ำ แนะนำ บอกต่อจน.....
โตธุรกิจก้าวกระโดดกันหลายเท่า
ใน2ปีที่ผ่านมา
ธุรกิจไป 8หลัก
บางคนเกือบเข้าไปแตะระดับ50ล้านต่อปี
แล้วการที่คุณ
ทำสิ่งนี้ได้เมื้อไหร่
วันนั้น
ต่อให้คนเอาเงินมาทุ่มแข่งกับคุณ
เค้าก็ชนะคุณไม่ได้
เพราะลูกค้าส่วนนึงเลือกคุณ
เพราะคุณค่าของคุณ
————————ถ้าคุณขายอย่างเดียว
วันนึงคนมีเงินมากกว่าคุณ
ทุ่มแข่งกับคุณ
“คุณก็อาจจะแพ้”
แต่ถ้าคุณทำสิ่งนี้ได้
“เงินเอาชนะคุณยากมาก”
รุ่นพี่iCLASS Brother
จาก1YearCLUB
4 คืนก่อน
คือ…
ตัวอย่างที่คนซื้อเค้า
เพราคุณค่าของเค้า
คนซื้อซ้ำแนะนำ บอกต่อ
เพราะThx Economy ของเค้า
เค้าไม่ต้องลงไปแข่งราคากับใครเลย
แม้ว่าบางคนจะอยู่ในตลาดเลือดสาด
นี่คืออีกโลกนึงอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะใน1YearCLUB
หลายคนที่เข้ามาบอกผมว่า
นี่คือเป้าหมาย
คือยอดเขาเอเวอเรสต์
ในแง่การตลาดของธุรกิจเค้าเลย
เพราะทำแล้วจบ
ทำแล้วโตแทบจะถาวร
ใช้แรงตอนแรก
แต่ตอนหลังใช้แรงน้อยมาก
แทบไม่ต้องขาย
เพราะคุณค่าที่ให้มันขายเรา
นี่คอนเซปต์ที่
แทบไม่มีใครเชื่อ
ในวันที่ผมแชร์หน้าเพจเมื่อ6-7ปีก่อน
——————และต้นเรื่องของวันนี้
ที่ผมกล่าวไปตอนแรกว่าให้ดูรูปเค้า
และบอกไปแล้วว่า
เค้าชื่อหมอยุ้ย Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว
เค้าเป็นคุณหมอที่ดูแลเรื่องผิวหนัง
และความงาม
คนนี้มาแบบเคสในอุดมคติ
ของผมเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว
ตอนที่ผมโดนด่าในตอนที่
ผมทำงานขายแรกๆ
ผมถูกผู้ใหญ่กว่าพูดใส่เสมอเลยว่า
ออกไปขายสิ จะได้ได้เงิน
เอาแต่นั่งหน้าคอมแบบนี้
ไม่ขายแล้วจะได้เงินได้ยังไง
จะมีลูกค้าได้ยัง?
ไปๆไปขาย
แล้วสิ่งที่ผมไม่ได้พูดออกไป(ได้แต่คิดในใจ)คือ.....
“ถ้าเราทำบางอย่างได้ดี”
“บางทีเราอาจจะไม่ต้องขายเลยก็ได้”
“ถ้าเราทำการตลาดได้ดี
ให้คุณค่ามากพอ
จนลูกค้าวิ่งเข้ามาหา”
และ....
เมื่อเค้าวิ่งมาหาแล้ว
Productของเราดี
เราใส่ใจลูกค้าที่วิ่งเข้ามาหา
แล้วเค้าก็ซื้อน้ำ แนะนำ บอกต่อๆกันไป
เพราะเค้าประทับใจ
ในที่สุดเราไม่ต้องขายอีกเลย
และคนที่ทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นได้
คือ.....
หมอยุ้ยคนในรูปวันนี้
ถ้าดูดีๆในเพจเค้า
ไม่มีขายเลยแม่แต่นิดเดียว
เป็นเพจแบบ อีกแนวนึงเลย
ใน1Year จะเรียกว่าสายคุณค่า
หรือสายPassion
100-0-0
คุณค่า100%
ตอนที่ผมสัมภาษณ์เค้าเมื่อวันก่อน
ผมถามเค้าว่า
เพจไม่มีการขายเลยแบบนี้
ลูกค้าคนแรกกว่าจะมายากไหม?
เค้ายิ้มและตอบกลับมาว่า
“ไม่นานเลย”
แล้วผมถามกลับไปว่า
แล้วลูกค้ารู้ได้ยังไง
ว่าเราทำอะไรอยู่ที่ไหนล่ะ?
ถ้าเราไม่บอก?
เค้าตอบกลับมาว่า
ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกัน
แต่คนไข้บอกว่า
เค้าติดตามเพจของหมอ
แล้วไปสืบเองว่า
หมออยู่ที่ไหน
แล้วก็ตามมาหา
----------สิ่งนี้ทยอยเกิดขึ้นๆตั้งแต่ปี2019
จนหมอยุ้ยกลายเป็นคุณหมอผิวหนัง
ที่อยู่ในใจคนไข้
มีคนไข้ยินดี
ขับรถเกือบ 1,000กิโล
ตั้งใจมาหาหมอ
มีคนไข้บินมาแล้วบินกลับ
เพื่ออยากมาให้หมอยุ้ยดูให้
ไม่ว่าจะเป็นช่วง
สถานการณ์/เศรษฐกิจ
แบบไหนในช่วงที่ผ่านมา
แต่หมอยุ้ยก็
มีคนไข้มาหาให้เค้าช่วยดูเรื่องผิวตลอดเวลา
กรณีหมอยุ้ยก็ถือว่าเป็นเคสๆนึง
ที่เอามาพูดคุยแนวทางแชร์กันใน1Year
(เพจคุณค่า100%)100-0-0
และ....
เป็น1ในคนที่
ผมพูดถึงในคลิปบ่อยๆ
ที่ว่ามีลูกค้าบินเดินทางมาหาเค้า
ถ้าพี่น้องที่ดูคลิปบ่อยๆจะนึกถึงเรื่องคุณหมอคนนี้ได้
(ถ้าจำได้ ก็คอมเม้นต์บอกกันหน่อยนะครับ)
เรื่องราวในวันนี้เหมือนเคลียใจผมในอดีต
สิ่งที่ผมเคยได้ยินมาที่ผู้ใหญ่พูดกับผมว่า
ขายให้มากพอ
แล้วคุณจะได้เงิน
(ก็ต้องบอกว่านั้่นก็ไม่ผิดนัก
เพราะมันก็สร้างผมขึ้นมาในช่วงนั้น)
แต่ก็ต้องว่า
มันมีอีกศาสตร์นึงที่อยู่ในผม
นั้่นก็คือ...
“ให้คุณค่าให้มากพอ
แล้วคนจะตามหาคุณเอง”
และคนที่ทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นได้ในวันนี้ก็คือ
หมอยุ้ย
ICLASS Brother
(คนสุดท้ายใน OTO2021)
----
วันนี้มาดึกหน่อย
ชอบกันไหมครับทุกคน?
ใครอ่านจบแล้วชอบ
ก็commentทักทายกันหน่อยนะครับวันนี้
A10(เอเท็น)
iCLASS Brother Share
สังคมแห่งความเป็นไปได้
thx คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的精選貼文
ทำคอนเทนท์อะไรดี คิดไม่ออก?
5วิธีทำคอนเทนให้ไม่มีทางตันอีกเลย
ตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
Ver.สำหรับพี่น้องที่ชอบการอ่าน
ผมแกะมาให้เพื่อพี่น้องที่ชอบอ่าน
(ใครชอบดูเป็นคลิปสามารถไล่ดูได้
ในวีดีโอหน้าเพจ)
ผมได้รับคำถามจากพี่น้อง
จำนวนมาก
เพราะถ้าทุกคนตามมาตลอด
จะเห็นว่าผมอ่านเองทุกคอมเม้น
ผมได้รับคำถามยอดฮิตอีกอัน
เป็น1ในTop5คำถามยอดฮิต
คือ...
เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
คิดไม่ออก
ตันไปหมด
—————
ตอนนี้
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เป็นเซล
หรือเป็นเจ้าของโชว์รูม
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
เช่น
รับทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
—————
ตอนนี้เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ฟังเอเท็นมาจนตอนนี้เริ่มทำแล้ว
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ปัญหาใหม่คือ...
ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
นึกไม่ออกไม่รู้จะPostเรื่องอะไร
จะเอาเรื่องอะไรไปทำบทความ ทำคลิป?
ช่วยบอกหน่อยได้ไหม?
———
ผมอยากบอกว่า
นี่ก็เป็นปัญหาระดับชาติเลยนะ
ผมเองตอนเปิดเพจใหม่ๆ
สมัยก่อน
นี่ติดคำถามนี้อยู่เป็นเดือนๆนะ
คือคนเราไม่มีประสบการณ์ไง
เคยแต่ขายOffline
สมัยก่อนขายรถ
แล้วเป็นลูกจ้างเค้า
ทำการตลาดก็ไม่เป็น
บริษัทเค้าเป็นคนทำ
ก็เลยทำได้แต่ขายๆๆ
รอลูกค้าเดินขึ้นมาหาอย่างเดียว
(แรกๆพอมาOnlineก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน)
———
แต่7-8ปีก่อนก็ได้รู้ว่า
คนเริ่มซื้อของทางOnline
และในอนาคต
คนจะซื้อของทางOnlineเป็นเรื่องปกติ
วันนั้นถ้าเราทำOnline
เปิดเพจทำการตลาดOnlineได้
เรามีโอกาสจะได้ลูกค้าจากทั่วประเทศ
ได้รายได้ที่มากขึ้นได้
เป็นข้อได้เปรียบ
แต่ถ้ากลับกันโลกมันเคลื่อนไปจนถึงจุดที่
ทุกคนทำขายOnlineกันหมด
แต่วันนั้นเราไม่ทำ
มันจะไม่ใช่แค่ไม่ได้รายได้เพิ่มจากOnline
แต่เราจะถูกOnline ดึงลูกค้าไปหมด
————————
เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆผมก็
มาเลย
มาขายแบบยุคเก่า
ก็มาขายตรงๆเลย
หรือไปPostตามกลุ่ม
ไปฝากแปะตามPostชาวบ้านเค้า
ว่าเรามีโปรโมชั่น ถูกกว่า ดีกว่า
ก็ได้ยอดมาบ้าง
โดนเตะออกมาบ้าง
จนถึงวันนึงที่เริ่มตัน
เริ่มได้ผลน้อยลง
เริ่มเห็นสัญญาณอะไรบางอย่าง
เลยเริ่มได้รู้ว่า
ถ้าเราจะอยู่ได้จริงๆบนOnline
มันจะต้องไม่ใช่แบบนี้
ที่จะมาPostขายตรงๆ
ไปแปะรบกวนตามกลุ่มชาวบ้านเค้า
หรือยิงแอดขายหน้าเพจ
Ok ตอนนั้นอาจจะได้
เพราะมันไม่มีใครมาขายเยอะ
————
แต่ถ้าวันนึงคนมาขายเยอะกว่านี้ล่ะ?
Choice Crisisเกิด
ซึ่งวันนั้นมันมาแน่นอน
วันนั้นเราจะทำยังไง?
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกบล็อคถูกเตะออกจากกลุ่ม
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกคนที่ขึ้นมาขายใหม่ๆ
เค้าอยากได้ลูกค้า
ก็ยอมเข้าเนื้อลดมากกว่า
จนผมอยู่ลำบากขึ้น
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
มีเพจที่ต้องยิงแอดมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเริ่มที่จะไม่คุ้มทุน
ผมมองว่า
การที่เราอยู่แบบนี้
นี่ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง
—————
จนราว7ปีที่แล้วผมไปเจอเพื่อนคนนึง
ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนของผม
เค้าชอบกินไวน์มาก
แล้วเค้าก็เปิดคลิปของ
Gary vee ดูอยู่
ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้จัก
เค้ามาโชว์ชิมไวน์
โชว์ว่าไวน์ไหนอร่อย
ไวน์ไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
ไวน์ตัวไหนใช้ในงานไหน?
มีเป็น100วีดีโอ
(จริงๆเพื่อนผม
ไม่ได้ชอบกินไวน์
แต่ว่าที่พ่อตามันชอบไวน์เว้ย)
มันก็เลยต้องศึกษา
มันก็ไปหาข้อมูล
ก็มีแต่คนขายๆๆ
มือใหม่มันแยกไม่ออก
จนมาเจอyoutube ของGary V
มันก็เก่งขึ้นเลย
เอาใจพ่อตามันได้
แล้ววันนั้นผมปิ๊งไอเดีย
อะไรบางอย่างขึ้นมา
มีสมมุติฐานบางอย่างในใจ
ว่ามันใช้สิ่งที่ผมคิดไหม?
ผมเลยถามไปว่า
แล้วมึงซื้อไวน์ที่ไหน?
แล้วมันก็บอกสั่งในเวป
ผมถามเวปอะไร?
มันก็บอกว่า...
Wine library
พอผมเข้าไปดูเท่านั้นแหละ
หน้า gary vee โผล่มาเลย
ผมถามว่ามันคือของ gary v เหรอ
มันบอกใช่
ผมถามทำไมมันถูกเหรอ?
เพื่อนบอกเปล่าก็
ไม่รู้ดิ
อยากซื้อที่นี่
เค้าก็ให้ข้อมูลดี
—————
วันนั้น
“ผมได้จุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่เลย”
ถ้าวันนั้นผมขายรถ
ถ้าเราจะเปิดเพจ
แล้วถ้าเราคิดแต่จะขาย
เหมือนทั่วไป
เพื่อนผมหรือคนอื่น
ก็คงไม่มีทางซื้อกับผมแน่นอน
เพราะคนส่วนใหญ่
ที่ไม่มีความรู้
เค้ามักจะไม่ซื้อเลยทันที
ต้องหาข้อมูลก่อน
แต่เราไม่มีอะไรเลย
ถ้ามาถึงเจอเพจผม
ที่มาถึงขายๆๆ
ไม่มีอะไรให้ติดตาม
เพื่อนผม
หรือคนที่จะซื้อไม่เอาแน่นอน
และคงไม่ตามเพจต่อด้วย
——
แต่ตรงกันข้าม
กับกรณี ร้านไวน์
มันคือการ Educateตลาด
มันคือให้ how to แก้ปัญหาให้ลูกค้า
หรือจะพูดง่ายๆ
เราเป็นห้องสมุดของลูกค้า
แล้วเค้า ไม่ได้ขายอะไรเลยนะ
แต่เค้าเหมือนทำห้องสมุด
รวมรวมhow to
ให้สำหรับคนชอบกินไวน์
คนกินไวน์ไม่รู้ อะไรบ้าง?
ไม่เข้าใจอะไรบ้าง?
ตั้งแต่ไม่เคยกินเลย
ไม่เข้าใจวัฒนธรรม
ไม่รู้เรื่องความแตกต่างของชนิด
แม่งเป็น1,000ปัญหา
เหมือนเราเข้าไปชมนิทรรศการไวน์
ได้รู้เรื่องใหม่ๆ ได้แก้ปัญหาตัวเองได้
แล้วพอถึงจุดนึง
อยากซื้อ
ก็ซื้อกับเค้านี้แหละ
————
วันนั้นผมบอกตัวเองเลยว่า
นี่แหละ Game Changer
ที่เราหามานาน
ผมจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว
เพราะแบบนั้น
วันนึงChoice crisisมา
ผมจะไม่ต่างกับใครเลย
แล้วจะตายในที่สุด
————
เพราะฉะนั้น
ผมจะสร้างห้องสมุด
ของลูกค้าผม
ผมListทันทีเลยว่า
ห้องสมุดของคนซื้อรถล่ะ?
มีอะไรบ้าง?
คนที่ไม่เคยมีรถเลย
ปัญหาเพียบเลย
คนที่ได้รับรถไปแล้ว
แต่เป็นรถคันแรก
เค้ารู้ไหมต้องทำอะไรบ้าง
โหปัญหาเพียบเลย
ผมทำเลย
(เลิกไปแปะขายดื้อๆแล้ว)
สมัยก่อนผมทำสิ่งนี้แหละ
แล้วในเวลาไม่นาน
มันเปลี่ยนการขายผมไปเลย
—————
จนตอนหลังผมถูกคน
บอกมาสอนเรื่องพวกนี้หน่อย
ผมถ่ายทอดให้เพื่อนที่ขายรถ
เอาไปทำ
วันนี้เค้าไม่ต้องไปยืนขาย
ก็อยู่ได้แล้ว
เพราะลูกค้ามามหาศาลทางออนไล
ผมให้คนที่เป็นนายหน้า ตัวแทน
และเพื่อนๆที่รู้จักในวงการ
พอเค้าทำวิธีนี้
เป็นห้องสมุดของลูกค้าเค้า
ภายหลังชีวิตเปลี่ยนหมดเลย
จนผมถูกถามเยอะมาก
ให้มาไปแชร์เรื่องทำการตลาดOnline
มันก็กลายเป็นอีก1ธุรกิจ
จนตัวผมเอง
ก็ต่อยอดมาถึงวันนี้
—————
และธุรกิจนี้ของผม
ผมก็ทำเช่นเดียวกัน
ผมช่วยเหลือการด้านตลาดOnline
ให้คนที่มีธุรกิจแล้ว
ต่อยอดโตขึ้นได้
ทุกวันนี้เนี้ย
ผมก็ทำห้องสมุดของผม
ช่วยนักธุรกิจต่อยอดโต
ทุกปัญหาอะไรที่พี่น้องเป็นกัน
ผมก็ทำคลิป
ทำบทความ
ออกมาแชร์แก้ปัญหาพี่น้อง
ผมทำเพจนี้มาจะครบ7ปีแล้ว
ถึงวันนี้
พี่น้องเคยเห็นผมหยุดPostไหม?
7ปี หรือ2,000กว่าวันที่ผ่านมา
ทำไมผมไม่เคยตันในการ
ทำ Contentเลย?
สงสัยไหม?
เพราะอะไร?
เพราะปัญหาของคนมันมีตลอดเวลาไง?
เห็นภาพไหมครับ?
————
เพราะฉะนั้น
กลับไปที่คำถามวันนี้
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
ทำยังไงให้คอนเทนต์ไม่ตัน
ผมแชร์ในฐานะ
คนที่ทำเพจมาเกือบ7ปี
แล้วทำคอนเทนได้ทุกวัน
แชร์จากการทำจริง
จากผลลัพธ์ของจริง
ทุกคนที่รู้จักผม
ที่มาปรึกษา หรือPrivate
เรื่องการทำเพจ
จะให้ผมแชร์เรื่องนี้เสมอ
เค้าอยากรู้ว่า
ผมทำContentได้ยังไงทุกวันเกือบ7ปี
โดยไม่เคยตัน
เพราะฉะนั้น
แน่นอน
วันนี้ผมเอาสิ่งนี้มาให้พี่น้องด้วย
แล้วผมรับรองเลยว่ามันจะเปลี่ยน
ทั้งmindset และผลลัพธ์
—————
5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
ข้อที่
1.เปลี่ยนจุดศูนย์กลางใหม่
ถ้าใครฟังคลิปผม
แทบทุกคลิปเลย
ผมจะให้แก่นกับพี่น้องเสมอว่า
“แก่นของการทำธุรกิจ
คือการตอบโจทย์ลูกค้า”
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะทำธุรกิจ
ไม่ใช่focusว่าจะขายอะไร?
ถ้าคุณตั้งต้นแบบนี้
มันก็อินดี้ไง ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง
เข้าใจไหม?
เพราะตั้งโจทที่
คุณตอบโจทย์ตัวเอง
แต่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
ไม่ได้เริ่มต้นมองจากลูกค้า
แล้วจะไปหวังให้คนซื้อได้ยังไง
ถูกไหม?
แต่ถ้ากลับกัน
คุณไปดูว่าผู้คนเค้ามีปัญหาอะไร?
แล้วเราเซิฟสิ่งนั้นได้
หรือเรามีสิ่งนี้อยู่
แล้วไปเช็คตลาด
หรือมองแล้วว่า
เราEducateตลาดได้
โอกาสที่เป็นจริงมันก็มากกว่า
————
เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจ
เราจะได้กำไรได้ก็ต่อเมื่อ
ลูกค้าเค้าต้องซื้อคุณ
ในอีกแง่นึงคือ
เราก็ตอบโจทย์เค้าได้นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น
“คุณต้องตั้งต้นด้วยลูกค้า”
ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าก็จริงๆ
แต่จริงๆ
ลูกค้าคือจุดศูนย์กลางเลย
อย่าFocusที่ตัวเอง
Focusไปที่ลูกค้า
ใครที่หาธุรกิจอยู่แนะนำไปดู
(คลิปที่ชื่อว่า4วิธีหาไอเดียทำธุรกิจ)
(ver.เจาะลึก ไม่มโน)
เช่นกัน
ในแง่การทำคอนเทน
วันนี้
คุณขายอะไรอยู่
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เปิดโชว์รูมรถยนต์
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
ทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
ต้องเลิกถามตัวเองแบบ
จะทำคอนเทนอะไรดี
แล้ว...
———
ไปทำข้อ
2.คือ
ถามคำถามใหม่กับตัวเองว่า
“ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้าง”
เค้ายังไม่รู้หรือไม่เข้าใจอะไรอยู่
หรือขาดความรู้อะไรอยู่
เช่น ฉีดปลวก
มีปัญหาอะไรว่ะ?
เค้ามีเด็กเล็กกลัวเคมีหรือเปล่า
ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนฉีดปลวก
มีสัตว์เลี้ยงรึเปล่า
ต้องทำยังไงก่อนหรือหลังฉีด?
มีผู้สูงอายุไหม ต้องทำยังไง ปลอดภัยไหม?
บ้านปูน บ้านไม้ต่างกันยังไง
น้ำยาเคมีแบบไหน
การเตรียมตัว
ควรรื้อทิ้ง หรือยังซ่อมได้
ปลวกขึ้นฝ้า
มีเป็น100 ปัญหานะ
เห็นไหม?
—————
เห็นพี่ตัวอย่างพี่น้อง OTO เกษตรกล้าไหม?
จริงๆเค้าทำเรื่องเกษตรนะ
เรื่องปลูกผลไม้
แต่50กว่าวันที่ทำเพจไป
คนติดตามจะ20,000แล้ว
ตัวเค้ายังพูดเรื่องทุเรียนไม่หมดเลย
เพราะปัญหามันมีเยอะ
เกษตรกรมีปัญหาอะไรล่ะ ?
เนี่ย คอนเทนทั้งนั้น
วันก่อนผมเจอคำถามว่า
เลี้ยงวัวขาย หรือขายอาหารวัว
จะทำคอนเทนยังไง?
ลองไปดูพี่น้องที่เพิ่งเข้าไปเรียนOTO
ได้ยังไม่ถึงเดือน
เพิ่งเริ่มทำเพจ ที่ชื่อว่ารู้รอบตอบโจทวัวขุน
ตอนนี้เพจยังไม่โต
แต่ก็1,000กว่าคนติดตามแล้ว
แต่ทำไมเค้าทำ คอนเทนได้ทุกวัน?
เห็นภาพไหม?
เพราะเค้ามองไปที่ปัญหาของลูกค้า
ว่ามีอะไรบ้างที่ยังไม่ได้รับคำตอบ
เค้าก็เอามาทำ
ซึ่งมันมีเยอะมาก
————
ในคลาสOnline Take Over
มีธุรกิจแทบทุกวงการเลย
เพชร จะทำคอนเทนอะไร?
ลูกค้าซื้อเพชร
เค้าอยากได้อะไร?
บางคนบอกวิธีดูเพชร
พูดไป20คลิปก็หมดแล้ว
อย่าไปมองแบบนั้นดิ
มองให้ลึกไปอีกสิ
เพชรแบบไหน เข้าชุดอะไร
เข้ากับโอกาสแบบไหน
เนี่ยก็ทำได้
ไปดูพี่น้อง1 Year และ OTO
เค้าชื่อน้ำตาล
เจ้าของร้าน เพชร นพรัตน์
เค้าก็ทำคอนเทนได้ไม่รู้จบ
————
ถ้าเรามองที่ปัญหาลูกค้าจริงๆ
พี่น้องในOTO ที่ตอนนี้ที่กำลังทำเพจ
มีหลายธุรกิจเต็มไปหมดเลย
คลีนิคคุณหมอ รักษาผิว
รักษาเบาหวาน
สักคิ้ว
ขายกล้อง
ทำฟิตเนส
หมอฟังเข็ม
หมอฟัน
ร้านอาหาร
นายหน้าอสังหา
ร้านทอง
ติวเตอร์
ร้านสูท
Expert Biz ทั้งหลายเป็น100คน
หรือเรื่องภาษี
ทำไมเค้าทำคอนเทนได้ตลอดเวลาไม่ตัน?
เพราะเค้าFocusที่ปัญหาลูกค้า
ตราบใดที่ลูกค้ายังมีปัญหา
คอนเทนท์ก็ไม่มีทางตัน
—————————
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
ยิ่งถ้าวันนี้คุณมีลูกค้า
หรือเคยขายอยู่แล้วยิ่งสบาย
ที่ผ่านมา
ก่อนเค้ามาใช้บริการคุณ
หรือซื้อคุณ
เค้าเคยถามเคยมีปัญหาอะไร้บาง?
เช่น
ผมไล่นึกเลยลูกค้าเก่าที่เคยซื้อรถไป
ก่อนหน้านั้นเค้าเคยถามอะไร
เคยมีปัญหาอะไรที่เราเคยตอบไปแล้ว
ช่วยเค้าไปแล้ว
เช่นเลือกไม่ถูก?
ไม่รู่ว่ารุ่นไหนเหมาะกับเค้า?
สัดส่วนรถ
ข้อดีข้อเสีย?
รีโมทเปลี่ยนถ่านเองยังไง
ดิสเบรคเป็นสนิม ปกติไหม?
เศษหินติดดอกยางรถ จะระเบิดไหม
ต้องแคะไหม?555
เรื่องพวกนี้
เพียบเลย เอาจริงๆหลายร้อยๆ
แต่มันเป็นปัญหาเค้าจริงๆนะ
คำถามไหนที่ผมเคยถูกถามไว้
ผมก็นำมาทำเป็นบทความเป็นคลิป
ก็รวบรวมเป็นห้องสมุดของลูกค้าผมเลย
ช่วยลูกค้ารายใหม่ๆได้
เค้ายังไม่ซื้อเราวันนี้
แต่เค้ามาศึกษาจากห้องสมุดของเราไปก่อนได้
วันที่จะซื้อ เราก็เป็นตัวเลือกต้นๆ
———
มีอะไรอีกขายเพชร
เช่นลูกค้าเคยถาม
เพชรอันนี้มันจะเข้ากับโอกาสนี้ไหม?
มันใหญ่ไปไหม?
เข้ากับเสื้อผ้าอะไร
แหวนหมั่นแหวนแต่ง
ควรแบบไหน
(เนี่ยปัญหา)
ผมอยากได้เสื้อสูทไปงานที่มีผู้ใหญ่ในสังคม
แต่ไม่รู้จะใช้สีอะไรดี ผ้าอะไรดี?
ปกคอแบบไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
หรือสรีระเราเหมาะกับแบบไหน
(เนี่ยปัญหา เอามาทำ)
กระเป๋านี้ใส่ของได้ยาวกี่เซ็นกี่นิ้ว
ใส่macbookได้ไหม
ควรเลือกยังไงดี?
วัวไม่กินอาหาร?
ทุเรียนเป็นราแก้ยังไง?
พวกนี่ปัญหาทั้งนั้น
คนอื่นมันก็เป็น
เอามาทำสิ
สิ่งที่ลูกค้าเก่าเคยเป็นปัญหา
เราแก้ให้เค้าไปแล้ว
เราก็เอามาเป็นตำรา
เอามาสะสมเป็นห้องสมุด
ช่วยลูกค้าใหม่
รวบรวมเป็นห้องสมุด
สำหรับลูกค้าที่สนใจเรื่องนั้น
เห็นภาพไหม?
————
คุณลองคิดดูนะ
คุณเองก็มีปัญหา
บางทีจะซื้ออะไร
มีแต่คนขายๆๆ
คนไปดูเพจก็ไม่มีอะไรเลย
มีแต่ขาย
แล้วคุณก็ไม่สนใจ
หนีไปดูเจ้าอื่น
แล้วก็ลืมเค้าไปแล้ว
(ลูกค้าคุณก็คิดแบบนี้กับคุณเช่นกัน)
———
แต่ถ้ากลับกัน
คุณเห็นPostๆนึงของร้านขายสูท ขายชุดออกงาน
น่าสนใจ
ตามเข้าไปดูเพจเค้า
เห้ยแตกต่าง
ไม่ได้มีแต่Postขายๆๆๆ
(ปกติเจอแบบนี้เด้งออกมาแล้วถูกไหม)
แต่ไม่ใช่เว้ย
เข้าไปปุ๊บมีเรื่องให้อ่าน
มีคลิปให้ดูให้เราเข้าใจมากขึ้น
ว่าไปงานนี้ใส่อะไร
ไปงานนี้แต่งแบบไหน
สีอะไรขับความหล่อ สวยของเรา
การตัดเย็บแบบไหน
เราอาจจะไม่ได้ซื้อวันนั้น
แต่เมื่อเราจะซื้อขึ้นมา
ร้านนั้นเด่นขึ้นมาในใจทันทีถูกไหม?
ลูกค้าคุณก็เช่นกัน
เค้าก็คิดแบบนั้นอยู่
จริงๆนี้ผมพูดเกินกว่า
เรื่องหาคอนเทน
ไปเยอะเลยนะ
นี่พูดไปถึงจิตวิทยาเลย
เป็นของแถมไปละกัน555
จริงๆมาถึงแค่ข้อนี้
คอนเทนมหาศาลแล้วถูกไหม?
แค่เรากลับไปที่แก่นของการทำธุรกิจ
ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการทำคอนเทนคุณ
และลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์อันล่ำค่า
ที่มอบคอนเทนดีๆให้กับคุณ
จงใส่ใจลูกค้า
คลุกคลีกับลูกค้า
ดูแลลูกค้าที่ขายไปแล้วให้ดี
Thx economyกับเค้า
ธุรกิจคุณจะเติบโตก้าวกระโดด
และcontent คุณจะไม่มีวันตัน
—————
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
ถ้าคุณแวดล้อมตัวเองด้วยคนที่ทำธุรกิจ
มันจะช่วยได้มหาศาลเลย
ทั้งเรื่องไอเดียมุมมอง
ถ้าอยู่ในกลุ่ม
ธุรกิจแบบเดียวกับที่คุณทำ
คุณก็จะได้ปัญหาเชิงลึก
จากเค้า
เช่นเค้าเจอเคสอะไรมา
แก้ยังไงไป
นี่ก็เป็นไอเดียในการมาทำคอนเทน
แบบเชิงลึก
หรือ
แวดล้อมด้วยคนในธุรกิจอื่นๆอันนี้ก็ดี
เพราะมันจะทำให้เห็นภาพกว้าง
มันจะมีอะไรมาadaptได้เสมอ
อย่างพี่น้องในOTO
มีหลายธุรกิจมาก
ไอเดียเต็มไปหมด
เอาไอเดียมาAdapt ใช้กันได้
เพราะมันธุรกิจเหมือนกัน
——
คนทำร้านเพชรก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเสื้อผ้า
คนทำร้านเสื้อผ้าก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเครื่องประดับ
ไอเดียบางอันมันCrossกันได้
หรือใน1 year แต่ละคนมีของทั้งนั้นเลย
เค้าก็ช่วยกันมองหน้ามองหลัง
และแนะนำกัน
มันก็เลยไปเร็วไง ไฟลุกตลอด
และContentก็ไม่มีทางตัน
ขอให้ถามขึ้นมาเถอะ
รุมช่วยกันใหญ่
--------
เพราะฉะนั้น
ถ้าคุณทำเพจ
และถ้าคุณหากลุ่มที่เค้าทำธุรกิจเก่งๆอยู่ด้วย
คลุกคลีกัน
มันจะช่วยคุณได้มาก
เพราะเหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น
ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มทำOnline
มีกลุ่มมีเพื่อนที่เค้าทำเหมือนกัน
ช่วยได้เยอะมาก
ลองทำดูคุณจะเห็นความมหัศจรรย์
คุณจะไปหาเอง
หรือคุณอยากจะมาจอยในOTO
แชร์ไอเดีย
กับพี่น้องที่ทำเพจร่วม1,000คนก็ได้
หรือถ้าคุณมีธุรกิจมาอยู่แล้วระดับนึง
อยากจะมาจอยใน1yearCLUB
ที่มีพี่น้องเจ๋งๆที่ทำธุรกิจ
ก็ยินดีต้อนรับครับ
————————
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะเพจแบบยุคใหม่
ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
คุณจะสังเกตุเห็นว่า
วันก่อนผมPostหน้าเพจ
ถามว่าพี่น้องที่ทำเพจ
มีปัญหาอะไรบ้าง?
แล้วพี่น้องก็ตอบมาหลายร้อยข้อความ
แล้วผมก็มีไอเดียทำคอนเทน
ออกมาแก้ปัญหาให้พี่น้องได้
เนี่ยคอนเทนในวันนี้
ผมก็เอามาจากปัญหาของพี่น้องนะ
—————
พี่น้องในOTOตอนนี้
หลายคนตอนนี้มีฐานแฟนแล้ว
หลายคนเพจขึ้นไปหลัก10,000แล้ว
มีฐานแฟนเหนียวแน่น
เค้าก็สามารถpostถามฐานแฟนตัวเอง
ปัญหาอะไรที่ฐานแฟนเค้า
ยังติดอยู่
ซึ่งพี่น้องOTOหลายคนก็
ใช้วิธีนี้
ก็ได้ปัญหาดีๆมาทำคอนเทน
ช่วยแฟนๆของเค้าอีก
ถ้าเพจคุณมีฐานแฟนเหนียวแน่น
คุณก็ไม่ต้องไปหาว่า
จะทำคอนเทนอะไรจากไหนเลยนะ
คุณถามฐานแฟนคุณได้ตรงๆแบบนี้เลย
เนี่ยคอนเทนจะตันได้ยังไง?
เห็นภาพไหม?
ไม่มีทางตันเลย
คุณชอบไหมล่ะ
การที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจ
เป็นเจ้าของเพจ
ที่สามารถทำแบบนี้ได้
ถ้าชอบ
ก็...
“วันนี้ตั้งมันเป็น1ในเป้าหมายของคุณสิ”
ว่าเราจะทำเพจเราให้เป็นแบบนี้
เหมือนกับพี่น้องหลายคน
หรือพี่น้อง OTO
———
สรุป5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
1.เปลี่ยนจุดศุนย์กลางใหม่
(ลูกค้าคือศุนย์กลาง ไม่ใช่เรา)
2.ถามคำถามใหม่กับตัวเอง
(ไม่ใช่จะpostอะไรดี
(เปลี่นเป็นเอ้ย
ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้างนะ)
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
(ปัญหาอะไรที่ลูกค้าเก่าเคยถาม
และเราตั้งใจแก้ไขให้เค้าไปแล้ว
นั่นคือสุดยอดคอนเทนท์สำหรับลูกค้าใหม่)
(จงเอามาทำ)
(และดูแลลูกค้าเก่าให้ดี)
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
(เอาตัวไปอยูกับคนที่ทำเพจทำธุรกิจเก่งๆ
แวดล้อมด้วยบรรยากาศแบบนั้น)
ไอเดียทำคอนเทนดีๆหลายครั้งก็มักมาจากเพื่อน
(เหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น)
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะทำเพจแบบยุคใหม่
(ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน)
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
และไม่มีทางเลยที่คอนเทนจะตัน
เพราะถามแฟนๆได้ตลอด
-------
และนี่ก็คือ5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
ผมเชื่อว่า(Postนี้)จะเป็นประโยชน์กับพี่น้อง
ที่ทำธุรกิจ ทำเพจทุกคนครับ
ก็ถ้าชอบ ได้ประโยชน์
ได้ไอเดียจากคลิปนี้ก็ช่วยกดLikeให้ผม
หรือคอมเมนต์บอกกันหน่อย
จะได้ไม่พลาดคลิปหน้า
Postหน้า
ที่ผมจะคัดสรรนำมาลงอีก
แล้วก็ถ้าคุณรักใคร คุณอยากโตไปพร้อมกับใคร
ก็อย่าลืมแชร์ไปให้เค้า
เพื่อทุ่นเวลาซึ่งกันและกัน
ลุย!
A10(เอเท็น)
iClass
Online Take Over
1 Year Club
สังคมแห่งความเป็นไปได้
thx คือ 在 JONYZAA ID. Youtube 的最讚貼文
คือ งงๆ ว่าทำไมขนาดละเอียด ต่ำลง
IP Server : play.killerzsv.tk
Version : 1.7.2-1.7.10
เว็บเติมเงิน (อัตโนมัติ) : http://goo.gl/I26J1S
resources packเซิฟ : http://urll.us/HOVG2k
♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠
Subscribe :http://goo.gl/PGfZLj
ขอบคุณทุก SUB และทุกท่านที่รับชม
THX FOR WATCHING ♥
♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠