มาทำงานที่สถานที่แห่งหนึ่ง เจอ AV Installation ที่ยังติดตั้งไม่เสร็จดี ตอนมองผ่าน ๆ มันก็เรียบร้อยดีแต่มาสะดุดที่ตำแหน่งใบพัด ดังรูป
.
1. สายอากาศปกติจะไม่ติดชิดกับพื้นผิวใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สูงสุดเสมอ เวลาที่ “โต ติงต๊อง” เป็นที่ปรึกษางานติดตั้งอุปกรณ์ไร้สายจะพยายามดันให้ตำแหน่งติดตั้งลอยอยู่ในอากาศให้ห่างจากผนังเพดานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะสายอากาศทำงานได้ตรงสเปกที่สุดที่ Free-Field เสมอ
.
2. ถ้าไม่สามารถทำตามข้อที่ 1 ได้ “โต ติงต๊อง” จะบังคับให้ผู้ติดตั้งถอยระนาบแนวนอนของสายอากาศออกมาจากผนังให้มากที่สุด (อย่างน้อย 1 Wavelength เพื่อให้อย่างน้อยสามารถรับคลื่นที่สะท้อนหรือกระจายกลับมาที่ด้านนั้นบ้าง) และด้านหลังสายอากาศต้องเลยขอบผนังด้วย เพราะใบพัดมีมุมรับ-ส่งที่แรงที่สุดคือด้านหน้าและด้านข้าง ไม่ใช่ด้านบนและด้านล่าง ถ้าติดตั้งตามรูปจะเสียคุณสมบัติการรับคลื่นในฝั่งที่ชิดผนังทันที แถมค่าอิมพีแดนซ์จะแกว่งอีกด้วย (VSWR สูงชรูดเลย)
.
3. ตอนที่เดินเข้ามาเห็นสายอากาศแค่ต้นเดียว เค้าอาจจะซ่อนอีกต้นไว้ที่ไหนล่ะมั้ง ถ้าใช้ในงานรับสัญญาณไมโครโฟนไร้สายก็น่าจะพอโอเค แต่ถ้าใช้ในงานส่งสัญญาณ (In-Ear Monitor) เนี่ยสิ ได้เห็นระยะหดเครื่องส่งน็อคในเร็วๆนี้แน่นอน
.
4. เวลาที่ลูกค้าต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากอุปกรณ์ไร้สายเหล่านี้ “โต ติงต๊อง” จะต้องนำเครื่องวัดประสิทธิภาพสายอากาศราคาหลายแสนไปด้วยเสมอ เพื่อการันตีการถ่ายทอดพลังงาน (Maximum Power Transfer) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ตัวส่งสัญญาณ (ด้ามไมค์) มีระยะใช้งานหวังผลไกลและเสถียรที่สุด และไม่ทำให้อุปกรณ์ไร้สายที่ใช้เกิดปัญหาระยะหดในระยะยาว
.
5. พอติดตั้งเสร็จอาจเจอปัญหามีจุดบอดก็ได้นะ และวิธีแก้ไขหลายเหตุที่ง่ายที่สุดก็คือใช้ Booster เร่งสัญญาณเพิ่มขึ้น ระวังให้ดีเถอะ... หึหึ ระบบอาจพังเร็วกว่าเดิม
.
“โต ติงต๊อง”
ปล. พรุ่งนี้คือวันจัดคอร์สสัมมนาพื้นฐานแสง-เสียง-ภาพ สำหรับผู้เริ่มต้นแล้วนะ จะจัดที่พัทยาสองวันติดต่อกันในราคาคนละ 2500 บาทเท่านั้น สนใจรายละเอียดสามารถดูที่ https://bit.ly/2x6sMZN หรือโทร 085-803-8791 ได้เลยจ้าาา
