Eraser (1996) สามารถดูได้ใน Netflix
• เป็นหนังแอ็คชั่นของอาโนลด์ ยุค 90's ที่สนุกมากเลยแฮะ พล็อตธรรมดา ไม่ต้องเล่าปมเยอะแยะ ตัวร้ายยิงยังไงก็ไม่โดนพระเอก แต่เลือกฉากต่อสู้เจ๋งทุกที่เลย เสียดายอาวุธล้ำ ๆ น่าจะได้โชว์ของมากกว่านี้
• บางทีฉากแอ็คชั่นแนวพระเอกรอดตลอดมันก็สนุกได้ แค่ใช้ประโยชน์จากสถานที่ให้คุ้มค่า ในหนังคือเล่นทั้งเครื่องบิน, สวนสัตว์, ท่าเรือ มีฉากที่เห็นจนเบื่อแบบในบ้านและอาคาร แต่โดยรวมได้โชว์ลูกเล่นแต่ละฉากจนคุ้มเลย
• ปืนไฟฟ้าที่ใช้ไม่ว้าวเท่าไรเพราะมันยิงไม่โดนพระเอกอยู่ดี ฮ่าๆๆ แต่ชอบระเบิดที่ลอยตัวเหนือที่กำบังแล้วกระจายเหล็กแหลมเป็นตะปูออกมา อันนี้ตื่นเต้นดี
• ผู้กำกับดูมีของดี เคยกำกับ The Mask เราก็ชอบมาก เดี๋ยวอาจจะลองดู A Nightmare on Elm Street 3 กับ The Scorpion King สักหน่อย
• ฉากโดดร่มถ้ามาสมัยนี้คงโฆษณาเป็นทอม ครูซ ใน MI แน่นอน เพราะอาโนลด์ Free-Fall เองประมาณ 20 เมตร ถึงจะมีสลิงห้อยโหนช่วยก็เถอะ
• แฟรงค์ ดาราบอนท์ คนเขียนบท The Shawshank Redemption และ วิลเลี่ยม วิชเชอร์ คนเขียนบท Terminator 2: Judgment Day ถูกดึงตัวเข้ามาแก้บทด้วย เดาว่าคงมาแก้รายละเอียดให้มันลื่นไหล
-------------------------------------
'ครูเกอร์' (Arnold Schwarzenegger) ทำงานหน่วยคุ้มครองพยาน เขาได้รับมอบหมายให้ช่วยคุ้มกัน 'ลี' (Vanessa Williams) ลูกจ้างบริษัทค้าอาวุธที่แจ้ง FBI ว่าบริษัทตัวเองกำลังนำอาวุธไฮเทคออกไปขายตลาดมืด หลังจากซ่อนตัวเธอเสร็จแล้วเขาก็พบว่าเพื่อนร่วมงานตัวเองดันเป็นหนอนบ่อนไส้ พอถูกป้ายความผิดจึงต้องหลบหนีพร้อมหาทางพิสูจน์ตัวเองอีกที ซึ่งก็อาศัยความช่วยเหลือจากอดีตพยานที่เขาเคยคุ้มครองเปลี่ยนตัวตนนั่นเอง
.
เนื้อเรื่องไม่พูดถึงเยอะ โครงเรื่องแทบจะสูตรสำเร็จเป๊ะ ความดีงามคือหนังไม่เล่าเยิ่นเย้อ ช่วงสืบก็ไม่ทำตัวซับซ้อนเกินไปแต่ก็ไม่ได้ดูง่ายเกินควร ตัวละครก็ไม่ต้องใส่ดราม่าอะไรเยอะแยะแบบหนังสมัยใหม่ที่พระเอกจะต้องมีมิติสักหน่อย มีปมนู่นนี่ให้ต้องแก้ แต่ Eraser มาแนวพระเอกจ๋าเลย อาโนลด์เกิดมาเพื่อเป็นฮีโร่ ใส่นางเอกเข้ามาประกบคู่ก็จบแล้วสำหรับหนังแอ็คชั่น
.
ความสนุกจริง ๆ คือฉากแอ็คชั่น ไม่ได้สมจริงแต่ก็ไม่ได้ขี้โม้จนน่าเกลียด มีบ้างที่อาจจะเบื่อเวลาตัวร้ายยิงยังไงก็ไม่โดนพระเอกสักที แต่ไอเดียแต่ละฉากมันเล่าได้ลุ้นและมีลูกเล่นสนุกจนมองข้ามเวลายิงปืนไปได้เลย อย่างฉากบนเครื่องบินนี่ทำฉากโดดร่มโคตรลุ้นไม่แพ้ MI ที่สร้างยุคปัจจุบันเลยด้วยซ้ำ หนังมันไม่ได้จะมายิงปืนกันอย่างเดียวทั้งเรื่องให้คนเบื่อ แบบพอเข้าสวนสัตว์ก็มีลูกเล่นใช้ประโยชน์จากสถานที่มาสร้างความได้เปรียบ หรือพอไปท่าเรือก็มีลูกเล่นบังคับเครนขึ้นลงไปมา ซึ่งไอเดียฉากแอ็คชั่นประมาณนี้ก็ทำให้หนังสนุกมากแล้ว
Director: Chuck Russell
screenplay: Tony Puryear, Walon Green
Genre: action, thriller
7.5/10
