"ออกแบบรัฐธรรมนูอย่างไร? : ให้ "โจราธิปไตย" หมดไปในประเทศกูมี"
สิทธิกร ศักดิ์แสง คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
"โจราธิปไตยในประเทศกูมี”
“พรหมลิขิตขีดเขี่ยให้โจราธิปไตยปกครอง
โจราธิปไตยปกครองเพลินหลงไม่สงสัย
โจราธิปไตย (ข้าราชการ นักการเมือง)กับโจราธิปไตย (นายทุน) มาพบกันก็บรรลัย
โจราธิปไตยหนึ่งไปโจราธิปไตยหนึ่งอยู่คู่ประเทศกูมี”
โจราธิปไตย 🙂 cleptocracy, kleptarchy หรือ kleptocracy) หมายถึง รูปแบบการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่มีการปกครองเป็นไปเพื่อทวีทรัพย์สินส่วนตัวและอำนาจทางการเมืองของพนักงานในรัฐบาลและของชนชั้นปกครอง โดยแสร้งว่า “ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต” และมักกระทำโดยยักยอกเงินหลวงอย่างไม่ละอาย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง โจราธิปไตย หมายถึง ผู้มีอำนาจในคราบนักประชาธิปไตยหรือนักเลือกตั้ง หรือ ผู้มีอำนาจรัฐได้ปล้นชาติปล้นประชาชนโดยเสรี โดยผ่านการคอรัปชั่นในโครงการต่างๆผ่านทางกฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) ที่เป็นเครื่องมือของรัฐควบคุมคนในสังคม
"โจราธิปไตย" ปรากฏมากในประเทศกำลังพัฒนาและมักสัมพันธ์กับการปกครองแบบนิยมอำนาจ และการปกครองแบบการเลือกตั้งที่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจบารมีกอบโกยผลประโยชน์ เพื่อตนเองและพวกพ้อง ดังนี้
โจราธิปไตยแบบที่ 1
โจราธิปไตยที่ได้อำนาจมาจากการปฏิวัติ หรือการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากประชาชนของข้าราชการ เช่น คณะทหารโดยการสนับสนุนจากนายทุน เข้ามาบริหารประเทศ ใช้ “กฎหมายเป็นเครื่องมือของรัฐควบคุมคนและฟาดฟันกลุ่มบุคคลที่เป็นตรงกันข้าม” ซึ่งไม่แตกต่างไปจากลัทธิฟาสซิสต์ ของมุสโสเลนี ประเทศอิตาลีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในอดีต คือ
1) ออกกฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) เพื่อรองรับฐานอำนาจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือฟาดฟันฝ่ายตรงกันข้ามกับความคิดของโจราธิปไตย
2)ออกกกฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) ก็เพื่อผลประโยชน์กลุ่มพวกพ้องนายทุนที่สนับสนุนตน
3) ออกกฎหมายยกเว้นไม่ให้มีการควบคุมตรวจสอบการใช้อำนาจของตน
4) การใช้อำนาจปกครองของโจราธิปไตยไม่ฟังเสียงจากประชาชน แต่จะฟังเสียงจากนายทุน
โจราธิปไตยแบบที่ 2
โจราธิปไตยแบบนี้ มีที่มากจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้าเพื่อใช้อำนาจทางการเมืองหรืออำนาจรัฐในการแสวงหาผลประโยชน์ ผ่านทางพรรคการเมือง ที่กุมอำนาจฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นกลุ่มที่มีทั้ง พวกนักเลือกตั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น (นักการเมืองที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์) กลุ่มนายทุน เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อปกป้องหรือแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง กลุ่มข้าราชการที่ต้องการฐานอำนาจในการแสวงหาผลประโยชน์ ในทางสังคมวิทยาเราอาจเรียกพวกนี้ว่า "อาชญากรรมเชิ๊ตปกขาว"
โจราธิปไตย ทั้ง 2 รูปแบบนี้จะเป็น ผู้ปกครองที่เป็นโจราธิปไตยได้ควบคุมทั้งการใช้จ่ายและวิธีกำหนดการใช้จ่ายเงินหลวง ผู้ปกครองแบบ "โจราธิปไตย" มักปฏิบัติต่อคลังหลวงเสมือนเป็นบัญชีธนาคารของตนเอง หลายคนยังลักโอนเงินหลวงเข้าบัญชีตนเองในต่างแดน เผื่อว่าเมื่อตนพ้นจากอำนาจหรือจำเป็นต้องออกจากประเทศไปแล้ว อันมีพฤติการณ์ที่ไม่ต่างไปจาก “โจรร้าย”
ทำให้โครงสร้างแห่งปัญหาของสังคมที่เสื่อมทรุดด้วยรอยปริแตกซึ่งถูกกระทำอยู่ในด้านมืด อำนาจมืดที่เป็นผลบ่อนแซะต่อความมั่นคงของสังคม ล้วนถูกโจร (โจราธิปไตย) ในคราบนักบุญผู้พิทักษ์เหล่านี้โหมกระทำย่ำยีเข้าใส่เสมือนหนึ่งว่า “ความมั่งคั่งร่ำรวย ตลอดจนอำนาจอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะต้องตกอยู่ในอุ้งมือแห่งอำนาจอันชั่วร้ายผิดบาปของพวกเขา” เท่านั้น แตกหน่ออกช่อกลายเป็นวงจรอัปลักษณ์ หรือ “วงจรอุบาทก์” ที่เกิดขึ้นกับสังคมโดยไม่กลัวเกรงกฏหมาย เป็นความย่ามใจในการกระทำที่ไม่เคยใส่ใจในด้านของคุณธรรม
ดังนั้น การออกแบบรัฐธรรมนูญอย่างไร ที่จะกำจัดพวก "โจราธิปไตย" ไม่ให้ในสังคมการเมือง ขจัดการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นการคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งต้องมีกรอบความคิดที่ตรงไปตรงมา ไม่เป็นการออกแบบตามที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมโดยไม่คำนึงและการยึดโยงผลประโยชน์ของประเทศชาติของประชาชน ขึ้นมาเพื่อออกแบบรัฐธรรมนูญใหม่ ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ดี นั้นต้องมีลักษณะอย่างไร
เมื่อพิจารณาศึกษาการออกแบบ กฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) ที่ดี ปกป้องไม่ให้มีโจราธิปไตยในประเทศกูมีหมดไป ในมุมมองของข้าพเจ้า จะต้องมีลักษณะดังนี้
1. ออกแบบให้เห็นถึงการมีศรัทธาในความสามารถของประชาชนในสติปัญญา การรู้จักใช้เหตุผล การยึดหลักเหตุผลด้วยวิธีการทดสอบค้นหาแบบวิทยาศาสตร์ ตลอดจนมองประชาชนในแง่ดีว่าสามารถร่วมมือกันทำงานเพื่อความสุขส่วนรวมได้
2.ออกแบบให้เห็นถึงการมีความเชื่อในความเป็นอิสระและเสรีภาพของมนุษย์ เข่น สิทธิเสรีภาพในการเลือกใช้ชีวิต สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แสดงความคิดเห็น การพูด เขียนพิมพ์ โฆษณา การเผยแพร่ การประชุม การรวมกลุ่ม ที่ไม่เดือดร้อนบุคคลอื่น รวมทั้งสนับสนุนให้ประชาชนคิด อิสระเสรี
3.ออกแบบให้เห็นถึงการยอมรับให้ความเท่าเทียมกันของคนตามกฎหมายและประชาชนทุกคนได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายโดยเท่าเทียมกันและมีสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น และโอกาสต่างๆ
4. ออกแบบให้เห็นถึงอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศในการตัดสินปัญหาของผู้ปกครองที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
5.ออกแบบให้เห็นถึงอำนาจอันชอบธรรมในการบริหารประเทศเกิดความยินยอมจากประชาชน ด้วยวิธีการเลือกตั้งที่เหมาะสมจากความเห็นชอบของประชาชนส่วนใหญ่
6.ออกแบบให้เห็นถึงสิทธิที่คัดค้านและโต้แย้งของประชาชนผู้บริหารต้องยอมรับเปิดกว้าง ไม่ใช่เห็นต่างแล้ว กลับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการคุกคามประชาชนผู้ที่ใช้สิทธิคัดค้าน
7.ออกแบบให้เห็นถึงมีมาตรการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกขั้นตอนตามรูปแบบ วิธีการที่ต้องถูกและเป็นธรรมภายใต้กฎหมายที่สอดคล้องกับหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม และที่สำคัญต้องมีประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบในบางขั้นตอนหรือกระบวนการที่เหมาะสม
8.ออกแบบให้เห็นถึงประชาชนทุกคนต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพซึ่งกันและกัน ยอมรับกติกาที่สร้างขึ้นเองไม่ใช่เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า
9. ออกแบบระบบรัฐบาลให้สอดคล้องบริบทของประเทศและนานาอารยประเทศ
กลุ่มนายทุน 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳解答
"จัดทำรัฐธรรมนูอย่างไร? : ให้ "โจราธิปไตย" หมดไปในสังคมไทย"
สิทธิกร ศักดิ์แสง คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
"โจราธิปไตยในประเทศกูมี”
“พรหมลิขิตขีดเขี่ยให้โจราธิปไตยปกครอง
โจราธิปไตยปกครองเพลินหลงไม่สงสัย
โจราธิปไตย (ข้าราชการ นักการเมือง)กับโจราธิปไตย (นายทุน) มาพบกันก็บรรลัย
โจราธิปไตยหนึ่งไปโจราธิปไตยหนึ่งอยู่คู่ประเทศกูมี”
โจราธิปไตย 🙂 cleptocracy, kleptarchy หรือ kleptocracy) หมายถึง รูปแบบการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่มีการปกครองเป็นไปเพื่อทวีทรัพย์สินส่วนตัวและอำนาจทางการเมืองของพนักงานในรัฐบาลและของชนชั้นปกครอง โดยแสร้งว่า “ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต” และมักกระทำโดยยักยอกเงินหลวงอย่างไม่ละอาย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง โจราธิปไตย หมายถึง ผู้มีอำนาจในคราบนักประชาธิปไตยหรือนักเลือกตั้ง หรือ ผู้มีอำนาจรัฐได้ปล้นชาติปล้นประชาชนโดยเสรี โดยผ่านการคอรัปชั่นในโครงการต่างๆผ่านทางกฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) ที่เป็นเครื่องมือของรัฐควบคุมคนในสังคม
"โจราธิปไตย" ปรากฏมากในประเทศกำลังพัฒนาและมักสัมพันธ์กับการปกครองแบบนิยมอำนาจ และการปกครองแบบการเลือกตั้งที่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจบารมีกอบโกยผลประโยชน์ เพื่อตนเองและพวกพ้อง ดังนี้
โจราธิปไตยแบบที่ 1
โจราธิปไตยที่ได้อำนาจมาจากการปฏิวัติ หรือการรัฐประหาร ยึดอำนาจตากประชาชนของข้าราชการ เช่น คณะทหารโดยการสนับสนุนจากนายทุน เข้ามาบริหารประเทศ ใช้ “กฎหมายเป็นเครื่องมือควบคุมคนและฟาดฟันกลุ่มบุคคลที่เป็นตรงกันข้าม” ซึ่งไม่แตกต่างไปจากลัทธิฟาสซิสต์ ของมุสโสเลนี ประเทศอิตาลีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในอดีต คือ
1) ออกกฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) เพื่อรองรับฐานอำนาจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือฟาดฟันฝ่ายตรงกันข้ามกับความคิดของโจราธิปไตย
2)ออกกกฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) ก็เพื่อผลประโยชน์กลุ่มพวกพ้องนายทุนที่สนับสนุนตน
3) ออกกฎหมายยกเว้นไม่ให้มีการควบคุมตรวจสอบการใช้อำนาจของตน
4) การใช้อำนาจปกครองของโจราธิปไตยไม่ฟังเสียงจากประชาชน แต่จะฟังเสียงจากนายทุน
โจราธิปไตยแบบที่ 2
โจราธิปไตยแบบนี้ มีที่มากจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการซื้อเสียงเลือกกตั้ง เข้าเพื่อใช้อำนาจทางการเมืองหรืออำนาจรัฐในการแสวงหาผลประโยชน์ ผ่านทางพรรคการเมือง ที่กุมอำนาจฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นกลุ่มที่มีทั้ง พวกนักเลือกตั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น (นักการเมืองที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์) กลุ่มนายทุน เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อปกป้องหรือแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง กลุ่มข้าราชการที่ต้องการฐานอำนาจในการแสวงหาผลประโยชน์ ในทางสังคมวิทยาเราอาจเรียกพวกนี้ว่า "อาชญากรรมเชิ๊ตปกขาว"
โจราธิปไตย ทั้ง 2 รูปแบบนี้จะเป็น ผู้ปกครองที่เป็นโจราธิปไตยได้ควบคุมทั้งการใช้จ่ายและวิธีกำหนดการใช้จ่ายเงินหลวง ผู้ปกครองแบบ "โจราธิปไตย" มักปฏิบัติต่อคลังหลวงเสมือนเป็นบัญชีธนาคารของตนเอง หลายคนยังลักโอนเงินหลวงเข้าบัญชีตนเองในต่างแดน เผื่อว่าเมื่อตนพ้นจากอำนาจหรือจำเป็นต้องออกจากประเทศไปแล้ว อันมีพฤติการณ์ที่ไม่ต่างไปจาก “โจรร้าย”
ทำให้โครงสร้างแห่งปัญหาของสังคมที่เสื่อมทรุดด้วยรอยปริแตกซึ่งถูกกระทำอยู่ในด้านมืด อำนาจมืดที่เป็นผลบ่อนแซะต่อความมั่นคงของสังคม ล้วนถูกโจร (โจราธิปไตย) ในคราบนักบุญผู้พิทักษ์เหล่านี้โหมกระทำย่ำยีเข้าใส่เสมือนหนึ่งว่า “ความมั่งคั่งร่ำรวย ตลอดจนอำนาจอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะต้องตกอยู่ในอุ้งมือแห่งอำนาจอันชั่วร้ายผิดบาปของพวกเขา” เท่านั้น แตกหน่ออกช่อกลายเป็นวงจรอัปลักษณ์ หรือ “วงจรอุบาทก์” ที่เกิดขึ้นกับสังคมโดยไม่กลัวเกรงกฏหมาย เป็นความย่ามใจในการกระทำที่ไม่เคยใส่ใจในด้านของคุณธรรม
ดังนั้น เราคนไทยคิดและทำอย่างไร จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่จะทำให้ “รัฐธรรมนูญไทย” เป็นรัฐธรรมนูญฉบับคืนความสุขให้กับประชาชนคนไทย ด้วยการออกแบบกำจัดพวก "โจราธิปไตย" ไม่ให้ในสังคมการเมืองไทย ขจัดการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นการคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งต้องมีกรอบความคิดที่ตรงไปตรงมา ไม่เป็นการออกแบบตามที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมโดยไม่คำนึงและการยึดโยงผลประโยชน์ของประเทศชาติของประชาชน ดังนี้
เมื่อพิจารณาศึกษาการออกออกรัฐธรรมนูญที่ดี ปกป้องไม่ให้มีโจราธิปไตยในสังคมไทย ในมุมมองของข้าพเจ้า จะต้องมีลักษณะดังนี้
1. การมีศรัทธาในความสามารถของประชาชนในสติปัญญา การรู้จักใช้เหตุผล การยึดหลักเหตุผลด้วยวิธีการทดสอบค้นหาแบบวิทยาศาสตร์ ตลอดจนมองประชาชนในแง่ดีว่าสามารถร่วมมือกันทำงานเพื่อความสุขส่วนรวมได้
2.การมีความเชื่อในความเป็นอิสระและเสรีภาพของมนุษย์ เข่น สิทธิเสรีภาพในการเลือกใช้ชีวิต สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แสดงความคิดเห็น การพูด เขียนพิมพ์ โฆษณา การเผยแพร่ การประชุม การรวมกลุ่ม ที่ไม่เดือดร้อนบุคคลอื่น รวมทั้งสนับสนุนให้ประชาชนคิด อิสระเสรี
3.การยอมรับให้ความเท่าเทียมกันของคนตามกฎหมายและประชาชนทุกคนได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายโดยเท่าเทียมกันและมีสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น และโอกาสต่างๆ
4. อำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศในการตัดสินปัญหาของผู้ปกครองที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
5.อำนาจอันชอบธรรมในการบริหารประเทศเกิดความยินยอมจากประชาชน ด้วยวิธีการเลือกตั้งที่เหมาะสมและความเห็นชอบจากประชาชน
6.สิทธิที่คัดค้านและโต้แย้งของประชาชนผู้บริหารต้องยอมรับเปิดกว้าง ไม่ใช่เห็นต่างแล้ว กลับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการคุกคามประชาชนผู้ที่ใช้สิทธิคัดค้าน
7.มีมาตรการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกขั้นตอนตามรูปแบบ วิธีการที่ต้องถูกและเป็นธรรมภายใต้กฎหมายที่สอดคล้องกับหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม และที่สำคัญต้องมีประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบในบางขั้นตอนหรือกระบวนการที่เหมาะสม
กลุ่มนายทุน 在 sittikorn saksang Facebook 的精選貼文
"ออกแบบรัฐธรรมนูญอย่างไร? :ป้องกัน "โจราธิปไตย" ออกจากสังคมไทย"
รศ.สิทธิกร ศักดิ์แสง คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
"โจราธิปไตย"
พรหมลิขิตขีดเขี่ยให้ โจร (โจราธิปไตย)ปกครอง
โจร(โจราธิปไตย) ปกครองเพลินหลงไม่สนใจใคร
โจร(โจราธิปไตย) กับโจร(โจราธิปไตย)มาพบกันก็บรรลัย
โจร(โจราธิปไตย) หนึ่งไป โจร(โจราธิปไตย)หนึ่งกินอยู่คู่ไทยแลนด์?
โจราธิปไตย (: cleptocracy, kleptarchy หรือ kleptocracy) หมายถึง รูปแบบการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่การปกครองเป็นไปเพื่อทวีทรัพย์สินส่วนตัวและอำนาจทางการเมืองของพนักงานในรัฐบาลและของชนชั้นปกครอง โดยแสร้งว่า ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต และมักกระทำโดยยักยอกเงินหลวง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง โจราธิปไตย หมายถึง ผู้มีอำนาจไม่ว่าจะในคราบนักประชาธิปไตยหรือนักเลือกตั้ง หรือ ผู้มีอำนาจรัฐได้ปล้นชาติปล้นประชาชนโดยเสรี โดยผ่านการคอรัปชั่นในโครงการต่างๆ
"โจราธิปไตย" ปรากฏมากในประเทศกำลังพัฒนาและมักสัมพันธ์กับการปกครองแบบนิยมอำนาจ และการปกครองแบบการเลือกตั้งที่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจบารมีกอบโกยผลประโยชน์ เพื่อตนเองและพวกพ้อง ดังนี้
1.โจราธิปไตแบบการปกครองของคณะทหารผู้ยึดอำนาจเผด็จการ คนกลุ่มน้อยในสังคม คนคนเดียวมีอำนาจเบ็ดเสร็จ และผู้เล่นพรรคเล่นพวก การปกครองเหล่านี้มีลักษณะเหมือนกัน คือ บุคคลภายนอกไม่อาจตรวจสอบได้ เพราะผู้ปกครองควบคุมทั้งการใช้จ่ายและวิธีกำหนดการใช้จ่ายเงินหลวง ผู้ปกครองแบบ "โจราธิปไตย" มักปฏิบัติต่อคลังหลวงเสมือนเป็นบัญชีธนาคารของตนเอง หลายคนยังลักโอนเงินหลวงเข้าบัญชีตนเองในต่างแดน เผื่อว่าเมื่อตนพ้นจากอำนาจหรือจำเป็นต้องออกจากประเทศไปแล้ว จะได้มีเงินทองใช้สอยต่อไป
2.โจราธิปไตยแบบที่ 2 นี้ พวกที่ใช้อำนาจทางการเมืองหรืออำนาจรัฐในการแสวงหาผลประโยชน์ เช่น พวกนักเลือกตั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น (นักการเมืองที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์) กลุ่มนายทุน เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อปกป้องหรือแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง กลุ่มข้าราชการที่มีอำนาจ บางทีในทางสังคมวิทยาเราอาจเรียกพวกนี้ว่า "อาชญากรรมเชิ๊ตปกขาว" แล้วก็เหตุการณ์อันชวนขนหัวลุก ที่กลุ่มผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในระดับที่มีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ได้ถูกล้างบางถูกจับเสียจนไม่น่าเชื่อ.. ในข้อหาแห่งการทุจริตและร่วมกันรีดไถอันมีพฤติการณ์ที่ไม่ต่างไปจากโจรร้าย...โครงสร้างแห่งปัญหาของสังคมที่เสื่อมทรุดด้วยรอยปริแตกซึ่งถูกกระทำอยู่ในด้านมืด ..ล้วนแตกหน่ออกช่อกลายเป็นวงจรอัปลักษณ์ที่เกิดขึ้นกับสังคมประเทศโดยไม่กลัวเกรงกฏหมาย เป็นความย่ามใจที่ไม่เคยใส่ใจในด้านของคุณธรรม...อำนาจมืดที่เป็นผลบ่อนแซะต่อความมั่นคงของสังคม..ล้วนถูกโจร (โจราธิปไตย) ในคราบนักบุญผู้พิทักษ์เหล่านี้โหมกระทำย่ำยีเข้าใส่...เสมือนหนึ่งว่าความมั่งคั่งร่ำรวย ตลอดจนอำนาจอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะต้องตกอยู่ในอุ้งมือแห่งอำนาจอันชั่วร้ายผิดบาปของพวกเขาเท่านั้น...
ดังนั้น ภายใต้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือจะเรียกว่าเป็นฉบับคืนความสุขให้กับประชาชนคนไทยนั้นต้องออกแบบกำจัดพวก"โจราธิปไตย" ออกไปจากการเมืองไทย การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมทำให้เกิดการคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง หากมีกรอบความคิดที่ตรงไปตรงมา แต่มิใช่ออกแบบตามที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมโดยไม่คำนึงการยึดโยงประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนเป็นหลัก "โจราธิปไตย" ก็คงไม่หมดจากสังคมไทย ครับ
กลุ่มนายทุน 在 เปิดหน้า 5 เจ้าพ่อกลุ่มนายทุนจีน | TOP Headline - YouTube 的推薦與評價
topnews#ข่าววันนี้#ข่าวเด่น#นายทุนจีน#เปิดหน้า 5 เจ้าพ่อ ส่องชะตากรรม กลุ่มนายทุน จีนสีเทา คนกลุ่มสำคัญที่ส่งเงินให้กงสีใหญ่จีนLINE TODAY ... ... <看更多>
กลุ่มนายทุน 在 กลุ่มนายทุนหาทรัพย์ - Facebook 的推薦與評價
นายทุน ต้องการที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ คอนโด โรงแรม รีสอร์ท โรงงาน อพาร์ทเม้นท์ ฯลฯ ท่านใดมีทรัพย์ทำเลดี ลงรายละเอียด อัพเดทลงเรื่อยๆ เงื่อนไขตรง นัดดู... ... <看更多>