เรียนรู้ร่วมกันเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
"การเรียนการสอนในสถาบันอุดมศึกษา : ประสบการณ์ของผู้เขียน
ตั้งแต่ผู้เขียนเข้ามาเป็นผู้บรรยาย วิชากฎหมายในระดับปริญญาตรีและโท (ไม่รวมถึงการเป็นผู้ช่วยอาจารย์) ตั้งแต่ ปี 2544 ถึง 2562 นับเป็นเวลา 18 ปี ทั้งมหาลัยเอกชนและมหาลัยของรัฐ เกือบทุกภาค ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลางและใต้
จะพบว่ามีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในประเด็น ความรู้ IQ และความตั้งใจเรียนของนักศึกษา เป็นส่วนสำคัญ ที่สามารถบอกได้เลยว่า ต้องปรับการเรียนการสอนอย่างไร
1. มหาลัยของรัฐ เข่น ม.สงขลานครินทร์ สถาบันเหล่านี้ได้เอาเด็กนักเรียน หัวกะทิเจ้าเรียนหมดแล้ว (เคยสอนพิเศษ สงขลานครินทร์)
2.มหาลัยเอกชนในเมืองกรุง เช่น เคยสอน ม.ธุรกิจ สอนพิเศษ ป.โท ศรีปทุม
3.มหาวิทยาลัยราชภัฎในเมืองกรุง และภูมิภาค เคยสอนพิเศษ ม.ราชภัฏพระนคร ม.ราชภัฏรำไพพรรณี ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม ม.ราชภัฏราชนครินทร์
4.มหาลัยเอกชนในภูธร เช่น ม.ณิวัฒนา ม.ตาปี ว.สันตพล
5.มหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหามดุฏราชวิทยาลัย (มมร.)
ประสบการณ์การสอนของผู้เขียน จากประเด็น 5 ข้อข้างบนนั้น ขอสรุปภาพรวม ออก เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ พบว่า
กลุ่มที่ 1 กลุ่มมหาวิทยาลัยของรัฐในกำกับของรัฐ (มหาวิทยาลัยนอกระบบ) ซึ่งผู้เขียนเคยสอนพิเศษ ม.สงขลานครินทร์ จะพบว่า เป็นนักศึกษาที่มีพื้นฐานการเรียนในระดับมัธยมในระดับดีมี IQ ที่ดี สอนในหัวข้อแต่ละประเด็น เด็กจะรับรู้เข้าใจและตอบสนอง ของการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน การสอนในลักษณะ เช่นนี้ สอนโดยอิสระ ตั้งประเด็นให้นักศึกษาค้นคว้าได้ด้วยตนเอง และนำเสนอหน้าชั้นเรียนได้เป็นอย่างดี และการศึกษาด้วยการค้นคว้าด้วยตนเอง จะทำได้ดี สอนง่ายบรรยายให้ความรู้เข้าใจง่ายและมีความสนใจในการเรียนเป็นอย่างมาก เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบเป็นอย่างมาก
เด็กกลุ่มที่ 2 ภาพรวม สอนพิเศษ ม.ราขภัฏพระนคร ม.ศรีปทุม ชลบุรี ม.ราชภัฏศรีนครินทร์ ม.ราชภัฏรำไพพรรณี การรียนกสอนกลุ่มนี้ ต้องเน้นการเข้าห้องเรียนเป็นพิเศษ และจำเป็นต้องมีเอกสารประกอบการสอน เพื่อเป็นแนวทางในการเรียนการสอนกับเขา ถ้าไม่ทำเช่นนั้น เด็กจะเคว้งคว้าง จะคิดวิเคราะห์สังเคราห์ แบบกลุ่มแรกไม่ได้ ต้องติดตามดูแล ถ้าปล่อยอิสระใช้การเรียนการสอนแบบกลุ่มแรก 70% หายไปในระบบ เพราะขนาดติดตามดูแล 20-25% หายไปในระบบ
กลุ่มที่ 3 ม.เอกชน ภูธร เช่น ม.ตาปีกลุ่มนี้ เป็นนักศึกษาที่ไม่ได้เรียนกลุ่มแรก กลุ่มที่สอง ต้องกระตุ้นเป็นพิเศษ (แต่กลุ่มนี้ จะมีคนเก่ง สุดๆก็มี เพราะสอบกลุ่มแรกไม่ได้ จนหมดเวลาเข้าเรียนกลุ่มที่สองหรือไม่อยากไปเรียน ม.เอกชนในกรุง) กลุ่มนี้ต้องบีบบังคับติดตามอย่างใกล้ชิด ถ้าใช้การเรียนการสอนแบบกลุ่มแรก บอกได้เลย 85 % หายไปในระบบ
ปัจจุบัน ถ้าสอนในกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 จำเป็นต้องสอนแบบโรงเรียนวัด ด้วยการติดตามการเรียนการสอน เช่น การจัดการเรียนการสอน วิชาหลักกฎหมายมหาชน ดังนี้
1.การให้นักศึกษาทำไลน์กลุ่มของแต่ละห้องเรียน โดยผู้สอนจะส่งข้อความหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องการเรียนวิชาหลักกฎหมายมหาชน เป็นการส่งข้อความหรือข้อมูลได้ตลอดเวลา
2.การเช็คชื่อเข้าเรียน โดยการให้นักศึกษาให้เบอร์โทรตัวนักศึกษาเองกับผู้ปกครอง ถ้านักศึกษาขาดเรียนติดต่อกันโดยไม่มีสาเหตุ ผู้สอนจะโทรไปคุยกับผู้ปกครอง
3.การทำสื่อออนไลน์ด้วยการทำคลิปบรรยาย
4.การทำสื่อออนไลน์การสอนแต่ละสัปดาห์ด้วยการทำ คิวอาร์โค๊ด ของไลน์
5. การสื่อออนไลน์ด้วยการทำเวปเพจ sittikorn saksang ใน facebook โดยนักศึกษาสามารถเข้าไปศึกษาค้นคว้าได้ตลอดเวลา
6.การทำชีสการสอนแต่ละสัปดาห์
7.การทดสอบก่อนเรียน คือ ให้นักศึกษาได้ทำงานข้อทดสอบก่อนเรียนที่ศึกษาด้วยตนเองจากสื่อออนไลน์ และหลังเรียนเสร็จก็ทดสอบหลังเรียนในเรื่องเดียวกัน โดยกติกาตั้งต้องทำแบบทดสอบไม่น้อยกว่า 2 หน้ากระดาษ ทั้งทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยผู้สอนจะตรวจก่อนจะสอนทุกครั้งก่อนเรียน
สรุปได้ว่า การมีเอกสารประกอบการสอน ให้เขาอ่านมาก่อน มาเรียนในห้องและทบทวนหลังเนียน โดยการทดสอบก่อนเรียน ทดสอบหลังเรียน ทำแบบฝึกหัด และการบังคับเข้าเรียน เพราะในห้องเรียนจะช่วยพัฒนาตัวเขา มากกว่าเรียนรู้ด้วยตนเอง ดังนั้นทุกวันนี้ เรามีนักวิชาการมาพูดการเรียนการสอน วางรูปแบบการเรียนการสอน การศึกษาด้วยตนเอง คือ มองเฉพาะเด็กกลุ่มแรกเท่านั้น นำมาใช้หรือกำหนดวิธีการเรียนการสอน การเรียนรู้ด้วยตนเอง มาใช้กับกลุ่มที่ 2 และ กลุ่มที่ 3 ไม่ได้
การจัดการเรียนการสอน 在 Active Learning l การจัดการเรียนรู้แบบเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม 的推薦與評價
Active Learning l การจัดการเรียน รู้แบบเน้นให้ผู้ เรียน มีส่วนร่วม. 80K views · 4 years ago #ActiveLearning ...more. โรงเรียนจ่านกร้อง. 154K. Subscribe. ... <看更多>