Wall’s จากร้านขายเนื้อ สู่ไอศกรีมที่ขายดีสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า ของว่างประเภทไหนที่เหมาะกับ เมืองร้อนอย่างประเทศไทยบ้าง
คำตอบของหลายคนต้องมี “ไอศกรีม” รวมอยู่ด้วย
ซึ่งในประเทศไทยก็มีแบรนด์ไอศกรีมชื่อดังต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ไอศกรีม Wall’s
รู้ไหมว่า จุดเริ่มต้นของ Wall’s ไม่ได้มาจากการขายไอศกรีมตั้งแต่แรก
ความเป็นมาของไอศกรีม Wall’s ที่หลายคนชื่นชอบ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของไอศกรีม Wall’s ต้องย้อนกลับไปในปี 1786 เมื่อคุณ Richard Wall ที่ในตอนนั้นเขาได้เปิด ร้านขายเนื้อ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall ดำเนินกิจการมาจากรุ่นสู่รุ่น จนมาในปี 1913 หลานชายของคุณ Richard Wall เข้ามาบริหารต่อ และได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่ว่า ตั้งต้นมาจากปัญหาหนึ่งที่กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall เจอมานาน
คือพอถึงช่วงฤดูร้อนของทุกปี ความต้องการไส้กรอก พาย และเนื้อ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของร้านจะลดลง ทำให้เขาต้องลดจำนวนพนักงานในช่วงฤดูร้อนลงแทบทุกปี
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Richard Wall II จึงพยายามหาทางช่วยให้พนักงานของเขามีงานทำในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านในช่วงฤดูร้อนไปในเวลาเดียวกัน
เขารู้ว่า ไส้กรอก พาย และเนื้อ ไม่ใช่สินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าว และสิ่งที่เหมาะที่สุด ที่จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสดชื่นในช่วงฤดูร้อน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ไอศกรีม”
แต่ความคิดนี้ต้องถูกพับลงไปก่อน เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 1 จนเมื่อสงครามนั้นสิ้นสุดลง เขาจึงได้เริ่มนำไอศกรีมมาไว้ในเมนูของร้านเขา
รวมไปถึงเริ่มการใช้ม้าและเกวียน นำไอศกรีมไปขายตามท้องถนน จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้รถสามล้อ
ต่อมาในปี 1922 ธุรกิจไอศกรีม Wall’s ของเขา ได้ถูกซื้อกิจการไปโดย 2 บริษัท
คือ Lever Brothers ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจสบู่ในอังกฤษ และ Margarine Unie ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอาหารของเนเธอร์แลนด์
หลังจากนั้น ความนิยมของไอศกรีม Wall’s ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนต้องเพิ่มจำนวนรถสามล้อเพื่อขายไอศกรีมบนท้องถนนในสหราชอาณาจักร จากช่วงเริ่มต้นในปี 1922 ที่มีประมาณหลัก 10 คัน มาเป็นกว่า 8,500 คันในปี 1939
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ไอศกรีม Wall’s มีขายในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยในแต่ละประเทศก็จะใช้ชื่อในการทำตลาดที่แตกต่างกัน เช่น
- ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ใช้ชื่อว่า “Good Humor”
- ในเยอรมนี ใช้ชื่อว่า “Langnese”
- ในอังกฤษ ไทย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์ ลาว และอีกหลายประเทศในเอเชีย ใช้ชื่อว่า “Wall’s”
แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไร จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดก็คือ จะมีโลโกรูปหัวใจสีแดงในตำนานของ Wall’s อยู่ด้วยเสมอ
โดยปัจจุบัน Wall’s เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของ Unilever บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก
ซึ่ง Unilever ก็เกิดมาจาก การควบรวมระหว่าง Lever Brothers และ Margarine Unie ที่เป็นสองบริษัทเจ้าของไอศกรีม Wall’s ก่อนหน้านี้ นั่นเอง
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยตลาด Euromonitor ในปี 2020 ระบุว่า ธุรกิจไอศกรีมของ Unilever ครองส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจไอศกรีมเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดยอดขายประมาณ 19%
ในส่วนของประเทศไทยนั้น Wall’s เข้ามาทำตลาดช่วงแรกในปี 1989 หรือปี พ.ศ. 2532 โดยมีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตไอศกรีมในไทย
เพราะมองว่า ตลาดไอศกรีมของไทยในตอนนั้นยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เมืองไทยเป็นเมืองที่ค่อนข้างร้อน และอัตราการบริโภคไอศกรีมของคนไทยในตอนนั้น ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชีย
Wall’s เริ่มทำการพัฒนาสูตรไอศกรีม ช่องทางการขาย การโฆษณา ให้เหมาะกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย
รวมไปถึงการที่ Wall’s พยายามสร้างฐานลูกค้าไอศกรีม ให้หลากหลาย
มีการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงานหรือกระทั่งกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น
เช่น มีการสร้างซับแบรนด์อย่าง Magnum ที่เจาะกลุ่มคนชอบไอศกรีมระดับพรีเมียม
โดยข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2560 ระบุว่า Wall’s เป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ในตลาดไอศกรีมของประเทศไทยเลยทีเดียว
จากจุดเริ่มต้นของร้านขายเนื้อในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ของคุณ Richard Wall เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว และความคิดเพียงแค่ต้องการที่จะช่วยเหลือพนักงานในร้านให้มีงานทำในช่วงฤดูร้อน จนนำไปสู่การทำเมนูไอศกรีม จนกลายเป็นแบรนด์ไอศกรีมที่มียอดขายมากที่สุด ในวันนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wall%27s_(ice_cream)
-https://finance.yahoo.com/quote/UL/
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://e-journal.dip.go.th/dip/images/ejournal/8d790e74b422cafb81549dced75b6ad1.pdf
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過136萬的網紅nutties11311,也在其Youtube影片中提到,มาลองทำผมโดยใช้ไคร์เป่าผมกันค่ะ ทำได้เหมือนกันนะคะ จะได้ผมที่ดูหนามีวอลลุ่ม ส่วนไดร์เป่าผมที่นัตตี้หยิบมาใช้ก็เก๋เช่นกัน ระบบสัมผัสไปอีกจ้าาา ช่องทา...
「ช่องทางการขาย」的推薦目錄:
- 關於ช่องทางการขาย 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ช่องทางการขาย 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
- 關於ช่องทางการขาย 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
- 關於ช่องทางการขาย 在 nutties11311 Youtube 的精選貼文
- 關於ช่องทางการขาย 在 Bew Varaporn Youtube 的最讚貼文
- 關於ช่องทางการขาย 在 Licktga Youtube 的最讚貼文
- 關於ช่องทางการขาย 在 ขายของออนไลน์อะไรดี 2023 EP6 | ช่องทางการขายของออนไลน์ใน ... 的評價
- 關於ช่องทางการขาย 在 Ramida Revolution - Social Selling - ช่องทางการขายไหนที่ Win ... 的評價
ช่องทางการขาย 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
เพื่อนบ้านผมคนหนึ่ง หลังจากเรียนจบ เธอก็เริ่มต้นชีวิตวัยทำงานโดยการเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven
.
แต่เมื่อทำงานไปได้ไม่กี่ปีเธอก็เริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ชีวิตที่เธอต้องการ เพราะเงินเดือนที่ได้นั้นทำได้เพียงพอเลี้ยงชีพเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเงินเก็บไม่มี คนเราก็ไม่สามารถมองเห็นชีวิตอนาคตได้ เราจะไม่มีทางมองออกเลยว่า ชีวิตในวันหน้า เดือนหน้า ปีหน้าจะเป็นอย่างไร ได้แต่เพียงคิดว่าเราจะอยู่รอดจนถึงสิ้นเดือนไหม ก็เท่านั้น ไม่ไกลไปจากนี้
.
หลังจากที่เธอตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ เธอก็ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดทันที แล้วใช้ความรู้ที่พอมีติดตัว เช่น การทำก๋วยเตี๋ยว ทำราดหน้า และ ทำขนม มาตั้งโต๊ะเปิดร้านเล็กๆ ขายหน้าบ้าน
.
วันแรกที่เปิดร้าน คนในละแวกนั้นก็บอกเธอว่า “มาเปิดร้านขายขนมแบบนี้ ขายไม่ได้หรอก เพราะคนในละแวกนี้เขาไม่มีเงินกันมากนัก ทำไปเดี๋ยวก็เจ๊ง”
.
แต่เธอก็ไม่ได้ฟังเสียงจากคนเหล่านั้นมาก เธอจึงยังคงทำต่อไป
.
อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นอย่างที่คนเขาพูดจริงๆ คือ ขายไม่ดี คนซื้อน้อย เพราะกำลังซื้อของคนในบริเวณนั้นไม่มี
.
เมื่อเห็นอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจทดลองทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม นั่นก็คือ หยิบมือถือขึ้นมา ถ่ายคลิปวิดีโอขั้นตอนการทำขนม แถมยังบอกสูตรอีกต่างหาก ว่าขนมที่เธอทำนั้นใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง แล้วโพสต์ลงทางเฟซบุ๊ก และ ยูทูบ
.
แต่ก็ไม่วาย ที่จะโดนคนในละแวกบ้าน “หาว่าโง่” ที่ไปถ่ายวิดีโอขั้นตอน วัตถุดิบ และ สูตร กับคนอื่นอย่างนั้น เดี๋ยวก็มีคนลอกเอาสูตรไปทำเองหรอก
.
แต่ตัวเธอไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเธอคิดเสียว่า ถ้าได้แบ่งปันความรู้ แล้วมีคนสามารถเอาไปสร้างงานสร้างอาชีพในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ได้มันก็ดี ที่สำคัญ ถ้าจะมีคนเอาสูตรไปทำจริงๆ เขาก็คงไปทำอยู่จังหวัดอื่น ไม่ได้มาตั้งร้านแข่งอยู่ตรงข้ามหรอก เธอไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว
.
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ สิ่งที่เธอทำมันกลับไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกว่าอยากจะลอกสูตรของเธอไปทำเอง
.
เพราะเชื่อเถอะว่า ต่อให้ใช้สูตรเดียวกัน แต่คนทำไม่เหมือนกัน รสชาติก็ออกมาไม่เหมือนกันอยู่ดี ที่สำคัญ คือ มันไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ดูแล้วจะทำเอง เพราะไหนจะต้องมีเครื่องมือ ต้องเตรียมวัตถุดิบ ทำเสร็จก็ต้องเช็ดถูอีก แถมต้องใช้เวลาอีก ซึ่งมันไม่คุ้มหรอก ที่จะต้องลงทุน ลงแรง ลงเวลาขนาดนั้นเพื่อให้ได้ขนมที่อยากกินแค่ไม่กี่ชิ้น สู้สั่งซื้อจากแม่ค้าในคลิปมากินไม่ง่ายกว่าหรอ?
.
ที่สำคัญ คือ เมื่อคนดูได้เห็นคลิปขั้นตอนการทำของเธอ มันกลับทำให้คนเกิดความเชื่อถือเธอมากขึ้น เพราะเห็นว่าเธอทำขนมสะอาด ใส่ใจรายละเอียด ใช้วัตถุดิบอย่างดี แถมเมื่อทำเสร็จออกมารูปร่างหน้าตาก็น่ากิน ไม่ว่าจะเป็น เค้ก พิซซ่า ขนมทาร์ตไข่ ขนมทาร์ตไข่หน้าพิซซ่า บราวนี่ ขนมปังกรอบเนยน้ำตาล ฯลฯ แถมในทุกๆ เดือน เธอก็จะคิดเมนูใหม่ๆ ออกมาเสมอ เพื่อให้สินค้าของเธอไม่ซ้ำซากจำเจมากเกินไป
.
กลายเป็นว่าหลังจากคลิปของเธอถูกแชร์ออกไป ก็มีคนจากต่างอำเภอทักเข้ามาสั่งซื้อขนมของเธอมากขึ้น จากที่เคยขายได้แค่วันละ 10 ออเดอร์ กลายเป็นยอดขายโตขึ้น 300 ออเดอร์ต่อวัน โดยออเดอร์ส่วนใหญ่มาจากทางออนไลน์ โดยถ้าเป็นในละแวกตำบล หรือ อำเภอใกล้เคียงเธอก็จะเปิดพรีออเดอร์ล่วงหน้า 1 วัน แล้วจัดคิวส่งด้วยตัวเอง หรือ ถ้าเป็นต่างจังหวัดเธอก็จะทำเมนูที่สามารถส่งไปรษณีย์ได้
.
นอกจากนี้ยังมีคนมากมาย ที่ติดต่อเข้ามาขอให้เธอสอนทำขนม และ อื่นๆ ทำให้เธอมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกช่องทางโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน
.
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สามารถเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง จึงนำมาปรับปรุงร้าน ทำที่นั่งให้ลูกค้า ทาสีสวยๆ ทำมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เพื่อรับลูกค้าที่อยากจะแวะมาทานที่ร้านของเธอ
.
# เรื่องนี้สอนอะไรเรา ?
.
1) อย่าฟังคนที่ไม่เคยแม้แต่คิดจะลงมือทำ เพราะเขาไม่มีวิสัยทัศน์พอที่จะมองเห็น ในเมื่อเขาเองยังไม่เคยไปยืนอยู่จุดนั้น แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่า “ทำได้” หรือ “ทำไม่ได้”
.
การที่มีใครเดินมาบอกว่า “คุณทำไม่ได้” ทั้งที่ตัวเขายังไม่เคยทำ นั่นแสดงว่าเขาไม่ได้พูดถึงคุณ เขาพูดถึงตัวเองต่างหากว่าทำไม่ได้
.
ถ้าจะฟัง ก็ให้ฟังคนที่เคยทำจริง และ สำเร็จมาแล้ว เท่านั้น
.
2) คำว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้” ยังคงใช้ได้จริงเสมอ เมื่อคุณให้ผู้อื่น คุณก็จะได้ผลตอบแทนกลับมามากกว่าเสมอ ทุกวันนี้เรามัวแต่มานั่งคิดว่า จะใช้กลยุทธ์การตลาดอะไรดี เพื่อจะดึงเงินจากกระเป๋าของลูกค้าให้ได้มากขึ้นอีกหน่อย แต่กลับมองข้ามที่จะทำเรื่องง่ายๆ และ จริงใจ แถมยังได้ผลดีอีกต่างหาก
.
มันหมดยุคแล้วที่จะมานั่งหวงนั้นหวงนี่กลัวคนอื่นจะมาแย่งไป จนสุดท้ายคนที่จะไม่ได้อะไรจริงๆ ก็คือ ตัวเอง
3) นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าวันนี้ คุณจะทำอาชีพอะไร หรือ ธุรกิจไหน ต่อให้มันจะเป็นหน้าร้านออฟไลน์ คุณก็ต้องพ่วงออนไลน์เข้าไปด้วยเสมอ
.
เพราะออนไลน์ มันไม่ใช่แค่ช่องทางการขาย แต่มันคือ “ช่องทางการตลาด”
.
ที่จะทำให้ลูกค้าซึ่งไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยสัมผัส และ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ร้านของคุณ รู้ว่าคุณมีตัวตนอยู่ เพราะทุกวันนี้ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อของบนออนไลน์ก่อนเสมอ มันหมดยุคแล้ว ที่ลูกค้าจะตระเวนเข้าไปลองเสี่ยงตามร้านต่างๆ และมันหมดยุคแล้วที่คุณจะต้องรอให้ลูกค้าเดินผ่านก่อนแล้วค่อยตะโกนขายของ
.
แต่ทุกวันนี้ การปิดขายมันเกิดขึ้นบนออนไลน์
.
คุณจะต้องทำให้ลูกค้าเห็นคุณบนออนไลน์แล้วใช้คอนเทนต์กระตุ้นความอยาก และ ปิดการขายเขาให้ได้
.
เมื่อคุณสามารถปิดการขายได้แล้ว ลูกค้าถึงจะยอมเดินทางมาซื้อของที่ร้านคุณ หรือ ไม่ก็สั่งซื้อคุณจากทางออนไลน์เลย ที่สำคัญ ออนไลน์จะช่วยให้คุณสามารถขยายฐานลูกค้าจากแค่ในพื้นที่ของตัวเอง ไปพื้นที่อื่นๆ ได้
.
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ ทำไมหลายครั้งร้านแถวบ้านก็มี เราถึงไม่ซื้อ ไม่ใช้บริการ แต่เรากลับยอมเดินทางไปซื้อกับอีกร้านที่อยู่ไกล แถมอาจจะแพงกว่า
.
นั่นก็เพราะเราถูกปิดการขายบนออนไลน์แล้วยังไงล่ะ
.
ทุกวันนี้ ยังมีหลายคนที่เข้าใจว่า ออนไลน์ คือ ช่องทางการขาย คือ เดลิเวอรี่ ก็เลยคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันไม่สามารถขายออนไลน์ได้ ก็เลยไม่เริ่มทำ
.
แต่ความจริงแล้ว หน้าที่หลักของออนไลน์มันคือ ช่องทางการตลาด ต่างหาก
.
.
ดังนั้น จำไว้เลยว่า ไม่ว่าวันนี้คุณจะทำงาน หรือ ทำธุรกิจอะไร คุณต้องพ่วงออนไลน์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งเสมอ เพราะมันคือ เครื่องมือที่ทำให้คุณมีตัวตนในชีวิตของลูกค้า
.
แต่ถ้าคุณไม่ทำตั้งแต่วันนี้ คุณก็จะหายไปจากชีวิตของลูกค้าเรื่อยๆ และ ในที่สุดลูกค้าก็จะไม่กลับมาหาคุณอีกเลย
ช่องทางการขาย 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
ถ้าวันนี้คุณเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ แล้วบังเอิญมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งยกพวกกันมาสิบคน นั่งแช่ครึ่งวัน ถ่ายรูปเป็นร้อย แต่สั่งกาแฟแค่แก้วเดียว คุณจะรู้สึกยังไงครับ ?
.
ก็คงรู้สึกหงุดหงิด หรือไม่ก็หัวร้อน จนอยากจะเดินไปบอกลูกค้าว่า “ถ้าจะสั่งน้ำแก้วเดียว แล้วนั่งแช่ถ่ายรูปกันครึ่งวัน เชิญร้านอื่นเถอะ”
.
แต่ถึงแม้ว่าคุณจะอยากตะโกนออกไปมากแค่ไหน แต่ตัดภาพมาที่ความเป็นจริง ก็คงพูดอะไรออกไปไม่ได้อยู่ดี เพราะนั่นคือลูกค้า คุณคงไม่อยากจะมีปัญหาใช่ไหมล่ะครับ ?
.
ยิ่งช่วงนี้ในโซเชียลก็มีแต่ดราม่า คุณเองก็คงไม่อยากตกเป็นหนึ่งในคนที่โดนสังคมรุมด่า เพียงเพราะไม่พอใจการกระทำของลูกค้าประเภทนี้
.
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองเผินๆ นี่อาจจะเป็น เรื่องที่น่าหงุดหงิด แต่ถ้าคุณรู้จักคิดแบบนักธุรกิจ นี่คือ โอกาสทองในการเพิ่มยอดขายได้อย่างมหาศาลเลยล่ะ
.
ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผมใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมง ในการปลูกฝังให้กับพี่น้องในคลาส Online signature 2021 และ ย้ำเตือนกับพวกเขามาโดยตลอด ว่าถ้าอยากจะโต 10X คุณต้องคิดแบบนักธุรกิจ ไม่ใช่คิดแบบพ่อค้า เพราะมันจะทำให้คุณเห็นอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะดูแย่ก็ตาม
.
.
วันก่อน ผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เขาเพิ่งเปิดร้านคาเฟ่ได้ไม่นาน แล้วดันมาตรงกับช่วงโควิดพอดี ทำให้ยอดขายไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น แถมยังต้องแข่งกับค่าใช้จ่ายต่างๆ อีก
.
ในระหว่างที่คุยกัน ผมพยายามแนะนำกลยุทธ์ทางการตลาดหลายอย่าง เพื่อให้เขานำไปปรับใช้ ซึ่งเขาก็เห็นด้วยเป็นอย่างดี
.
แต่ในจังหวะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น เขาก็บ่นขึ้นมาว่า “วันนี้เซ็งมาก มีเด็กวัยรุ่นผู้หญิงมาร้านกัน 10 คน ถ่ายรูปกันอยู่ครึ่งวัน แต่สั่งน้ำแก้วเดียว จะบ้าตาย”
.
ผมเลยถามกลับไปว่า แล้วพี่ทำยังไง ?
.
เขาตอบผมมาว่า “พี่ก็ยิ้มแห้งๆ แล้วก็หน้าด้านถามย้ำว่า น้องสั่งแก้วเดียวใช่ไหม ?”
.
“แล้วลูกค้าตอบว่าไงครับ” ผมถามต่อ
.
เพื่อนผมหัวเราะ พร้อมตอบกลับมาว่า “มันตอบว่า ค่ะ”
.
ผมดูสีหน้าของเพื่อนคนนี้ ก็รู้ทันทีเลยว่า รอยยิ้มที่เขาส่งมา มันปนไปด้วยความเครียด และ ความรู้สึกแย่ๆ ปะปนอยู่ ซึ่งเกินที่เขาจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด
.
ผมจึงถามต่อไปว่า “แล้วลูกค้าพวกนี้เป็นคนกลุ่มไหนครับ อายุเท่าไหร่ แล้วพี่คิดว่าเขาถ่ายรูปไปทำอะไรกัน แค่ลงโซเชียล หรือ เป็นพวกรับจ้างรีวิว ขายออนไลน์ ?”
.
“เท่าที่ได้ยินเขาคุยกัน ก็น่าจะเป็นพวกรับถ่ายรีวิวนะ แล้วก็มีบางคนที่น่าจะขายเสื้อผ้าออนไลน์ บางคนถึงขนาดเอาชุดมาเปลี่ยนเลยนะ แล้วดูท่าทางก็น่าจะยังเรียนอยู่ด้วย”
.
“นั่นไงพี่ โอกาสทองเลย !!”
.
“โอกาสทองอะไรของแกวะ สั่งน้ำแก้วเดียว แต่ถ่ายรูปครึ่งวัน พี่ว่า พี่เสียโอกาสมากกว่านะ” เพื่อนผมตอบ
.
“ถ้าพี่ลองพลิกมุมมองหน่อยนะ เด็กพวกนี้ เขายังเรียนอยู่ใช่ไหม แน่นอนเขายังไม่มีรายได้ ยังขอเงินพ่อแม่อยู่ ยังซื้อกาแฟไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้โควิดอยู่ พ่อแม่ของน้องๆ อาจจะได้รับผลกระทบ ซึ่งถ้ามองให้ลึกๆ สิ่งที่พวกเด็กเหล่านี้กำลังทำ เขาอาจจะกำลังพยายามหารายได้จากการถ่ายรูปรับรีวิว หรือ ขายออนไลน์ เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ เผลอๆ บางคนก็ส่งเงินช่วยพ่อแม่ด้วยซ้ำ”
.
“แล้วไงต่อวะ” เพื่อนผมถามด้วยความสงสัย
.
“พี่ก็ทำการตลาดออกไปไง ทำคอนเทนต์โปรโมตออกไปเลย ว่าร้านของพี่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ ที่กำลังมองหาร้านสวยๆ ถ่ายรูปรีวิวสินค้า เพื่อหารายได้ให้ตัวเอง และ ครอบครัวในช่วงโควิด เรารู้ว่าทุกคนกำลังลำบาก กำลังเจอวิกฤต เราขอใช้พื้นที่ร้านที่เรามี ช่วยเหลือทุกคน ดังนั้น ทุกคนจะมาถ่ายกี่คนก็ได้ นานแค่ไหนก็ได้ ขอแค่สั่งกาแฟแก้วเดียวก็พอ”
.
แล้วพี่ก็ลองคุยกับลูกค้าหน่อย ถามไถ่เขาหน่อย ว่าเขาทำอะไร บ้านอยู่ไหน ช่วงนี้ชีวิตเป็นยังไง พี่บ้านเขาเป็นยังไงบ้าง แล้วที่มาถ่ายรูปร้านเรา ผลตอบรับดีไหม คนที่จ้างน้องๆ รีวิวเขาแฮปปี้ไหม แล้วคนที่ขายของออนไลน์ล่ะ ขายดีไหม แล้วก็เอามือถือขึ้นมา ถ่ายสัมภาษณ์น้องๆ เป็นรีวิวลงเพจร้าน ได้สตอรี่มาเล่าเรื่องอีกต่างหาก
.
ถึงแม้เราจะได้ค่ากาแฟจากเขาแค่แก้วเดียว แต่คอนเทนต์จะสามารถดึงดูดลูกค้าคนใหม่ที่ไม่เคยรู้จักร้านของพี่ให้อยากมาที่ร้านเพิ่มมากขึ้นอีกมากมายเลยนะ เพราะคนไทยชอบคอนเทนต์ลักษณะนี้มากๆ และ คนเราก็ชอบซื้อของกับคนดีเสมอ เผลอๆ อาจจะมีเน็ตไอดอลมาทำคอนเทนต์รีวิวร้านพี่ให้ฟรีๆ อีก
.
แล้วพี่คิดหรอว่าคนส่วนใหญ่ที่จะตามมาร้านพี่จากคอนเทนต์ หรือ รีวิว เขาจะไม่มีตังค์ซื้อกาแฟของพี่ เผลอๆ เขาชอบในสิ่งที่พี่ทำ เขาอาจจะอยากอุดหนุน อยากซื้อเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ หรือ ถ้าโชคดีหน่อยอาจจะเจอคนดีๆ เหมากาแฟร้านพี่ไปแจกก็ได้นะ
.
ที่สำคัญ ต่อให้เด็กเหล่านี้จะซื้อกาแฟของพี่แค่แก้วเดียว แต่คอนเทนต์ที่พี่ทำ รูปที่พี่ถ่าย คลิปที่พี่อัด มันจะทำให้ร้านของพี่ดูคึกคักขึ้น
.
ลองคิดดูดีๆ สิ เวลาพี่จะเข้าร้านคาเฟ่ที่ไม่เคยรู้จัก พี่เลือกเข้าร้านที่ ดูคนเยอะ หรือ คนน้อย ล่ะ ?
.
เพื่อนผมยิ้มแล้วตอบกลับมาว่า “ก็ต้องคนเยอะสิว่ะ”
.
นั่นไง พี่ก็ต้องทำให้ร้านพี่ดูเหมือนคนเยอะ และ คึกคักเข้าไว้ไง
.
เพราะ “คนเยอะ เท่ากับ ขายดี” และของขายที่ “ขายดี เท่ากับ ของดี”
.
แล้วพี่คิดดูดีๆ นะ ทำไมลูกค้าเหล่านี้เขาถึงเลือกมาถ่ายรูปร้านของพี่ แทนที่จะไปถ่ายร้านอื่นล่ะ
.
“ก็เพราะเขาเห็นอะไรในร้านของพี่ไง แล้วทำไมพี่ถึงไม่เห็นอะไรในร้านของตัวเอง แล้วใช้โอกาสนี้เอามันออกมาทำการตลาดล่ะ”
.
“เออเน๊อะ เสียดายว่ะ ทำไมตอนนั้นพี่คิดไม่ได้วะ ก่อนหน้านี้มีคนมาถ่ายรูปกันเยอะเลย” เพื่อนผมตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มเขินๆ แสดงถึงความเสียดาย
.
ผมพูดต่อ “พี่ไม่ได้เสียอะไรเลยนะ ถึงแม้ลูกค้าจะมาที่ร้านพี่เป็นสิบคน แต่พี่ไม่ได้เสียเงินซะหน่อย ได้ค่ากาแฟมาตั้งแก้วนึง แถมยังได้ Marketing Free อีกต่างหาก ไม่ต้องเสียเงินจ้างสักบาทเลยด้วยซ้ำ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”
.
ที่สำคัญ คือ ร้านคู่แข่งของพี่ ไม่เห็นมีใครทำแบบนี้กันสักคน ในวันที่คนอื่นหยุด ทำธุรกิจตามมีตามเกิดเอาตัวรอดไปวันๆ พี่แค่ทำอะไรที่แตกต่างนิดหน่อย ไม่ต้องอลังการมาก พี่ก็โดดเด่นกว่าคนอื่นแล้ว”
.
ของพวกนี้ มันเรียบง่ายมากนะ ไม่ต้องมีสมองอัจฉริยะเลย ทำแบบบ้านๆ นี่แหละ แค่รู้จักมองหาข้อดี มองมุมบวก ของทุกสิ่งที่เกิดขึ้น พี่ก็จะเจอโอกาส และ เงินทองที่ลอยอยู่ในอากาศ พร้อมให้พี่หยิบมันเข้ากระเป๋าเต็มไปหมด
.
เพื่อนผมตอบกลับมาพร้อมทำสีหน้าเหนื่อยๆ “มันก็ใช่นะ ไม่มีร้านไหนทำอย่างที่แกว่าเลย แต่บางทีมันก็นึกไม่ออกเหมือนกันนะว่า การทำออนไลน์ กับ พวกร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่เนี่ย มันจะทำยังไง นอกจากเดลิเวอรี่”
.
ผมรีบสวนกลับไปว่า “พี่ !! พี่ต้องแยกให้ออก ระหว่าง “ช่องทางการขาย” กับ “ช่องทางการตลาด” เคลิเวอรี่มันคือ ช่องทางการขาย ไม่ใช่ช่องทางการตลาด
.
แต่เดี๋ยวนะ !!
.
ผมมองหน้าเพื่อน พร้อมสบตา แล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงดุๆ ว่า “แล้วที่พี่สมัครเข้ามาเรียนในคอร์ส Online Signature 2021 พี่เรียนหรือยัง เรียนไปถึงไหนแล้ว ผมพนันเลยว่าพี่ยังไม่ได้เรียน เพราะถ้าพี่เรียนแล้ว พี่จะไม่คิดแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ ที่พี่เรียนแล้ว พี่จะมองไม่ออก ว่าร้านกาแฟจะทำออนไลน์ได้ยังไง เพราะผมสอนเรื่องนี้เคลียมากๆ ซึ่งคนอื่นที่เรียน เขามองเห็น อ่านเกมออก และ ลงมือทำกันไปไกลแล้ว”
.
เพื่อนผมยิ้มพร้อมพูดว่า “อืม ชัดเจน กูขอโทษ กูยังไม่ได้เรียนเลย ช่วงนี้ยุ่งๆ พอมาฟังเเกพูดวันนี้ พี่ละอยากจะเขกหัวตัวเองมากๆ ที่สมัครไว้ตั้งสองเดือนแล้วไม่ยอมเรียน พี่มองย้อนกลับไปแล้ว รู้เลยว่า ตัวเองทำเงินหล่นหายไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว พี่สัญญาว่าหลังจากแยกย้ายกับแกวันนี้ไป จะกลับไปนั่งไล่เรียนให้จบ”
.
“เรียนเถอะ ขอร้อง แล้วพี่จะเห็นทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง เงินอะมันลอยอยู่ในอากาศเต็มไปหมด อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นมันแล้วคว้าเข้ากระเป๋าได้หรือเปล่าเท่านั้นแหละ” ผมตอบกลับไปด้วยความเป็นห่วง
.
แต่ผมก็เข้าใจนะ ยอดขายมันไม่ดี สมองมันเครียดๆ พอเจอลูกค้าแบบนี้ มันเลยกลายเป็นความคิดลบเข้ามาในหัวทันที พอเราคิดลบ มันก็เลยมืดหมด ก็เลยทำให้มองไม่เห็นโอกาส
.
เขาถึงบอกว่า คนเราต้องมีที่ปรึกษาเก่งๆ ดีๆ มีประสบการณ์สักคน เพราะเขาจะมองธุรกิจของเราในมุมกว้าง และ เป็นกลางโดยไม่มีอคติ ซึ่งนี่แหละ คือ เหตุผลที่ผมต้องดุพี่ และ ให้พี่เข้าไปเรียน เพราะคนอื่นเขาได้มุมมองเหล่านี้จากผมในคลาส เขาถึงทำกันไปไกลแล้วไง พี่เข้าไปดูในคลาสสิ ตอนนี้มีแต่คนโตเอาๆ สวนกระแสเศรษฐกิจ ที่ใครๆ ก็บ่นว่าทำอะไรก็ไม่ขึ้น
.
“โอเคจ้า ต่อไปนี้พี่จะไม่โดดเรียนอีกแล้ว จะตั้งใจเรียน แล้วเอาสิ่งที่แกสอนมาลงมือทำ แล้วจะซื้อ Benz ไปซิ่งกับ BMW ของแกนะ ฮา ฮา ฮา” เพื่อนผมแซวกลับมาแล้วก็หัวเราะกันยกใหญ่ พร้อมกับสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้น เหมือนเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
.
จากนั้นเราก็แยกย้ายกัน ซึ่งผมก็ตามดูความเปลี่ยนแปลงของเขาอยู่ห่างๆ และ เห็นว่าเขานำสิ่งที่เราคุยกันในวันนั้น พร้อมความรู้ที่ได้จากคอร์ส Online signature ไปลงมือทำ ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีเลย
.
สังเกตได้ เพื่อนคนไหนที่มาคุยกับผมบ่อยๆ แสดงว่ามันกำลังมืด แต่ถ้าเมื่อไหร่มันหายไป แสดงว่ากำลังทำเงิน จนไม่มีเวลาคุยกับผมทั้งนั้น
.
แต่ผมเองก็ยังไม่พูดอะไร เพราะคิดว่าจะรอดูเขาไปอีกสักเดือนสองเดือน แล้วค่อยคุยอัพเดตกันอีกที และ ผมมั่นใจว่า เราคงมีเรื่องสนุกๆ คุยกันมากกว่านี้อย่างแน่นอน
.
.
และคุณจะกลายเป็นคนมองเห็นโอกาสในทุกวิกฤต มองเห็นเงินในอากาศ และ สามารถคว้ามันเข้ากระเป๋าได้ทันที เมื่อเข้ามาลุยกับผม และ พี่น้องอีกมากกว่า 340 คน ในคลาส Online Signature Master Class 2021
# โดย คลาส Online Signature Master Class 2021 จะลุยกันทั้งหมด 10 บทเรียน ประกอบด้วย
.
Module 1 : Overview เข้าใจภาพรวมการตลาดออนไลน์
Module 2 : กลยุทธ์สร้างความต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
Module 3 : จิตวิทยาปิดการขาย
Module 4 : Inbound Content Marketing การเขียนคอนเทนต์แบบแรงดึงดูด
Module 5 : การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา
Module 6 : ศิลปะการเขียนโพสต์ขายตรง ให้ทำเงินได้แบบ Passive Income (Copy Writing)
Module 7 : การตลาด เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่า แบบยั่งยืน
Module 8 : เทคนิคสร้างเพจให้พรีเมี่ยมด้วย Canva
Module 9 : Data thinking
Module 10 : การยิง Ads ขั้นสูง
.
✅ Bonus class : วิธีสร้างธุรกิจ ทดลองตลาด โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
✅ Bonus class : การบริหารเงินธุรกิจ
.
และผมจะอัพเดทเนื้อหาและเทรนด์การตลาดออนไลน์ใหม่ๆ แบบเรียลไทม์เป็น Bonus ให้ทุกเดือนจนถึงสิ้นปี 2021
.
ทั้งหมดนี้เราจะเรียนกันแบบออนไลน์ เรียนที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ และ สามารถเรียนซ้ำได้ตลอดชีพครับ
คอร์ส Online Signature Master Class 2021
จากปกติราคา 46,000 บาท
ช่วงโปรโมชั่นเหลือเพียง 18,000 บาท
.
แต่เดี๋ยวก่อน !! เฉพาะคนที่แชร์โพสต์นี้ และ สมัครเข้ามา 10 คนแรก
คุณสามารถเข้ามาลุยในคอร์สนี้ในราคาเพียงพิเศษ 10,860 บาท เท่านั้น !!
.
# พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษ เป็นคำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room ที่อาจารย์เจษแห่งสำนัก Ohmpiang นักขายมือโปร ที่สามารถขายของทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัว ในแบบที่เหมือนเพื่อนคุยกัน แต่ทุกคนที่ฟังต้องควักกระเป๋าเงินออกมาซื้อแบบ งงๆ ทุกที โดย อ.เจษ จะแอบมา Live เรื่อง “การขาย” ให้ฟังพร้อมเปิดรับคำถามและแจกสคริปต์การขายเรื่อยๆ แบบฟรีๆ
.
อยากเติบโตสวนกระแสไปด้วยกัน ก็ทักไลน์มาได้ครับที่ @samounglai (ใส่ @ ข้างหน้าด้วย) จากนั้นบอกทีมงานว่า “ลุย OSM”
.
ปล1. ราคาพิเศษ 10,860 บาท และ คำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room นี้ เฉพาะ 10 คนแรก เท่านั้น !!
.
ปล2. สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ ผ่อน 0% ได้นาน 10 เดือน (บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
.
ปล3. เมื่อเข้ามาเรียนแล้วคิดว่าไม่คุ้ม ผมยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน ภายใน 7 วัน
ช่องทางการขาย 在 nutties11311 Youtube 的精選貼文
มาลองทำผมโดยใช้ไคร์เป่าผมกันค่ะ ทำได้เหมือนกันนะคะ จะได้ผมที่ดูหนามีวอลลุ่ม ส่วนไดร์เป่าผมที่นัตตี้หยิบมาใช้ก็เก๋เช่นกัน ระบบสัมผัสไปอีกจ้าาา
ช่องทางการขาย
Shopee - https://bit.ly/2W4Vwut
Facebook - www.facebook.com/CoolAstylerBeauty
ช่องทางการขาย 在 Bew Varaporn Youtube 的最讚貼文
คลิปนี้เรามาทำความกระชับความสัมพันธ์กันอีกแล้วนะคะ เป็นครั้งที่สองแล้วเพราะว่าเราก็ทะเลาะกันบ่อยมาก
ฉะนั้น. คลิปนี้ก็ตีกันเหมือนเดิมละคะ 555555555555 ** จะไม่ทำให้เป็นเพื่อนผิดหวัง ?
คลิปนี้ต้องบอกเลยว่ามีสปอนเซอร์
แล้วน้าาาาา เราสองคนใช้แล้วรู้สึกดีจริงๆก็เลยอยากเอามาบอกต่อเพื่อนเพื่อน ไม่ต้องห่วงเลยว่าเราทดลองกันก่อนเอามารีวิวแน่นอนนะคะ ^^
เงินที่ได้จากการรีวิวก็เดี๋ยวเอาไปให้แม่แล้วก็เอามาทำข้าวเช้าให้เรากินในเช้านี้แม่ทำอะไรเย้!
ปังๆปุงๆ ไปเลยยยย ☺️☺️☺️
Sponsored: Soyou
?Soyou slim
Anti cellulite Cream
Page : https://www.facebook.com/Soyouslim/
LINE : @soyouslim
?Peaches acne patch
ช่องทางการขาย
Ig : melty_official.th
IG : bewgobowgin
FB : bewgobowgin
ช่องทางการขาย 在 Licktga Youtube 的最讚貼文
กดตรงนี้เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติม ↴
✎ คลิปนี้ทำขึ้นมาเพื่อสาวผิวแทน ที่มีสีผิวใกล้เคียงกัน ให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ว่าควรซื้อมาลองดีไหม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการติดสินใจของเพื่อนๆด้วยนะจ้ะ
✎ Sponsored By MTI คลิปนี้ทางแบรนด์สปอนเซอร์จ้า
ราคาแป้งฝุ่นทองคำ MTI - 595 บาท (โปรโมชั่น 425 บาท)
ปริมาณ 30 กรัม
สั่งซื้อได้ที่ ↴
เช็คตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ที่: https://goo.gl/32wEZR
Website : https://www.mti.co.th
FB: https://www.facebook.com/MTISHOPPING
LAZADA : https://www.lazada.co.th/shop/shop-mti
ช่องทางการขาย
Shop MTI
-สาขารัชดา อาคารไนซ์1
-สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 2
-สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้นG
-สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ชั้น2
-สาขาพาราไดซ์พาร์ค ชั้น1
-สาขาฟิวเจอร์รังสิต ชั้น1
-สาขาเดอะมอล์บางกะปิ ชั้น2
-สาขาเดอะมอล์บางแค ชั้น1
-สาขาเดอะมอล์ท่าพระ ชั้น2
-สาขาเดอะมอล์งามวงศ์วาน ชั้น2
ร้าน Beauty station
-TERMINAL 21 ชั้น 3
-MARKET VILLAGE สุวรรณภูมิ ชั้น 1
-BIG C ราชดำริ ชั้น 2
-LOTUS ศรีนครินทร์ ชั้น 1
- บลูพอร์ท หัวหิน รีสอร์ท มอลล์ ชั้น G
-THE MALL โคราช ชั้น G
-Terminal 21 โคราช
- Central มหาชัย ชั้น G Central โคราช ชั้น G
------------------------------------------------------------
ช่องรอง licktwithtoy ↴
https://goo.gl/mMJUq5
ติดตามกันได้ที่ ↴
Instagram - http://instagram.com/licktga
Facebook - http://www.facebook.com/Licktga
Blog - http://licktga.com/
ติดต่องาน (work & collabs) ↴
Email - licktgabusiness@gmail.com
Line - licktga (ติดต่องานเท่านั้น)
------------------------------------------------------------
กล้อง - Canon 80D+ G7xmarkll
โปรแกรมตัดต่อ - Premiere pro
Edit Clip - Licktga
Song - Fly : Fransis Derelle
คอนแทคเลนส์ - Neocosmo สี Dali ll brown
ลิป - 4U2 You're mine เบอร์ 13
รองพื้น - Innisfree สี W33 Chestnut เนื้อแมท
------------------------------------------------------------
#แป้งฝุ่นผสมทองคำMTI #แป้งคุมมัน #รอดหรือไม่รอด
ช่องทางการขาย 在 Ramida Revolution - Social Selling - ช่องทางการขายไหนที่ Win ... 的推薦與評價
ช่องทางการขาย ไหนที่ Win ที่สุดในปี 2021 #กระแตรมิดา #การเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ #รมิดารีโวลูชั่น #ปฏิวัติ อยากทั้งข้อมูลสถิติที่กล่าวมาข้างต้น... ... <看更多>
ช่องทางการขาย 在 ขายของออนไลน์อะไรดี 2023 EP6 | ช่องทางการขายของออนไลน์ใน ... 的推薦與評價
แจกหนังสือฟรี " เงิน มา ง่าย ๆ" เขียนโดย อ.วรัทภพ รชตนามวงษ์ มีเนื้อหามากถึง 357 หน้า รับหนังสือฟรี! กดลิงก์นี้ด่วน ของมีจำนวนจำกัด ... ... <看更多>