"ทำไม คนบางคนถึงป่วยจากโรคโควิด รุนแรงกว่าคนอื่น ? คำตอบอาจจะอยู่ที่ #ระดับน้ำตาลในเลือด ครับ"
หนึ่งในปริศนาเกี่ยวกับโรคโควิด 19 มาอย่างยาวนานตั้งแต่เริ่มการระบาด คือ ทำไมคนบางคนติดเชื้อไวรัส แล้วไม่มีอาการอะไรหรือมีเพียงเล็กน้อย ขณะที่บางคนติดเชื้อแล้วกลับป่วยรุนแรงมาก ?
งานวิจัยล่าสุด จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาจจะทำให้เราได้คำตอบนั้น ผ่านการใช้เทคโนโลยี machine learning
ดร. Emmanuelle Logette, และคณะวิจัยในโครงการ the Blue Brain Project ที่สถาบัน École Polytechnique Fédérale de Lausanne (หรือ EPFL) ในกรุงเจนีวา ได้อาศัยฐานข้อมูล CORD-19 มาวิเคราะห์ และพบว่า "ระดับน้ำตาลในเลือด" (blood glucose level) จะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อระดับความรุนแรงของโรคโควิด-19 !
งานวิจัยนี้ ชื่อว่า "A Machine-Generated View of the Role of Blood Glucose Levels in the Severity of COVID-19" ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Public Health ฉบับวันที่ 28 July 2021 (ดู https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpubh.2021.695139/full?utm_source=fweb&utm_medium=nblog&utm_campaign=ba-sci-fpubh-covid-19-elevated-blood-glucose-blue-brain) ซึ่งพวกเขาได้ใช้เทคโนโลยี machine learning มาวิเคราะห์ข้อมูลที่ดึงมาจากบทความวิจัยในฐานข้อมูลเปิด (open access) แล้วทำให้ค้นพบบทบาทสำคัญของ "ระดับน้ำตาลที่สูงขึ้น" ในเส้นเลือด ที่มีต่อความรุนแรงของโรค Covid-19
1. ปกติ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ผู้สูงอายุ นั้นจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยหนักจากโรคโควิด .. แต่คนที่อายุน้อย หลายคนก็พบว่า ต้องเข้าโรงพยาบาลจากโรคนี้เช่นกัน
- มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ที่ทราบกันว่า มีผลต่อระดับความรุนแรงของโรคโควิด ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง
- แต่ผลการวิจัยใหม่นี้ ทำให้เห็นว่า ระดับกลูโคสที่สูงขึ้นในเลือด ก็มีผลต่อคนที่ "ไม่ได้เป็น" โรคเบาหวานด้วย
2. คณะนักวิจัยของโครงการ the Blue Brain Project และพัฒนาแบบสำรอง machine learning ที่ขุดข้อมูลจากบทความวิจัยกว่า 240,000 ฉบับ ในฐานข้อมูล CORD-19 (เป็นฐานข้อมูลที่สนับสนุนโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา , มูลนิธิ Chan Zuckerberg Initiative, Microsoft Research และกลุ่มอื่นๆ เพื่อเป็นฮับ hub งานวิจัยเกี่ยวกับโควิด-19)
- ผลการวิเคราะห์ของคณะผู้วิจัย ทำให้พบว่า แนวโน้มที่ปรากฏขึ้นซ้ำๆ ในบทความวิชาการที่ผ่านมาเกี่ยวกับอาการป่วยรุนแรงจากโรคโควิด ก็คือ ระดับน้ำตาลในเส้นเลือดที่สูงขึ้น
- โดยจากข้อมูลกว่า 400,000 ค่า ที่วิเคราะห์ คำว่า "glucose น้ำตาลกลูโคส" ปรากฏขึ้นถึง 6,326 ครั้ง ทำให้คณะผู้วิจัยค้นหาต่อไป ถึงบทบาทหน้าที่ของกลูโคส ที่มีต่ออาการป่วยของโรค ไปจนถึงกลไกทางชีวเคมีในระดับที่ลึกที่สุด
3. เรื่องหลักๆ ที่พวกเขาค้นพบ ได้แก่
- ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น ไปทำให้การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันแรกๆ ของปอดเราแย่ลง ทำให้เกิดสภาวะที่เอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโรคโควิด
- ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น ทำให้เกิดความผิดปกติในการควบคุมระดับการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะ cytokine storm (การเพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็วของสารไซโตไคน์) และภาวะ acute respiratory distress syndrome (อาการอักเสบเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ หรือ ARDS )
- อาการป่วยต่างๆ ที่ตามมาของโรคโควิด-19 ได้แก่ hyperinflammation (การอักเสบขั้นรุนแรง) และ pro-coagulation (การแข็งตัวของเลือด) ก็เกิดขึ้นตามมาจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเช่นกัน
- ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น นั้น ทำงานร่วมกันกับกลไกของการหยุดการทำงานของ ACE 2 receptor ด้วยเชื้อไวรัสโควิช ไปเพิ่มระดับความรุนแรงของโรค ให้อวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลว และเกิดลิ่มเลือดอุดตัน (thrombotic)
4. การที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแล้วไปทำให้กลไกแรกๆ ในการต่อสู้กับไวรัสของปอด แย่ลงนั้น เป็นการค้นพบที่สำคัญมาก และได้รับความสนใจน้อยกว่าที่ควร ในฐานข้อมูล CORD-19
- คณะผู้วิจัยระบุว่า การมีระดับน้ำตาลที่สูงขึ้นในเลือดแล้วไปช่วยให้เกิดสภาวะที่เอื้อต่อเชื้อไวรัส ในการเคลือบโปรตีนหนามของมันแล้วผ่านทะลุเข้าระบบภูมิคุ้มกันของปอดได้นั้น เป็นเรื่องที่ไม่เคยทราบชัดกันมาก่อน
- ก่อนหน้านี้ การรักษาโรคโควิด-19 ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องมีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วย แต่ถ้าสมมติฐานจากงานวิจัยนี้เป็นเรื่องถูกต้อง ต่อไป การจัดการระดับน้ำตาลก็จะกลายเป็นกลยุทธ์หลักอีกอย่าง ในการควบคุมระดับอาการของโรค
- จากรายงานที่ว่า ผู้ป่วยโรค covid-19 ที่อยู่ในห้องไอซียูกว่า 80% นั้น มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คณะผู้วิจัยจึงเสนอให้เพิ่มการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วย เพื่อให้มีอาการที่ดีขึ้นด้วย
5. ดังนั้น ทางเลือกหนึ่งในการช่วยรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงสูง ก็คือใช้ยา metformin เมทฟอร์มิน ที่ได้รับการรับรองจาก FDA แล้วให้ใช้ควบคุมระดับน้ำตาลได้
- นอกจากจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยา metformin ยังมีสรรพคุณต้านการอักเสบด้วย จากการที่ไปลดระดับของโปรตีน C-reactive protein ลง
- ยา metformin ยังช่วยในเรื่องการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันการตัวของหลอดเลือด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
ทิ้งท้ายว่า นอกจากกันใช้วิธีวิเคราะห์ด้วย AI แบบ machine learning อันนี้ จากฐานข้อมูลงานวิจัยขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังต้องมีการศึกษาวิจัยในคลินิกอีก เพื่อพิสูจน์ยืนยันว่า ระดับน้ำตาลกลูโคสที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นปัจจัยพื้นฐาน ทำให้เกิดความรุนแรงของโรค covid-19 ขึ้นจริง
ภาพและข้อมูลจาก https://blog.frontiersin.org/2021/07/28/severe-covid-19-elevated-blood-glucose-blue-brain/
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過59萬的網紅Healthy Natural นานา สมุนไพร,也在其Youtube影片中提到,เตือน! ปวดหัวบ่อยๆ อย่าไว้วางใจ ปล่อยนานไป อาจตายไม่รู้ตัว คนเราไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าโรคภัยจะมาเยือนเราเมื่อไหร่ จะรุนแรงหรือหนักแค่ไหน แต่เราจะ...
「ผู้สูงอายุ คือ」的推薦目錄:
- 關於ผู้สูงอายุ คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於ผู้สูงอายุ คือ 在 Facebook 的最佳貼文
- 關於ผู้สูงอายุ คือ 在 อ้ายจง Facebook 的精選貼文
- 關於ผู้สูงอายุ คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的最佳貼文
- 關於ผู้สูงอายุ คือ 在 “สังคมผู้สูงอายุ”เริ่มแล้ว! ประเทศไทยพร้อมแค่ไหน l TNN HEALTH l ... 的評價
- 關於ผู้สูงอายุ คือ 在 คลินิก กายภาพบำบัด109 - วัย ชรา หมาย ถึง วัยสูงอายุ ... - Facebook 的評價
ผู้สูงอายุ คือ 在 Facebook 的最佳貼文
นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. ครับ
ยอดผู้ติดเชื้อแฝง อาจมากถึง 7 ล้านคน เฉพาะกทม. ผู้ติดเชื้อแฝง 1.5 ล้านคน
#ร่วมแรงร่วมใจฝ่ามหันตภัยโควิด
วานนี้ (8 ก.ย.) นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวในรายการ NBT รวมใจสู้ภัยโควิด-19 @ทำเนียบรัฐบาล ตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ขณะนี้ถ้าดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.4 – 1.5 หมื่นรายต่อวัน ขณะที่ปี 63 แค่หลักพันก็เต็มที่ แต่ปัจจุบันแนวโน้มสถานการณ์ของโลกและไทยเป็นขาขึ้นใหม่ เหตุผลมาจาก 2 ปัจจัยคือ โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ากระจายได้รวดเร็วมาก และรุนแรง ตอนนี้เชื้อไปทุกที่ ระบาดในคนใกล้ชิด ในครอบครัว และชุมชน จากการศึกษาของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าการระบาดปัจจุบันสอดคล้องกับที่อู่ฮั่นระบาด ว่าคนที่ไม่อาการและไม่เคยไปตรวจโควิด-19 เมื่อไปตรวจพบว่าเป็นโควิด-19 อีกประมาณ 5-6 เท่าของตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยัน
“ยกตัวอย่างในปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันในกทม.ประมาณ 2.5 แสนคน เอา 6 เท่าคูณ หรืออีกราว 1.5 ล้านคน ซึ่งเรียกว่าติดเชื้อแฝง ไม่เคยไปตรวจ ไม่มีอาการ ไม่ใช่แค่วันละ 4-5 พันคน เหมือนตัวเลขที่เห็นในปัจจุบัน ตอนนี้เลขผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมทะลุไป 1.2 ล้านคน ถ้าเอา 5-6 เท่าคูณ จะมีคนติดเชื้อประมาณ 6-7 ล้านคนที่แฝงอยู่ และสามารถแพร่เชื้อมาให้เราได้ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีการติดเชื้อจากคนใกล้ชิด แม้สนิทแค่ไหนก็ไว้ใจไม่ได้”
นพ.อุดม กล่าวว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่มีข้อมูลชัดเจนว่า การฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการระบาด แต่ในสหรัฐอเมริกา อิสราเอล สิงคโปร์ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 100% ครบสองเข็ม ถึง 60-70% ตอนนี้เขากลับมาติดเชื้อใหม่กันเต็มไปหมด ประชาชนจึงต้องทำความเข้าใจว่าวัคซีนขณะนี้ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ กันได้สัก 50-60% เหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่จะป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง ไม่ให้เข้าโรงพยาบาล เข้าไอซียูไม่เสียชีวิต วัคซีนทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ ประมาณ 90-100% เหมือนกัน
ดังนั้น จึงขอให้ฉีดให้เร็วที่สุด อาการจะไม่รุนแรง และยังเป็นการป้องกันระบบสาธารณสุขไม่ให้รับภาระเกินไป เห็นได้จากประเทศอังกฤษที่มีการติดเชื้อสูง แต่ผู้เสียชีวิตน้อย เพราะเขาฉีดกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ และโรคร่วม เราจึงจะคิดแบบเดิมไม่ได้ จะมานั่งล็อกดาวน์มันก็ไม่ไหว เศรษฐกิจไม่ไหว ต้องยอมรับ ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนหนึ่งเสียหายเป็นแสนล้าน เราต้องมาปรับใจใหม่ จึงเป็นเหตุผลที่ ศบค.ยอมผ่อนปรนทั้งที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นหมื่น
“เราดูอยู่แล้วว่าอย่างไรก็ไม่มีทางลง ขนาดใช้มาตรการเต็มที่ยังลงได้นิดเดียว ดังนั้น เรามาชั่งน้ำหนัก ระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจ ถ้าเข้มเรื่องสุขภาพมากเศรษฐกิจก็เสีย ถ้าปล่อยเศรษฐกิจเสรีเลยสุขภาพก็จะแย่ คนจะตายเยอะ เราก็รับไม่ได้ เราต้องทำให้มีความสมดุล จึงผ่อนปรนโดยมีเงื่อนไขคือ ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด”
นพ.อุดม กล่าวว่า เป้าหมายของการควบคุมโรคโควิด-19 ต้องเปลี่ยนไปจากเดิมที่ต้องทำให้ตัวเลขเป็นศูนย์ ตนบอกเลยไม่มีทางเป็นศูนย์แน่นอน ภายในเดือน ธ.ค.ไม่มีทางเป็นศูนย์แน่นอน แต่เราจะให้มันน้อยลง ปรับตัวอยู่กับมันได้ ให้ดำเนินชีวิตได้ในชีวิตวิถีใหม่ ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ได้ นายกฯระบุว่าต้องการเปิดประเทศให้ได้ โดยการให้คนไทยออกไปใช้ชีวิตได้ และต่างประเทศมาเที่ยวในบ้านของเราได้ คือ เป้าหมายใหม่ของเรา
นพ.อุดม กล่าวยืนยันการได้รับวัคซีนว่า หลังจากนี้เราจะได้วัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่เดิมจะตัดยอดให้เราเดือนละ 5-6 ล้านโดส เดือน ก.ย.เขาเพิ่มให้เรา 7.3 ล้านโดส เดือน ต.ค. 11 ล้านโดส พ.ย. 13 ล้านโดส ธ.ค. 13 ล้านโดส นอกจากนี้ วันที่ 29 ก.ย.จะได้ไฟเซอร์ 2 ล้านโดส ต.ค.อีก 8 ล้านโดส พ.ย. 10 ล้านโดส ธ.ค. 10 ล้านโดส รวม 30 ล้านโดส ดังนั้น 3 เดือนข้างหน้าเราจะมีวัคซีนเดือนละ 20 ล้านโดสเลย เราจึงจะเร่งฉีด ไม่ต้องกังวลศักยภาพการฉีด เราสามารถฉีดวันละ 8-9 แสนโดสสบายๆ
“ยืนยันถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงภายในเดือน ธ.ค.เราจะฉีดวัคซีนสองเข็มได้ตามเป้า มากกว่า 70% ของประชากรแน่นอน และจะฉีดเข็มที่สามได้ด้วย ตอนนี้วัคซีนเพียงพอสำหรับเข็มที่สาม เพราะหลังจากเราติดตามพบว่า วัคซีนทุกตัว ทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ เมื่อฉีดไปแล้ว 3 เดือน ภูมิมันตกทุกตัว ถ้าภูมิมันตกไปมากจะสู้กับเดลต้าไม่ไหว เราต้องสร้างภูมิให้มากขึ้นด้วยการฉีดเข็มที่สาม โดยตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไปเราจะได้เข็มที่สาม เป็นแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ เราวางแผนไว้เรียบร้อย”
ผู้สูงอายุ คือ 在 อ้ายจง Facebook 的精選貼文
จีนเผย "บุคลากรทางการแพทย์-คนทำงานนำเข้าส่งออก-ตรวจคนเข้าเมือง-ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป - คนไปทำงานเรียนต่อนอกจีน" ควรฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิโควิด หลังพบฉีดครบ 2 โดส ภูมิลดใน 6 เดือน
.
ถ้าพูดถึงเรื่องวัคซีนโควิด เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางจีนเองมีเผยแพร่ข้อมูลเรื่องเตรียมฉีดวัคซีน "Booster โดส" ให้กับประชาชนแล้วนะ คือก็มีการยอมรับตรงๆนั่นแหล่ะว่า คนที่ได้รับวัคซีนครบสองโดส โดยเฉพาะวัคซีนเชื้อตาย เช่น Sinovac Sinopharm ภูมิลดลงภายในระยะเวลา 6 เดือน จึงจำเป็นต้องมีเข็มกระตุ้น โดยทางคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ระบุว่า กลุ่มที่ควรจะได้รับ Booster โดส ก่อนเลย ได้แก่
1) กลุ่มคนทำงานศุลกากร ที่เกี่ยวข้องกับขนส่งสินค้านำเข้าส่งออก ตามด่านต่างๆของจีน ทั้งทางอากาศ ทางเรือ ทางรถ และ 2) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
คือ 2 กลุ่มนี้ พบปะกับชาวต่างชาติ และสินค้าที่มาจากต่างประเทศ เพราะตอนนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่มาจากนอกจีน รวมถึงการพบเชื้อโควิดบนสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ จีนจึงเข้มเรื่องนี้มาก
3) กลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ แน่นอนว่า คือเป็นด่านหน้า มีความเสี่ยงโดยตรงที่อาจจะติดเชื้อโควิดได้
4) กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะเมื่อฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว ภูมิไม่ได้ขึ้นสูงเหมือนในกลุ่ม 18-59 ปี และคนกลุ่มนี้ก็มีความเสี่ยงในการมีอาการหนัก หากติดโควิดขึ้นมา จึงควรฉีดกระตุ้นภูมิ
5) กลุ่มที่มีความจำเป็นต้องไปเรียนต่อหรือไปทำงานที่ต่างประเทศ กลุ่มนี้ก็ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นภูมิเช่นกัน
.
สำหรับ Booster โดส ที่คาดว่าจะใช้ในจีน ก็อาจจะมีทั้ง
BNT162b2 ที่โดยทั่วไปรู้จักในนาม Pfizer/BioNTech แต่ในความเห็นของผม อาจจะได้เห็นฉีดให้ชาวต่างชาติในจีนด้วย เพราะตั้งแต่ช่วงเมษายน ผู้เชี่ยวชาญก็มีวิเคราะห์ไว้ว่า ที่จีนควรอนุมัติให้ใช้ตัวนี้ ตามที่ Fosun บริษัทยาจีนทำข้อตกลงร่วมกับ BioNTech ตั้งแต่ปีที่แล้ว 2563 คือเป็นเพราะชาวต่างชาติในจีน อยากฉีดวัคซีนนอกจีนมากกว่า ทั้งนี้ก็ต้องดูตอนใช้จริงๆในจีนอีกทีครับ (โดยส่วนนี้ผมอ้างอิงจากบทความ GlobalTimes สื่อกระบอกเสียงทางการจีนเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่ท่อนหนึ่งระบุ
Many expats living in China have wanted some foreign-made vaccines for easier recognition when they return home. China's approval, if granted, would showcase its caring for foreigners, Feng Duojia, president of the China Vaccine Industry Association, told the Global Times on Sunday)
.
และแน่นอนว่า Booster โดส ก็จะมีวัคซีนเชื้อตายที่จีนใช้เป็นหลักมาตั้งแต่เริ่มพัฒนาวัคซีนโควิดแรกๆด้วย ก็คือ Sinovac และ Sinopharm ซึ่งผู้อำนวยการศูนย์ Development Center for Medical Science and Technology ภายใต้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เผยว่า "ผู้พัฒนาวัคซีนเชื้อตายของจีนทั้งสองรายนี้ กำลังวิจัยเรื่อง Booster โดส โดยในเบื้องต้นพบ ภูมิลดลงจริงหลังฉีดครบสองโดสระยะเวลา 6 เดือน" ตามการรายงานของ GlobalTimes
.
อ้ายจงเล่าเรื่องจาก
https://www.globaltimes.cn/page/202108/1232651.shtml
https://www.globaltimes.cn/page/202108/1232260.shtml
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #วัคซีนโควิด #โควิด #โควิด19 #COVID19
ผู้สูงอายุ คือ 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的最佳貼文
เตือน! ปวดหัวบ่อยๆ อย่าไว้วางใจ ปล่อยนานไป อาจตายไม่รู้ตัว
คนเราไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าโรคภัยจะมาเยือนเราเมื่อไหร่ จะรุนแรงหรือหนักแค่ไหน แต่เราจะรู้เมื่อมันเริ่มลุกลามในร่างกายเรามากขึ้น และส่งผลกระทบการทำงาน สุขภาพ และสังคมยิ่งถ้าเป็นโรคที่ร้ายแรงอย่างโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทและสมองแล้ว ยิ่งมีอันตรายถึงชีวิต และยากที่จะแก้ไขได้ทัน การที่จะรักษาให้หายและกลับมาเป็นปกติก็มีน้อยมาก ยังไงลองสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเองสักนิด อาจจะสามารถป้องกันโรคต่างๆเหล่านี้ได้ค่ะ
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ ให้ความรู้ไว้ว่า โรคหลอดเลือดในสมอง เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยมาก และเป็นปัญหาสาธารณะสุขที่สำคัญ
องค์การอัมพาตโลก เปิดเผยว่า ในแต่ละปีพบประชากรทั่วโลกเสียชีวิต จากโรคหลอดเลือดในสมอง เฉลี่ยประมาณ 6 ล้านคน สำหรับประเทศไทยแล้วพบสถิติของโรคหลอดเลือดสมอง ที่เป็นสาเหตุของความพิการ หรือเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆค่ะ
โดยโรคดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1.โรคหลอดเลือดสมองตีบ ที่เกิดจากความผิดปกติของเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดการตีบหรืออุดตัน สาเหตุมาจาก การที่ผู้ป่วยมีปัจจัยเสี่ยงเช่น เป็นเบาหวาน มีความดันโลหิตสูง บริโภคอาหารที่มีไขมันสูง สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย มีภาวะเลือดข้น โดยสะสมมาเป็นเวลานานจะทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว เกิดการตีบและอุดตัน ทำให้สมองขาดเลือดและเป็นอัมพาตได้ค่ะ
2.โรคหลอดเลือดสมองแตก เกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบาง ร่วมกับภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้บริเวณที่เปราะบางนั้นโป่งพอง หรือที่เรียกว่าโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง ซึ่งถือเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ค่ะ
โดยส่วนใหญ่จะพบมากในผู้สูงอายุ มากกว่าในเด็ก และยังพบว่าผู้หญิงเป็นได้มากกว่าผู้ชาย ซึ่งกลุ่มคนที่มีปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ สูบบุหรี่ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดแดงแข็ง ผู้ที่ใช้สารเสพติด เช่น โคเคน ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุบริเวณศีรษะอย่างรุนแรง ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งโรคดังกล่าวนี้ยังสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้อีกด้วยค่ะ
อาการของโรคคือ เป็นความผิดปกติทางระบบประสาท ที่พบบ่อยที่สุดคือ อาการปวดหัวขั้นรุนแรงที่สุด แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เน้นว่าหากเส้นเลือดยังไม่แตกก็จะยังไม่มีอาการ หรือถ้ามีเพียงเลือดไหลซึมออกมา เด่นชัดคือจะมีอาการปวดศีรษะ จะค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเป็นแบบทันทีทันใด ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง ตามัว ชัก หนังตาตก สับสน หมดสติ ควรรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที เพราะไม่เช่นนั้นผู้ป่วยอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถึงแม้โรคนี้จะไม่สามารถป้องกันได้ แต่สามารถลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคได้ เช่น งดสูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด หรือการอออกแรงหนักบ่อยๆ เป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้สัญญาณเตือนที่พบได้บ่อย และควรระวัง คือ แขนหรือขาอ่อนแรงครึ่งซีก หน้าเบี้ยวครึ่งซีก เหน็บชาตามร่างกายครึ่งซีก พูดไม่ได้ พูดไม่ชัด สำลัก เห็นภาพซ้อน สับสน ซึมลง เวียนศีรษะ ปวดต้นคอ คลื่นไส้อาเจียน เดินเซ ซึ่งอาการที่ว่ามานี้ จะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน หากเจอผู้ป่วยในลักษณะเหล่านี้ พยายามให้นอนราบเพื่อให้เลือดไหลเวียน และไม่ควรป้อนน้ำ ยา หรืออาหาร อาจจะรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ให้เร็วที่สุดก็ได้ค่ะ
แนวทางในการลดความเสี่ยงของโรคเหล่านี้คือ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และเหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด ไขมันสูง ควรทานผักและผลไม้ให้มากๆ ควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ควรตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อหาปัจจัยเสี่ยง ในกรณีผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้ว ต้องได้รับการรักษาและทานยา ต้องทำตามคำแนะนำที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีกค่ะ
เพื่อนๆอย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเองและคนที่เพื่อนๆรักด้วยนะคะ และก็อย่าลืมส่งคลิปนี้ต่อให้เพื่อนๆ หรือคนที่เพื่อนๆ ห่วงใยด้วยคะ..
เพราะความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือการเป็นผู้ให้ ขอให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ร่ำรวยความสุข ถ้วนหน้ากันทุกท่าน ตลอดไปเลยนะคะ..
อย่าลืม! ถ้าคุณชอบโปรดกด like. ถ้าคุณถูกใจโปรด subscribe! เพื่อเป็นกำลังใจ ใหแก่พวกเราด้วยคะ..ขอบคุณค่า..
Subscribe to Healthy Natural นานา สมุนไพร
Youtube : https://goo.gl/urmvNp
Twitter : https://goo.gl/HKZaG4
Facebook : https://goo.gl/urmvNp
Google Plus : https://goo.gl/E1ku0J
pinterest : https://goo.gl/TB7RkC
PLEASE SHARE THIS VIDEO
Share
subscribe (สับตะไคร้) : https://goo.gl/hpKUtI
แชร์บน facebook คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/ZHo4Hc
แชร์บน google + คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/IubJAq
แชร์บน twitter คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/qcwYSU
แชร์บน pinterest คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/aoO5Rw
แชร์บน tumblr คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/54Dzkr
แชร์บน reddit คลิ๊กที่นี่ : https://goo.gl/17Y8PE
ผู้สูงอายุ คือ 在 คลินิก กายภาพบำบัด109 - วัย ชรา หมาย ถึง วัยสูงอายุ ... - Facebook 的推薦與評價
คลินิก กายภาพบำบัด109. วัย ชรา หมาย ถึง ... ประเทศไทยมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ 1. วัยสูงอายุระยะแรก (young old) คือผู้ที่มีอายุ ... ... <看更多>
ผู้สูงอายุ คือ 在 “สังคมผู้สูงอายุ”เริ่มแล้ว! ประเทศไทยพร้อมแค่ไหน l TNN HEALTH l ... 的推薦與評價
คุณผู้ชมรู้หรือไม่ว่าในปี 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทย ได้เข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ โดยสมบูรณ์” ตามหลักเกณฑ์ที่ว่า คือ มี ผู้สูงอายุ หรือ “คนแก่” ... ... <看更多>