เปิดศูนย์ CCC และ CI ชุมชนคลองเตย ลานสเตเดียมท่าเรือฯ
รองรับ 300 เตียง 9 ก.ย.นี้ ภาครัฐ-เอกชน สนับสนุนเต็มกำลัง
.
.
เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ยังอยู่ในช่วงวิกฤติ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดในชุมชนแออัด จึงเร่งสั่งเปิด “ศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชุมชนคลองเตย” หรือ CCC- Community Covid -19 Care Center รักษาผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเขียว และสีเหลืองที่มีอาการไม่รุนแรง จำนวน 300 เตียง พร้อมผนึกทีมบุคคลากรทางการแพทย์ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ หวังเป็นศูนย์ฯ ต้นแบบให้กับชุมชนอื่นๆ ต่อไป โดยส่งมอบพื้นที่ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ลานสเตเดียม การท่าเรือแห่งประเทศไทย
.
.
ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ในนามผู้แทนของประชาชนชาวคลองเตย กล่าวขอบคุณรัฐบาล การท่าเรือแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ที่ทำให้เกิดศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชุมชนคลองเตย เพื่อร่วมกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้คนไทยปลอดภัยจากโรคภัยนี้ได้โดยเร็วต่อไป ด้าน สมพิศ ผอบเพ็ชร ประธานชุมชนแฟลต19-23 ยังได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่ห่วงใยชาวชุมชนคลองเตย เชื่อว่าเมื่อศูนย์ฯ เปิดบริการจะสามารถช่วยลดการแพร่ระบาด และการสูญเสียลดน้อยลงได้
.
.
สำหรับศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชุมชนคลองเตย หรือ CCC- Community Covid -19 Care Center พร้อมเปิดรองรับผู้ป่วยโควิด ในวันที่ 9 กันยายนนี้
.
.
#CCCCommunityCovid19CareCenter #ศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด19 #ชุมชนคลองเตย #ohlalastory
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過159萬的網紅Nisamanee.Nutt,也在其Youtube影片中提到,กดติดตาม นัท นิศามณี ได้ที่ YouTube Nisamanee.Nuttt https://www.youtube.com/channel/UCoDfzfkC8oZNaGPB5_rJ8rA Facebook : https://www.facebook.com/nisam...
「ภาครัฐ」的推薦目錄:
- 關於ภาครัฐ 在 Ohlalastory Facebook 的精選貼文
- 關於ภาครัฐ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ภาครัฐ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文
- 關於ภาครัฐ 在 Nisamanee.Nutt Youtube 的最佳貼文
- 關於ภาครัฐ 在 iT24Hrs Youtube 的精選貼文
- 關於ภาครัฐ 在 Ceemeagain Youtube 的精選貼文
- 關於ภาครัฐ 在 จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ | Bangkok - Facebook 的評價
ภาครัฐ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
สรุปประเด็นสำคัญจากงาน Thailand Focus 2021 /โดย ลงทุนแมน
ผู้นำภาครัฐและเอกชน มองและปรับตัวอย่างไร ในยุคหลังโควิด
วันนี้ทาง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้จัดงาน Thailand Focus 2021 ที่จะมาพูดคุยกันในเรื่อง “Thriving in the Next Normal” ที่จะครอบคลุมตั้งแต่ประเด็นเกี่ยวกับ การรับมือกับสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา, การปรับตัวในช่วงหลังโควิด ไปจนถึงความสำคัญของการทำธุรกิจแบบยั่งยืน
โดยมีแขกรับเชิญ จากทางฝั่งภาครัฐ และนักธุรกิจแนวหน้าของเมืองไทย ที่จะมาแบ่งปันมุมมอง, ประสบการณ์ และการปรับตัว เพื่อรองรับ Next Normal ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะแบ่งหัวข้อย่อย ออกเป็น 6 หัวข้อด้วยกัน
แล้วมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ? ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
1. หัวข้อ Shaping Thailand’s Readiness for Post COVID-19 Economic Opportunities
โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โดยกล่าวถึงการสร้างความพร้อมประเทศไทย สู่โอกาสทางเศรษฐกิจหลังโควิด 19
สำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทางรัฐบาลมีแผนที่จะสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจหลายด้าน เช่น
- เดินหน้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ถนน, ทางรถไฟ, การบิน และพลังงานสะอาด
- ลดก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และออกพันธบัตรที่สนับสนุนการเติบโตแบบยั่งยืน
- สนับสนุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัล, สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ และชีวเคมี
- สถานที่สำหรับการระดมทุน ที่โปร่งใส เท่าเทียม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ซึ่ง LiVE Platformคือหนึ่งในโปรเจกต์ที่ประสบความสำเร็จมาก ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเป็นตัวกลางที่จะช่วยให้ SME และ Startup เข้าถึงแหล่งเงินทุน
2. หัวข้อ From Resiliency to Recovery and Beyond : Central Bank Policies for an Uncertain World
โดย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจไว้ 3 ประเด็น
1) ภาพรวมเศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวจากพิษโควิดได้ช้า และไม่สม่ำเสมอ เพราะว่าภาคการท่องเที่ยว ที่คิดเป็น 11% ของ GDP มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าภาคเศรษฐกิจอื่น รวมถึงภาคการบริการอื่น ๆ ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
อีกทั้งการระบาดของโควิดระลอก 3 และการกระจายวัคซีนที่ช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีทุนสำรองระหว่างประเทศ อยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในโลก ในขณะที่หนี้ต่างประเทศ ยังอยู่ในระดับต่ำ
2) สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อวิกฤติ
ซึ่งเน้นใช้วิธีที่ยืดหยุ่นและปฏิบัติได้จริง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
3) สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะดำเนินการต่อไปในอนาคต
ในระยะสั้น ทาง ธปท. ต้องการผลักดันให้ธนาคาร หันมาใช้มาตรการปรับโครงสร้างหนี้กันมากขึ้น โดย ได้อำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ธนาคารหันมาใช้มาตรการนี้
ส่วนในระยะยาว ทาง ธปท. อยากให้โลกหลังโควิด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งประเทศไทย ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวให้เห็นกันบ้างแล้ว เรื่องของความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
ทาง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เริ่มมีการจัดอันดับบริษัทที่ทำธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG Index
3. หัวข้อ Living in Next Normal : COVID-19 Lessons Learned and Future Directions
ตอนนี้การระบาดในประเทศไทยได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว การติดเชื้อของผู้คนชะลอตัวลง และอัตราการเสียชีวิต ก็เริ่มเห็นสัญญาณการลดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด จากการกระจายวัคซีน
ตอนนี้ประมาณ 30% ของคนไทยได้รับวัคซีนเข็มแรก และประมาณ 10% ได้รับเข็มสองไปเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งคาดว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ จะสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 4 เดือนข้างหน้า
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยปีที่แล้วนั้น อยู่ในจุดที่ต่ำแล้ว
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าที่แข็งแกร่ง
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำได้ดีกว่าคาด ใน 1-2 ไตรมาสแรกของปีนี้ การส่งออกเป็นตัวช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้สามารถเติบโตได้ 7.5% ในช่วงครึ่งปีแรก มากกว่าที่ตลาดวิเคราะห์ไว้ที่ 6.4%
โมเมนตัมการเติบโตน่าจะแข็งแกร่งในปีหน้า ด้วยโครงการ การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
นักลงทุนควรมองข้ามสถานการณ์โควิด ซึ่งรัฐบาลคาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเต็มที่ภายในปีหน้า
และอีกปัจจัยหลักในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คือ การที่คนทั่วโลกได้รับวัคซีนเร็วที่สุด ไทยจึงสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เหมือนเคย
4. หัวข้อ How Thai Business Adapt to Current Crisis
ระบบธนาคารต้องปรับตัวอย่างมาก โดยให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความปลอดภัยต่อบุคลากรและลูกค้า ซึ่งธนาคารบางสาขาถูกปิดทำการชั่วคราว และให้บุคลากร Work From Home (WFH)
จึงใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการทำงาน และได้เพิ่มทางเลือกการทำธุรกรรมใหม่ เช่น Website, E-Marketplace และ Social Media เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน
รวมถึงการให้กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียน ให้ทุกธุรกิจก้าวข้ามผ่านปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้
สำหรับ SCG ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งทางบริษัทก็ได้มีการปรับตัวมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่การปรับให้พนักงานมาทำงานแบบ WFH หรือการแบ่งพนักงานโรงงาน ออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อลดความเสี่ยงการระบาด
การปรับผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น โดยการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค อย่างเช่น การ WFH ทำให้คนหันมาปรับปรุงบ้านมากขึ้น ก็ได้มีการบริการด้านการปรับปรุงตกแต่งบ้านเพิ่มเข้าไปด้วย
ส่วนในอนาคต ทาง SCG ก็พยายามเน้นในเรื่องของนวัตกรรมให้มากขึ้น และจะหันไปพัฒนาด้านอีคอมเมิร์ซสำหรับธุรกิจก่อสร้าง โดยจะยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วนกลุ่มธุรกิจในเครือ CRC นั้นได้รับผลกระทบหลายภาคส่วน ตั้งแต่ภาคการโรงแรม, รีเทล และอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทก็ได้เริ่มปรับตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 2017 ที่เริ่มให้ความสำคัญกับธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น โดยมีการพัฒนาส่วนของ Omni Channel ที่เชื่อมประสบการณ์ช็อปปิงออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ การจะฝ่าวิกฤติไปได้ หลายฝ่ายต้องช่วยกัน ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
อย่างตัวซัปพลายเออร์ของทางเซ็นทรัล รีเทลเอง ก็ต้องไปจับมือกับธนาคารเพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง
ซึ่งเชื่อว่าหลังโควิด ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งมากขึ้น คือ สุขภาพ, ประสบการณ์ และความยั่งยืน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเริ่มมีการรีเซตกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เข้ากับธีมเหล่านี้มากขึ้น
5. หัวข้อ Thailand Innovative Business
- aCommerce นั้นอยากที่จะเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในอาเซียน
โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการ ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ตั้งแต่การจัดการ การตลาด ไปถึงโลจิสติกส์ แก่ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ เช่น ร้านค้า
ซึ่งการที่เราจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ เราต้องมีวิสัยทัศน์ที่ไกล และมีทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง
บริษัทควรสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติบโต และเป็นที่ต้องการของประชากรในประเทศนั้น
รวมถึงต้องมีการตัดสินใจให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างเด็ดขาด
ที่สำคัญในประเทศไทย มีบริษัทชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซ เข้ามาลงทุนเยอะมาก เช่น JD, Lazada
ทำให้บริษัทสามารถสร้างพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้ได้
- NR Instant Produce คือบริษัทอาหาร ที่ผลิตอาหารและส่วนผสม ที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ
การผลิตอาหารของบริษัทนั้น ได้ลดการปล่อยคาร์บอนฯ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ซึ่งบริษัทเน้นย้ำในแนวคิด ESG ที่ส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาลที่ดี
บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินการได้ เพราะมีทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง
มีผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน และเรามีนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากคู่แข่ง
- Pomelo Fashion เป็นแพลตฟอร์มแฟชั่นดิจิทัล ชั้นนำในอาเซียน
บริษัทให้บริการด้าน Omni Channel สำหรับลูกค้า และมีสินค้าให้เลือกมากกว่า 37,000 รายการ
กุญแจสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ คือ เรารู้ว่าทุกภาคส่วน จะต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล ซึ่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ก็คือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่จะเติบโตได้อีกมาก
โดยการประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ เราต้องเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน
ถ้าเราเรียนรู้ข้อผิดพลาดของเขาได้ เราจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ซึ่งเมืองไทยมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่สำคัญเยอะมาก เช่น บริษัทเซ็นทรัล ที่มาเป็นพาร์ตเนอร์กับทางบริษัท
การมีพาร์ตเนอร์ดี ๆ จะทำให้เราเรียนรู้ระบบจากเขาได้
ทั้งนี้ ประเทศไทยควรเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนา โดยสอนเด็กรุ่นใหม่ เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล เพราะเมืองไทยยังขาดคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที ซึ่งส่วนนี้อาจทำให้เราสู้ประเทศคู่แข่งไม่ได้
- YGGDrazil Group เป็นผู้ให้บริการเอฟเฟกต์ภาพเสมือนจริงแก่ผู้ให้บริการเกมออนไลน์
และบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับ Virtual Production หรือการผสมกันระหว่าง Live Footage และภาพ Digital เพื่อสร้างคอนเทนต์แบบเรียลไทม์
สำหรับองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม คือ การมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และมีพันธกิจที่แข็งแกร่ง
การสื่อสารระหว่างผู้บริหารและผู้ร่วมทุน เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ
ซึ่งบริษัทควรสร้างวัฒนธรรมของคนในองค์กร ที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ หากต้องการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมภายในประเทศ
ภาครัฐ ควรเพิ่มมาตรการช่วยเหลือเหล่า SME และ Startup ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
และอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ
6. หัวข้อ Accelerating Sustainable Investing in Thai Capital Market
ในมุมมองของนักลงทุนสถาบัน อย่าง กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ESG นั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกการลงทุน แต่ก็ต้องคำนึงถึงทั้งด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน
บางครั้งบริษัทที่มีคะแนน ESG ดี ก็ไม่ได้หมายความว่า จะสร้างผลตอบแทนได้ดี
ดังนั้น เราต้องเน้นในเรื่องการเข้าไปทำ Due Diligence อย่างละเอียด และคอยติดตามว่าบริษัทนั้น ได้ทำ ESG อย่างจริงจังแค่ไหน
ส่วนในมุมของธุรกิจและองค์กรเอง ในเวลานี้ก็ได้มีการปรับตัวเข้าหา ESG กันมากขึ้น
อย่าง PTTGC ที่เป็นบริษัทด้านเคมีภัณฑ์ ที่ได้ปรับมาใช้แนวทาง ESG และกำลัง Perform ได้ดี
ก็ได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยคาร์บอนฯ ให้เหลือ 0% ภายในปี 2050 โดยเน้นที่การปรับกลยุทธ์ทั้งระบบ รวมไปถึงการกระจายการลงทุน ไปยังผลิตภัณฑ์ที่ผลิตคาร์บอนฯ ในปริมาณต่ำ
สำหรับธุรกิจธนาคาร ESG นั้นก็หมายถึง จรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจด้วย
แน่นอนว่าการทำธุรกิจต้องคำนึงถึงทั้งสองฝ่าย คือผู้ถือหุ้น และลูกค้า
ซึ่งทาง TTB ก็ได้เน้นในเรื่อง Financial Well Being หรือ การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้า โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาชีวิตด้านการเงินของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ การทำ ESG Report เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของความโปร่งใส หรือการบอกให้คนรู้
แต่การแบ่งปันข้อมูลจะช่วยให้บริษัทอื่น ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาไปพร้อม ๆ กันด้วย
ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ใหม่ และหลายฝ่ายยังต้องปรับปรุงไปพร้อม ๆ กัน
ส่วนอนาคตของ ESG ยังมีแนวโน้มไปในทางที่ดี และควรที่จะทำให้อยู่ในกระบวนการดำเนินงานของบริษัทจริง ๆ เพราะการทำ ESG ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ยังทำให้การทำงานมีความหมาย
สร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น และยังทำให้โลกดีขึ้นด้วย
และนี่ก็คือการสรุปเนื้อหาจากงาน Thailand Focus 2021 ที่ได้พูดคุยกันในเรื่อง “Thriving in the Next Normal” ซึ่งเราก็น่าจะได้รับข้อมูล และมุมมองที่น่าสนใจจาก ผู้นำภาครัฐและเอกชน หลายองค์กร โดยเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด เตรียมพร้อมปรับตัวในช่วงหลังโควิด และได้แนวคิดในการทำธุรกิจได้แบบยั่งยืน ในอนาคต..
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ดู Presentation และชม Clip ย้อนหลังได้ที่ www.set.or.th/thailandfocus
ภาครัฐ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文
รายงานข่าวฉบับนี้ค่อนข้างดีนะ ที่สรุปความรู้เกี่ยวกับเรื่อง "อันตรายจากสารเคมี" ที่เกิดขึ้นจากกรณีไฟไหม้ที่โรงงานสารเคมี ที่กิ่งแก้ว จ. สมุทรปราการ ลองศึกษากันดูนะครับ
------
(รายงานข่าว) ไฟไหม้ ‘โรงงานกิ่งแก้ว’ 'สารเคมี' ตัวไหน น่ากลัวกว่าที่เห็น
ช่วงเวลาตี 3.10 นาที ขณะที่ทุกคนกำลังหลับไหล พลันก็มีแสงสว่างวาบแล้วตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว กระจกหน้าต่างแตกกระจาย จากเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 ม.15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งม้วนตัวขึ้นสูงสู่ท้องฟ้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าควบคุมในพื้นที่เวลา 06.00 น.ต่อมาเวลา 09.00 น. สถานการณ์ก็รุนแรงขึ้น เกิดระเบิดขึ้นอีกหลายครั้งจากสารเคมีในโรงงานที่เกิดเหตุ
#สารพัดสารพิษจากโรงงาน
หมิงตี้ เคมีคอล เป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก รศ. ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานเสวนา ‘ถอดบทเรียน ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว’ ที่ Mahidol Science Café จัดขึ้นเพื่อเป็นบทเรียนว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น สร้างผลกระทบต่อสุขภาพผู้คนอย่างไร
"โพลีสไตรีน (Polystyrene,PS) คือ พลาสติก ที่ผลิตขึ้นมาจาก สไตรินโมโนเมอร์ (Styrene, Monomer) สารอินทรีย์ไวไฟและมี เบนซีน (C6H6) ไฮโดรคาร์บอนที่อยู่ในรูปวงแหวนหกเหลี่ยม เป็นคาร์ซิโนเจน สารก่อมะเร็งในระยะยาว แล้วใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา คือ เปอร์ออกไซด์ อัดแก๊สให้โฟมมันพองขึ้นคงสภาพไว้
สิ่งที่เห็นคือ วัตถุไวไฟ เพนเทน 60-70 ตัน สไตรีนโมโนเมอร์ กว่า 1.6 พันตัน ตั้งแต่ตีสามจนถึงช่วงเย็นก็ยังดับไม่ได้ เพราะมีเชื้อไฟและออกซิเจน ที่หนักสุดคือ VOCs สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds) ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์มากกว่า CO (คาร์บอนมอนอกไซด์) เยอะมาก
โรงงานที่ผลิตพวกนี้ควรต้องมีระบบการจัดการที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ระเหยออกมา เพราะมันส่งผลกระทบต่อโรงงานและชุมชนรอบข้าง หน้ากากที่ใช้ก็ต้องเป็นหน้ากากป้องกัน VOCs สารอินทรีย์ระเหยได้เท่านั้น"
ในเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ เรามองเห็นควันไฟสีดำและสีเทา รศ. นพ.สัมมน โฉมฉาย ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม ศูนย์พิษวิทยาศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกว่า การเผาไหม้มีทั้งสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์
"ในควันไฟจะมีคาร์บอนมอนอกไซด์, คาร์บอนไดออกไซด์ ในอาคารสมัยใหม่บางมีวัสดุที่มีไนโตรเจนเป็นสารประกอบ เมื่อไฟไหม้ก็จะเกิดไซยาไนด์ขึ้นมา แต่โรงงานนี้มี สไตรีน (Styrene) มี PAHs โพลีไซคลิกอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) เกิดขึ้น
สไตริน ทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจและผิวหนัง ดวงตา คอ จมูก ปอด แล้วแต่ความเข้มข้น สถานที่ระยะใกล้ 5-7 กิโลเมตร คนในชุมชนจะรู้สึกระคายเคืองทางเดินหายใจ แสบตา ตาแดง แสบจมูก ไอ เจ็บคอ เสียงแหบ คนที่โดนเยอะๆ อาจหมดสติได้ มีพิษต่อระบบประสาท
ส่วน PAHs ทำให้ระคายเคืองทางเดินหายใจ แสบ ไอ จาม อุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ถ้าเป็นมากๆ ทำให้ปอดอักเสบรุนแรง การหายใจล้มเหลว ส่วน VOCs มีฤทธิ์คล้ายๆ กัน ระคายเคือง มีพิษต่อไตและตับ
ที่สำคัญคือ คนที่จะเข้าไปในที่เกิดเหตุ ต้องรู้ว่าจะเจอกับสารอะไร ต้องใช้เครื่องมือชนิดไหน ถ้าสารมีพิษสูง แล้วสถานที่นั้นมีออกซิเจนต่ำ ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเองคือ PPE ที่มีถังออกซิเจนเข้าไปด้วย แต่ถ้าเป็นสารระเหย ก็ต้องใช้หน้ากากที่ป้องกันสารระเหยได้"
เมื่อควันไฟที่ไหม้พัดสารเคมีขึ้นบนท้องฟ้า ลมที่มีอยู่ในอากาศ ก็พัดพากระจายออกไปทุกทิศทุกทาง รศ. ดร.สราวุธ เทพานนท์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมสุขาภิบาล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สังเกตทิศทางลมแล้วเห็นว่า อันตรายไม่ได้มีเพียงคนในชุมชนเท่านั้น ยังมีผลกระทบในวงกว้าง
"เท่าที่สังเกตการเคลื่อนตัวของมวลอากาศ ระยะแรกเคลื่อนจากทิศตะวันตกไปตะวันออก ระยะต่อมามีลมจากทางใต้พัดไปทางเหนือ ทิศที่น่าห่วงคือทิศตะวันออกและทิศเหนือ
ส่วนอันตรายที่เกิดขึ้นนั้นได้แก่ 1)ความเป็นพิษของสารเคมี 2)อันตรายจากความร้อน และระเบิด สารพิษไม่ได้แพร่กระจายเป็นวงกลม แต่มันกระจายไปตามทิศทางลม ถ้าระดับความเข้มข้นของสไตรินอยู่ที่ 100 ppm จะอันตรายมาก มีพิษเฉียบพลัน แต่ถ้าอยู่ในระดับ 0.06 ppm ต่อเนื่อง 1-2 วันก็อันตราย WHO องค์การอนามัยโลกบอกว่าสไตรินในอากาศ ควรมีระดับต่ำกว่าที่ได้กลิ่นคือ 0.016 ppm ซึ่งตอนนี้เกินมาตรฐาน"
#การป้องกันระยะยาว
ดร.กิติกร เสนอว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องร่วมมือพูดคุยกันอย่างจริงจังให้มากขึ้น
"ประเด็นแรก เรื่องนี้เกิดขึ้นนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม แม้จะบอกว่าโรงงานอยู่มาก่อนชุมชน แต่มาตรฐานการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม การตรวจตราโรงงาน หรือแผนที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ ไม่ใช่แค่อพยพหนีไฟ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อชุมชนมีรัศมีกว้างไกลมาก ต้องมีแผนเกี่ยวข้องกับชุมชน ชุมชนต้องเข้ามามีส่วนร่วม และมีความรู้เพิ่มเติม ต้องรู้จักสไตริน และรู้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะทำยังไง
ประเด็นที่สอง เรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น VOCs ที่กระจายไป ถ้าเจอความชื้นหรือฝน มันจะตกลงมาหมดเลย มีผลต่อการเกษตร พืชผล ถ้าลงพื้นดินซึมสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จะกู้สถานการณ์หรือจัดการยังไง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเยียวยาหรือแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านเมื่อกลับไปอยู่ในชุมชนแล้วมีความมั่นใจได้ว่า สิ่งเหล่านี้จะไม่หลงเหลืออยู่ในธรรมชาติสิ่งแวดล้อมหรือไม่"
ส่วน ดร.สราวุฒิ มองว่า เราต้องมองกว้างกว่านั้น ไม่ใช่มองอะไรมิติเดียว
"ตอนนี้เรามองแค่การหายใจ ทั้งที่ความจริงแล้ว มันตกลงมาในน้ำในดิน ภาครัฐ ควรมีการจัดการไม่ใช่เพียงแค่ระดับอากาศ อย่าง เชอโนบิล มองแต่อากาศ แต่จริงๆ แล้วมันลงไปอยู่ในดิน, ในน้ำ, ในนมวัว ในส่วนของกฎหมายโรงงานก็ต้องมีการคาดการณ์เหตุการณ์เลวร้ายขั้นสุดที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะมีการจัดการหรือป้องกันยังไง ยิ่งเป็นโรงงานเคมี ยิ่งต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น
ถึงเวลาที่ควรจะให้ความสำคัญ ให้ความรู้ การจัดการกับโรงงานและสถานการณ์แบบนี้ให้มากขึ้น หรือถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นก็ควรมีการเซ็ทเป็นวอร์รูม (War Room) เป็นจุดสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องบอกความเสี่ยงให้ทุกคนได้รับรู้อย่างชัดเจน เพราะว่าทุกภาคส่วนต้องการทราบข้อมูล อย่างเหตุการณ์ที่มาบตาพุด BST ก็ไม่มีวอร์รูม ไม่มี Press Release ออกมา กว่าจะมีข่าวมันเตลิดไปอีกแบบหนึ่งแล้ว เราควรมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการต่อไป"
ทางด้าน นพ.สัมมน มองว่า ชุมชนควรมีส่วนร่วมกับโรงงาน มีผู้นำชุมชนเป็นคนเชื่อมต่อสื่อสารไม่ให้คนตื่นตระหนก
"คนงานต้องรู้เรื่องความเสี่ยง มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล การปฏิบัติตัว มีการประเมินความเสี่ยงที่ Worst Case กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ ควรมีบรรจุอยู่ในผู้ประกอบการและชุมชนด้วย แม้กระทั่งเด็กและเยาวชนก็ต้องรู้"
#การดูแลตัวเอง
"ในกรณีนี้ ไฟไหม้สารเคมี การดับต้องใช้โฟมอย่างเดียว แล้วต้องดับให้ถูกจุด อีกทั้งต้องใช้น้ำเลี้ยงความร้อนไว้ด้วย" ดร.กิติกร กล่าวและบอกว่า
"หลายบริษัทที่มีโฟมดับไฟ เราก็น่าจะหยิบยืมกันได้ในช่วงฉุกเฉิน ส่วนการป้องกันตัวเอง ถ้าอยู่ใกล้แหล่งเกิดเหตุ อันดับแรกให้อยู่ใต้ลมไว้ ถ้าอยู่ในรัศมีใกล้ๆ ก็ต้องอพยพอย่างเดียว แล้วตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนมอนิเตอร์ทิศทางลม เพื่อจะบอกได้ว่าสารพิษนี้แพร่กระจายไปถึงไหนแล้ว มีความเข้มข้นเท่าไร และไม่มีมาตรฐานในการรายงานทุกชั่วโมง อย่างฝุ่นควันพิษ PM2.5 ยังมีรายงานแบบเรียลไทม์เลย"
ส่วน นพ.สัมมน ได้แนะนำการดูแลตัวเองในระยะสั้นว่า ถ้าเป็นไปได้ ให้อยู่แต่ในอาคาร
"ถ้าอยู่ในอาคาร ให้ปิดกระจก เปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดเครื่องกรองอากาศ ยิ่งเครื่องกรองที่มีไส้กรองเป็นชาโคล มีหลักฐานว่ามันช่วยลด VOCs ในอาคารได้บ้าง ส่วนการดูแลตัวเองหรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คนที่มีอาการระคายเคืองจมูก อาจจะรับประทานยาแก้แพ้ หรือล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เอาพวกอนุภาคฝุ่นที่ทำให้เกิดการอักเสบออกมา
ถ้าระคายเคืองตา ก็ล้างตาในน้ำสะอาด อยากจะเตือนสำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ๆ มันจะดูดซับสารต่างๆ ที่ระคายเคือง ดีที่สุดคือถอดคอนแทคเลนส์ แล้วล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 15 นาที ส่วนผิวหนัง หากได้รับการสัมผัสเยอะๆ ทำให้แสบระคายเคืองผิวหนัง เป็นผื่นได้ แนะนำให้ล้างหรืออาบน้ำด้วยสบู่
ถ้าจำเป็นจริงๆ อาจต้องใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ทา หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ศูนย์พิษวิทยา 24 ชั่วโมงทั้งของโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลรามาธิบดี ส่วนในระยะยาว ควรให้ความรู้เรื่องสารพิษแก่บุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น เพราะเราเป็นประเทศอุตสาหกรรมเหตุการณ์อย่างนี้อาจเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ"
ภาครัฐ 在 Nisamanee.Nutt Youtube 的最佳貼文
กดติดตาม นัท นิศามณี ได้ที่ YouTube Nisamanee.Nuttt https://www.youtube.com/channel/UCoDfzfkC8oZNaGPB5_rJ8rA
Facebook : https://www.facebook.com/nisamanee.lertvorapong
https://www.facebook.com/Nisamaneenutt/
Instagram : https://www.instagram.com/nisamanee_nutt/?hl=en
ภาครัฐ 在 iT24Hrs Youtube 的精選貼文
ในยุคที่ทุกคนรูดง่ายจ่ายสบาย หน่วยงานภาครัฐร่วมกับธนาคารกรุงไทยก็ได้ออกนโยบายวิธีรับจ่ายเงินใหม่ เพื่อให้ทันกับประชาชนผู้ใช้ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อความโปร่งใส ห้ามพลาดคลิปนี้!
ติดตามรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
facebook.com/it24hrs
twitter.com/panraphee
twitter.com/it24hrs
IG: panraphee
ภาครัฐ 在 Ceemeagain Youtube 的精選貼文
Please Subscribe:
http://Youtube.com/chatpawee
http://Facebook.com/chatpawee
http://Twitter.com/ceemeagain
http://Google.com/+ceemeagainchatpawee
ติดต่อโฆษณากับรายการ : Sociallab.co.ltd 091-819-7925
--------------------------------------------------
ภาครัฐ 在 จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ | Bangkok - Facebook 的推薦與評價
วิดีโอนี้จัดทำขึ้นเพื่อบรรยายการเสนอราคาด้วยวิธี e-bidding ผ่านระบบ e-GP (ระยะที่ 5) สำหรับผู้ค้ากับภาครัฐ วันที่ 24 ... <看更多>