ฟีลนี้จริงๆ ของจ่าอีกนิดจะจบละ เข้าช่วงท้ายของเกมละ
แต่ให้ลองนึกฟีล เรากำลังขนของขึ้นเขาสูงชัน ปีนบันได ไต่ผา โรยตัว
อุปกรณ์กำลังจะหมด เส้นทางยังอีกไกล พายุหิมะแม่งถล่มจนทุกอย่างขาวโพลนไปหมด
ไอ้พวกเหี้ย bt ก็ใกล้เข้ามา แต่ตรวหน้าเราเห็นแสงไฟสีฟ้าสองจุด
บอกว่ามีzip line ที่มีคนมาทำไว้ให้ น้ำตาแม่งจิไหล
มันเหมือนอยู่กลางทะเลทรายแล้วเห็นโอเอซิส
เหมือนอยู่กลางทะเลแล้วเห็นแสงประภาคารจริงๆ
ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ อุปกรณ์ 2 ชิ้นแรกที่ใช้งานคือ
-ไม้ (Stick) ใช้เพื่อปัดเป่าขับไล่อันตรายให้พ้นตัว
และ
-เชือก (Strand) ใช้เพื่อผูก เชื่อมของต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน
.
ขอต้อนรับสู่โลกที่ล่มสลาย
ขอต้อนรับสู่สังคมมนุษย์ที่แตกแยกออกจากกัน
ขอต้อนรับสู่ สหนครอเมริกา
ขอต้อนรับสู่ Death Stranding
.
จากผู้กำกับเกมขั้นเทพ ฮิเดโอะ โคจิม่า งานครั้งแรกหลังพ้นบ่วงของบริษัท โคนามิ
ก้าวแรก ก้าวใหม่ ที่ได้รับอิสระเต็มที่จะเป็นยังไง
ขอเชิญอ่านกันได้
และเช่นเดิม
.
#ยาวหน่อยแต่ถ้าคุณชอบผมก็ดีใจนะ
.
////////////////////////
.
==เนื้อเรื่อง==
.
ในโลกที่ล่มสลายจากเหตุการณ์ประหลาดที่ชื่อว่า Death Stranding เหล่าคนตาย (BT) ล่วงล้ำมาในโลกคนเป็น
ปรากฎการณ์ฝนเร่งเวลา (Time Fall) เกิดขึ้นทุกหนระแหง
มนุษย์ต่างอยู่ในเมืองใต้ดินเล็กๆ กระจัดกระจาย ไม่ข้องเกี่ยวกัน
.
เรารับบทเป็น แซม บริดจ์ พอร์ตเตอร์
นักส่งของจากองค์กร “บริดจ์” ภารกิจคือส่งของตามที่ต่างๆ และเชื่อมต่อเมืองที่กระจัดกระจายผ่านไคโรเน็ตเวิร์คเข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ UCA , United City of America
(สหนครอเมริกา)
จงเดินทางจากตะวันออกสู่ตะวันตก แล้วรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น พร้อมทั้งช่วยประธานาธิปดี ที่โดนจับอยู่ออกมา
.
การตามหาเบื้องหลังปรากฎการณ์ Death Stranding ที่ฉีกสังคมมนุษย์ออกเป็นเสี่ยงๆ
.
และอย่าลืม ... เอาพิซซ่ากับชุดคอสเพลย์ไปส่ง ระหว่างทางด้วยนะ ....
.
เนื้อเรื่องเปิดมาแบบนี้
.
เป็นโลกทัศน์ (World Set) โลกหลังปรากฎการณ์ โลกาวินาศ (Apocalypse) เมื่อมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม เลือกที่จะอยู่กันอย่างโดดเดี่ยว
.
โลกของเกม Death Stranding แท้จริงคือการสะท้อนสังคมที่เกิดขึ้นในสังคมเมืองใหญ่ ณ ตอนนี้
.
ที่ทุกคนเลือกจะอยู่กันคนเดียวแตกแยก อยู่ในบ้านเดี่ยว หรือห้องในคอนโด มีความสัมพันธ์กันอย่างหลวมๆ ไม่สุงสิงใคร
มนุษย์ที่มีปฎิสัมพันธ์ด้วยอาจจะมีเพียงคนส่งของ จากการสั่ง Grab Food หรือตอนกดสินค้าจาก Lazada
.
มันคือการเล่นกันความเหงาโดยแท้ ที่ทุกการเดินทางเราจะผ่านดินแดนรกร้างว่างเปล่า เล่นกับความเหงาภายในใจจิตใจผู้เล่น
.
ซึ่งการเล่าเรื่อง ที่กระแทกไปยังจิตใจผู้เล่นแบบนี้นานๆ ทีเราจะเจอซักครั้ง
การเล่าเรื่องที่เป็นเกมกึ่งหนัง อันเป็นแบบเฉพาะของ โคจิม่า
.
==Gameplay==
.
ต้องแบ่งเป็นสองหัวข้อ
.
1. การส่งของ
.
รูปแบบการเล่น...ครับ อย่างที่เข้าใจเลย มันคือการเดินส่งของจากจุด A ไปจุด B ไปรษณีย์ไทย Simulator
.
แต่ความลุ่มลึกคือ การบริหารสินค้า
การจัดเตรียมอุปกรณ์ ว่าเราจะไปเพียงพอไหม? หนักไปไหม? ระหว่างทางมีภัยอันตรายอะไรไหม? เอ๋ จะต้องผ่านรัง Mule (ผู้ที่คอยจะแย่งชิงของเรา) หรือจะเจอ BT ลากไปแดกไหม?
เส้นทางที่เลือก จะเดินสะดวกไหม? ถ้าวิ่งไป แล้วเจอโขดหิน ก็ทำให้เราล้ม ของเสียหายได้
.
การวางแผนถือเป็นเรื่องสำคัญ
.
ตระเตรียมยานพาหนะ หรืออุปกรณ์ก่อสร้าง ที่ทำได้ตั้งแต่สร้างสะพาน หอสังเกตุการณ์ยาวไปถึง Zip Line
ความยากลำบากในการเชื่อมโลกไว้ด้วยกันนี่ล่ะ ที่กลายเป็นทั้งความเหนื่อยล้าในจิตใจ และปิติยินดีเมื่อถึงเป้าหมาย
.
อารมณ์เดียวกับ Series Dark Soul ที่ใช้ความยากเล่นกับจิตใจผู้เล่น ทุกครั้งที่ปราบบอสได้ เราจะรู้สึกถึงความสำเร็จ
“เยส มาธ่าฟัคขะ!! กูชนะแล้ว!”
เช่นเดียวกัน เราแทบจะกู่ร้อง "เยสมาธ่าฟัคขะ!!!" เมื่อถึงที่หมายซักที
.
แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น ด้วยความตกระกำลำบากนี้ กลับมีแสงเล็กๆ ที่สาดส่องในความมืด
ครับ เกมนี้คือเกม Online ที่เราไม่เจอผู้เล่นอื่นเลย
แต่...
.
อุปกรณ์ ทุกชิ้น ที่เราสร้าง มีโอกาสไปโผล่ใน World การเล่นคนอื่น ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น อุปกรณ์คนอื่นก็เข้ามาโผล่ในโลกการเล่นของเราเช่นกัน
ตราบใดที่พื้นที่นั้นเข้าระบบ ไคโรเน็ตเวิร์ค
.
เราขอบคุณทุกครั้ง เมื่อเห็นคนตั้งเสาชาร์ตพลังงานในตำแหน่งที่แบตอุปกรณ์เราใกล้หมด
เราขอบคุณทุกครั้ง ที่มีคนตั้งสะพานข้ามหุบเหวหรือแม่น้ำ ที่ทำให้การเดินทางที่เเทบเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้
.
เมื่อเราร่วมมือกัน เราสร้างถนนทางหลวงที่เชื่อมต่อทุกคนไว้ด้วยกัน
เมื่อเราร่วมมือกัน เราตั้งระบบ Zip Line ทั่วทั้งภูเขา ไม่ต้องเดินผ่านเขตภูเขาหิมะอันโหดร้าย
สร้างระบบที่เชื่อมโยงทุกคนไว้ด้วยกัน
.
เมื่อเรารู้สึกขอบคุณ เราย่อมสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ เพื่อภาวนาให้คนอื่นที่มาใช้ต่อจากเราใช้ชีวิตง่ายขึ้น
เมื่อมีคนใช้งานของๆ เรา ก็จะมีข้อความแสดงขึ้น กด Like ให้
เรารู้สึกปิติยินดีทุกครั้งที่เราได้สร้างประโยชน์ให้คนอื่น
.
จริงอยู่ที่เราสามารถสร้างของแกล้งคนอื่นได้
แต่การสร้างของที่เป็นโทษนั้น ต้องวางแผนอย่างดี และเปลืองพลังงานกว่าการสร้างคุณประโยชน์ให้คนอื่น
อีกทั้งยังไม่ได้เห็นผลชัดเจนว่ามีคนชีวิตชิบหายเพราะเรา เหมือนเกม Multiplayer อื่นๆ
สุดท้ายเกมกลับทำให้เราเอิบอิ่มในฐานะผู้ให้มากกว่าผู้ทำลาย
.
ดังนั้นเกมนี้เป็นเกมที่ถูกสร้างมาเพื่อทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ดีๆ ในการทำตัวเป็นคนดี
และหวังเล็กๆ ว่า.....
.
พวกมึงใช้ อย่าลืมมาซ่อมให้กูด้วยนะ สัส...
.
2. Combat
.
การต่อสู้ในเกมนี้มีศัตรูสองแบบ
-Mule (มิลว์) มนุษย์ ผู้ลุ่มหลงในบรจุภันฑ์ ต้องมีต้องชิงมา เขาเป็นลูกหลานของเหล่านักส่งของในอดีต
จนผ่านไปหลายต่อหลายรุ่น ได้ลืมเลือนไปหมดแล้วว่าหน้าที่ตนคืออะไร รู้เพียงแค่ต้องมีของเท่านั้น และทางเดียวคือแย่งชิงมาซะ
-BT (Beach Thing) เหล่าวิญญาณเร่ร่อน ที่หลุดมาจากโลกหลังความตาย
มาพร้อมปรากฎการณ์ฝนเร่งเวลา มันจะคอยลากสิ่งมีชีวิตไปพบกับ BT ร่างใหญ่ เมื่อถูกกลืนกิน Matter และ Anti Matter ผสานกัน กลายเป็นปรากฎการณ์ Void Out หรือการระเบิดครั้งใหญ่ กลืนกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
จะอ้อม หรือจะค่อยๆ ย่องผ่านพวกมันไป? หรือจะเอาระเบิดขี้ปาไล่ เอาปืนระเบิดเลือดส่งแม่งสู่สุขคติ แล้วเราเลือก
.
มาด้าน Combat นี้แอบรู้สึกมีความ Metal Gear อยู่
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโคจิม่า ในการหลีกเลี่ยงการประทะ หรือสังหาร
.
แต่ส่วนนี้เอาตรงๆ ในความเห็นคือเป็นส่วนที่ทำออกมาได้อ่อนที่สุด
.
จริงอยู่ที่การ Stealth กับเหล่า BT ถือว่าทำออกมาได้โอเคเลย มีความลุ้นอยู่ในที เดินยังไงให้ไม่โดนจับได้ หรือต้องอุดจมูก กลั้นหายใจเป็นหนังผีกัดฮ่องกง เพื่อย่องผ่านผีไป
.
แต่พอเข้าการ Stealth หนีคน ตอนที่ยังต้านระบบสแกนไม่ได้ การจะย่องผ่านหลายครั้งก็ล้มเหลวด้วย AI ที่ยืนแช่มันตรงนั้น ไม่ยอมเดินจากไปเสียที หรือระยะมองเห็นที่ไกลลิบลิ่ว
จนทางที่ดีที่สุดคือ ถ้าไม่วิ่งฝ่า ก็เอาหมัดไปงัดหน้ามันดื้อๆ นี่ล่ะ
.
หลังปลดล็อคอุปกรณ์ไล่ผี หรือปืนมาสู้กับ MULE แล้ว ที่เหลือก็ซัดแบบไม่ต้องคิดก็ได้
เจอผีระดับบอสเรอะ เอา Rocket Launcher บรรจุดเลือดกูไปแดก!
.
ด้วย Move Set ที่ซ้ำไปซ้ำมา หลบได้ง่าย ถ้ากระสุนไม่พอซักพักก็มีวิญญาณผู้เล่นคนอื่นโยนของมาให้เราอยู่ดี
.
กลายว่าจุดนี้เป็นอะไรที่อ่อนที่สุดจนกลบความพิถีพิถันของการส่งของไปซะอย่างนั้น
.
==Presentation==
.
ภาพและเสียง
เดอะแบกออฟเดอะเกม
.
ด้วยเดซิม่าเอ็นจิ้น ที่ใช้ผลิตเกมอย่าง Kill Zone ,Until Dawn และที่สร้างชื่อสุด Horizon Zero Dawn
ถือเป็นเอ็นจิ้นการสร้างเกมที่ถูกจริตกับโลกทัศน์ของเกม
.
หินเป็นหิน แม่น้ำเป็นแม่น้ำ ทุกอย่างให้รูปลักษณ์ของธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น ขัดเกลาออกมาดีเยี่ยม
.
เสียงประกอบฉากต่างๆ ที่ออกมาประหนึ่งเราอยู่ในโลกอันเวิ้งว้างใบนั้น
.
และเพลงประกอบที่ผุดขึ้นเมื่ออยู่ๆ เราเดินทางถึงจุดที่เกมได้วางสคริปไว้
แต่เข้ากับบรรยากาศ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น
.
ด้าน Cut Scene ต่างๆ ถือออกมาได้ดีเยี่ยม ด้วยการแสดง Motion Capture ของนักแสดงบรรจุมาอย่างคับคั่ง
อย่าง Norman Reedus หรือ Mad Mikkelsen
ทำให้เราเหมือนกำลังดู Series Netflix ดีๆ เรื่องหนึ่ง มากกว่ากำลังเล่นเกม
.
และเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ Mad ถึงกลายเป็นผัวแห่งชาติได้ขนาดนี้
.
==สรุป==
.
เกม Death Stranding นี้ไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน
.
ถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย
.
ตัวเกมเล่นกับจิตใจคนเล่นอย่างมาก ความเหงา เปล่าเปลี่ยว เอกา ประหนึ่งหลงอยู่ท่ามกลางทะเลทราย
แต่หยดน้ำ(ใจ)เล็กๆ เพียงหยดเดียว ที่เราพบระหว่างทางเดินนั้น เราให้เรารู้สึกว่ามันมีค่า และอยากที่จะส่งต่อน้ำ(ใจ)หยดนี้ให้กับผู้ร่วมทางคนอื่น
.
เป็นเกมที่เล่นกับคำว่า "น้ำใจ" ของเกมเมอร์คนอื่นได้เป็นอย่างดี
.
เป็นการส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง
.
ถามว่าเกมนี้แนะนำให้เล่นไหม?
คำตอบตรงๆ คือ ...ไม่...
.
มันเหมือนเป็นงานแนว Concept Interactive Art มากกว่า
.
แต่ถ้าคุณเล่นแล้วคุณชอบ
คุณจะรักงานชิ้นนี้
.
Death Stranding
เกมที่เลือกโยนไม้ทิ้งไป
แล้วใช้เชือกเชื่อมเราไว้ด้วยกัน
Search