William Li ใช้เวลา 6 ปี สร้างรถไฟฟ้า NIO ให้มูลค่าบริษัทมากกว่า BMW /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงแบรนด์รถหรู เชื่อว่าคำตอบในใจของหลาย ๆ คน
คงหนีไม่พ้น Mercedes-Benz กับ BMW
ซึ่งหากเราเอาอายุของทั้ง 2 แบรนด์มารวมกันจะอยู่ที่ 200 ปีพอดี
แต่รู้หรือไม่ว่า ? มีบริษัทรถยนต์ที่มีอายุได้เพียง 6 ปี
แต่กลับมีมูลค่าที่สูสีกับแบรนด์รถในตำนานทั้งสอง
บริษัทนั้นคือ “NIO Inc.” บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน โดยปัจจุบัน
- Daimler AG บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz มีมูลค่าอยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท
- NIO Inc. มีมูลค่าอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านบาท
- BMW มีมูลค่าอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท
โดยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ NIO Inc. คือ “William Li” ซึ่งในวัยเด็กเขาไม่ได้เกิดมามีชีวิตที่สุขสบายนัก เขาเกิดมาท่ามกลางหุบเขาที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เลย
แต่วันนี้เขาสามารถพาบริษัท NIO Inc. ขึ้นมาจนมีมูลค่าเทียบเคียงกับ Mercedes-Benz และ BMW ได้
เรื่องราวนี้เป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
William Li หรือ Li Bin เกิดเมื่อปี 1974 ที่ Anhui จังหวัดทางฝั่งตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยภูเขา ซึ่งในเวลานั้นเป็นเมืองที่ยากจน จึงทำให้ในช่วงที่เขาเกิด ที่บ้านเขายังไม่มีไฟฟ้าใช้
กว่าที่บ้านเขาจะได้มีไฟฟ้าใช้ เขาก็อายุได้ 10 ขวบแล้ว
พ่อกับแม่ของเขาทำงานอยู่ในเหมืองถ่านหิน ซึ่งมีระยะทางไกลจากบ้านถึง 300 กิโลเมตร เขาจึงเติบโตมาจากการเลี้ยงดูของตากับยายเป็นหลัก
ด้วยความที่เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างยากจน คุณตากับคุณยายจึงสอนให้ William Li รู้คุณค่าของการทำงานหนัก
ทำให้เขาเป็นคนที่มีความขยันและชอบทำงานตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นช่วยทำฟาร์ม หรือช่วยงานที่ร้านสะดวกซื้อของคุณตา
ด้วยความขยันและตั้งใจของ William Li ทำให้เขาสามารถเข้าเรียนที่ Peking University ได้ ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในจีน
ระหว่างเรียนที่มหาวิทยาลัย เขาทำงานพาร์ตไทม์หลายงาน เช่น ติวเตอร์ เซลส์ขายของ และรับจ้างเขียนโปรแกรม เพื่อนำเงินมาช่วยจ่ายเป็นค่าเรียน
แม้จะทำงานและเรียนไปพร้อม ๆ กัน แต่เขาก็สามารถเรียนจบระดับปริญญาตรีได้ถึงสองสาขา
คือ สาขาสังคมวิทยา และ Computer Science ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่เขาถนัด ทำให้เขาอยากทำงานที่ได้ใช้ความสามารถในด้านนี้
ในช่วงปี 1989 เป็นช่วงเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน และเริ่มมีการใช้กันแพร่หลายมากขึ้นในปี 1994 ซึ่งเป็นช่วงปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยของเขาพอดี
เมื่อเขาเห็นโอกาสตรงจุดนี้ เขาจึงชวนเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกคน มาก่อตั้งบริษัทชื่อ Beijing Antarctic Technology Development ซึ่งถือเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตแรก ๆ ในจีน
และต่อมา เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัท Bitauto Holdings Limited ขึ้นมาในปี 2000
Bitauto Holdings Limited เป็นบริษัทที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก จนสามารถนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2010
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ William Li ถูกเรียกว่าเป็น “Serial Entrepreneur” ซึ่งเป็นคำที่มักใช้เรียกนักธุรกิจที่มีความคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา โดยเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและร่วมลงทุน มาแล้วมากถึง 40 บริษัท
และแม้ว่าเขาคือคนที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว แต่ William Li ไม่ได้หยุดแค่นี้และเดินหน้าหาความท้าทายกว่าเดิม ครั้งนี้คือการเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์แบบเต็มตัว
ในปี 2014 เขาก่อตั้งบริษัท NIO Inc. ขึ้นมา
บริษัททำธุรกิจพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยรถรุ่นแรกที่ NIO พัฒนาขึ้นมาเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าสองที่นั่ง
ชื่อรุ่น EP9 โดยชื่อย่อมาจาก Electric Performance 9
ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จนมีบริษัทยักษ์ใหญ่และกองทุนขนาดใหญ่ทั้งหลายมาร่วมลงทุนด้วย เช่น Baillie Gifford, BlackRock, Temasek และ Tencent
จนในเดือนกันยายน ปี 2018 William Li ก็สามารถนำ NIO Inc. เข้าตลาดหลักทรัพย์ NYSE ได้สำเร็จ
แล้วปัจจุบัน NIO มีผลประกอบการเป็นอย่างไร ?
ปี 2018 รายได้ 23,500 ล้านบาท ขาดทุน 46,891 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 35,294 ล้านบาท ขาดทุน 54,288 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 77,595 ล้านบาท ขาดทุน 27,177 ล้านบาท
แม้ว่าผลประกอบการของ NIO จะกำลังเติบโตได้ดี แต่บริษัทก็ยังขาดทุนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจของ NIO อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นเมกะเทรนต์อย่าง รถยนต์ไฟฟ้า ก็เลยดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้ไม่น้อย
ทำให้ปัจจุบัน NIO Inc. มีมูลค่าอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านบาท
และทุกวันนี้ แบรนด์รถเกือบทุกแบรนด์ กำลังมุ่งเข้าสู่เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า อย่างในจีนและฮ่องกงก็มีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ามากมาย เช่น XPeng, BYD และ NIO
ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน ปัจจุบันมีการแข่งขันที่เรียกได้ว่าดุเดือดมาก ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าใครจะเป็นผู้ชนะในตลาดนี้
แต่สำหรับ William Li ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ NIO
ตอนนี้ เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลร่ำรวยของจีนและของโลกไปแล้ว
โดยมีมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกประเมินอยู่ที่ 230,000 ล้านบาท
หลายคนคงคิดว่า หากเราเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ และบริษัทหนึ่งที่กำลังอยู่ในสมรภูมิรบแห่งนี้ เราอาจมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นปัญหา
แต่สำหรับ William Li แล้ว เขากลับมองว่าเรื่องยาก ยิ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า
“ถ้าผมสามารถทำสำเร็จได้ในจีน คงไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่สามารถทำมันสำเร็จในที่อื่นบนโลกนี้”
ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ เขาได้วางแผนนำรถยนต์ไฟฟ้า NIO ไปเจาะตลาดนอร์เวย์ เป็นตลาดต่างประเทศแรก ๆ อีกด้วย
หากดูจากวิสัยทัศน์ และผลงานที่ผ่านมาของ William Li ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่วันนี้ เขาจะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
และก้าวจากเด็กที่เกิดในหุบเขา ที่ไฟฟ้าเคยเข้าไม่ถึง มาเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายสำคัญของโลก เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.forbes.com/sites/ywang/2021/06/03/ev-billionaire-william-li-is-chasing-growth-overseas/?sh=5feaa5171a80
-https://www.youtube.com/watch?v=JmjvVTxcWAk&t=499s
-http://www.niocapital.com/index.php?m=content&c=index&a=show&catid=223&id=1
-https://en.wikipedia.org/wiki/NIO_(car_company)
-https://artsandculture.google.com/entity/william-li/g11fjwxjps5?hl=en
-https://companiesmarketcap.com
-https://en.wikipedia.org/wiki/Internet_in_China
-NIO Inc. Annual Report 2020
-https://www.nio.com/news/nio-announces-norway-strategy
同時也有52部Youtube影片,追蹤數超過28萬的網紅Welldone Guarantee,也在其Youtube影片中提到,#รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #โตโยต้า เมื่อประเทศไทยวันนี้ เคยเป็นฐานการผลิตรถยนต์น้ำมันมากกว่า 50 ปี โดยเฉพาะค่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่เป็นผู้มาลงทุน จนมาวันนี้ ร...
「รถยนต์ไฟฟ้า2020」的推薦目錄:
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 Welldone Guarantee Youtube 的精選貼文
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 Welldone Guarantee Youtube 的最讚貼文
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 iMoD Official Youtube 的精選貼文
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 รถยนต์ไฟฟ้าในไทย 12 รุ่นที่มีขายปี2020 EV คันไหนมีระยะทางวิ่งไกล ... 的評價
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 PTT News - เทสล่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็มี ... 的評價
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 PTT News - เทสล่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็มี ... 的評價
- 關於รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 ชาร์จ 1 ครั้งไปไกลแค่ไหน: ส่องประสิทธิภาพรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน 的評價
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
รู้จัก รถยนต์ไฟฟ้า 140,000 บาทในจีน ที่ทำยอดขายแซงหน้า Tesla /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า เชื่อว่าเวลานี้ คนส่วนใหญ่คงต้องนึกถึง Tesla
ซึ่งเป็นผู้นำของอุตสาหกรรม และมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในโลก
แต่รู้ไหมว่า ในประเทศจีน
รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงขณะนี้ กลับไม่ใช่ Tesla
แต่เป็นแบรนด์ที่ชื่อว่า “Wuling HongGuang Mini EV”
ทำไมชาวจีนถึงถูกใจรถรุ่นนี้ และบริษัทไหนเป็นผู้ผลิต ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ประเทศจีน ถือเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก
โดยปี 2020 มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 1.3 ล้านคัน คิดเป็น 41% ของยอดขายทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้ผลิตรถยนต์หลายราย เข้ามาแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด
ไม่ว่าจะเป็น บริษัทระดับโลกอย่าง Tesla
หรือค่ายจีนเอง อย่างเช่น BYD, NIO, XPeng
เราลองมาดูกันว่าปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหน ขายดีสุดในจีน
ปี 2020
อันดับ 1 Tesla Model 3 ยอดขาย 139,925 คัน
อันดับ 2 Wuling HongGuang Mini EV ยอดขาย 119,255 คัน
อันดับ 3 Baojun E-Series ยอดขาย 47,704 คัน
ปี 2021 (เดือนมกราคม-เมษายน)
อันดับ 1 Wuling HongGuang Mini EV ยอดขาย 125,925 คัน
อันดับ 2 Tesla Model 3 ยอดขาย 59,122 คัน
อันดับ 3 BYD Han EV ยอดขาย 27,100 คัน
จะเห็นได้ว่า Tesla Model 3 นั้นเคยเป็นเจ้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน
แต่ล่าสุด ได้ถูก “Wuling HongGuang Mini EV” ทำยอดขายแซงหน้าไปกว่าเท่าตัวในช่วงต้นปีนี้
ที่น่าสนใจคือ รถ Wuling HongGuang Mini EV เพิ่งจะเปิดตัว เมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 หรือแค่เพียง 11 เดือนที่แล้ว เท่านั้นเอง
โดยผู้ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ คือ บริษัท “SGMW” ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง
- SAIC Motor บริษัทรัฐวิสาหกิจจีน ถือหุ้น 50.1%
- General Motors บริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ถือหุ้น 44.0%
- Wuling Motors บริษัทเอกชนจีน ถือหุ้น 5.9%
SGMW เป็นค่ายที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถยนต์ประเภทมินิแวน หรือรถขนาดเล็ก
ซึ่งบริษัทได้มีการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ขึ้นมา เพื่อบุกตลาดจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
นั่นคือ Wuling HongGuang Mini EV รถยนต์ไฟฟ้า 2 ประตู 4 ที่นั่ง
ที่สามารถเร่งความเร็วได้สูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และขับได้ระยะทาง 170 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
แต่พอเห็นข้อมูลเช่นนี้แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า
รถที่สมรรถนะ ดูไม่ได้พิเศษไปกว่ารุ่นทั่วไปในตลาด
ทำไมถึงได้รับความนิยมจากชาวจีน ?
เหตุผลข้อแรก คือ ราคาขายที่ “ถูกมาก”
SGMW ตั้งราคารถ Wuling HongGuang Mini EV ในจีน เริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 140,000 บาท
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ Tesla Model 3 ที่มีราคาขายในจีน เริ่มต้นคันละ 1.2 ล้านบาท
เท่ากับว่าราคาเริ่มต้นของ Wuling HongGuang Mini EV
คิดเป็นแค่ 0.1 เท่า ของราคาเริ่มต้นรถ Tesla เท่านั้น
แต่ก็คงต้องบอกว่า รถทั้งสองรุ่นนี้ มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
เพราะ Tesla Model 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตู 5 ที่นั่ง
ซึ่งสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดกว่า 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และขับได้ระยะทาง 560 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
รวมทั้งมีเทคโนโลยีล้ำสมัยอยู่มากมาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คนจีนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะอาศัยในตัวเมือง และเดินทางไปมาใกล้ ๆ
จึงทำให้ Wuling HongGuang Mini EV ที่สมรรถนะเพียงพอต่อการขับในเมือง และราคาถูกแค่หลักแสนบาท ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
เหตุผลข้อต่อมา คือ ลูกค้าสามารถตกแต่งลวดลายตัวรถได้เอง
โดย Wuling HongGuang Mini EV จะมีสีรถอยู่ 20 สี
และให้ลูกค้าเลือก “สติกเกอร์” มาแต่งรถได้ตามความชอบส่วนตัว
ซึ่งสติกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูง คือ แครักเตอร์การ์ตูน เช่น เฮลโลคิตตี้, โดราเอมอน, โปเกมอน รวมไปถึงโลโกทีมกีฬาต่าง ๆ
ทำให้ลูกค้าได้ซื้อรถที่แสดงถึงความเป็นตัวตน โดยเฉพาะผู้หญิง ที่มักจะชื่นชอบรถคันเล็กลวดลายน่ารัก
ส่งผลให้ฐานลูกค้าของรถ Wuling HongGuang Mini EV เป็นผู้หญิงถึง 2 ใน 3 ของยอดขาย
ซึ่งยอดขายที่ครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน ก็ทำให้ผลประกอบการของ SGMW โตระเบิด
ไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้ 133,000 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 1 ปี 2021 รายได้ 308,000 ล้านบาท
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในปีหน้าไว้ที่ 1.2 ล้านคัน
ซึ่งเกือบเท่ากับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของทุกค่ายในประเทศจีน เมื่อปี 2020 เลยทีเดียว
นอกจากนั้น บริษัทยังได้วางแผนขยายธุรกิจไปในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะทวีปยุโรป ที่ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย และมีโครงสร้างพื้นฐานแท่นชาร์จไฟฟ้ารองรับ
ทำให้ในอนาคต SGMW อาจก้าวขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก กับ Tesla และค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ก็เป็นได้
และถ้ามองกลับมาที่ประเทศไทย
ถึงแม้ราคานำเข้ารวมภาษีของรถ Wuling HongGuang Mini EV อาจสูงกว่าที่ขายในจีน
แต่มันก็คงเป็นตัวเลือกที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดยานยนต์ราคาไม่แพง เช่น รถขนาดเล็ก หรือมอเตอร์ไซค์ ได้ไม่มากก็น้อย
อย่างไรก็ตาม นอกจากราคาแล้ว อีกปัจจัยที่จะสนับสนุนให้คนไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
คงจะเป็นความพร้อมและความสะดวกสบายในการชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง ๆ
ก็น่าติดตามต่อไปว่า
แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ทุกวันนี้
ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ ต่างแข่งขันกันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือทำให้ราคาเข้าถึงผู้บริโภคได้
ซึ่งสุดท้าย คนที่ได้ประโยชน์มากสุดจากเรื่องนี้ คงหนีไม่พ้น “ผู้บริโภค”
ที่จะมีทางเลือกในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-06-04/china-s-top-ev-maker-stakes-its-future-on-a-4-500-mini-car
-https://www.cnbc.com/2021/03/28/wulings-tiny-electric-hatchback-photos.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/SAIC-GM-Wuling
-https://www.ev-volumes.com/
-https://cleantechnica.com/2021/01/24/china-9-4-plugin-vehicle-share-in-another-record-month/
-https://cleantechnica.com/2021/05/26/10-plugin-vehicle-share-in-china/
-https://cleantechnica.com/2021/05/01/tesla-siblings-wuling-mini-ev-shine-in-hot-ev-market-global-ev-sales-report/
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
สรุปทิศทาง เศรษฐกิจปี 2021 ฉบับสมบูรณ์
ลงทุนแมน X KRUNGSRI EXCLUSIVE
2021 อีกปีที่ท้าทายกับสถานการณ์เศรษฐกิจภายใต้วิกฤติโควิด 19 ไม่แพ้ตอนวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 1997 และ วิกฤติซับไพรม์ในปี 2008 ที่ทำให้นักธุรกิจ และนักลงทุนหลายๆ คนเจ็บหนัก
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบางคน ที่เห็นโอกาสในวิกฤติ จนสร้างการเติบโต หรือ ผลกำไรได้อย่างงดงาม
KRUNGSRI EXCLUSIVE บริการการให้คำปรึกษาทางเงิน สำหรับผู้ที่มีเงินฝากเงินลงทุน 5 ล้านบาทขึ้นไปกับธนาคารกรุงศรี จึงจัดสัมมนาพิเศษแบบ new normal ให้ลูกค้าคนสำคัญเข้าร่วมงานผ่านทางออนไลน์ “KRUNGSRI EXCLUSIVE Economic and Investment Outlook 2021” โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในและต่างประเทศมาวิเคราะห์ข้อมูลและให้มุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนทางการเงินในหลากหลายมิติ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและวางกลยุทธ์ในปี 2021 นี้ได้
งานสัมมนาในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1) Global Economic Outlook 2021
เป็นการบรรยายภาพรวมเศรษฐกิจโลก และธีมการลงทุน
โดยคุณ Ben Powell ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนภาคเอเชียแปซิฟิก ของ BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่สุดในโลก
2) Thailand Economic Outlook 2021
บรรยายถึงภาพรวมและทิศทางเศรษฐกิจไทย โดย
ดร. ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย
และ ดร. สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัย และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
-Global Economic Outlook 2021
คุณ Ben Powell มองว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จากวิกฤติโควิด 19 จะเหมือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมรุนแรง มากกว่าจะเป็นวิกฤติทางการเงิน
เพราะในภาพรวมเศรษฐกิจ จะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว ต่างจาก วิกฤติทางการเงิน ที่สถาบันการเงินเจ็บหนัก และเศรษฐกิจอาศัยเวลาฟื้นตัวนานกว่า
ซึ่งการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง จะเป็นตัวกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
และคาดว่าเศรษฐกิจโลก จะกลับมาใกล้เคียง หรือระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด ในช่วงกลางปีนี้
โดยธีมการลงทุนในมุมมองของ BlackRock ในปีนี้ จะมีหลักๆ 3 อย่าง
1) The New Nominal
ตอนนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกันทั่วโลก
และในบางประเทศมีอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบด้วยซ้ำ
ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางในประเทศต่างๆ จะยังคงกดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ต่ำอยู่ไปสักระยะ
เพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เต็มที่ก่อน
ในขณะเดียวกัน การดำเนินนโยบายการคลัง คือ รัฐบาลอัดฉีดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่าง สหรัฐฯ ที่เพิ่งประกาศงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กว่า 57 ล้านล้านบาท
ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายการเงิน จากธนาคารกลาง ที่กดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำ และเพิ่มสภาพคล่องเข้าไปในระบบ
ตามมาด้วยสัญญาณการเพิ่มขึ้น ของอัตราเงินเฟ้อ
ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real yield) ที่คำนวณจาก อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตร หักด้วย อัตราเงินเฟ้อ
ยิ่งน้อยลงไปอีก หรืออาจถึงขั้นติดลบได้
BlackRock จึงปรับนโยบายการลงทุน โดยลดสัดส่วนของตราสารหนี้ลง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
และเพิ่มสัดส่วนในหุ้น และ ตราสารหนี้ที่ชดเชยเงินเฟ้อ (TIPS) เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนของพอร์ตโดยรวม
โดยในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ BlackRock มองว่าน่าลงทุนและให้สัดส่วนในพอร์ตเยอะ คือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และ สุขภาพ (Health care)
เพราะยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตได้ดี และอนาคตสดใสอยู่
อีกทั้งยังมองว่า ใน 6-12 เดือนนี้ นักลงทุนเต็มใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เพื่อแสดงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
2) Globalization Rewired
บรรยากาศการค้าโลก มีแนวโน้มกลับมาคึกคักอีกครั้ง
หลังจากที่ โจ ไบเดน เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้เกิดการเจรจา และค้าขายระหว่างประเทศราบรื่นมากขึ้น
ในขณะที่ปี 2020 ที่ผ่านมา กิจกรรมการค้าโลก ก็ฟื้นตัวเร็วกว่าที่ BlackRock คาดการณ์ไว้มาก
โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นประเทศที่น่าจับตามองมากที่สุด
เพราะควบคุมสถานการณ์โรคระบาดได้ดี และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น และคาดว่าจะกลายเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกในอีกไม่นาน
ซึ่ง World Bank คาดว่าในปีนี้ GDP ของจีน จะโตถึง 7.9%
ด้วยมุมมองที่สดใสของเศรษฐกิจจีน ทำให้ช่วงที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบการลงทุนโดยตรง (FDI) และตลาดหุ้น
การเข้าลงทุนในสินทรัพย์จีน จึงเป็นอีกหัวใจหลัก ของการลงทุนทั่วโลกตอนนี้
ที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
รวมถึงเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุน ในประเทศอื่นนอกเหนือจากสหรัฐฯ
นอกจากจีนแล้ว กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)
ก็กลายเป็นอีกเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก
แต่ต้องดูเป็นรายประเทศไป ไม่ใช่ทุกประเทศจะน่าลงทุน
โดยนักลงทุนจะชอบประเทศที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และค่าเงินมีเสถียรภาพ
เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ไทย และมาเลเซีย
สรุปแล้ว ทั้งสหรัฐฯ และเอเชีย จะเป็นกลุ่มประเทศที่ขับเคลื่อนตลาดทุนโลกต่อไป
3) Turbocharged Transformations
ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ และความเท่าเทียม ยิ่งรุนแรงขึ้นจากสถานการณ์โควิด
เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวในรูปแบบ K Shape
คือ คนรวย จะฟื้นตัวเร็ว และยิ่งรวยขึ้น
ในขณะที่คนจน นอกจากจะจนลงแล้ว ยังฟื้นตัวช้ากว่า
ซึ่งแต่ละประเทศต้องรีบเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนจริงๆ
เช่น ปรับปรุงกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ในขณะเดียวกันโควิด ก็เร่งทำให้พฤติกรรมของผู้คนเข้าหาโลกออนไลน์กันมากขึ้น
เห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจวิดีโอสตรีมมิง และชอปปิ้งออนไลน์ เป็นต้น
แต่ธุรกิจรูปแบบเดิมๆ เช่น ร้านค้าปลีก และศูนย์การค้า ที่มีหน้าร้านจริง กลับยิ่งซบเซา
ทั้งนี้ ต่อไปเทรนด์ของการลงทุน จะไหลเข้าธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน หรือ ESG เพิ่มขึ้น อาทิ ธุรกิจที่ช่วยลดการปล่อยของเสีย และคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาด เป็นต้น
-Thailand Economic Outlook 2021
ในปี 2020 ที่ผ่านมา แบงก์ชาติประเมินว่า GDP ของประเทศไทย จะหดตัว -6.6% ซึ่งใกล้เคียงตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง
โดยได้รับปัจจัยลบมาจาก ภาคการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ หายไปจาก 40 ล้านคน ในปี 2019 เหลือเพียง 6.7 ล้านคน ในปี 2020
การส่งออก ที่สะดุดลง เพราะซัพพลายเชนโลกหยุดชะงัก
การบริโภค และลงทุนภาคเอกชน ที่หดตัวในช่วงการล็อกดาวน์
แต่ประเทศไทยได้รับปัจจัยบวกจาก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งนโยบายการคลังและการเงิน ที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจเอาไว้ไม่ให้บาดแผลลึกเกินไป
ส่วนในปี 2021 นี้ แบงค์ชาติประเมินว่า GDP ไทยจะโต 3.2%
ในขณะที่กรุงศรี คาดว่าจะเติบโต 2.5% หลังหักผลกระทบจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่
ซึ่งที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะ ไม่เลวร้ายเหมือนปีก่อน และมีการขยายตัว เป็นเพราะ
ไทยไม่ได้มีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ มีเฉพาะมาตรการควบคุมเฉพาะพื้นที่
และภาครัฐ มีการออกมาตรการควบคุมและช่วยเหลือต่างๆ ได้ตรงจุด อย่างรวดเร็ว กว่าที่ผ่านมา
เพราะมีข้อมูล และประสบการณ์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดในระลอกแรก
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ จึงไม่เป็นวงกว้างเหมือนในปีก่อน
นอกจากนี้ การส่งออกไทย ซึ่งมีมูลค่าคิดเป็น 45% ของ GDP (ของปี 2019)
ยังมีแนวโน้มขยายตัว จากอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
และสินค้าส่งออก ที่คิดเป็นสัดส่วนมากสุดของไทย คือ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์
ยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ของผู้บริโภคในตลาดโลก
โดยผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในต่างประเทศ ต้องการรถยนต์ส่วนตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้รถสาธารณะ
รวมถึงผู้บริโภคในหลายประเทศ ที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อทำงานที่บ้าน
ดังนั้น การส่งออก จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้
ซึ่งในระยะยาว สำหรับผู้ประกอบการไทยแล้ว
ตลาดเอเชีย อาจมีความน่าสนใจกว่า ตลาดในแถบตะวันตก
ถึงแม้รายได้เฉลี่ยต่อหัวจะต่ำกว่า แต่ชาวเอเชีย มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงกว่า ชาวตะวันตก
ทำให้มีอัตราการบริโภคที่เติบโตเร็วกว่า ซึ่งเป็นอีกโอกาสของผู้ประกอบการไทย
ส่วนความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ในปีนี้ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
คือ เรื่องของการกลายพันธุ์ของเชื้อ และความยืดเยื้อของการแพร่ระบาด
รวมถึงการแจกจ่ายวัคซีน จะทั่วถึงครบทุกคนเมื่อไร
เพราะสิ่งเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อนโยบายด้านการท่องเที่ยวและเปิดประเทศโดยตรง ว่าจะกลับมาเร็วแค่ไหน ซึ่งการท่องเที่ยว ก็เป็นอีกแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ
โดย รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็น 12% ของ GDP (ของปี 2019)
ทั้งนี้ ในภาพรวมเศรษฐกิจไทย ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังฟื้นตัว
แต่การฟื้นในแต่ละอุตสาหกรรม จะไม่เท่ากัน
อย่างภาคการผลิต ก็เห็นตัวเลขสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน
ในขณะที่ภาคบริการ โดยเฉพาะ ธุรกิจโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร ยังไม่ฟื้นตัว และเจอความท้าทายอยู่
ที่สำคัญธุรกิจเหล่านี้ เป็นธุรกิจที่มีการจ้างงานค่อนข้างเยอะ
ซึ่งแรงงานจำนวนมากนี้ ก็อาจถูก Layoff และขาดรายได้
จนส่งผลกระทบต่อ การบริโภคภายในประเทศ ในที่สุด
ดังนั้น คาดว่า การบริโภคในปีนี้ จะยังอยู่ในระดับต่ำกว่า ช่วงก่อนโควิด
และภาพรวมเศรษฐกิจไทย จะฟื้นคืนสู่จุดเดิมได้ ในปีหน้า
ปิดท้าย ทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ แบงก์ชาติ ได้ย้ำว่า
ประเทศไทย และ ภาคธุรกิจ ต้อง Transform ตัวเองครั้งใหญ่ ณ ตอนนี้
เพราะหลังจากเหตุการณ์โควิด กิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะเปลี่ยนไปตลอดกาลถึงระดับโครงสร้าง
ไม่ว่าจะเป็น การนำระบบ Automation หรือ AI มาใช้งานกันมากขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เริ่มจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย
การค้าออนไลน์ และกิจกรรมบนโลกดิจิทัล ที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น
ประเทศไทย และ ภาคธุรกิจ ต้องให้ความสำคัญกับ นวัตกรรม และการรีสกิลของแรงงาน
เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และก้าวไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง..
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 Welldone Guarantee Youtube 的精選貼文
#รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #โตโยต้า
เมื่อประเทศไทยวันนี้ เคยเป็นฐานการผลิตรถยนต์น้ำมันมากกว่า 50 ปี โดยเฉพาะค่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่เป็นผู้มาลงทุน จนมาวันนี้ รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นรถค่ายจีน ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย แต่ถ้าว่าใครญี่ปุ่นยังคงผลักดัน Hybrid ต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนเป็นทางผลิตรถไฟฟ้า แล้วเมื่อไหร่ไทยจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ มาติดตามดูกันต่อไป
?⚡สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้??
เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ??
https://www.youtube.com/channel/UCXEM58IYx6OxTYRMcoYIOTw/join
FB: @welldone guarantee
Tik Tok: http://bit.ly/3goOcUU
IG: welldone_guarantee
ติดต่องานได้ที่
[email protected]
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 Welldone Guarantee Youtube 的最讚貼文
#รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #toyota #fortuner
Toyota เตรียมเปิดตัวฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ที่มาพร้อมกับขุมพลัง เครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด ซึ่งเป็นค่ายญี่ปุ่นค่ายแรกที่จะทำเครื่องยนต์ ดีเซลร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยไอเสียออกมา ซึ่งถ้าทำออกมาแล้วจะเอาไปใช้ในกลุ่มของกระบะ และเครื่องยนต์ดีเซลตั้งหลายของ Toyota ทั้งหมด ในขณะที่ค่ายรถยนต์จีนผลักดันเรื่องของกระบะไฟฟ้าออกมายังค่ายเกรทวอลล์มอเตอร์ มาดูกันว่าผลตอบรับจะเป็นอย่างไร
?⚡สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้??
เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ??
https://www.youtube.com/channel/UCXEM58IYx6OxTYRMcoYIOTw/join
FB: @welldone guarantee
Tik Tok: http://bit.ly/3goOcUU
IG: welldone_guarantee
ติดต่องานได้ที่
[email protected]
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 iMoD Official Youtube 的精選貼文
พาชมรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 42 มีรุ่นไหนกันบ้างไปชมกันครับ
00:00 เปิดคลิป
1. Mini Electric - Mini Cooper 00:45
2. KONA Electric - Hyundai 02:22
3. Lexus UX 300e 04:09
4. Nissan Leaf 08:24
5. POER EV - GWM 09:50
6. MG EP - 14:00
7. Audi e-tron Series 18:23
8. Porsche Taycan 20:24
9. Volvo XC 40 Recharge Pure Electric 22:40
10. Tesla Model 3 25:18
11. ORA Good Cat 29:22
ใครอยากชมรถยนต์ไฟฟ้าที่จะวางขายในไทย (บางรุ่นในนี้ยังไม่มีกำหนดวางขายนะแต่ส่วนใหญ่มีแล้ว) สามารถมาชมในงานนี้ได้เลย
เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม - 4 เมษายน 2564 นี้ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เวลา 12.00 - 22.00 น.
#EV #มอเตอร์โชว์2021 #รถยนต์ไฟฟ้า #GWM #GWMTH #ORAGoodCat #Porsche #Taycan #Audi #Volvo #Hyundai #MG #Tesla #Lexus #MiniCooper #iMoD
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 PTT News - เทสล่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็มี ... 的推薦與評價
ปี 2020 ที่ผ่านไป Tesla Model 3 คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ขายไปถึง 3.65 แสนคัน ไม่นับรวม Tesla Model Y ที่เพิ่งเปิดตัวปลายปีแล้วขายไปถึง 8 หมื่นคัน ... ... <看更多>
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 PTT News - เทสล่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็มี ... 的推薦與評價
ปี 2020 ที่ผ่านไป Tesla Model 3 คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ขายไปถึง 3.65 แสนคัน ไม่นับรวม Tesla Model Y ที่เพิ่งเปิดตัวปลายปีแล้วขายไปถึง 8 หมื่นคัน ... ... <看更多>
รถยนต์ไฟฟ้า2020 在 รถยนต์ไฟฟ้าในไทย 12 รุ่นที่มีขายปี2020 EV คันไหนมีระยะทางวิ่งไกล ... 的推薦與評價
ปัจจุบันมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน หรือ BEV เข้ามาจำหน่ายจริงในบ้านเราอยู่หลายรุ่นแล้วนะครับ วันนี้เราจะมาดูกันว่า รถยนต์ไฟฟ้า 12 ... ... <看更多>