關於 รถไฟฟ้า from ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

รถไฟฟ้า BTS วันนี้ ยืนยันเลิกแน่ ตั๋ว 30 วัน สิ้นเดือนนี้ครับ …

“โปรโมชั่นตั๋วรายเดือนใช้มา 15 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าไม่สอดคล้องต่อพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ เพราะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานเป็นทำงานที่บ้าน การใช้งานบัตรประเภทนี้จึงไม่ตอบโจทย์เหมือนเดิม การยกเลิกโปรโมชั่นนี้ได้สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่มาแล้ว”

ว่าแต่ เราจะ work from home กันตลอดไปเลยหรือครับ!

#คุณภาพชีวิต

13 กย.64 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บีทีเอส ได้รับการเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าวจากทางกรมการขนส่งทางราง แต่พร้อมจะชี้แจงเหตุผลของการเตรียมยกเลิกโปรโมชั่นบัตรโดยสารรายเดือนในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าว ได้มีการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคดีแล้ว เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกัน ยังมีความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผู้โดยสารใช้งานบัตรโดยสารดังกล่าวได้ไม่คุ้มค่า

“โปรโมชั่นตั๋วรายเดือนใช้มา 15 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าไม่สอดคล้องต่อพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ เพราะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานเป็นทำงานที่บ้าน การใช้งานบัตรประเภทนี้จึงไม่ตอบโจทย์เหมือนเดิม การยกเลิกโปรโมชั่นนี้ได้สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่มาแล้ว”

ขณะเดียวกัน บีทีเอส กำลังพิจารณาว่า จะมีโปรโมชันที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมากกว่าออกมาภายสิ้นเดือนนี้ ขณะเดียวกันบีทีเอสไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงราคาค่าโดยสาร โดยมีกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บในเส้นทางสัมปทาน 23.5 กิโลเมตร จากสถานีหมอชิตไป สถานีอ่อนนุช และจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติไปสถานีสะพานตากสิน รวมส่วนต่อขยายจากสถานีสะพานตากสิน ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ ยังคงอยู่ในอัตรา 16 - 44 บาท

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า กรมการขนส่งทางราง ก.คมนาคม จะทำหนังสือถึง BTS เพื่อให้ชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการยกเลิกตั๋ว 30 วัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อถาระค่าครองชีพของประชาชนโดยตรง เพราะคนที่เลือกตั๋วบริการรายเดือน คือคนที่เดินทางบ่อย ซึ่งค่าโดยสาร BTS เป็นหนึ่งรายจ่ายประจำ แม้กรมฯจะไม่มีอำนาจบังคับ แต่หากไม่สมเหตุสมผลก็อาจจะขอความร่วมมือให้ BTS ขยายโปรโมชั่นรายเดือนออกไปก่อนในช่วงโควิด

สรุปข้อมูล การเดินทางของคนไทย ในช่วงล็อกดาวน์ จาก Google Mobility Index /โดย ลงทุนแมน
ทุกคนคงสงสัยว่าในช่วงล็อกดาวน์ คนไทยไปแต่ละสถานที่น้อยลงเท่าไร แล้วมีสถานที่ไหน คนไทยไปมากขึ้นบ้าง ?

เราลองมาดูข้อมูลของ Google Mobility Index ที่ทาง Google เขาเก็บจากประวัติการเดินทางของคนไทยผู้มีบัญชี Google ว่าจะเป็นอย่างไร

ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย

กลุ่มค้าปลีกและสันทนาการ -23%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป ร้านอาหาร คาเฟ่ ศูนย์การค้า สวนสนุก โรงภาพยนตร์ ของคนไทย

กลุ่มร้านขายของชำและร้านขายยา +12%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ของคนไทย

กลุ่มสวนสาธารณะ -40%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป สวนสาธารณะ สวนน้ำ ชายหาด ของคนไทย

กลุ่มสถานีขนส่ง -60%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป สถานีขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้า รถไฟ รถบัส ของคนไทย

กลุ่มสถานที่ทำงาน -25%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไปสถานที่ทำงานของคนไทย

กลุ่มที่อยู่อาศัย +10
กลุ่มนี้หมายถึง การอาศัยในที่อยู่อาศัยของคนไทย

จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า แต่ละสถานที่ได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกัน

เช่น กลุ่มสถานีขนส่งที่ต้องเจอผู้คนจำนวนมาก คนเดินทางไปน้อยลงมากถึง 60% แน่นอนว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งผู้คน น่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง เช่น รถไฟฟ้า BTS MRT รถไฟ รถเมล์ รถบัส หรือแม้กระทั่งสายการบิน

แต่ในขณะเดียวกัน การขนส่งที่น่าจะพุ่งขึ้นสวนทางกันก็คือ การขนส่งพัสดุ และการขนส่งอาหาร ที่ทุกคนใช้บริการกันมากขึ้น เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปส่งพัสดุสินค้า หรือไปร้านอาหารด้วยตนเอง

กลุ่มต่อมาก็คือกลุ่มที่โดนรัฐบาลสั่งปิด เช่นศูนย์การค้าหรือโรงภาพยนตร์ แน่นอนว่าผู้คนจะไปน้อยลง รวมถึงร้านอาหารที่คนไปนั่งรับประทานในร้านไม่ได้ ดังนั้น คนที่จะเดินทางไปร้านอาหารก็จะมีแต่ คนที่ซื้อกลับบ้าน หรือ ไรเดอร์ส่งอาหาร โดยกลุ่มนี้คนไปน้อยลง 23%

กลุ่มสถานที่ทำงานก็เป็นอีกกลุ่มที่คนไปน้อยลง 25% เพราะ ออฟฟิศสำนักงานส่วนใหญ่มีนโยบาย Work From Home กันในช่วงล็อกดาวน์นี้

อย่างไรก็ตาม มีบางสถานที่กลับมีคนไทยไปมากขึ้น เช่น ร้านขายของชำที่ขายของจำเป็นในชีวิตประจำวัน และร้านขายยาที่คนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ และการรักษาอาการเจ็บป่วยในช่วงนี้ ทำให้เดินทางไปมากขึ้น 12%

และสุดท้าย อีกหนึ่งสถานที่ที่คนไทยเดินทางไปในช่วงล็อกดาวน์กันมากขึ้น ไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นที่อยู่อาศัยของแต่ละคนนั่นเอง..

Reference:
https://www.gstatic.com/covid19/mobility/

Remarks:
ข้อมูลนี้คำนวณ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2021 โดยใช้จำนวนครั้ง และระยะเวลาในการไปสถานที่ต่าง ๆ เมื่อเทียบกับ เวลาฐานที่เป็นค่ามัธยฐานระหว่างวันที่ 3 มกราคม ถึง 6 กุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งมาจากประวัติการเดินทางของผู้ใช้บัญชี Google

Hello from Bangkok! สวัสดีวันอาทิตย์ เย็นนี้มาไลฟ์คุยกันหน่อยมั้ย? จิบชากินขนมสบายๆ ถ้าฝนไม่ตก ก็จะไปนั่งในสวนเหมือนอาทิตย์ที่แล้วนะ มาคุยกันนะ!
.
こんにちは！日曜日の夕方にライブ配信します。お茶とお菓子を食べながらゆるーく話しましょう♪ 天気が良かったら先週みたいに家の庭からします。(日本語オッケー) 待ってまーす！

ไลฟ์พร้อมกัน 2 ช่องทาง สะดวกทางไหน เม้นต์คุยทางนั่นเลยจ้า 今回も同時ライブ配信、好きな方からコメントしてね♪
Youtube : Reiko Meow
https://youtube.com/channel/UClDnQRFXD5kb9ueBKFRBBQw
Facebook : Reiko.ws
TH🇹🇭17:00 JP🇯🇵19:00

.
รูปสวยๆจากหน้าโรงแรม Oakwood Sathon มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านด้วย! ดูเป็นกรุงเทพมากเลยนะ
Oakwood Sathornホテル前からBTSが走っているのが見える！バンコクらしいですね〜
#รูปเก่าไม่ใช่วันนี้ #過去の写真
.
.
.
#reikowsthailand #reikowsfblive #reikowsyoutube #reikomeow #thailand #btsskytrain #oakwoodthonglor #bangkok #เรโกะ #กรุงเทพ #รถไฟฟ้า #สาทร #เมืองไทย #ภาษาญี่ปุ่น #タイ語　#タイ人　#タイ　#バンコク　#ライブ配信　#ライブトーク　#ブロガー　#ユーチューバー #日本語

#รถไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้า #Tesla #เทสล่า

หลายคนมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจะทำให้บางอาชีพและธุรกิจรถยนต์ดั้งเดิมหายไป แปลว่าด้วยความที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามีความเป็นไอทีบวกกับรถยนต์ทำให้เกิดธุรกิจแบบใหม่หลายอย่างแล้วดีกว่าเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ มาดูกันว่าฝั่งอเมริกามีธุรกิจเกิดใหม่จากรถยนต์ไฟฟ้าอะไรกันบ้าง

?⚡สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้??
เข้ามาเป็นส่วนนึงในการผลักดัน สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ??
https://www.youtube.com/channel/UCXEM58IYx6OxTYRMcoYIOTw/join

FB: @welldone guarantee
Tik Tok: http://bit.ly/3goOcUU
IG: welldone_guarantee

ติดต่องานได้ที่
[email protected]

Mercedes-Benz มีแผนเปิดตัว EQC รถยนต์ไฟฟ้า ใหม่ล่าสุด ในไทย ปี 2019 นี้

Stuttgart/Las Vegas. At CES 2019 in Las Vegas the first Mercedes-Benz vehicle from the EQ brand is celebrating its US premiere. The EQC (combined power consumption: 22.2 kWh/100 km; CO2 emissions combined: 0 g/km, provisional details) symbolises the beginning of a new mobility era at Daimler. With its seamless, clear design and colour highlights typical of the brand, it is a pioneer for an avant-garde electric look while representing the design idiom of Progressive Luxury. With respect to quality, safety and comfort the EQC is the Mercedes-Benz among electric vehicles, and highly convincing in the sum of its attributes. These elements are accompanied by dynamic performance, thanks to two electric motors at the front and rear axles with a combined output of 300 kW. Thanks to an ingenious operation strategy, the EQC has a preliminary range of 450 kilometres (279 miles) according to the European cycle NEDC. EQ also offers comprehensive services with Mercedes me, and makes electromobility convenient and suitable for day-to-day motoring.
As the first Mercedes-Benz model under the new product and technology brand EQ, the Mercedes-Benz EQC has many trailblazing design details and colour highlights typical of the brand. Both inside and out, the EQC embodies the design idiom of Progressive Luxury. This arises from the combination of a previously unknown beauty, the conscious clash of digital and analogue elements as well as the seamless merging of intuitive and physical design.

By virtue of its muscular proportions, the EQC is classed as a crossover SUV. The extended roofline and window layout with a low waistline and the coupé-like roof recess at the rear visually position it between an SUV and an SUV coupé.