"ยาฟาวิพิราเวียร์ กับ ฟ้าทะลายโจร"
เห็นดราม่าเรื่องนี้เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ที่กลุ่มผู้สนับสนุนให้ใช้ "ฟ้าทะลายโจร" กับโรค covid-19 ออกมาโจมตียาต้านไวรัส อย่าง "ฟาวิพิราเวียร์" .. แล้วก็มีคนส่งมาถามหลังไมค์เยอะเลย ว่ามันยังไงแน่
ก็ตอบไปว่า ไม่เห็นจะต้องมาทะเลาะกันเลย ! ถ้ามันเป็นความเชื่อเป็นความนิยมในยาสมุนไพรของเขา ก็ไม่เห็นจะต้องมาโจมตีคนอื่นที่ใช้ยาเคมี ก็เลือกเดินหรือเลือกใช้เป็นคนละทางก็ได้
แล้วจริงๆ ยาทั้ง 2 ตัวนี้ ก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่า "มีผลต่อตับ" ได้ทั้งคู่ จึงมีคำแนะนำว่า ไม่ให้ใช้ร่วมกันอยู่แล้ว
สรรพคุณของพวกมันเอง ก็ไปคนละทางกัน ไม่ได้จะทับเส้นทางการรักษากันสักหน่อย
อย่างฟ้าทะลายโจร ก็มีสรรพคุณแบบสมุนไพรเย็น คือการบรรเทาอาการของโรคหวัด เช่น พวกตัวร้อน เป็นไข้ ปวดเมื่อยร่างกาย ... จริงๆ น่าจะไปทับผลประโยชน์กับยาพาราเซตามอลมากกว่า
ในขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็น "ยาต้านไวรัส แบบ broadband" ซึ่งแม้จะอยู่ในระหว่างการนำมาใช้แบบยาฉุกเฉิน ในกว่า 30 ประเทศ เนื่องจากยังไม่มีการพัฒนายาต้านไวรัสจำเพาะสำหรับเชื้อโรคโควิด ได้สำเร็จ (สำหรับประเทศญี่ปุ่น ก็มีการทดลองนำมาใช้แบบฉุกเฉินเช่นกัน ส่วนการใช้ทั่วไปอย่างเป็นทางการ จะต้องรอทางจากผลการทดสอบทางคลินิกเฟสที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในเดือนตุลาคมนี้)
แต่จนถึงวันนี้ ผลงานวิจัยและผลการนำไปใช้จริงในประเทศต่างๆ ออกมาค่อนข้างเยอะแล้วว่า ฟาวิพิราเวียร์มีส่วนช่วยเรื่องการ "ลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส" ได้จริงในระยะแรกของการติดเชื้อ จึงควรจะให้ยานี้โดยเร็วกับผู้ป่วยสีเขียว เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะขยายเป็นสีเหลือง-สีแดง
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเราต้องนำเข้ายาฟาวิพิราเวียร์ ไม่สามารถผลิตเองได้ จึงใช้อย่างจำกัด ต้องรอให้เกิดอาการปอดอักเสบเสียก่อน ค่อยจ่ายยา.. ซึ่งไม่ค่อยสอดคล้องกับงานวิจัย ที่พบว่ายานี้ไม่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยเหลือง-แดง รอดชีวิตในที่สุด สักเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ องค์การเภสัชฯ สามารถผลิตได้แล้ว และทำให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างกว้างขวางขึ้น จ่ายยาง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่กักตัวเองที่บ้าน หรือ home isolation
จึงไม่แปลก ที่จะมีหลายๆ คนอย่างเช่น กลุ่มธุรกิจ สภาอุตสาหกรรม หรือแม้แต่คุณสรยุทธ (ช่องสาม) และผมเอง ที่พยายามเรียกร้องให้องค์การเภสัชฯ ยอมให้มีการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ โดยโรงงานยาเอกชนในไทยให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้มียามากเพียงพอ ไม่ต้องขาดแคลนเหมือนเมื่อก่อน
ในขณะที่ข้อดีของฟ้าทะลายโจร คือมีการผลิตกันมากมายเต็มไปหมด ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวยาได้โดยง่าย ... เมื่อสาธารณสุขยังไม่มียาต่างๆ (เช่น ยาต้านไวรัส ยาแก้ปวด ยาลดเสมหะ ฯลฯ) แจกจ่ายให้ประชาชนเพียงพอ การให้ยาสมุนไพรราคาถูก อย่างฟ้าทะลายโจรไปก่อนนั้น ก็เป็นแนวทางที่สามารถทำได้
แต่ก็มีข้อเสียเรื่อง ต้องระวังว่า ซื้อมาได้มาตรฐานหรือเปล่า และมีตัวยาสำคัญอยู่ในนั้น มากเพียงพอต่อการช่วยบรรเทาอาการของโรคโควิดหรือไม่ ... แล้วที่สำคัญคือต้องเน้นว่า ใช้กินบรรเทาอาการเมื่อป่วยเป็นโรค covid แล้วเท่านั้น ไม่ใช่กินเพื่อป้องกันโรค เดี๋ยวจะมีปัญหาต่อตับและอวัยวะอื่นๆโดยไม่จำเป็น
แต่ที่ปวดหัวจริงๆ คือการเคลมเกินความจริง หรือ overclaim ว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถรักษาโรค covid ได้ ซึ่งยังไม่ได้มาจากผลการศึกษาวิจัยทางคลินิก ที่เป็นมาตรฐานเพียงพอ คือ ไม่มีการทดสอบเทียบกับยาหลอก (placebo) และไม่ผ่านการวิเคราะห์ทางสถิติ ว่าได้ผลจริงอย่างมีนัยสำคัญ
แต่มักจะเป็นการอ้างเอาจากการนำไปใช้แจกให้คนกินกัน แล้วสำรวจผลว่า มีคนหายจากโรคโควิดกี่คน เอามาคูณเป็นเปอร์เซ็น (อย่างเช่นที่กรมราชทัณฑ์ชอบเอามาอ้าง) ซึ่งเพียงแค่นี้มันเอามาใช้บอกประสิทธิภาพของยาไม่ได้
ที่สำคัญคือ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 นั้นกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์สามารถหายได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพายาอะไร แม้ว่าจะมีอาการป่วยเกิดขึ้นก็ตาม ... นั่นเลยเป็นปัญหาใหญ่ ที่ทำให้บรรดายาสมุนไพรสารพัดชนิด วิธีการรักษาสารพัดแบบ หรือแม้แต่น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ (น้ำโฮมีโอพาธี ของ ก.สาธารณสุข เอง) ถูกเอามาแอบอ้างกันอยู่เรื่อย ว่าสามารถใช้รักษาโรคโควิดได้
#สรุป ผมก็ยังแปลกใจว่า จะมาดราม่าทะเลาะกันทำไม มันมีการขัดผลประโยชน์อะไรกันเหรอ ถึงต้องโจมตีกัน
แต่ถ้าเป็นผม ผมก็คงซื้อสมุนไพรอย่างฟ้าทะลายโจรเก็บเอาไว้ที่บ้าน ... แล้วถ้าป่วยเป็นโควิดขึ้นมา ก็พยายามติดต่อขอยาฟาวิพิราเวียร์ ผ่านระบบ home isolation เพื่อมากินต้านไวรัสในตัว ให้ไวรัสเพิ่มน้อยที่สุดที่ทำได้ .. โดยกินฟ้าทะลายโจรบรรเทาอาการไปก่อนระหว่างที่รอยา
ส่วนใครจะนิยมกินฟ้าทะลายโจรอย่างเดียว ก็เชิญได้เลยนะครับ ไม่ขัดศรัทธากัน 😀
「สักเท่าไหร่ คือ」的推薦目錄:
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ warattapob.com Facebook 的最佳貼文
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 สักเท่าไหร่ (How Long) - Soundlanding [Official Lyrics Video] 的評價
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 จดหมายจากความเหงา - ป๊อด ธนชัย (MV-Full Version) - YouTube 的評價
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 สักเท่าไหร่ - Atlantic [Official MV] - YouTube 的評價
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 CLASH feat. พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ : วันนั้นของพี่ วันนี้ของน้อง [OFFICIAL ... 的評價
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 ตาคมผมยาว ผิวไม่ขาวสักเท่าไหร่ มันชั่งถูกใจ พี่บ่าวคนนี้ - Facebook 的評價
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 “ต่อให้โลกจะหมุนสักเท่าไร เธอยังคงสดใส อ่อนหวานเหมือนเคย”... 的評價
- 關於สักเท่าไหร่ คือ 在 แม้ว่ามืดมนสักเท่าไหร่ ก็ยังจะขอลืมตา...... - Facebook 的評價
สักเท่าไหร่ คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ warattapob.com Facebook 的最佳貼文
⚡เงินร้อน & เงินเย็น แบบไหนเหมาะแก่การลงทุนที่สุด⚡
💥 เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงเคยได้ยินกับคำศัพท์ทางการเงินนี้กันมาบ้างแล้ว
🔥 คำว่า “เงินร้อน”🔥
💧 และ “เงินเย็น”💧
ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีคนจำนวนมากไม่เข้าใจในความหมายของมันจริง ๆ สักเท่าไหร่ และเงินส่วนไหนกันนะที่ควรค่าแก่การไป “ลงทุน”
เงินเย็นคืออะไร ⁉️
💰เงินเย็น คือ เงินในส่วนที่ “ไม่ได้จำเป็น” จะต้องนำไปใช้อะไร แม้แต่การนำไปใช้กับเรื่องฉุกเฉิน เป็นเงินที่เราสามารถเสียไปโดยที่ไม่เดือดร้อน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เงินที่หายไปก็ไม่เสียดายนั่นเอง เพราะการลงทุนในหุ้นนั้นมี “ความเสี่ยง” ดังนั้นถ้าหากเราเอาเงินที่เกี่ยวข้องกับการใช้ “ชีวิต” ไปเสี่ยง สำหรับเหตุผลหลักว่าทำไมควรใช้เงินเย็นในการลงทุน ก็คือการที่เงินเย็นเป็นเงินที่ไม่ได้จำเป็นจะต้องนำไปใช้กับอะไรเป็นพิเศษ (แม้แต่กับเรื่องฉุกเฉิน)
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไม่จำเป็นต้องถอนเงินจำนวนนี้ออกมาจากพอร์ตการลงทุน ที่อาจต้องขายขาดทุน หรือทำกำไรได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น การใช้เงินเย็นก็ไม่ได้แปลว่าไม่เสี่ยงนะครับ จะเงินร้อน เงินเย็น📊📉
เงินแบบไหนมันก็เสี่ยงทั้งหมดเมื่อมาลงทุนในหุ้น แต่ข้อได้เปรียบของเงินเย็น คือ เป็นเงินที่ “ไม่มีผลกระทบ” ต่อการใช้ชีวิตในทุก ๆ วันนั่นเอง แค่มันอาจจะเจ็บใจเล็กน้อยเมื่อขาดทุน ที่สำคัญไม่ควรใช้เงินกู้ในการเล่นหุ้น พอเล่นแล้วเสีย จะต้องมีภาระทั้งดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในชีวิตอีกด้วย นอกจากเงินเย็นแล้ว สิ่งแรกที่ควรต้องมีก่อนจะเริ่มลงทุน คือ “เงินออม” โดยอย่างน้อยต้องมีเงินออมไว้จำนวน 3-6 เท่าของรายจ่าย เผื่อไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินและไม่คาดฝันกันด้วย
เงินร้อน คืออะไร⁉️
🔥เงินร้อนคือ เงินที่เราได้มาแล้วเราก็ต้องจ่ายไปในเวลา “อันรวดเร็ว” นั่นเองครับ ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ เช่น เงินที่ต้องนำมาชำระหนี้สินต่าง ๆ สมมุติเงินเดือนออก แล้วเรามีหนี้ที่ค้าง เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ เราก็ต้องเอาเงินไปใช้หนี้นั้นซะก่อน หรือหนี้บัตรเครดิตอีก ซึ่งเงินตรงนี้แหละครับที่เรียกว่าเงินร้อน เพราะมันอยู่กับเราได้ไม่นานเดี๋ยวก็ไป💳🏡🚘
เงินแบบไหนควรค่าแก่การนำมาลงทุนมากกว่ากัน❓
✅ สำหรับการลงทุนเพื่อไปต่อยอดเงินนั้นควรใช้เงินเย็นมาลงทุนมากกว่าครับ ห้ามใช้เงินร้อนเด็ดขาด เพราะเงินเย็นนั้นจะได้เปรียบในเรื่องของระยะยาว เนื่องจากเราไม่มีแผนว่าจะใช้เงินส่วนนี้ในการทำอะไรทั้งสิ้น ทำให้เราสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในอนาคต
การลงทุนในหลาย ๆ ครั้ง เราไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้นะครับว่าเราจะได้ทุน หรือกำไรตอบแทนกลับมาเมื่อไหร่ ซึ่งถ้านำเงินร้อนมาใช้ แล้วปรากฏว่าต้องจ่ายหนี้ที่ค้างไว้ แต่เงินลงทุนยังไม่ได้คืนกลับมา เท่ากับว่าเราขาดสภาพคล่องไปในทันที ต้องกู้หนี้ยืมสินคนอื่นเพิ่มเติมอีก
เพราะฉะนั้น คนไหนที่คิดจะลงทุนทั้งที ก็ต้องมีความใจเย็น ๆ กันนิดนึงนะครับ เคลียร์หนี้เคลียร์สินให้หมดเสียก่อนแล้วค่อยตัดสินใจลงทุน หรือถ้ามีหนี้จริง ก็แบ่งเงินร้อนไว้ส่วนหนึ่ง เงินเย็นไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อจะได้สามารถชำระหนี้ได้ครบถ้วน พร้อมทำการลงทุนต่อยอดเงินไปพร้อม ๆ กันได้เลย
💸💵💰“ เพราะการเงินนั้นเรียกได้ว่า เป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต ฉะนั้นแล้ว ก่อนจะตัดสินใจลงทุนหรือนำเงินมาใช้ทำกับอะไร ควรที่จะวางแผนรอบคอบให้ดีเสียก่อนนะครับ ”
หรือถ้าหากคุณอยาก “ต่อยอดเงิน” ของคุณให้งอกเงย แต่ไม่รู้จะเริ่มลงทุนอย่างไร ผมขอแนะนำให้คุณเข้าร่วมสัมนาออนไลน์ฟรี‼ โดยใช้กลยุทธ์ WAR-KETING™ ลิขสิทธิ์เฉพาะของผมเพิ่มเติมได้
✅โดยคลิกลิงก์นี้ 👉 http://bit.ly/390GpJG
หรือแอดไลน์มาที่👉 @war-keting
หรือคลิกลิงก์นี้เพื่อถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ 👉 http://bit.ly/37KU3Be
==============
วรัทภพ รชตนามวงษ์
#หาเงิน #หาเงินออนไลน์ #หาเงินง่ายๆ #หาเงินด้วยตัวเอง #ขายของออนไลน์อะไรดี #ขายของ #เงินร้อน #เงินเย็น #วางแผน #รอบคอบ #ขายของออนไลน์ #การตลาด #การตลาดออนไลน์ #ธุรกิจ #ธุรกิจออนไลน์ #การเงิน #คุยกับวรัทภพ #tiktalk #tiktok #พัฒนาตนเอง #พัฒนาตัวเอง #รวย #แรงบันดาลใจ #ความสำเร็จ #รวยเร็ว
#ประสบความสำเร็จ #กำลังใจ #ความรู้ #วรัทภพ #warattapob
สักเท่าไหร่ คือ 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่เป็นโรค “กลัวการขาย” ซึ่งผมเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น เพราะคนเราส่วนใหญ่มักมีทัศนคติที่ไม่ค่อยจะดีต่อ “การขาย” สักเท่าไหร่
.
การขายมักถูกมองว่าคือ “การยัดเยียด” ให้กับผู้บริโภค เเต่ความจริงเเล้วการขายที่ดีมันคือ “การหาความต้องการของลูกค้าให้เจอเเล้วตอบโจทย์ความต้องการ” ต่างหาก
.
นั่นจึงทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศในช่วงพักเที่ยงเมื่อตอนสมัยเรียนอยู่ ม.ปลาย หลังจากที่เด็กทุกคนรับประทานอาหารเสร็จก็จะมีเวลานิดหน่อยประมาณ 20 นาที ก่อนจะเข้าเรียนภาคบ่ายซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเวลาที่เด็กๆ วัยนี้จะมานั่งคุยกันหรือเตะบอลกระดาษอยู่หลังห้อง
.
เเละดูเหมือนว่าจะมีเด็กคนหนึ่ง คือ นายกันต์ (นามสมมติ) เห็นโอกาสทำเงินในช่วงเวลานั้น กันต์จึงนำข้าวเกรียบรสปราปริก้ามาขายให้เด็กคนอื่นๆในราคาถุงละ 10 บาท โดยกันต์จะเดินไปขายให้ลูกค้าถึงที่ทุกห้อง
.
ซึ่งผลตอบรับก็ออกมาดีมาก กันต์ขายดิบขายดีจนมียอดขายมากถึง 50 ถุงต่อวัน ทำรายได้วันละ 500 บาท เเบบสบายๆ เเละดูเหมือนกันต์จะมีลูกค้าประจำหลายคนเลย เพราะวันไหนที่กันต์ไม่มาโรงเรียนทุกคนจะถามหาข้าวเกรียบของกันต์ราวกับว่ามันคือยาเสพติดซะอย่างนั้น
.
การขายของกันต์ไม่ใช่การยัดเยียดเลย เขาเพียงเเค่มองเห็นความต้องการของลูกค้า ว่าช่วงเวลานั้นคือเวลาที่เด็กคนอื่นๆ จะนั่งคุยเเละเล่นฟุตบอลกัน มันน่าจะดีถ้ามีขนมขบเคี้ยวไปเสริฟให้ถึงที่ โดยที่ไม่ต้องเดินลงไปซื้อเองที่ร้านค้าของโรงเรียนให้เหนื่อย ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะจ่ายเงินให้กับกันต์
.
เเถมของที่กันต์นำมาขาย ก็ไม่มีขายในโรงเรียนซะด้วยสิ เท่ากับว่ากันต์ผูกขาดตลาดข้าวเกรียบรสปราปริก้าในโรงเรียนเเห่งนี้เรียบร้อย นั่นจึงทำให้กันต์มีลูกค้าเพิ่มมากเรื่อยๆ เเละรายได้ของเขาเองก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไปได้สวยมากๆ
.
เเต่ก็เหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งเขา หลังจากที่กันต์ขายข้าวเกรียบไปได้ 1 เดือน กันต์ถูกครูฝ่ายปกครองเข้ามายึดข้าวเกรียบทั้งหมดไป พร้อมกับเชิญกันต์ไปที่ห้องปกครอง เเละถูกทำโทษทางวินัย ฐานนำสินค้ามาขายภายในโรงเรียน
.
ซึ่งไม่ใช่เเค่โรงเรียนที่ผมเคยศึกษาที่ห้ามเด็กนำของมาขายในโรงเรียน หลายๆ โรงเรียนก็เป็นเเบบนี้เช่นกัน เด็กที่นำของมาขายที่โรงเรียนมักถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี ถูกตัดสินว่าเป็นคนผิด
.
นั่นจึงทำให้เด็กหลายคนมีทัศนคติต่อการขายที่ไม่ดี ไม่กล้าที่จะขายของ เมื่อโตขึ้นมาก็เลยกลายเป็นคนกลัวการขาย ทั้งๆ ที่โลกเราถูกขับเคลื่อนไปด้วยการซื้อขายทั้งสิ้น
.
นอกจากระบบการศึกษาของบ้านเราจะไม่เคยสอนการขายเเล้ว ซ้ำยังปิดกั่นโอกาสที่พวกเขาจะฝึกฝนการค้าขายด้วยตัวเองอีก ทั้งที่จริงเเล้วเราทุกคนล้วนต้องเจอกับการ “ขาย”
.
ไม่เพียงเเค่การขายในรูปเเบบของสินค้าเท่านั้น เพราะถ้าคุณอยู่ในวงการศึกษาคุณก็ต้อง “ขายความรู้” ถ้าคุณจะสมัครเข้าทำงานบริษัท ”คุณก็ต้องขายความสามารถ”
.
เเม้กระทั่งนักเขียนเองก็ยังต้องขาย “ความคิดสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ” ให้กับผู้อ่าน
.
ดังนั้น ถ้าวันนี้คุณกำลังคิดจะศึกษาเรื่องอะไรอยู่สักอย่าง การขายถือเป็นหนึ่งในศาสตร์ที่คุณจำเป็นต้องมี เพราะไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร “ความสามารถในการขายจะเป็นตัวกำหนดรายได้ของคุณ”
.
.
"ความลับของคนที่ขายอะไรก็สำเร็จ" หนังสือจิตวิทยาการขาย ที่จะทำให้คุณขายของได้โดยที่ลูกค้าไม่รู้สึกเลยว่ากำลังโดนขายของอยู่
.
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
สักเท่าไหร่ คือ 在 จดหมายจากความเหงา - ป๊อด ธนชัย (MV-Full Version) - YouTube 的推薦與評價
![影片讀取中](/images/youtube.png)
" เพราะความเหงา คือ เพื่อนเก่าที่แสนดี\" จดหมายจากความเหงา - ป๊อด ธนชัย อุชชิน อัลบั้ม Club Friday Based On True Story By เอิ้น พิยะดา Download เพลงนี้ กด ... ... <看更多>
สักเท่าไหร่ คือ 在 สักเท่าไหร่ - Atlantic [Official MV] - YouTube 的推薦與評價
![影片讀取中](/images/youtube.png)
... **แต่สิ่งที่พลาดมานั้นไม่เป็นไร ไม่เป็นไรไม่ต้องเสียใจ มัน คือ บทเรียนที่น่าจดจำ ความเจ็บซ้ำคงอยู่กับเราได้ไม่นาน กับเรื่องแค่นี่จะเจ็บ สักเท่าไร ไม่มีใครในโลกนี้ ที่ไม่เคยผิดหวัง ... ... <看更多>
สักเท่าไหร่ คือ 在 สักเท่าไหร่ (How Long) - Soundlanding [Official Lyrics Video] 的推薦與評價
เพลง : สักเท่าไหร่ (How Long) ศิลปิน : Soundlanding อยู่ที่ตรงไหน? ทางที่เลือกเดิน ออกมาไกลเหลือเกิน หยุดอยู่ตรงไหน? ... <看更多>