Alice in Borderland อลิซในแดนมรณะ เป็นซีรีส์หนีตายแนว Battle Royale ที่ครีเอทมากเนื้อหาดี ดูสนุกดูรวดเดียว 8 ตอนเพลินมาก..
.
คือด้วยกระแสที่แรงมาก เลยลองเปิดดูตอนนึง ปรากฏว่าดูแล้วหยุดไม่ได้เลย แบบยิงยาวรวดเดียวไป 8 ตอนรวด สนุกมากกก ชอบมากกกกกก ขนาดว่ามันมีความ Battle Royale ที่เราคุ้นเคยยังอดตื่นตาตื่นใจไปกับความสนุกและความน่าติดตามของมันไม่ได้เลย ญี่ปุ่นเค้าทำอะไรแบบนี้เก่งมากนะ คือมันสร้างมาจากอนิเมะ แล้วเอาคนมา Cover ใส่บุคลิกเสื้อผ้าหน้าผมออกมาคือทุกอย่างเป๊ะเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนเลย มันให้ฟีลลิ่งที่ดีมาก ทั้งพระเอกนางเอก เค้าครีเอทออกมาได้เท่มีสไตล์ มีเอกลักษณ์มากครับ
.
Alice in Borderland ดัดแปลงโดยล้อจากวรรณกรรมเด็กเรื่อง Alice in wonderland จาก อลิซในแดนมัศจรรย์เป็นอลิซในแดนมรณะ ใส่เนื้อหาความดาร์คและความดุเดือดแบบญี่ปุ่นลงไปแทน โดยเปลี่ยนตัวละครจาก อลิซ ที่เป็นเด็กผู้หญิง กลายมาเป็นชายหนุ่มชื่อ อาริสึ หนุ่มเนิร์ดติดเกมส์ที่ไม่ทำการทำงาน มีเพื่อนสองคน คือ คารุเบะ หนุ่มเฝ้าบาร์ที่เป็นหนุ่มสายบุ๊เลือดร้อน และ โจตะ หนุ่มออฟฟิศที่เป็นชายหนุ่มที่ดูธรรมดา ฐานะไม่ดีมาก อยู่ๆทั้งสามคนวิ่งหนีเหตุการณ์บางอย่างเข้าไปในห้องน้ำสาธารณะแล้วพอออกมาจากห้องน้ำสาธารณะเค้าก็พบว่าโตเกียวทั้งเมืองร้างผู้คนไม่มีคนอยู่ในเมืองแม้แต่คนเดียว และพอตกดึกก็ต้องเข้าไปผจญกับเกมส์ที่ต้องเอาชีวิตมาเป็นเดิมพัน พร้อมกับผู้เล่นที่มาร่วมด้วย โดยทางเคลียร์เกมส์สำเร็จก็จะได้วีซ่าต่อชีวิตตามไพ่ที่เค้ากำหนดให้ โดยวีซ่าที่ได้ก็จะมีอายุให้อยู่ต่อได้อีก 2-3 วัน ในระหว่างที่วีซ่ายังอยู่เค้าก็จะต้องเข้าไปเล่นเกมส์เพื่อต่อวีซ่า ถ้าหากวีซ่าหมดก็จะโดนเลเซอร์ยิงกลางหน้าผากตายทันที และในแต่ละเกมส์ก็ไม่ใช่ว่าจะรอดได้ง่ายๆ ทั้งสามต้องเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆจนได้เจอกับนางเอกคือ อูซางิ สาวนักปีนเขาที่มีปมชีวิตบางอย่าง การเล่นเกมส์ไปเรือยๆเพื่อเอาชีวิตรอดอาจจะไม่ใช่ทางออก สิ่งที่เค้าต้องค้นหาก็คือ สาเหตุและหนทางที่จะทำให้เค้าสามารถรอดออกไปจากโลกที่แปลกประหลาดพิศดารแบบนี้...
.
ในความที่เป็นหนังแนว Battle Royale ที่เราอาจจะมองว่ามันไม่ได้แปลกใหม่แล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆ ด้วยเงื่อนไขของ Alice In Borderland นี่แหละที่เรารู้สึกว้าวไปกับสถานการณ์เงื่อนไข รวมไปถึงการใช้ไพ่และดอกไพ่ต่างๆที่ล้อไปกับหนัง Alice In Wonderland โดยเฉพาะในเกมส์โพธิ์แดง ที่เป็นเกมส์วัดใจที่ค่อนข้างจะหลอกล่อผู้เล่นให้เข้าสู่สงครามประสาทและวัดใจกันเองตลอดเวลา สิ่งที่เราจะได้เห็นแน่นอนคือความคิดในใจที่เป็นจิตสำนึกข้างในของตัวละครที่ลึกที่สุดว่าจริงๆมนุษย์ทุกคนต่างก็มีความเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะพระเอก อาริสึ ที่แม้จะเป็นเด็กเนิร์ดเกมส์และเอาจริงๆคือข้างในเป็นคนใสๆที่จิตใจดีมากๆและมีทักษะโดยเฉพาะสมองเป็นเลิศ หรืออย่างนางเอกที่มีทักษะในการปีนเขาและเอาตัวรอดเก่ง ส่วนพวกตัวอื่นๆก็จะมีทั้งตัวโกง คนที่ใช้กำลัง พวกฉลาดแกมโกง ในหลายๆตัว ตัวละครทุกตัวถูกนำมาใส่เข้าไปในหนังได้อย่างลงตัว เกมสืทุกเกมส์ถูกออกแบบมาอย่างดี คนดูๆแล้วรู้สึกชวนติดตาม และแน่นอนว่าสาเหตุใหญ่ปมใหญ่ที่จะพาเราไปเจอกับผู้บงการและต้นเหตุที่แท้จริงที่มาที่ไปว่าจริงๆมันคืออะไรกันแน่นี่แหละ มันเลยทำให้เราอยากเปิดดูอย่างรู้สึกว่า มันต้องดูต่อ ดูจบตอนก็ปิดไม่ลง ต้องไปต่อเรื่อยๆ
.
นักแสดงทีมพระเอกเนี่ยโดยเฉพาะตัวพระเอก อาริสึ ที่รับบทโดย เคนโตะ ยามาซากิ (พระเอก Good Doctor) คือจริงๆนางเป็นผู้ชายหน้าตาน่ารักแบ๊วๆ แบบน่ารักมากเลยนะ เรื่องนี้กลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาบ้านๆดูธรรมดาๆ แต่ยิ่งดูยิ่งโดนตกในความน่ารัก แคสมาดีงามมาก เป็นคนธรรมดาที่ดูไม่มีอะไรแต่มีของและมีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน เป็นคนน่าติดตามมาก นางเอก อูซางิ ที่มารับบทโดย ทาโอะ ซึชิยะ เสื้อผ้าหน้าผมเหมือนหลุดมาจากเกมส์ที่สวยๆอ่ะและนางก็สตรองมาก และเหนือสิ่งอื่นใด นักแสดงหญิงในเรื่องนี้สวยมากๆ และงานดีทุกคน
.
Alice in Borderland ฉายให้เราชมทาง Netflix ทั้งหมด 8 ตอน ๆละประมาณ 40 กว่านาที ตอนนึงดูแป๊บๆจบ ดูจบก็อยากดูต่อแบบไม่มีอะไรมากั้นเพราะมันชวนติดตามสุดๆครับ และแน่นอนว่าสิ่งที่เรารอคอยนาทีนี้คือ Season 2 ซึ่งคงมาปีหน้าแหละ แต่สำหรับ ss1 นี้อยากจะบอกว่าดูเถอะดูเลย สนุกมากครับ สนุกจริง!!
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過113萬的網紅คอเป็นหนัง,也在其Youtube影片中提到,***โดเนทเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคลิปให้ผมได้นะครับขอบคุณมากคับ *ผ่าน True Wallet - 0881558463 *ผ่าน พร้อมเพย์ - 0826694927 *ผ่าน True Money (แจ้งทางเพจ...
「อลิซ netflix」的推薦目錄:
อลิซ netflix 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
The November Man (6.5/10)
ถ้าไม่นับการเอาอดีตเจมส์ บอนด์ 007 มาเล่นนี่หนังจะเหลืออะไรเป็นจุดขายมั่งเนี่ย อย่างแรกคือหนังมันดันสร้างจากนิยายเมื่อปี 1987 แน่นอนว่าพล็อตอะไรต่าง ๆ ย่อมเชยระเบิดระเบ้อไปหมดแล้ว ดังนั้นสิ่งที่หนังพอจะปรับตัวได้ก็คือการเกาะเทรนด์หนังแอ็คชั่นสายลับยุคปัจจุบันที่เน้นความไฮเทคของทีมเบื้องหลังผสมกับความสามารถเฉพาะตัวของสายลับปฏิบัติการ คือเรารู้สึกว่าหนังมันพยายามจะเป็นเจสัน บอร์นอีกเรื่อง แต่ด้วยความที่ตัวแอ็คชั่นก็ไม่ได้มีอะไรให้ทึ่ง จะฟัดสุดมันแบบบอร์นหรือใช้ไหวพริบหลักแหลมก็ขาดหายไป หนังมันเลยไปไม่ถึงไหน กลายเป็นการมานั่งดูการโชว์เก่งของเพียซ บรอสแนนเท่านั้นเอง ก็คิดซะว่าดูพอหายคิดถึงไปละกัน
-------------------------------
หนังเล่าถึง 'เดเวอโรซ์' (Pierce Brosnan) อดีตสายลับของ CIA ที่ถูกเพื่อนเก่าดึงตัวกลับมาให้ทำภารกิจรับตัวสายลับกลับจากรัสเซีย แต่ปรากฎว่าสายลับคนนั้นดันเป็นหญิงสาวที่เขารัก ซึ่งเธอออกมาได้พร้อมหลักฐานบางอย่างแต่กลับถูกลอบยิงระหว่างทาง โดยคนยิงคือ 'เมสัน' (Luke Bracey) อดีตลูกศิษย์ของเขาที่ยังคงทำงานกับ CIA ทีนี้ฝ่ายเดเวอโรซ์, เมสัน, และคนของผู้สมัครปธน.รัสเซีย จึงพร้อมใจกันออกตามหาตัวเด็กสาวคนหนึ่งที่เชื่อว่ากุมความลับหลายอย่างของปธน. พวกเขาจึงต้องอาศัยข้อมูลสุดท้ายจากศูนย์ลี้ภัยที่ 'อลิซ' (Olga Kurylenko) ดูแลอยู่
.
ไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึงเท่าไร คือหนังมันก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเมื่อเทียบกับตระกูลสายลับด้วยกัน เรามองว่าการสร้างตัวละครเก่ง ๆ แบบเดเวอโรซ์มันทำได้ไม่ยาก หนังเรื่องไหนก็สร้างตัวละครเก่ง ๆ แบบนี้ได้ แต่จะให้เก่งบู๊บวกไหวพริบเข้าไปด้วยเนี่ยมันยาก ซึ่ง The November Man เองก็หนีไม่พ้นปัญหาแบบนี้ กลายเป็นตัวละครเอกเก่งเรื่องการยิงปืนหรือแสดงความเก๋าเหนือชั้นกว่าลูกศิษย์แต่ก็แล้วไง มันก็ได้แค่นั้น หนังมันไม่ได้ไปไกลกว่าหนังแอ็คชั่นแนวนี้เรื่องอื่นเลย สำหรับเรามันจึงเป็นหนังประเภทที่ว่าเปิดดูก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าเลือกได้ก็เอาเวลาไปดูเรื่องดี ๆ ไปเลย
.
ยิ่งพล็อตนี่สมกับเป็นหนังที่สร้างจากนิยายยุค 1987 ยังเล่นประเด็นเดิม ๆ ซีไอเออยู่เบื้องหลังแผนการร้ายบลาๆๆๆ อย่างแรกคือประเด็นแบบนี้มันล้าสมัย แต่ถ้าถามว่าหยิบมาใช้ได้ไหม มันก็ไม่ผิดอะไร สิ่งที่ต้องตำหนิมากกว่าคือพล็อตเรื่องที่ดูไม่น่าเชื่อสักเท่าไรว่าความเลวร้ายระดับนั้นจะมาพังแค่เพราะเด็กสาวที่ถูกจับมาเป็นทาสระบายความใคร่ของปธน. หลักฐานที่จะใช้เล่นงานมันน่าจะอลังการกว่านี้ นี่พี่เล่นเก็บรูปไว้ดูต่างหน้าเองในตู้เซฟด้วย แต่เส้นเรื่องการไล่ล่านี่ก็เพลิน ๆ ดี หนังไม่ค่อยเว้นช่วงให้รู้สึกเบื่อ อย่างน้อยก็โอเคกับการใส่เกียร์เดินหน้าไว ๆ ซึ่งช่วยพอทำให้หนังที่ไม่มีอะไรแบบ The November Man ยังอยู่ในระดับที่พอดูได้ไม่เสียดายเวลามากนัก
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/watch/80000438
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์ได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
อลิซ netflix 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
Godless (สามารถดูได้ใน Netflix)
ปูเรื่องราวอัดแน่นยาว 6 ตอนเพื่อจัดหนักฉากดวลปืนสุดเดือดใน e.p. สุดท้ายจริง ๆ Godless ถือเป็นซีรีส์แนวคาวบอยที่หวนคืนสู่รากเหง้ายุครุ่งเรืองได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังปรับปรุงบางอย่างให้เข้ากับการสร้างหนังในยุคใหม่อีกด้วย เพิ่งมารู้ตอนดูไปสักพักว่าเป็นผลงานเขียนบทและกำกับของ 'สก็อตต์ แฟรงค์' ซึ่งเป็นคนดัดแปลงบทหนังดัง ๆ หลายเรื่อง เช่น Logan, Minority Report แถมยังกำกับหนังที่เราชอบอย่างเรื่อง The Lookout ซึ่งคราวนี้เขากุมบังเหียนทำซีรีส์เดี่ยว ๆ ออกมาได้ไม่ผิดหวังสักนิดเดียว เนื้อเรื่องเป็นแนวล้างแค้นตามสไตล์หนังคาวบอย เมื่อโคตรวายร้ายอย่าง 'แฟรงค์ กริฟฟิน' (Jeff Daniels) ถูก 'รอย กู๊ด' (Jack O'Connell) คนที่ตัวเองนับเป็นลูกชายหักหลังออกจากแก๊ง เขาจึงพาลูกสมุนกว่า 30 คนออกตามล่าโดยไม่รู้ว่ารอยไปซ่อนตัวอยู่เมืองเล็ก ๆ ชื่อลาแบล ที่ทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิงเนื่องจากพวกผู้ชายทั้งหมดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในเหมือง
ความเจ๋งของซีรีส์น่าจะมีครบทุกองค์ประกอบเลย ตั้งแต่การกำกับภาพที่ถ่ายแสงธรรมชาติเกือบทั้งหมด พวกฉากถ่ายวิวทิวทัศน์ landscape ก็สวยงามตามท้องเรื่อง แต่ที่เด่นจริงคือพวกการถ่ายกลางคืน ที่แหล่งกำเนิดแสงบางครั้งมีแค่แสงเทียนกับแสงจากฟ้าแล่บ ดูแล้วนึกถึงงานของโรเจอร์ ดีกินส์ สมัยถ่าย The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford แต่คุณภาพอาจจะยังไม่เทียบเท่า แล้วถึงแม้ซีรีส์จะเดินเรื่องเป็นเส้นตรงแต่ชั้นเชิงการเล่าแฟลชแบ็กย้อนหลังก็ทำออกมาได้น่าสนใจ บางครั้งผู้กำกับเลือกจะเล่าฉากโหดของตัวร้ายแบบแหว่ง ๆ แบบโผล่มาคนดูก็เห็นคนตายทั้งเมือง แล้วค่อยให้ตัวละครอื่นมาบรรยายเติมเต็มความป่าเถื่อนไร้เมตตาตรงนั้น หรือฉากต่อเนื่องกันที่แฟรงค์ดวลปืนกับรอยก็ไม่ปรากฎภาพให้คนดูเห็นในตอนแรก แต่ผ่านไปสักพักเขาก็ให้ตัวละครอื่นมาสำรวจที่เกิดเหตุแล้วจินตนาการภาพเหตุการณ์ตอนนั้นจากตำแหน่งศพที่นอนเกลื่อนกลาด เช่นเดียวกับปูมหลังของแต่ละตัวละครที่ค่อย ๆ ต่อเป็นจิ๊กซอว์ผ่านการมองสิ่งของแล้วคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งมันจะค่อย ๆ เป็นภาพเต็มในท้ายที่สุด เพราะบางครั้งตัวละครก็เลือกจะพูดไม่หมดในตอนแรก แต่มาเล่าเติมเต็มภายหลัง ถือเป็นเทคนิคที่ทำให้ซีรีส์น่าติดตามดีเหมือนกัน
แล้วซีรีส์ยังพูดเรื่องความสัมพันธ์ได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะการพูดถึงเรื่องตัวแทนพ่อที่ขาดหายไป ระหว่างแฟรงค์ที่สอนทักษะต่าง ๆ ให้รอยมาตลอด และรอยก็นำทักษะที่ติดตัวบวกทัศนคติที่เกิดขึ้นระหว่างเขาเดินทางมาสอนต่อให้ 'ทรักกี้' ลูกชายของ 'อลิซ' (Michelle Dockery) หญิงสาวที่ช่วยเหลือเขาไว้ อย่าง e.p. 3 จะเห็นชัดมาก ๆ ว่ารอยคือต้นแบบให้ทรักกี้ ทั้งฉากขี่ม้าที่แม้เขาจะชำนาญขนาดไหนก็ยังล้มได้ ซึ่งทรักกี้ก็ได้เรียนรู้ที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่จนกว่าม้าจะยอมเคารพเป็นเจ้าของ หรือการสอนให้หลีกเลี่ยงการต่อสู้ ยอมโดนดูถูกถากถางแต่ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยไม่ต้องมาเสี่ยงชีวิตดวลปืนกับคนอื่น แล้วการเป็นต้นแบบตรงนี้จะมีให้เห็นตลอดเรื่อง จะว่าไปก็นึกถึงหนังคาวบอยคลาสสิกเรื่อง Shane เหมือนกัน แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไรเพราะตอนสก็อตต์ แฟรงค์ เขียนบท Logan เขาก็อ้างอิงถึง Shane แบบตรงไปตรงมา
ส่วนชื่อซีรีส์ที่หมายถึงดินแดนไร้พระเจ้า จริง ๆ อาจเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองความเชื่อ โดยแฟรงค์เป็นคนที่ผ่านเหตุร้ายแรงในวัยเด็กจนเขาไม่เชื่อในพระเจ้าอีกต่อไป ไม่มีใครมาช่วยเหลือตอนถูกทำร้าย และเขาก็มองโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย ซึ่งอาจจะจริงอย่างที่แฟรงค์ว่าเพราะเราจะได้เห็นตัวละครในซีรีส์ถูกฆาตกรรมได้ทุกเมื่อแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Godless ยังพูดถึงการพิสูจน์ตัวเองของนายอำเภออย่าง 'บิล' (Scoot McNairy) ที่เคยเป็นนักแม่นปืนขั้นเทพมาก่อน แต่ตอนหลังเขามีปัญหาด้านสายตาจนถูกชาวเมืองมองเป็นคนขี้ขลาดไปเลย สิ่งยึดเหนี่ยวสุดท้ายจึงเป็นการพิสูจน์ว่าตัวเองยังมีค่าด้วยการออกตามล่าแฟรงค์ในดินแดนไร้พระเจ้าแห่งนี้ นอกเหนือจากนั้นซีรีส์ยังสอดแทรกแง่มุมโรแมนติกเบา ๆ มาเป็นระยะ น่าจะเป็นเรื่องแรก ๆ ในหนังตระกูลคาวบอยที่ใส่ประเด็นหญิงรักหญิงด้วย แต่ไม่ได้เน้นหรือขยายความเท่าไรนอกจากใส่แค่ให้มี ส่วนความรักของคู่พระนางก็มีกลิ่นอายแบบความนับถือมากกว่า เป็นสายตาที่มองถึงการมีผู้ชายเป็นต้นแบบให้ลูก และมองความเป็นสุภาพบุรุษที่น่านับถือ แต่จะว่าไปแล้วถึงแม้ซีรีส์จะนำเสนอการอยู่ได้ด้วยตัวเองของเพศหญิงแต่เนื้อหาก็ค่อนข้างสนับสนุนประเด็นที่ว่าผู้หญิงยังต้องพึ่งพาผู้ชายอยู่
Creator: Scott Frank (ผู้กำกับ A Walk Among the Tombstones, The Lookout เขียนบท Out of Sight, Logan)
7 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 70 นาที)
A-
อลิซ netflix 在 คอเป็นหนัง Youtube 的最讚貼文
***โดเนทเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคลิปให้ผมได้นะครับขอบคุณมากคับ
*ผ่าน True Wallet - 0881558463
*ผ่าน พร้อมเพย์ - 0826694927
*ผ่าน True Money (แจ้งทางเพจด้วย) - http://bit.ly/2mVhm5z
*ผ่าน Paypal - https://goo.gl/sFbN5j
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
มีข้อมูลผิดพลาดตรงไหน ขออภัยไว้ก่อนด้วยนะคับ พูดเท่าที่จำได้แต่เพื่อนสามารถช่วยคอมเม้นแก้ไขคุยกันเข้ามาขำๆเลยครับเพราะทำคลิปนี้เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันนี่ละครับผม ...
ติดต่องานรีแอ็คชั่น+โฆษณษณาอื่นๆต่อติดต่อได้ทางเพจ https://www.facebook.com/KorPenNang/
#คอเป็นหนัง #สปอยล์เอามันส์
อลิซ netflix 在 คอเป็นหนัง Youtube 的最佳貼文
***โดเนทเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคลิปให้ผมได้นะครับขอบคุณมากคับ
*ผ่าน True Wallet - 0881558463
*ผ่าน พร้อมเพย์ - 0826694927
*ผ่าน True Money - http://bit.ly/2mVhm5z
*ผ่าน Paypal - https://goo.gl/sFbN5j
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นการรีวิวสไตล์บ้านๆของคนชอบดูหนังคนนึงนะครับ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดหรือพูดอะไรไม่ถูกต้องไม่ถูกใจต้องขออภัยด้วยกันไวด้วยนะจ๊ะ. . ....
ติดต่องานรีแอ็คชั่น+โฆษณษณาอื่นๆต่อติดต่อได้ทางเพจ https://www.facebook.com/KorPenNang/
#คอเป็นหนัง #สปอยล์เอามันส์
อลิซ netflix 在 คอเป็นหนัง Youtube 的最佳解答
***โดเนทเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคลิปให้ผมได้นะครับขอบคุณมากคับ
*ผ่าน True Wallet - 0881558463
*ผ่าน พร้อมเพย์ - 0826694927
*ผ่าน True Money - http://bit.ly/2mVhm5z
*ผ่าน Paypal - https://goo.gl/sFbN5j
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นการรีวิวสไตล์บ้านๆของคนชอบดูหนังคนนึงนะครับ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดหรือพูดอะไรไม่ถูกต้องไม่ถูกใจต้องขออภัยด้วยกันไวด้วยนะจ๊ะ. . ....
ติดต่องานรีแอ็คชั่น+โฆษณษณาอื่นๆต่อติดต่อได้ทางเพจ https://www.facebook.com/KorPenNang/
#คอเป็นหนัง #คอเป็นหนังรีวิว