เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นพรหมวิหารสี่
ก่อนไปถึง 'อุเบกขา' อยากชวนคุยถึงคำที่องค์ทะไลลามะพูดบ่อยที่สุดคำหนึ่งนั่นคือ compassion (กรุณา)
ท่านเขียนไว้ในหนังสือ 'Beyond Religion' / 'ข้ามพ้นศาสนา' ในหัวข้อเกี่ยวกับความยุติธรรมอย่างน่าสนใจ ที่นึกถึงองค์ทะไลลามะเพราะท่านคือนักบวชที่ใช้ธรรมะมาคลุกเคล้าเข้ากับสังคมการเมืองและความทุกข์ในชีวิตอยู่เสมอ ในแง่หนึ่งท่านคือผู้ถูกกระทำจากรัฐบาลจีนกระทั่งต้องเดินทางออกจากบ้านตนเอง
ท่านกล่าวว่า ความกรุณาเป็นฐานให้ระบบโลกวิสัยได้ หลายคนมองกรุณาว่าคือให้อภัย อาจขัดแย้งกับหลักความยุติธรรมซึ่งต้องลงโทษผู้กระทำผิด กรุณามากเข้าอาจทำให้ผู้กระทำผิดไม่ได้รับการลงโทษ
องค์ทะไลลามะชี้ว่าอาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะ 'ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์' ไม่ได้บอกให้เรายอมจำนนต่อการกระทำผิดของผู้อื่น หรือก้มหน้ารับความอยุติธรรม ความกรุณาไม่สนับสนุนให้เราอ่อนแอหรือยอมตกเป็นเหยื่อ ตรงกันข้าม, มันต้องอาศัยความแข็งแกร่งและกล้าหาญอย่างสูง
ความกรุณาในมุมท่านทะไลลามะจึงสามารถลุกขึ้นต่อต้านความอยุติธรรมอย่างกล้าหาญโดยไม่รุนแรง
เช่นนี้แล้ว เมื่อเกิดความอยุติธรรมขึ้น เช่น คอร์รัปชั่น การบริหารจัดการที่ผิดพลาด การใช้อำนาจในทางที่ผิด การลัดคิวให้ผู้มีอภิสิทธิ์ หรือการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุโดยไม่ปฏิบัติตามหลักสากล เราสามารถต่อสู้กับความอยุติธรรมนั้นได้ด้วยหัวใจที่มีกรุณา มิใช่ให้อภัยหรือลืมๆ ไป
ในนิยามขององค์ทะไลลามะ การต่อสู้ด้วยกรุณาคือเน้นไปที่ 'การกระทำ' พยายามเปลี่ยนการกระทำชั่วของผู้กระทำให้กลายเป็นสิ่งถูกต้อง
ธรรมะจึงคลุกเคล้าอยู่กับชีวิต
เปื้อนดิน เปื้อนฝุ่น เจ็บปวด รู้สึกรู้สากับบาดแผล สะเทือนใจกับน้ำตา สั่นสะเทือนกับความตายและการสูญเสีย
...
เช่นนี้แล้ว อุเบกขาคืออะไร
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนไว้
แต่ถ้าคนมีธรรมะจะลุกขึ้นสู้กับความอยุติธรรมอย่างมีกรุณา ก็น่าจะสู้อย่างมีอุเบกขาได้เหมือนกัน อาจคล้ายกับคำพระที่บอกว่า 'รู้-แต่ไม่รู้สึก' ซึ่งปุถุชนไม่ใช่จะเป็นแบบนั้นได้ง่ายๆ (ผมนี่รู้สึกอยู่ตลอด)
นั่นคือต่อสู้กับความอยุติธรรมโดยไม่ให้กระทบใจตัวเอง แน่นอนว่าไม่ใช่การวางเฉย หรือไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ส่วนตัวแล้วคิดว่าสามารถเข้าไปร่วมขัดแย้งได้ ในเมื่อขัดแย้งกับความไม่ถูกต้อง แต่ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นก่อให้เกิดเจตนาร้ายต่ออีกฝ่าย เช่น ทำร้ายร่างกายหรือฆ่าฟัน (อันนี้ใช่ว่าทุกคนจะทำได้)
ดังที่องค์ทะไลลามะและผู้ติดตามท่านไม่เคยยอมรับการยึดครองอธิปไตยทิเบตของจีน เห็นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระนั้นก็ต่อสู้ด้วยหัวใจของนักปฏิบัติภาวนา
...
ที่พูดมามิใช่ว่าทำได้ ตรงกันข้าม, ทำไม่ได้เลยต่างหาก ยังโกรธเกรี้ยว หงุดหงิด บางทีก็ไม่มีกรุณา และบางคราก็ประสงค์ร้าย (ไม่สิ ไม่ควร) แต่แค่อยากหารือกับมิตรสหายว่า ธรรมะอย่างพรหมวิหารสี่นั้นสามารถนำมาปรับใช้เพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมและการใช้อำนาจในทางที่ผิดได้โดยไม่ลอยอยู่เหนือโลก
หากเราตีความว่า 'เมตตา' คือปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข 'กรุณา' คือปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ธรรมสองข้อนี้น่าจะทำให้หัวใจของเราสั่นไหวเมื่อเห็นคนถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกกระทำ ถูกกระสุนยาง แก๊สน้ำตา ถูกแย่งวัคซีน หรือสูญเสียญาติมิตรในชีวิต
หัวใจที่สั่นไหวต่อความทุกข์ของเพื่อนร่วมสังคม น่าจะเป็นหัวใจที่มีเมตตากรุณา ใช้หัวใจนั้นต่อสู้เพื่อความถูกต้องอย่างมีอุเบกขา (ไม่ให้ความรู้สึกมาสร้างอารมณ์รุนแรงในใจ--แน่นอนว่าโคตรยาก) เพื่อสังคมที่เราอยากเห็น
สังคมที่เท่าเทียมน่าจะมีฐานของ 'มุทิตา' อยู่ในนั้น คือยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นมีชีวิตที่ดี อาจปรับมาใช้กับแนวคิดของการอยากเห็นผู้คนในสังคมมีสวัสดิการชีวิตที่ดี เกิดรัฐสวัสดิการขึ้น เพราะรู้สึกดีที่คนจนคนด้อยโอกาสมีมาตรฐานในการเรียนการรักษาพยายาลและโอกาสต่างๆ ดีขึ้น--เช่นนี้คือมุทิตาจิตใช่หรือไม่
...
พรหมวิหารสี่ คือ ที่อยู่ของพรหม
นั่นคือที่ที่ได้ดำรงชีวิตอย่างประเสริฐต่อตัวเองและผู้อื่น
จะว่าไปมันอาจหมายถึงสังคมที่ดี มีความเป็นธรรม มีความเท่าเทียม ไม่กระทำรุนแรงต่อประชาชน ไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิด ไม่เขียนกฎหมายเข้าข้างตัวเอง ไม่เอาเปรียบเสียงจากประชาชนโดยมีอีก 250 เสียงตุนไว้ ก่อให้เกิดบ้านเมืองที่อยู่กันได้อย่างสันติ ยุติธรรม เคารพและให้เกียรติให้ความแตกต่างหลากหลาย เกื้อกูลให้คนด้อยโอกาสมีโอกาสเสมอหน้ากัน
ไม่แน่ใจว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดตีความถูกต้องหรือไม่ แต่อยากโยนความคิดลงไปเพื่อหารือกัน และคิดว่าถ้าเราสามารถนำธรรมะมาปรับใช้กับสังคมได้โดยไม่ละเลยความทุกข์ยากของผู้คนและสิ่งบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นในสังคม ธรรมะนั้นก็น่าจะใกล้ชิดกับชีวิตจริง
จึงแอบหวังให้ 'อุเบกขา' มาพร้อม 'เมตตา กรุณา และมุทิตา' ด้วย
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過265萬的網紅WOODY,也在其Youtube影片中提到,UNHCR มีแนวคิดนำหลักธรรมและคำสอนของพระพุทธเจ้า เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ประสบความยากลำบาก โดยเฉพาะผู้ลี้ภัย มาเป็นแนวทางแก่พุทธศาสนิ...
「เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา」的推薦目錄:
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 Capt.Benz Facebook 的最佳解答
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 Capt.Benz Facebook 的最佳貼文
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 WOODY Youtube 的最佳解答
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 ท่องเที่ยว ผจญภัย Youtube 的最讚貼文
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 Roundfinger - เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นพรหมวิหารสี่... 的評價
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นมิตรเป็นเพื่อน หวังดี มีชีวิตอีกไม่นาน ... 的評價
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 พรหมวิหาร 4 - Pinterest 的評價
- 關於เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 (๒๗) พรหมวิหาร๔ตามแนวโพชฌงค์ - Pagoda 的評價
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 Capt.Benz Facebook 的最佳解答
Ep. 65 - ปล่อยวาง หรือละเลย?
.
อันนี้ต้องถาม คู่กับคำว่าปล่อยวาง
อย่างไหนที่เรียกว่าปล่อยวาง
อย่างไหนที่เรียกว่ารับผิดชอบ
ถ้าอะไร ที่เรา
ยังพอรับผิดชอบได้ แต่เราปล่อยวาง
ชิงปล่อยวางซะก่อน
อันนี้คือสิ่งที่เรียกว่า เราไม่รับผิดชอบ
.
การปล่อยวาง
พระพุทธเจ้า วางหลักไว้เลยชัดเจนว่า
ทำอะไรก็แล้วแต่ คุณต้องประกอบด้วย
เมตตากรุณาก่อน ‘เมตตา’ คือความรัก
.
‘กรุณา’ คือความสงสาร
ถ้าเราทำด้วยเมตตากรุณาแล้ว
มันสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลง กับเขาได้
นี่คือ คุณต้อง ‘มุทิตา’
ก็คือดีใจกับเขา
.
แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้ว ช่วยแล้ว
จนสุดความสามารถ ของเราแล้ว
จนสุดแล้วจริง ๆ แล้วเขาไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงได้ คุณต้องอุเบกขา
การ ‘อุเบกขา’ คือการเมตตา
อย่างนึงเหมือนกัน
.
เมตตาใคร?
เมตตาตัวเอง!
ถูกปะ?
.
จะไปสู้ ไป fight กับความเลวคนอื่น
โอ้โห.. เอาความเลวตัวเอง
ให้มันรอดก่อนเถอะ
.
แต่ถ้าหากว่า เราพอที่จะช่วยได้
ยังมีบางสิ่งบางอย่าง ที่เราสามารถ รับผิดชอบได้
แต่เราไม่รับผิดชอบ นี่เรา ใช้อุเบกขาไม่ถูกที่
เราคือคนที่ ไม่ใช่ปล่อยวาง อันนี้ไม่รับผิดชอบ
.
พระพุทธเจ้าท่านพูดเรื่องนี้
หลายคนจริง ๆ แล้ว ชอบพูดภาษิตอันนี้
โดยที่ไม่รู้ตัว รู้มั้ยอะไร
“อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา”
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ถ้ามึงไม่พึ่งตน
แล้วคุณจะพึ่งใคร ไม่มีใครให้คุณพึ่งได้แน่นอน
.
นี่คืออะไร นี่คือรับผิดชอบไง
คุณต้องรับผิดชอบตัวเอง!
พระพุทธเจ้าก็บอกไว้ชัดเจน
‘รับผิดชอบตัวเองนะจ๊ะ’
ท่องกันได้ไม่ใช่เหรอ?
.
นี่พระพุทธเจ้า สอนให้รับผิดชอบ
มีความสามารถแค่ไหน
ถึงจะเรียกว่าสุดความสามารถ
ถ้า ณ เวลานั้น ณ ขณะจิตนั้น
เรารู้ว่า เอ้า...ความสามารถเรา
มันระดับ 8 แต่ปัญหานี้ มันระดับ 9
บางทีต้องปล่อยวาง
.
แต่ถ้าถามว่า
เราหาคนระดับ 9 มา
แก้ปัญหานี้ได้มั้ย?
ถ้าหาได้ เราต้องรับผิดชอบ
แต่ถ้าหาไม่ได้
มันต้องปล่อยวางจริง ๆ
ใช่ปะ?
.
ท้ายที่สุดเลย จะพบว่า
บางครั้งบางทีเนี่ย การที่เรา ตั้งใจจะไปแก้ปัญหา
ให้คนอื่นเขาเนี่ย นั่นเป็นเพราะว่า
คนอื่นเขาไม่รับผิดชอบนะ
ถูกปะ?
.
ถ้าคนทุกคน
มันรับผิดชอบชีวิตตัวเอง มันจะ ไม่มีใครมานั่งแก้ปัญหา
ให้กันและกัน เพราะว่าเรา เ-ือกจะไปรับผิดชอบ
ชีวิตคนอื่นเขาไง ถ้าเราไม่เ-ือกจะไป
รับผิดชอบชีวิตคนอื่นเขา
เราก็ไม่เหนื่อยอะไรมากนักหรอก
.
เนี่ยเ-ือก….เ-ือกไปรับผิดชอบ
ชีวิตคนอื่นเขาไง เหนื่อย-ิบหายเลยเนี่ย
แล้วแต่คุณ มุมมองคุณดิ
คุณช่วยคน คุณให้คนเนี่ย
มันก็เป็นทานอยู่แล้ว
ใช่ปะ?
.
มันก็เป็นการสร้างบารมี
ของคุณ ถามว่า ทำไมถึงต้องมีบารมี
บารมี แปลว่า เต็ม
เต็มอะไร? เต็มคนไง ถ้าคุณเกิดขึ้นมาแล้ว
คุณสามารถทำนั่น ทำนู่นทำนี่ทำนั่นได้
แต่คุณไม่ทำ คุณไม่ได้สร้างบารมี คุณไม่เต็มนะเว่ย
เนี่ยถึงว่าคนไม่เต็มบาทเนี่ย
คุณไม่เต็มคนนะเว่ย
.
คนส่วนใหญ่ มันเป็นแบบนั้นแหละ
พอขอให้คนอื่นช่วยปุ๊บ
การขอให้คนอื่นช่วย
การขอความช่วยเหลือ
มันคือ ลืมไปว่า เขาช่วยในส่วนที่เรา
ไม่สามารถที่จะรับผิดชอบได้
เค้าควรที่จะช่วย เฉพาะในส่วนนั้น
.
แต่คนส่วนใหญ่เนี่ย ชอบแบบ… อย่างเงี้ย
คือ โยนความรับผิดชอบให้เลย “ช่วยเท่าที่ช่วยได้”
คำนี้ลึกซึ้งนะ ‘ช่วยเท่าที่ช่วยได้’
มันเป็นหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่ความสามารถ
แต่เป็นเรื่องเวลา เป็นเรื่องพลังงาน เป็นเรื่องสมาธิเราด้วย
ถ้าเราช่วยไม่ได้
ก็ให้คนอื่นช่วย
.
เราไม่ได้แบก โลกทั้งใบไว้
เรามันฝุ่นผงในจักรวาล
จักรวาลมันกว้างใหญ่
เกินกว่าที่คุณจะมา ทุกข์มาเครียด
ด้วยเรื่องปัญหาของคนอื่น
จักรวาลกว้างใหญ่ขนาดไหน
มันไม่ยิ่งใหญ่
เท่าจิตใจคุณ
.
จิตใจคุณ ถ้าคุณจะขยายอะไร
ให้มันใหญ่กว่าจักรวาล
คุณก็เอามาขยายได้หมด
ทำอะไร ให้มันเล็กกว่าจักรวาล
คุณ ก็ทำเล็กได้หมด
มันอยู่ที่คุณ
.
ให้มุมมอง ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นยังไง
มันก็สะท้อนมาสิ่งนั้นแหละ
………
ภาษาไทย “รับ ผิด ชอบ”
รับทั้งผิดและชอบ ผิดไม่ได้แปลว่าความผิด
แต่ ‘รับ’ ผลกระทบของมัน ทั้งทางดี
และทางไม่ดี คนเวลาตัดสินใจ
.
ตัดสินใจปุ๊บ จะเกิด 2 อย่างทันที
“ตัดสิน”
ตัดสินว่า
“เฮ้ย...กูเองแ-่งสิ่งนี้”
“เอาแ-่ง เอาชัวร์”
.
กับ “ตัดใจ”
คุณต้องขาดอะไรไปอย่างนึง
คุณต้องพร่องอะไรไปอย่างนึง
ทันทีที่เราตัดสินใจ
.
รับผิดชอบก็คือ รับทั้งผิดและก็ชอบ
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันรับเอง”
นี่คือรับผิดชอบ
ภาษาอังกฤษก็ ความหมายลึกซึ้ง
“Responsibility”
เป็นสองคำ
Response ก็คือ
การตอบสนอง
Ability ก็คือ
Level คุณขนาดไหน
คุณก็สามารถตอบสนอง ต่อสิ่งรอบ ๆ ตัว
ได้มากเท่านั้น ได้ดีขนาดนั้น
ถูกปะ?
.
Level สูง ก็ตอบสนองสิ่งรอบตัวได้ดี
Level ต่ำ ก็ตอบสนองสิ่งรอบตัวได้ไม่ดี
คนที่ ไม่ยอมคิดที่จะรับผิดชอบอะไรเลย
คุณไม่ตั้งใจ ที่จะตอบสนองสิ่งต่าง ๆ
ด้วยตัวคุณเอง
.
เนี่ยคุณ level ไหนล่ะ?
เออ...เหมือนกัน ฉันใดฉันนั้น
ความรับผิดชอบ มันเป็นเครื่องสะท้อน
ว่าเราอยู่ ณ จุด ๆ ไหน
#ผู้กองเบนซ์
ปล. Level คุณขนาดไหน คุณก็สามารถตอบสนอง ต่อสิ่งรอบ ๆ ตัว ได้มากเท่านั้น ได้ดีขนาดนั้น
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 Capt.Benz Facebook 的最佳貼文
Ep. 64 - “ รักตัวเอง หรือ เห็นแก่ตัว ? ”
.
อย่าเอาความรักของพ่อแม่
ไปเทียบกับความรัก
ระหว่างหนุ่มสาม
คนละชั้นเลย
ฟ้ากับนรกเลย
------------------------------
รักตัวเองกับเห็นแก่ตัว
ไม่เหมือนกัน
ความรัก ในทางพระพุทธศาสนา
มีอยู่ 3 ตัว
.
อย่างแรกคือ “เมตตา”
รักในคน รักในสัตว์
มีความรักที่มี คลื่นของความรู้สึก ผูกพัน
นี่คือรักแบบเมตตา
เป็นคลื่นของความรู้สึก
.
รักอีกอย่างนึงคือ
“ฉันทะ” คือ รักในสิ่งที่ทำ
รักแบบที่สาม
เขาเรียกว่า รักแบบ “เปมะ”
เปมะ ก็คือ รักแบบ romantic love
.
บางคนเนี่ย รักตุ๊กตา
รักแบบไหน?
เมตตา ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต
แต่ว่ารักมัน
ไม่รู้
อยู่ดี ๆ ก็รักมัน
นี่คือรักแบบเมตตา
ไม่อยากให้มันแตกหัก
ไม่อยากให้มันเสียหาย
.
เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
การรักตัวเอง
มันคือ อะไรกับตัวเอง?
มันคือการเมตตาตัวเอง
ถูกปะ?
.
เพราะฉะนั้นแล้ว
เมตตา มันความดีความเลว?
ความดี
ถูกปะ
.
ทีนี้ จุดแบ่ง
ระหว่างรักตัวเองเมตตาตัวเอง กับเห็นแก่ตัว
จุดแบ่งอยู่ตรงไหน
.
จุดแบ่งอยู่ที่ว่า
ความรักนั้น ได้ทำร้ายใครรึเปล่า
ถ้าความรักของตัวเราเอง
ได้ไปทำร้ายคนอื่นเข้า
บางครั้งบางที
มันอาจจะเป็นเรื่อง
ของการเห็นแก่ตัวก็ได้
ถูกมั้ย?
.
มันมีจุดแบ่งแบบนี้
จุดกำเนิดของมัน
ไม่เหมือนกัน
รักตัวเองเนี่ย
จุดกำเนิดของมัน
คือ ‘เมตตา’
.
แต่การเห็นแก่ตัว
จุดกำเนิดของมัน
คือ “ทิฏฐิ” คือ ego
เราจะสำรวจ
ตรวจสอบยังไง
ว่าความรักตัวเองของเรา
ได้กระทบใครรึเปล่า
.
ความรักตัวเองของเราเนี่ย
ได้ทำให้ใครเนี่ย
รู้สึกว่า
“เนี่ย...มึง”
“ไม่ใช่รักตัวเองหรอก มึงเห็นแก่ตัว มึงไม่รับผิดชอบ”
.
เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
มันต้องมีอะไรบางอย่าง
มาตรวจสอบ ว่าสิ่งที่เราทำเนี่ย
ได้กระทบคนอื่นรึเปล่า
.
ถ้ามันเริ่มกระทบคนอื่นปุ๊บ
มันเห็นแก่ตัวแน่นอน
รักเขา จนกระทบตัวเองก็คือ
เ-ือกเรื่องเขา
.
เขาบอกไปแล้ว
ความดีความเลวของคนอื่น
อย่าไปเ-ือกเขาเลย
ความดีความเลวของตัวเองเนี่ย
เ-ือกให้เต็มที่ก่อน
.
เป็นคนให้เต็มคนก่อน
ถึงจะไปพัฒนา
ไปเ-ือกเรื่องคนอื่นเขา
รักคนอื่น
.
ต้องการที่จะเมตตาคนอื่น
ทำได้
แต่การเมตตา
ถ้ามันทำร้ายตัวเราเอง
อันนี้คุณ ไม่ได้รักตัวเองแล้ว
.
พระพุทธเจ้าบอกว่า
ไม่ให้เบียดเบียน
ไม่ได้หมายความว่า
ให้เบียดเบียนเฉพาะคนอื่น
เบียดเบียนตัวเองนี่ก็
เป็นบาป
ถูกมั้ย?
.
ศีล 5 ข้อ
ข้อไหนผิดสุด
โบราณาจารย์
ท่านว่าไว้แล้ว
มันคือศีลข้อ 5
.
เพราะอะไร
ศีลข้อ 1
เราฆ่าเขา / เราฆ่าคน / เราฆ่าสัตว์
ถูกปะ?
เป็นความสัมพันธ์
ระหว่างใครกับใคร?
เราทำร้ายใคร?
เบียดเบียนใคร?
เบียดเบียนคนอื่น!
.
ข้อ 2
เราลักทรัพย์เขา
เราเบียดเบียนใคร
คนอื่น!
.
เรา กาเมฯ
ผิดลูกผิดเมียเขา
เราเบียดเบียนใคร?
คนอื่น!
.
ข้อ 4
เราโกหกเขา
ใครเดือดร้อน?
คนอื่น!
.
แต่กินเหล้าใครเดือดร้อน?
สติสัมปชัญญะ
ของตัวเองเนี่ยเดือดร้อน
.
เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
ศีลข้อ 5 บาปที่สุด
เพราะมึงทำร้ายตัวเอง
ตัวมึงเองยังไม่รัก
แล้วมึงจะไปรักคนอื่นได้ยังไง
.
โอ้โห…
ต่างแน่นอน
คุณของพ่อแม่เนี่ย
เหลือประมาณ
.
อย่าเอาความรักของพ่อแม่
ไปเทียบกับความรัก
ระหว่างหนุ่มสาว
คนละชั้นเลย
ฟ้ากับนรกเลย
.
เขาเรียกว่า
unconditional love เลย
รักอย่างไม่มีเงื่อนไข
ไม่มีใครตายแทนเราได้
นอกจากพ่อแม่
ไม่มี…
.
แฟนรักให้ตายยังไง
เต็มที่ ตายพร้อมกันได้
ตายแทนกันนี่หาได้ยาก
ถ้ามีเนี่ย คือคู่แท้
โคตรแท้เลย
แต่จะมีสักกี่คนกัน
ใช่มั้ย?
.
ไม่ได้บอกว่าไม่มี
มันอาจจะมีก็ได้
แต่จะมีสักกี่คนกัน
.
แต่พ่อแม่ ร้อยละร้อย ตายแทนลูกได้
เพราะฉะนั้น อย่าเอาความรักของพ่อแม่
กับความรักระหว่างหนุ่มสาว
มาเปรียบเทียบกัน
มันคนละเรื่อง
.
ระดับของความเมตตา
เป็นความเมตตาเหมือนกัน
การรักระหว่างเพศ
พระพุทธเจ้าท่านแบ่งไว้
2 กลุ่มชัดเจนมาก
รักแบบเมตตา
กับรักแบบเปมะ
ไม่เหมือนกัน
.
ในเมตตาเอง
ก็มี scale ของมัน
มี level ของมันอีกต่างหาก
ถ้ามีเต็ม 10
พ่อแม่ก็เต็ม 10
.
ถามว่าความรักตัวเองดีมั้ย
มันต้องเริ่มจากความรักตัวเองก่อน
ถ้ารักตัวเองไม่ได้เนี่ย
อย่าหวังเลย
ว่าเราจะไปรักคนอื่นได้
ไม่มีทาง
.
คนที่รักตัวเองได้
อย่างเต็มสมบูรณ์พร้อมเนี่ย
มันจะมีสิ่งหนึ่ง ตามมาแน่นอน
พอรักตัวเองได้
“เมตตา” ตัวเอง มันก็จะ “กรุณา” ตัวเองได้
กรุณาตัวเอง คือสงสารตัวเอง
.
รู้ว่าต้องเอาตัวเอง
ไปอยู่ ณ จุด ๆ ไหน
อยู่ตรงนี้
กูจะได้ไม่สงสารตัวเอง
อยู่ตรงนี้กูสงสารตัวเอง
.
แล้วถ้าตัวเอง
ประสบความสำเร็จ
คนพวกนี้จะภูมิใจในตัวเอง
ความภูมิใจในตัวเอง
คือ “มุทิตา” ตัวเอง
.
ต่อเนื่องไปอีก
เกิดวันนึงผิดหวัง
ไม่ได้ดั่งใจขึ้นมา
มันก็สามารถ
“อุเบกขา” ตัวเองได้
มันก็คือการปล่อยวางตัวเองได้
.
เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
การที่เมตตาตัวเอง
มันให้ผลมากกว่าที่จะ
แค่รักตัวเอง
ฉันรักตัวเอง
ไม่!
.
มันจะเกิดอุเบกขา
และอุเบกขานำมาซึ่งปัญญา
ถ้าเรารู้จักปล่อยวางได้เนี่ย
ปัญญามันเกิดทันที
.
แล้วมันเป็นการบำเพ็ญบารมีด้วย
“อุเบกขาบารมี”
แล้วคนไม่สามารถอุเบกขาได้
ถ้ามึงไม่มีปัญญา
.
อุเบกขาไม่ได้ ถ้าไม่มีปัญญา
อุเบกขาไม่ได้ ถ้าไม่มีเมตตาด้วย
.
เพราะฉะนั้นแล้ว การรักตัวเอง ให้ผลเยอะ
ให้ผลมหาศาล รักตัวเองก่อน
.
#ผู้กองเบนซ์
ปล. การรักคนอื่นเป็นสิ่งดี แต่ต้องมีขอบเขต
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 WOODY Youtube 的最佳解答
UNHCR มีแนวคิดนำหลักธรรมและคำสอนของพระพุทธเจ้า เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ประสบความยากลำบาก โดยเฉพาะผู้ลี้ภัย มาเป็นแนวทางแก่พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติตาม โดยเฉพาะพรหมวิหารธรรม 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เพื่อช่วยเติมความหวังและทำให้โลกเป็นโลกแห่งการช่วยเหลือ ต้องการช่วยเหลือจากมนุษย์ด้วยกันเพื่อเยียวยาความสูญเสีย และเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 ท่องเที่ยว ผจญภัย Youtube 的最讚貼文
วัดมิ่งเมือง ทัวร์น่าน by: http://www.oceansmile.com/ เสาหลักเมืองน่าน อยู่ในศาลาจตุรมุขด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองสูงประมาณ ๓ เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นมิตรเป็นเพื่อน หวังดี มีชีวิตอีกไม่นาน ... 的推薦與評價
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นมิตรเป็นเพื่อน หวังดี มีชีวิตอีกไม่นาน อบรมปัญญาและทำความดี เชิญคลิกฟังวีดีโอที่ภาพ คลิปสั้นๆ ... ... <看更多>
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 พรหมวิหาร 4 - Pinterest 的推薦與評價
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา Insta, Movies, Movie Posters, Films, Film Poster,. intellis6911. intellis. 33 followers. More information. ... <看更多>
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 在 Roundfinger - เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นพรหมวิหารสี่... 的推薦與評價
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นพรหมวิหารสี่ ก่อนไปถึง 'อุเบกขา' อยากชวนคุยถึงคำที่องค์ทะไลลามะพูดบ่อยที่สุดคำหนึ่งนั่นคือ compassion (กรุณา)... ... <看更多>