Ep. 65 - ปล่อยวาง หรือละเลย?
.
อันนี้ต้องถาม คู่กับคำว่าปล่อยวาง
อย่างไหนที่เรียกว่าปล่อยวาง
อย่างไหนที่เรียกว่ารับผิดชอบ
ถ้าอะไร ที่เรา
ยังพอรับผิดชอบได้ แต่เราปล่อยวาง
ชิงปล่อยวางซะก่อน
อันนี้คือสิ่งที่เรียกว่า เราไม่รับผิดชอบ
.
การปล่อยวาง
พระพุทธเจ้า วางหลักไว้เลยชัดเจนว่า
ทำอะไรก็แล้วแต่ คุณต้องประกอบด้วย
เมตตากรุณาก่อน ‘เมตตา’ คือความรัก
.
‘กรุณา’ คือความสงสาร
ถ้าเราทำด้วยเมตตากรุณาแล้ว
มันสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลง กับเขาได้
นี่คือ คุณต้อง ‘มุทิตา’
ก็คือดีใจกับเขา
.
แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้ว ช่วยแล้ว
จนสุดความสามารถ ของเราแล้ว
จนสุดแล้วจริง ๆ แล้วเขาไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงได้ คุณต้องอุเบกขา
การ ‘อุเบกขา’ คือการเมตตา
อย่างนึงเหมือนกัน
.
เมตตาใคร?
เมตตาตัวเอง!
ถูกปะ?
.
จะไปสู้ ไป fight กับความเลวคนอื่น
โอ้โห.. เอาความเลวตัวเอง
ให้มันรอดก่อนเถอะ
.
แต่ถ้าหากว่า เราพอที่จะช่วยได้
ยังมีบางสิ่งบางอย่าง ที่เราสามารถ รับผิดชอบได้
แต่เราไม่รับผิดชอบ นี่เรา ใช้อุเบกขาไม่ถูกที่
เราคือคนที่ ไม่ใช่ปล่อยวาง อันนี้ไม่รับผิดชอบ
.
พระพุทธเจ้าท่านพูดเรื่องนี้
หลายคนจริง ๆ แล้ว ชอบพูดภาษิตอันนี้
โดยที่ไม่รู้ตัว รู้มั้ยอะไร
“อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา”
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ถ้ามึงไม่พึ่งตน
แล้วคุณจะพึ่งใคร ไม่มีใครให้คุณพึ่งได้แน่นอน
.
นี่คืออะไร นี่คือรับผิดชอบไง
คุณต้องรับผิดชอบตัวเอง!
พระพุทธเจ้าก็บอกไว้ชัดเจน
‘รับผิดชอบตัวเองนะจ๊ะ’
ท่องกันได้ไม่ใช่เหรอ?
.
นี่พระพุทธเจ้า สอนให้รับผิดชอบ
มีความสามารถแค่ไหน
ถึงจะเรียกว่าสุดความสามารถ
ถ้า ณ เวลานั้น ณ ขณะจิตนั้น
เรารู้ว่า เอ้า...ความสามารถเรา
มันระดับ 8 แต่ปัญหานี้ มันระดับ 9
บางทีต้องปล่อยวาง
.
แต่ถ้าถามว่า
เราหาคนระดับ 9 มา
แก้ปัญหานี้ได้มั้ย?
ถ้าหาได้ เราต้องรับผิดชอบ
แต่ถ้าหาไม่ได้
มันต้องปล่อยวางจริง ๆ
ใช่ปะ?
.
ท้ายที่สุดเลย จะพบว่า
บางครั้งบางทีเนี่ย การที่เรา ตั้งใจจะไปแก้ปัญหา
ให้คนอื่นเขาเนี่ย นั่นเป็นเพราะว่า
คนอื่นเขาไม่รับผิดชอบนะ
ถูกปะ?
.
ถ้าคนทุกคน
มันรับผิดชอบชีวิตตัวเอง มันจะ ไม่มีใครมานั่งแก้ปัญหา
ให้กันและกัน เพราะว่าเรา เ-ือกจะไปรับผิดชอบ
ชีวิตคนอื่นเขาไง ถ้าเราไม่เ-ือกจะไป
รับผิดชอบชีวิตคนอื่นเขา
เราก็ไม่เหนื่อยอะไรมากนักหรอก
.
เนี่ยเ-ือก….เ-ือกไปรับผิดชอบ
ชีวิตคนอื่นเขาไง เหนื่อย-ิบหายเลยเนี่ย
แล้วแต่คุณ มุมมองคุณดิ
คุณช่วยคน คุณให้คนเนี่ย
มันก็เป็นทานอยู่แล้ว
ใช่ปะ?
.
มันก็เป็นการสร้างบารมี
ของคุณ ถามว่า ทำไมถึงต้องมีบารมี
บารมี แปลว่า เต็ม
เต็มอะไร? เต็มคนไง ถ้าคุณเกิดขึ้นมาแล้ว
คุณสามารถทำนั่น ทำนู่นทำนี่ทำนั่นได้
แต่คุณไม่ทำ คุณไม่ได้สร้างบารมี คุณไม่เต็มนะเว่ย
เนี่ยถึงว่าคนไม่เต็มบาทเนี่ย
คุณไม่เต็มคนนะเว่ย
.
คนส่วนใหญ่ มันเป็นแบบนั้นแหละ
พอขอให้คนอื่นช่วยปุ๊บ
การขอให้คนอื่นช่วย
การขอความช่วยเหลือ
มันคือ ลืมไปว่า เขาช่วยในส่วนที่เรา
ไม่สามารถที่จะรับผิดชอบได้
เค้าควรที่จะช่วย เฉพาะในส่วนนั้น
.
แต่คนส่วนใหญ่เนี่ย ชอบแบบ… อย่างเงี้ย
คือ โยนความรับผิดชอบให้เลย “ช่วยเท่าที่ช่วยได้”
คำนี้ลึกซึ้งนะ ‘ช่วยเท่าที่ช่วยได้’
มันเป็นหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่ความสามารถ
แต่เป็นเรื่องเวลา เป็นเรื่องพลังงาน เป็นเรื่องสมาธิเราด้วย
ถ้าเราช่วยไม่ได้
ก็ให้คนอื่นช่วย
.
เราไม่ได้แบก โลกทั้งใบไว้
เรามันฝุ่นผงในจักรวาล
จักรวาลมันกว้างใหญ่
เกินกว่าที่คุณจะมา ทุกข์มาเครียด
ด้วยเรื่องปัญหาของคนอื่น
จักรวาลกว้างใหญ่ขนาดไหน
มันไม่ยิ่งใหญ่
เท่าจิตใจคุณ
.
จิตใจคุณ ถ้าคุณจะขยายอะไร
ให้มันใหญ่กว่าจักรวาล
คุณก็เอามาขยายได้หมด
ทำอะไร ให้มันเล็กกว่าจักรวาล
คุณ ก็ทำเล็กได้หมด
มันอยู่ที่คุณ
.
ให้มุมมอง ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นยังไง
มันก็สะท้อนมาสิ่งนั้นแหละ
………
ภาษาไทย “รับ ผิด ชอบ”
รับทั้งผิดและชอบ ผิดไม่ได้แปลว่าความผิด
แต่ ‘รับ’ ผลกระทบของมัน ทั้งทางดี
และทางไม่ดี คนเวลาตัดสินใจ
.
ตัดสินใจปุ๊บ จะเกิด 2 อย่างทันที
“ตัดสิน”
ตัดสินว่า
“เฮ้ย...กูเองแ-่งสิ่งนี้”
“เอาแ-่ง เอาชัวร์”
.
กับ “ตัดใจ”
คุณต้องขาดอะไรไปอย่างนึง
คุณต้องพร่องอะไรไปอย่างนึง
ทันทีที่เราตัดสินใจ
.
รับผิดชอบก็คือ รับทั้งผิดและก็ชอบ
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันรับเอง”
นี่คือรับผิดชอบ
ภาษาอังกฤษก็ ความหมายลึกซึ้ง
“Responsibility”
เป็นสองคำ
Response ก็คือ
การตอบสนอง
Ability ก็คือ
Level คุณขนาดไหน
คุณก็สามารถตอบสนอง ต่อสิ่งรอบ ๆ ตัว
ได้มากเท่านั้น ได้ดีขนาดนั้น
ถูกปะ?
.
Level สูง ก็ตอบสนองสิ่งรอบตัวได้ดี
Level ต่ำ ก็ตอบสนองสิ่งรอบตัวได้ไม่ดี
คนที่ ไม่ยอมคิดที่จะรับผิดชอบอะไรเลย
คุณไม่ตั้งใจ ที่จะตอบสนองสิ่งต่าง ๆ
ด้วยตัวคุณเอง
.
เนี่ยคุณ level ไหนล่ะ?
เออ...เหมือนกัน ฉันใดฉันนั้น
ความรับผิดชอบ มันเป็นเครื่องสะท้อน
ว่าเราอยู่ ณ จุด ๆ ไหน
#ผู้กองเบนซ์
ปล. Level คุณขนาดไหน คุณก็สามารถตอบสนอง ต่อสิ่งรอบ ๆ ตัว ได้มากเท่านั้น ได้ดีขนาดนั้น
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
เมตตา แปลว่า 在 Capt.Benz Facebook 的最佳解答
Ep. 58 - คนแบบไหนที่ควร "เมตตา?"
.
พรหมวิหาร 4 ก็เหมือนขนมปัง
ที่มีไส้อยู่ข้างใน มันเคลือบด้วยความ ”เมตตากรุณา”
แป้งคือความ “เมตตา” น้ำตาลคือความ “กรุณา”
กัดไปเจอไส้ อันนั้นน่ะ คือ “มุทิตา”
แต่ถ้าหมดไป
มันต้อง “อุเบกขา”
.
มันคือก้อนเดียวกัน มึงไม่สามารถ
ที่จะกินครีมอย่างเดียว
แล้วอร่อยได้ มึงต้องกินทีเดียว
.
การกินหนึ่งคำเนี่ยทำให้เกิดจิตที่
ได้บทเรียนเรื่องพรหมวิหาร
มันต้องมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน
อย่ารีบอุเบกขา ถ้ารีบอุเบกขา
นั่นคือมึงไม่รับผิดชอบ
ต่อสิ่งที่มึงรับผิดชอบได้
.
พระพุทธเจ้า ไม่ได้ให้ใช้ชีวิต
ด้วยความอุเบกขา
ท่านให้เมตตานำ ใช้เมตตาก่อน
ถ้าเมตตากรุณาแล้ว
ก็คือรัก
แล้วก็สงสารแล้ว
ถ้าเขาเปลี่ยนแปลงได้
“มุทิตา”
นี่คือโอเค…
Celebrate ด้วย ดีใจด้วย มึงเปลี่ยนแปลงได้
แต่ถ้ามันสุด ความสามารถเราแล้ว
ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงเขาได้แล้ว
“อุเบกขา”
วางเฉย…
.
ต้องย้อนกลับไปว่า
คนที่คุณเมตตาน่ะ
เป็นใคร?
.
พระพุทธเจ้า
ตรัสสิ่งนี้ไว้ชัดเจนแล้วว่า
เวลาจะทำบุญน่ะ
“ปุญฺญเขตฺตํ”
มึงต้องดูเนื้อนาบุญด้วย หว่านเมล็ดลงไป
ในคอนกรีต
เป็นไง?
ขึ้นมั้ยอะ?
ไม่ขึ้น
หว่านลงไปต้องเป็นพื้นดิน
พืชถึงจะขึ้น
.
‘พรหมวิหาร’
พรหม แปลว่า ผู้ประเสริฐ
วิหาร แปลว่า ที่อยู่
ใครที่มีพรหมวิหาร นั่นแปลว่าในใจ
มีที่อยู่ของความเป็นผู้ประเสริฐอยู่
คนที่มี พรหมวิหารประจำใจ
เป็นคนที่ ไปในทางดีแน่นอน
.
คนรักษาศีลไม่ได้ถ้าเกิดไม่มีพรหมวิหาร
พรหมวิหารมันเกิดจากความรัก
และสงสาร ในสรรพสัตว์
ในสรรพสิ่งทั้งตัวเองด้วย
ถ้าเราไม่มีเมตตาไม่สงสารคน
เรามีโอกาสที่จะทำร้ายเขาได้มั้ย?
มี!
ถูกปะ?
.
แต่ถ้าเราเป็นคนสงสาร เราจะเอาที่ไหน
ไปทำร้ายคน เราจะเอาที่ไหน
ไปลักทรัพย์คน เอาที่ไหน
ไปผิดลูกผิดเมียเขา จะเอาที่ไหน
ไปโกหกหลอกลวงเขา
ถูกมั้ย?
.
เพราะฉะนั้นแล้ว
คนจะรักษาศีลได้
ต้องมีพรหมวิหารเป็นที่ตั้ง
ธรรมะของพระพุทธเจ้า
สอดคล้องต้องกันหมด
ไม่มีขัดกันเลย
แม้แต่บทเดียว
.
จริง ๆ พระพุทธเจ้า ท่านก็บอกแบบนี้
ถ้าจะช่วยโจรช่วยคนร้ายเนี่ย
ไม่ต้องช่วยด้วยอะไรเลย
ช่วยด้วยการเอาใจช่วยเขา
เนี่ยแค่นี้ก็ช่วยแล้ว
แต่ถ้าเจอคนพวกนี้
“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
ให้อะไรไม่สู้
ให้ธรรมเป็นทาน
ให้อะไรไม่สู้ให้ความคิด
ให้อะไรก็ไม่สู้ให้ความรู้
ดีที่สุด
.
ช่วยโจรได้
ช่วยเพื่อให้เขาเป็นคนดี
ไม่ใช่ช่วยให้เขา
เป็นโจรที่ดีขึ้น
เข้าใจปะ?
.
โจรที่แบบ…
ปล้นเก่งมากขึ้น
นี่ไม่ใช่การช่วยละ
ส่งเสริมคนไปในทางชั่ว
อย่างนี้เราทำตัวเป็นคนพาลละ
คนประกอบด้วย 3 อย่าง
อะไรบ้าง?
.
กำลังกาย
กำลังความคิดสติปัญญา
กำลังความดี
เราช่วยคนพาลอยู่หรือไม่
ดู 3 กำลังนี้
ถ้ามีกำลังกาย
แต่ไม่มีกำลังความดี
นี่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่สาธุชน
เป็นพาลชน
.
ถ้ามีแต่กำลังความคิด
แต่ไม่มีกำลังความดี
นี่ก็เป็นคนพาลเช่นกัน
ไม่ใช่สาธุชน ใครก็แล้วแต่
ประกอบด้วย กำลังความดีเป็นหลัก
คนนั้นเป็นสาธุชน
ไม่ใช่คนพาล
.
การพัฒนาตัวเอง มันเหมือนเดินขึ้นบันได
ต้องใช้กำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา กำลังความดี
แล้วถามจริง คนเดินขึ้นบันได
มีเสียงมั้ย?
สมมุติบันไดไม้
ก็มีเสียง
ตึก ๆ ๆ ๆ
ถ้าคนตกบันได
เสียงยังไง?
ตุ๊บๆ ๆ
ถูกปะ?
.
เหมือนกันเลย ฉันใดฉันนั้น
การขึ้นมันยาก การลงมันง่าย
จิตถ้าไม่ระวัง มันลงอยู่แล้ว
แล้วลงทีนึง มันลง ตุ๊บๆ
.
จริง ๆ แล้ว
การที่เราพูดคำว่าสาธุ
“เออ…”
“ดีแล้ว ๆ” เนี่ย จิตเรา ณ ตอนนี้
เขาเรียกว่ามันเป็น
“ปตฺตานุโมทนามย”
ก็คือได้บุญ บุญที่เกิดจากการ พลอยยินดี
บุญที่เกิดจากการ
“โอเค”
“เฮ้ยเยี่ยม”
“เจ๋งว่ะ”
“ดีว่ะ”
.
เวลาเราเห็นคนที่ เขาเก่งกว่าเรา
มีทางเลือก ถ้าคุณจะอิจฉาเนี่ย
ไม่ได้อะไรเลยนะ มีแต่ความโกรธ
แต่ถ้าเกิดว่า คุณเห็นคนดีปุ๊บ
.
“แ-่งเจ๋งว่ะ!”
มึงพูดแค่นี้
“ปตฺตานุโมทนามย”
แ-่งเกิดเลยนะ
ได้บุญจากการอนุโมทนา
มันอยู่ที่คุณ ว่าคุณจะเลือกยังไง
ใช่ปะ?
.
มันเลือกที่จะอิจฉา
ก็เอาเถอะ
เอาความโกรธ
เอาความพยาบาทอาฆาต
ผูกไป
แต่ถ้าคุณจะเลือก
“โอ้โหแ-่งเจ๋งว่ะ”
นี่
แค่นี้บุญก็เกิดแล้ว
.
#ผู้กองเบนซ์
ปล. ตรวจสอบคนพาล ด้วยการดูความดี
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
เมตตา แปลว่า 在 DjFiat LinkCorner Facebook 的最佳解答
มีคนโพสว่า"ไหว้ดาวพฤหัสเอาบุญมาฝาก"
นึกขอบคุณเค้า อาจจได้ศิริมงคล
"แต่การไหว้ดาวพฤหัสไม่ได้บุญนะ"
ที่เขาจะได้บุญ ก็ตรงที่มีจิตเมตตา
อยากให้ผู้อื่นมีความสุขนี่แหละ
พระพุทธเจ้าไม่เคยสอน ว่าการกราบไหว้
อิฐปูน บูชาดวงดาว การวิงวอน บนบานเทพ
จะทำให้เราพ้นจากทุกข์ได้
เทพเทวดาฤทธิ์มากแค่ไหน ก็ยังไม่เท่า
แรงกรรมที่ตนได้กระทำมา
ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก
นอกจากตัวเธอเอง
ทุกอย่างเกิดขึ้น เพราะมีเหตุปัจจัย
ปัจจุบันเป็นอย่างไร
ก็เกิดจากเหตุในอดีต ซึ่งเราแก้อดีตไม่ได้
แต่เหตุปัจจุบันเราควบคุมได้ ว่าจะไปทางไหนต่อ
แล้วทำแบบไหนล่ะ ถึงจะได้บุญ
ก็คือ ทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่เบียดเบียนตน
ไม่เบียนเบียนผู้อื่น สิ่งที่ทำให้เรา
ลด ละ จากความขุ่นมัวที่ทำให้ใจหนัก
เช่นจากความโลภ ความโกรธ
ความหลง มีปัญญาพ้นจากความเห็นผิด เป็นต้น
เอาวิธีทำบุญ 10 แบบมาให้ดูกันใหม่อีกที
จะทำบุญต่อด้วยการส่งต่อ หรือ ลงมือปฏิบัติ
ก็ขออนูโมทนาไว้ ณ ที่นี้ด้วยจ้ะ ;-)
บุญ
บทความโดยพี่มิ้นท์ มาลีวัลย์ เจมีนา
ชาวพุทธเราส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิด
เกี่ยวกับเรื่องของ “ บุญ ”
คิดว่าการทำบุญก็คือ การตักบาตร
การถวายทรัพย์ , ปัจจัย การถวายสังฆทาน ฯลฯ
เพียงเท่านี้ เป็นต้น…
บุญ หรือ “ ปุญญ ” แปลว่า บุญชำระ
หมายถึงการทำให้หมดจด เครื่องเศร้าหมอง
เรื่องทำที่ทำให้ใจเราเศร้าส่วนใหญ่ก็ไม่พ้น ความอยาก อยากมี อยากได้ อยากเป็น (โลภ) ไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น (โกรธ) งงๆ เพลินไปกับสิ่งต่างๆ ขาดปัญญา ความไม่รู้ หลงไหล เสพติด อาการคล้ายคนติดยา (โมหะ)
เช็คง่ายๆ ว่าเรื่องไหนเป็นบุญดูจาก เรื่องที่ทำนั้นชอบธรรม ทำแล้วไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนท่าน ไม่เบียดเบียนสภาพแวดล้อมสิ่งที่เราเป็นอยู่ บัณทิตไม่ติเตียนทำแล้วทำให้เราไกล จาก โลภ โกรธ หลงได้ นั่นแหละคือ บุญ
แล้ว อันไหน ทำแล้วได้บุญมากล่ะ เรียงจากน้อยไปหามาก
1.น้อยที่สุดคือ ทาน การสละออก การให้ เช่น การตักบาตร
บริจาคทรัพย์ สิ่งของ ถวายสังฆทาน เป็นต้น ถือเป็น จาคะ หรือ การให้ นับเป็น บุญอย่างหนึ่ง แต่มีการให้บางประการที่ไม่นับเป็นบุญเช่น สุรา มหรสพ ให้สิ่งที่ไม่ได้ทำให้พ้นจากเครื่องเศร้าหมอง
ทำให้เราละออกจากความโลภ แต่ถ้าสละแล้วหวังผล และโลภมากกว่า เก่า ผลของกรรม (การกระทำ)ดีนั้นมีอยู่ แต่ถามว่าทำให้ใจเราสะอาดจากความโลภขึ้นหรือ ไม่ ลองคิดดู
2. ศีล หรือ ความเป็นปกติ จากการงดเว้น ด้วย “สติ” - การละชั่ว ทำให้เราไกลจาก โกรธได้ แต่ถ้าทำแล้วยังโกรธอยู่ ก็ต้องหมั่นเจริญสติ และ เมตตา ควบคู่กัน
3. ภาวนา แปลว่า พัฒนา คือ การยกระดับจิตใจ จนเกิดปัญญา ทำให้ออกจากความไม่รู้ (อวิชชา) ทำให้เราห่างไกลจาก โมหะ ความไม่รู้ ความเชื่องมงาย การเชื่อต่อๆกันมา ปัญญาเบา หูเบา
“ บุญ ” ยังมีอีก ๗ อย่าง
ตามอรรถกถา หรือข้อปลีกย่อย นอกเหนือจากพระไตรปิฎก
นับถัดไปเป็นลำดับที่ ๔ ดังนี้
๔. อปจายนะ ความเป็นผู้นอบน้อม ต่อผู้ที่ควรนอบน้อม
๕. เวยยาวัจจะ ความขวนขวายในกิจ หรืองาน ที่ควรกระทำ
๖. ปัตติทาน การให้บุญที่ตนถึงแล้วแก่คนอื่น เช่นการ อุทิศส่วนกุศลการกรวดน้ำ
๗. ปัตตานุโมทนา คือการยินดีในบุญที่ผู้อื่นถึงพร้อมแล้ว
เช่น เห็นผู้อื่นทำบุญตักบาตร เมื่อเราพลอยปลื้มปิติยินดี
กล่าวอนุโมทนา เพียงเท่านี้ ก็ได้บุญแล้...
๘. ธัมมัสสวนะ การฟังธรรม ศึกษาธรรม ไม่ว่าจะฟังธรรมโดยตรง
หรือจากสื่อวิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ท
๙. ธัมมเทศนา หรือ การแสดงธรรม เมื่อได้ศึกษาธรรมะแล้ว
การถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่น นับเป็นบุญประการหนึ่งด้วย
๑๐. ทิฏฐุชุกรรม คือการกระทำความเห็นให้ตรง หรือ สัมมาทิฏฐิ นั่นเอง
บุญทั้ง ๑๐ ประการนี้ บางที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 มีเพียงข้อแรกเท่านั้นที่ต้องใช้ทรัพย์ อีก ๙ ข้อล้วนไม่ต้องใช้ทรัพย์
เมตตา แปลว่า 在 compassion (n) ความเมตตา [eng24] - YouTube 的推薦與評價
Happy English by ครูสมศรี compassion (n) ความ เมตตา Love and compassion are necessities, not luxuries Without them, humanity cannot survive. ... <看更多>
เมตตา แปลว่า 在 วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี - เมตตา แปลว่า... 的推薦與評價
เมตตา แปลว่า ความรักใคร่ปรารถนา คืออยากให้ผู้อื่นเป็นสุข บุคคลผู้ประกอบด้วยเมตตาเป็นผู้ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น... ... <看更多>