บิทคอยน์จะมาหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ บล็อกเชนคือของจริง!
ล่าสุดผมได้ Live พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของเงินดิจิตอลกับพี่ซันเจ CEO ของ Cryptomind ที่เป็นสื่อออนไลน์ด้านคริปโตเคอเรนซี่และเป็นบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับบล็อกเชนให้กับองค์กรชั้นนำ
เรียกว่าได้อัพเดทสถานการณ์กูรูในวงการเลยทีเดียว สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนใจเกี่ยวกับบิทคอยน์, คริปโตเคอเรนซี่หรือว่าบล็อกเชน บอกเลยครับว่าควรค่าแก่การรับชมอย่างยิ่งหรือถ้าคลิปยาวไปดูไม่ไหว วันนี้ผมสรุปมาให้อ่านกันครับ
เริ่มต้นที่ภาพรวมที่ผ่านมา มุมมองทางด้านของคริปโตเคอเรนซี่ถูกมองในด้านลบ โดยกูรูหลายคนมองว่าเป็นสิ่งที่หลอกลวงด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องยอมรับว่าคริปโตเคอเรนซี่นั้นก็ยังคงอยู่ ผมสารภาพว่าตอนที่มันขึ้นไปที่เกือบ 20,000 เหรียญ แล้วมันก็ร่วงลงมานั้นผมคิดว่ามันจบแล้ว แต่ตอนนี้ก็ขึ้นมาที่กว่า 19,000 เหรียญ
บล็อกเชนมันดูเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ต่างจากทองคำที่คุณสัมผัสได้ หรือบริษัทที่มันยังมีสินค้าให้คุณเห็น แต่บิทคอยน์มันดูไม่มีตัวตน ไม่น่าเชื่อถือ
พี่ซันเจอธิบายว่า ก่อนอื่นต้องแยกคำว่า “บล็อกเชน” กับ “บิทคอยน์” ออกจากกันก่อน บล็อกเชนเปรียบเสมือนเทคโนโลยีที่เก็บข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สามารถตรวจสอบได้ สามารถ tracking ได้ว่าข้อมูลส่งไปทางไหนบ้าง
ส่วนถ้ากล่าวถึงประวัติของบิทคอยน์นั้นเกิดจากมีคนกลุ่มหนึ่งหรือองค์กรหนึ่งที่เห็นปัญหาเรื่องของการเงิน ที่รัฐบาลพิมพ์เงินมากมาย อุ้มแต่บริษัทใหญ่ จึงทำให้คนสนใจบิทคอยน์มากขึ้น เพราะว่าเชื่อในหลักการตัวมันเองที่บิทคอยน์จะมี 21 ล้านอัน เปลี่ยนแปลงไม่ได้ทุก ๆ 4 ปี และมีการขุดที่ยากขึ้นเมื่อใกล้จะหมด ไม่มีคนใดเข้าไปเปลี่ยนแปลงระบบมันได้
จุดเริ่มต้นการใช้บิทคอยน์แต่ก่อนเป็นตัวแลกเปลี่ยนสำหรับคนเล่นเกมส์ที่อยากซื้อของกันแต่พอใช้เงินจริงมันยุ่งยาก จึงแลกเปลี่ยนกันด้วยบิทคอยน์แล้วต่อมามีการใช้ในธุรกิจสีเทา เช่น คาสิโนออนไลน์ ซื้อขายอาวุธสงคราม เป็นต้น
หลายคนเคยบอกว่าบิทคอยน์นั้นจะไม่กลับมาแล้วตอนที่ร่วงไป 7,000 เหรียญ แต่พอมาถึงช่วงนึง มีคนใช้งานมันได้จริงและมีมูลค่าจริง ๆ เหมืองที่ขุดบิทคอยน์ก็ลงทุนไปหลายล้านเหรียญ รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทก็ซื้อบิทคอยน์เป็นทุนสำรองด้วย อาจจะเป็นการเก็งกำไรหรือเป็นการเก็บมูลค่าสินทรัพย์นั่นเอง
เมื่อบริษัทใหญ่ๆเริ่มเก็บบิทคอยน์แล้ว อาจมองได้ว่ารัฐบาลประเทศเล็ก ๆ อาจจะเก็บบิทคอยน์เป็นทุนสำรองเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศที่ค่าเงินของเขามีปัญหา เหมือนบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ของประเทศเขาเลย ถ้าเกิดแบบนั้นจริง ๆ มูลค่าของบิทคอยน์จะสูงมากและในปีนี้บล็อกเชนก็ได้ถูกยอมรับมากขึ้น
มาพูดถึงนักวิเคราะห์กันบ้างครับ ถ้าพูดถึงเรื่องบิทคอยน์นั้นก็มีความเห็นทั้ง 2 ด้าน ด้านที่เชื่อก็เชื่ออย่างสุดใจ เช่นโรเบิร์ต คิโยซากิ ที่เมื่อก่อนเขาจะเน้นให้เก็บทองคำและแร่เงิน แต่ปีนี้ได้ให้ค่ากับบิทคอยน์เยอะมาก แล้วบิทคอยน์จะมาเปลี่ยนธุรกรรมการเงินของปัจจุบันได้จริงไหม?
พี่ซันเจตอบว่าปัจจุบันเราได้เห็น Sharing Economy (เช่น Airbnb Uber Grab) กันเยอะ ถ้าในส่วนของบิทคอยน์ก็จะทำ peer to peer ช่วงแรกอาจจะเป็นการ payment ก่อน พอเราใช้กันสักพักก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเวิร์คเนื่องจากราคามันไม่เสถียร แต่เป้าหมายหลักคือให้ถ่ายโอนกันง่ายขึ้นแค่นั้น
มุมมองของ เรย์ ดาลิโอ เขามองว่าบิทคอยน์หรือ Digital Currency อันอื่น ที่สร้างมาตรฐานของตัวเองได้ ภายใน 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีข้อดีบ้างข้อที่คล้าย ๆ ทองคำ คือมีการเก็บมูลค่าได้ ที่หลายคนยอมรับกันมากขึ้น เพราะเห็นว่าเหมือนว่าจะพังแต่ก็กลับมาได้ทุกครั้งและการถ่ายโอนก็เร็วขึ้น ศูนย์ซื้อขายก็เริ่มเยอะมากขึ้น
ปีนี้เปรียบเสมือนเป็นจุดเปลี่ยนของโลก เพราะเหตุการณ์หลายๆอย่างก็เกิดขึ้น อย่างเช่น ไวรัสโควิด19 แล้วคนก็หันมาสนใจสินทรัพย์ดิจิตอลมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ bitcoin อย่างเดียว คนก็จะศึกษากันมากขึ้นว่าใน Sector นี้ มีสิทธิ์ทรัพย์อะไรอีก อาจจะเป็น Ethereum ที่ทำเรื่อง Smart Contract
ทุกอย่างเริ่มมีนวัตกรรม อย่างเช่น แต่ก่อน Facebook นั้น เป็นเพียงแค่ Social Media ธรรมดา แต่พอช่วงหลังก็มีการ Live ขายของมากขึ้น จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้าง Libra เพื่อเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยน ก็เป็นจุดเริ่มต้นของคนที่เห็นประโยชน์ของมีสกุลเงินต่าง ๆ
ในวงการอสังหาก็เช่นกัน ถ้ากองทุน REIT เปลี่ยนเป็น Digital Assets ก็สามารถซื้อขายผ่าน Exchange ได้เลย เช่นมีเหรียญตัวนึงที่สามารถมีมูลค่าเท่ากับสินทรัพย์นั้นได้เลยและมีปันผลตลอด อาจจะมีปันผลทุกวันเลยก็ได้ เพราะถ้าเป็น Digital Assets มันสามารถทำได้ทันที
แล้วถ้ารัฐบาลของแต่ละประเทศสร้างเหรียญดิจิตอลของตัวเอง จะมีผลกับการสร้างเหรียญดิจิตอลแบบดั้งเดิมไหม เพราะการสร้างเหรียญของรัฐบาลจะมีเสถียรกว่าทั้งที่อยู่ในเทคโนโลยีบล็อกเชนเหมือนกัน?
พี่ซันเจตอบว่าการที่แต่ละประเทศจะสร้างเหรียญมานั้น อย่างเช่น libra หรือ Digital หยวน กับเหรียญดิจิตอลแบบดั้งเดิม จะมีจุดยืนที่แตกต่างกัน คือการที่จะใช้เงินดิจิตอลของแต่ละประเทศ เป้าหมายคือการจับจ่ายใช้สอย ถ้าในส่วนของ Crypto นั้น จะเป็นส่วนของอุดมการณ์มากกว่า และเรื่องของการทำ platform เช่น Binance
มาถึงตอนนี้แล้ว เราไม่ต้องพูดถึงว่า บล็อกเชน นั้นจริงไม่จริงแล้วเพราะว่ารัฐบาลยังใช้เทคโนโลยีนี้มาใช้สร้างเหรียญของตนเองเลย หรือใช้เทคโนโลยีนี้มาสร้างแอพพลิเคชั่น ด้วยความโปร่งใสของมัน ความแก้ไขไม่ได้ของมัน ซึ่งมองว่าในอนาคตคนนั้นจะต้องกระจาย หมายถึง คนคนนึง อาจจะมีเหรียญไว้ใช้งานหลายเหรียญ เช่น ดิจิตอลหยวน เอาไว้ใช้แลกเปลี่ยนอย่างเดียว ส่วนตัว bitcoin นั้นก็เก็บไว้เพื่อลงทุนสร้างมูลค่าของมัน
ซึ่งตอนนี้ อาจมองได้ว่า ใครจะออกเหรียญของตัวเองก็ได้ แต่ต้องมี Network เป็นของตัวเองด้วย ไม่ใช่ออกมาแต่ไม่มีคนใช้ ก็ไม่มีค่าเช่นกัน บล็อกเชนหรือบิทคอยน์อาจจะมองเหมือนงานศิลปะที่คนมองไม่เหมือนกัน บางคนบอกว่ามันแพงแล้ว บางคนบอกว่ามันยังไปได้อีก แต่คนที่เข้าใจก็จะซื้อมัน ซึ่งบล็อกเชนนั้นอาจจะได้ใช้เฉพาะคนบางกลุ่ม แต่คนในกลุ่มนั้นมีความเชื่อร่วมกัน ก็ทำให้เหรียญนั้นมีค่าได้
โอกาสของบล็อกเชน สำหรับคนไทยเป็นยังไงบ้าง?
พี่ซันเจมองว่าโดยภาพรวมแล้วคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจบล็อกเชน จะมีแค่องค์กรใหญ่ ๆ อย่าง SCG ที่ใช้งาน
การใช้บล็อกเชนนั้น สามารถมาประยุกต์ใช้ได้หลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเรื่องการเงิน อสังหาฯ ประกัน ธุรกิจสื่อ การเลือกตั้ง ซึ่งจะไปสอดคล้องกับ Smart City ด้วย อาจเปรียบเทียบได้ว่า การมาของบล็อกเชนนั้น เหมือนกับช่วงที่เราใช้อีเมลช่วงเริ่มแรกด้วยซ้ำ สามารถต่อยอดได้อีกเยอะ จึงเป็นประโยชน์ต่อเรื่องพวกนี้ด้วย การสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ด้วยบล็อกเชนมาเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
สรุปสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับคริปโตเคอเรนซี่นั้นก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะอยู่ในสถานะไหนในอนาคต
แต่สำหรับบล็อกเชน บอกได้เลยครับว่า “มาแน่ ๆ” เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและนำมาประยุกต์ใช้จากองค์กรใหญ่ ๆ ทั้งรัฐและเอกชนทั่วโลก
เพราะฉะนั้นถ้าคุณต้องการหาโอกาสในอนาคต คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องชอบหรือลงทุนในบิทคอยน์และคริปโตเคอเรนซี่ แต่คุณจำเป็นต้องศึกษา “บล็อกเชน”
เพื่อน ๆ มีคิดความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
.
แอดปลา
แจ้งข่าว สัมมนารอบต่อไป
อสังหา 3in1 (อสังหาให้เช่า+อสังหาทางด่วน) รุ่น 10
วันที่ 9-10 มกราคม 2564
ดูรายละเอียดที่ลิงค์ในคอมเมนท์ครับ
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Youtube影片中提到,airbnb กำลังจะ IPO ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมทั่วโลกกำลังเจอวิกฤติโควิด 19 ย้อนกลับไปปี 2008 ที่เกิด Hamberger Crisis เศรษฐกิจอเมริกา และทั่วโลกกำลังตกต่ำ ...
「airbnb sharing economy」的推薦目錄:
- 關於airbnb sharing economy 在 KIM Property Live Facebook 的精選貼文
- 關於airbnb sharing economy 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於airbnb sharing economy 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於airbnb sharing economy 在 ลงทุนแมน Youtube 的最佳解答
- 關於airbnb sharing economy 在 Dan Lok Youtube 的最佳貼文
- 關於airbnb sharing economy 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的最佳解答
- 關於airbnb sharing economy 在 The Sharing Economy comes home! The Airbnb IPO (at long ... 的評價
- 關於airbnb sharing economy 在 Airbnb + Sharing Economy | Live - Facebook 的評價
airbnb sharing economy 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
airbnb กำลังจะ IPO ท่ามกลาง...วิกฤติโควิด 19 / โดย ลงทุนแมน
เมื่อธุรกิจโรงแรมทั่วโลกกำลังเจอศึกใหญ่ และใครๆก็บอกว่า COVID-19 จะทำให้ธุรกิจ Sharing Economy ไม่มีวันกลับมาโดดเด่นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
แต่ทำไม Airbnb ถึงยังเลือก IPO ในเวลานี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 2008 วิกฤติซับไพรม์ ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจในอเมริกาดูจะมืดมน
กลับมีสตาร์ตอัป ที่ชื่อ Airbnb เริ่มเฉิดฉายขึ้นมา เพราะช่วยตอบโจทย์ทั้งคนที่อยากหาช่องทางเพิ่มรายได้จากสิ่งที่ตัวเองมี และ คนที่อยากหาที่พักดีในราคาประหยัด
คอนเซปต์นี้ คือ Sharing Economy เอาทรัพยากรส่วนเกินของคนอื่นที่มี มาจัดสรร แบ่งปัน ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย
Airbnb ใช้ Concept นี้ในการเป็น แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อระหว่าง Host คนที่มีที่พักเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเตียง ห้อง บ้าน หรือ ปราสาท ที่อยู่ได้ และ Guest คนที่ต้องการหาที่พัก โดย Airbnb จะได้รายได้จากค่าธรรมเนียมการจองที่เกิดขึ้น
"ปัจจุบันมีห้องพักที่มาปล่อยเช่าบนแพลตฟอร์มมากกว่า 7 ล้านแห่ง กระจายอยู่ในกว่า 220 ประเทศทั่วโลก
และมีผู้เข้าพักเฉลี่ยต่อคืนกว่า 2 ล้านคน โดยมียอดการจองที่พักผ่านแพลตฟอร์ม กว่า 33,000 ล้านบาท"
ถ้ามองว่า Airbnb เป็นเชนโรงแรมหนึ่ง ก็น่าจะเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก ใช้เวลาเพียง 12 ปี ในการสร้างอาณาจักรที่พักโดยที่ตัวเองแทบไม่ต้องลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เองเลย
หากนับตั้งแต่ปี 2009-2019 Airbnb จะมีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 153% กันเลยทีเดียว
แต่การเติบโตนั้นก็ต้องสะดุดลงอย่างจัง
หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19
ทั้งห้ามเดินทางท่องเที่ยว และ ความกังวลเรื่องสุขอนามัย ทำให้ยอดจองหายไป ส่งผลต่อเนื่องถึงสภาพคล่องของ Host หลายคนที่กู้มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อหารายได้ผ่าน Airbnb ด้วย
ไบรอัน เชสกี้ CEO และผู้ก่อตั้ง Airbnb พยายามแก้วิกฤติครั้งนี้ ตั้งแต่ ปรับรูปแบบธุรกิจ ปรับแพลตฟอร์มให้สามารถปล่อยเช่าระยะยาวขึ้น
กระจายความเสี่ยงนอกจากการเป็นตัวกลางปล่อยที่พักอย่างเดียว มาเป็นแพลตฟอร์มในการขายประสบการณ์ผ่าน Online อย่างเช่น ไปสวนสัตว์ออนไลน์ เที่ยวปารีสแบบออนไลน์ เรียนทำพาสต้ากับคุณยายชาวอิตาเลียนออนไลน์
นอกจากนั้นยังลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น ประกาศลดพนักงาน 1900 ตำแหน่ง คิดเป็น 1 ใน 4 ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก
ตั้งกองทุน กว่า 8000 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือ Host ที่โดนยกเลิกการจอง
รวมทั้งระดมเงินทุนฉุกเฉินผ่านการออกหุ้นกู้ ที่ให้ดอกเบี้ยถึง 11% พร้อมสิทธิในการแปลงสภาพเป็นผู้ถือหุ้น ไปแล้วกว่า 60,000 ล้านบาท เพื่อต่อลมหายใจ
โดยล่าสุด ไบรอัน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังหลายพื้นที่ยกเลิก Lockdown ยอดจองเริ่มกลับมา และรายได้ของ Airbnb ตอนนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2019 แล้ว แต่ไบรอันก็ยังไม่ชะล่าใจ เพราะเค้าคิดว่าส่วนนึงเป็นแค่ Pent Up Demand ที่คนอัดอั้นไปเที่ยวไม่ได้
สำหรับ Airbnb ที่มีโมเดลธุรกิจตัวเบา คือ ไม่ได้ลงทุนสร้างโรงแรมหรือที่พักเป็นของตัวเอง หรือมีค่าใช้จ่ายคงที่สูง การกลับมาของยอดจองอย่างน้อยก็เป็นสัญญาณเชิงบวก ว่าน่าจะทำให้ Airbnb สามารถรับมือกับปัญหากระแสเงินสดได้สบายมือขึ้น
และแน่นอนว่าทิศทางการฟื้นตัวที่กลับมาแบบนี้ ก็น่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการเข้ามา IPO ให้ได้มูลค่าสูงได้มากยิ่งขึ้น
โดยจากการระดมทุนครั้งล่าสุดในเดือน เมษายน ที่ผ่านมา มูลค่าของกิจการ Airbnb อยู่ที่ ประมาณ 550,000 ล้านบาท ลดลงเกือบครึ่งของมูลค่ากิจการก่อนที่จะเกิดวิกฤติ COVID-19
แล้วทำไม Airbnb ถึงต้องรีบ IPO ในตอนนี้?
เพราะ Airbnb มีการให้สิทธิ์พนักงานในการซื้อหุ้น ซึ่งสิทธิ์นั้นมีกำหนดอายุ ถ้า Airbnb ไม่ได้เข้าตลาด และสิทธินั้นหมดอายุไปแล้ว Option เหล่านั้นจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าในที่สุด Brian จึงได้รับแรงกดดันจากพนักงานส่วนหนึ่ง
แต่การลงทุน คือ การมองอนาคต..
หากนักลงทุนมั่นใจว่า Airbnb จะสามารถฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ และรายได้สามารถกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อีกครั้ง ด้วยอัตราการเติบโตเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ซึ่งมีการประเมินกันว่า ในปี 2024 มูลค่ากิจการของ Airbnb platform จองที่พัก ที่ไม่มี asset อะไรเลย จะสูงกว่า มูลค่ากิจการโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง Marriott International ที่ปัจจุบันมี มูลค่าอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1559720/000119312520294801/d81668ds1.htm
-https://www.stratosjets.com/blog/airbnb-statistics/
-https://th.airbnb.com/s/experiences/online
-https://www.youtube.com/watch?v=yverNV9Tzi4
-https://marker.medium.com/get-ready-for-airbnbs-ipo-to-blow-away-expectations-b30ee41ef170
airbnb sharing economy 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
รู้จัก “ปีเตอร์ ธีล” นักลงทุนรายแรกของ Facebook /โดย ลงทุนแมน
ปีเตอร์ ธีล ชายที่เป็นหนึ่งใน “PayPal มาเฟีย”
ซึ่ง PayPal มาเฟีย คือ ฉายาที่ใช้เรียกอดีตพนักงานที่ร่วมกันพัฒนาบริษัท PayPal
ที่ถูกเรียกว่ามาเฟีย ก็เนื่องจากพวกเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อธุรกิจอินเทอร์เน็ต ถึงขนาดที่บางคนยกย่องว่าพวกเขามีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมฟื้นตัวกลับมาได้ หลังจากเกิดวิกฤติฟองสบู่ Dot-Com
โดย ปีเตอร์ ธีล คือคนที่ถูกเปรียบเทียบให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม PayPal มาเฟีย
ซึ่งเขาคนนี้ ยังเป็นนักลงทุนรายแรกของ Facebook อีกด้วย
เรื่องราวของชายคนนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) เป็นนักธุรกิจและนักลงทุน ชาวเยอรมัน-อเมริกัน
เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1967 ปัจจุบันมีอายุ 53 ปี
เขาจบการศึกษาด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัย Stanford และทำงานเป็นผู้ช่วยของผู้พิพากษา
แต่ต่อมา ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ มาเป็นเทรดเดอร์ตราสารอนุพันธ์ที่บริษัทหลักทรัพย์ Credit Suisse แทน
ซึ่งขณะนั้นเอง ธีลได้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการซื้อขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ แต่กลับพบว่า ยังไม่ค่อยมีระบบจ่ายเงินออนไลน์ที่รองรับธุรกรรมดังกล่าวสักเท่าไร
เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัท Confinity Inc. ร่วมกับเพื่อน เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการจ่ายเงินออนไลน์ ในปี 1998
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ก็มีอีกบริษัทที่ตั้งขึ้นมาประกอบธุรกิจ Online Banking โดยบริษัทนั้นคือ X.com ที่มี อีลอน มัสก์ เป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อตั้งบริษัทนี้
ซึ่งหนึ่งปีถัดมา Confinity และ X.com ที่ต่างบริษัทต่างก็มีชื่อเสียงด้านแพลตฟอร์มให้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ในขณะนั้น ก็ได้ควบรวมกิจการกัน และเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “PayPal”
ในปี 2002 บริษัท PayPal จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และต่อมาไม่นาน ก็ตกลงขายกิจการให้กับ eBay เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 47,000 ล้านบาท
ทำให้ ปีเตอร์ ธีล ที่ถือหุ้นของ PayPal ณ ขณะนั้นอยู่ 3.7% ได้รับเงินจากดีลครั้งนี้ไปราว 1,700 ล้านบาท
ในเวลาต่อมา เขาได้นำเงินก้อนนั้นไปก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และ Venture Capital เพื่อหาโอกาสลงทุนในกิจการสตาร์ตอัปต่างๆ ที่น่าสนใจ
และเหตุการณ์สำคัญ ก็เกิดขึ้นในปี 2004
เมื่ออดีตเพื่อนร่วมงานที่ PayPal แนะนำให้ธีลรู้จักกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในวัย 20 ปี
หลังจากการพูดคุยกัน ทำให้ธีลสนใจในธุรกิจโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบใหม่ของ Facebook เป็นอย่างมาก และตกลงเข้าร่วมลงทุนด้วยเงิน 15.6 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้นสัดส่วน 10.2% ของบริษัท
ซึ่งการลงทุนในครั้งนั้น คือการที่ Facebook ได้รับเงินลงทุนจากคนนอกเป็นครั้งแรก จึงทำให้ ธีล กลายเป็นนักลงทุนรายแรกของ Facebook นั่นเอง
ทั้งนี้ ธีลยังได้เข้ามาเป็นผู้บริหาร Facebook และมีบทบาทสำคัญในเรื่องการเงิน โดยเฉพาะการจัดระดมทุนได้สำเร็จ ก่อนจะเกิดวิกฤติซับไพรม์ในปี 2008
จนกระทั่งปี 2012 Facebook ได้ดำเนินการ IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ โดยขณะนั้นบริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ราว 3.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งธีลก็ตัดสินใจขายหุ้นที่เขาถืออยู่จำนวนมากออกไป ทำให้เขาได้รับเงินไปประมาณ 31,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่ามหาศาลเมื่อเทียบกับมูลค่าที่เขาลงทุนไปในตอนแรก
นอกจากนั้น ธีลยังลงทุนในสตาร์ตอัปชื่อดัง อีกกว่า 80 บริษัท ตั้งแต่ช่วงแรกของกิจการ ตัวอย่างเช่น
Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักแบบ Sharing Economy
Linkedin แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับคนทำงาน
SpaceX บริษัทขนส่งทางอวกาศ
Spotify แพลตฟอร์มฟังเพลง Streaming ออนไลน์
Quora แพลตฟอร์มโซเชียล ถาม-ตอบ
Yammer แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับองค์กร
DeepMind บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
รวมถึงการลงทุนใน Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ที่เขามองว่าน่าจะเป็นสกุลเงินสำคัญของธุรกรรมการเงินออนไลน์ในอนาคตอีกด้วย
ล่าสุด จากการประเมินทรัพย์สินและจัดอันดับของ Forbes
ปีเตอร์ ธีล มีทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ที่ประมาณ 78,000 ล้านบาท
ซึ่งถูกจัดเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก อันดับที่ 391
ทั้งนี้ ธีลเคยให้มุมมองเอาไว้ว่า บริษัทที่ประสบความสําเร็จ และสร้างผลตอบแทนมหาศาลให้กับผู้ถือหุ้น มักจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันอยู่หนึ่งอย่าง
นั่นคือ การเป็นผู้สร้างสินค้า นวัตกรรม หรือตลาด ขึ้นมาใหม่
จึงทำให้บริษัทยังไม่มีคู่แข่งมากนักในช่วงแรกๆ เหมือนกรณีของ PayPal และ Facebook
ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีผู้เล่นหลายราย เช่น ธุรกิจสายการบิน แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยการแข่งขันด้านราคา ซึ่งส่งผลให้กำไรไม่เติบโต และมูลค่าบริษัทปรับตัวลงมาต่ำกว่าสตาร์ตอัปเกิดใหม่บางรายเสียอีก
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
นอกเหนือจาก ปีเตอร์ ธีล แล้ว กลุ่ม PayPal มาเฟีย ยังแยกย้ายกันไปสร้างธุรกิจ จนประสบความสำเร็จอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น
รีด ฮอฟฟ์แมน ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn และ เดวิด แซกส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Yammer
ซึ่งธีลร่วมลงทุนในทั้งสองบริษัท และสุดท้ายทั้ง LinkedIn และ Yammer ก็ถูก Microsoft ซื้อกิจการไป
แชด เฮอร์ลีย์, สตีฟ เฉิน และ ยาวีด คาริม ร่วมกันก่อตั้งแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ YouTube จนถูก Google ซื้อกิจการไป
และคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกลุ่ม คงหนีไม่พ้น อีลอน มัสก์
เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PayPal และได้รับเงินจากการขายกิจการให้ eBay สูงถึง 5,100 ล้านบาท
ซึ่ง อีลอน มัสก์ ได้นำเงินที่ได้มาไปลงทุนในบริษัท SpaceX ซึ่งก็มีธีลร่วมลงทุน
และ อีกบริษัทที่อีลอน มัสก์ ได้ลงทุนก็คือ Tesla ที่ตอนนี้กลายเป็นบริษัทรถยนต์มูลค่ามากสุดในโลกไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/peter-thiel-facebook-trump-biography-2018-2
-https://en.wikipedia.org/wiki/Peter_Thiel
-https://www.forbes.com/sites/stephenmcbride1/2020/10/05/peter-thiel-built-his-fortune-on-this-one-business-secret/
airbnb sharing economy 在 ลงทุนแมน Youtube 的最佳解答
airbnb กำลังจะ IPO ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมทั่วโลกกำลังเจอวิกฤติโควิด 19
ย้อนกลับไปปี 2008 ที่เกิด Hamberger Crisis เศรษฐกิจอเมริกา และทั่วโลกกำลังตกต่ำ
ธุรกิจ airbnb ก็เริ่มเฉิดฉาย ตอบโจทย์คนที่อยากหารายได้จากสิ่งที่ตัวเองมี และคนที่อยากได้ที่พักดีในราคาประหยัด
ด้วยแนวคิด Sharing Economy หรือการจัดสรร ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย
airbnb เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อระหว่าง Host หรือผู้ที่มีที่พักเหลือ กับ Guest ผู้ที่ต้องการที่พักอาศัย โดย airbnb จะได้รับค่าธรรมเนียมจากการจองที่เกิดขึ้น
ปัจจุบัน มีที่พักที่มาปล่อยเช่าบน airbnb มากกว่า 7 ล้านแห่ง ใน 220 ประเทศทั่วโลก
ผู้เข้าพักเฉลี่ยต่อคืนกว่า 2 ล้านคน
ยอดจองผ่านแพลตฟอร์มกว่า 3 หมื่น 3 พันล้านบาท
หากนับตั้งแต่ 2009 - 2019 airbnb จะมียอดเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 153% จนกระทั่งวิกฤติโควิด 19 ที่ทำให้ยอดจองที่พักหายไป
Brian Chesky, CEO และผู้ก่อตั้ง airbnb จึงปรับรูปแบบธุรกิจให้ปล่อยเช่าระยะยาวได้
และกระจายความเสี่ยงจากแพลตฟอร์มที่ปล่อยที่พักเพียงอย่างเดียว มาเป็นแพลตฟอร์มที่ ขายประสบการณ์ออนไลน์ด้วย เช่น ไปสวนสัตว์ออนไลน์ หรือไปเที่ยวปารีสแบบออนไลน์
รวมถึงจัดตั้งกองทุนกว่า 8 พันล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ Host ที่โดยยกเลิกการจอง
และลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น
จนมาถึงการยกเลิกล็อกดาวน์ ทำให้ยอดการจองกลับมา แต่ Brian มองว่านี่เป็นเพียง Pent Up Demand จึงประกาศระดมทุน
และด้วยโมเดลธุรกิจที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงแรม หรือไม่ได้มีต้นทุนที่สูง ซึ่งน่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในการเข้ามา IPO ได้ ทำให้มีการประเมินกันว่า ปี 2024 มูลค่ากิจการของ airbnb อาจมีมากกว่า 1 ล้านล้านบาท
ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้
การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด Subscribe @ลงทุนแมน
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website -https://www.longtunman.com/
Blockdit - https://www.blockdit.com/longtunman
Facebook - http://facebook.com/longtunman
Twitter - http://twitter.com/longtunman
Instagram - http://instagram.com/longtunman
Line - http://page.line.me/longtunman
YouTube - https://www.youtube.com/longtunman
Spotify - http://open.spotify.com/show/4jz0qVn1...
Soundcloud - http://soundcloud.com/longtunman
Apple Podcasts - http://podcasts.apple.com/th/podcast/...
Clubhouse - @longtunman
#ลงทุนแมน #ห้องประชุมลงทุนแมน #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง #BREAKTHROUGH #THEBRIEFCASE #longtunman #ลงทุนแมนORIGINALS #ลงทุนเกิร์ลTALK #ลงทุนเกิร์ล
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/-wzHYKjJeCk/hqdefault.jpg)
airbnb sharing economy 在 Dan Lok Youtube 的最佳貼文
Have You Ever Wondered What’s The Greatest Money Making Model In The 21st Century? It’s All About The “Network Effect.” Discover How To Build Your Network And Become The Category King Or Queen In Your Niche TODAY: https://greatestmodel.danlok.link
What do big names like Uber, Facebook, or Airbnb have in common? They are leveraging the greatest money making model in the 21st century. Watch the video to find out what it is. Learned something new? Share this with a friend.
? SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ?
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlists -
1.) Boss In The Bentley - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-
2.) Sales Tips That Get People To Buy - https://www.youtube.com/watch?v=E6Csz_hvXzw&list=PLEmTTOfet46PvAsPpWByNgUWZ5dLJd_I4
3.) Dan Lok’s Best Secrets - https://www.youtube.com/watch?v=FZNmFJUuTRs&list=PLEmTTOfet46N3NIYsBQ9wku8UBNhtT9QQ
Dan Lok has been viewed more than 1.7+ billion times across social media for his expertise on how to achieve financial confidence. And is the author of over a dozen international bestselling books.
Dan has also been featured on FOX Business News, MSNBC, CBC, FORBES, Inc, Entrepreneur, and Business Insider.
In addition to his social media presence, Dan Lok is the founder of the Dan Lok Organization, which includes more than two dozen companies - and is a venture capitalist currently evaluating acquisitions in markets such as education, new media, and software.
Some of his companies include Closers.com, Copywriters.com, High Ticket Closers, High Income Copywriters and a dozen of other brands.
And as chairman of DRAGON 100, the world’s most exclusive advisory board, Dan Lok also seeks to provide capital to minority founders and budding entrepreneurs.
Dan Lok trains as hard in the Dojo as he negotiates in the boardroom. And thus has earned himself the name; The Asian Dragon.
If you want the no b.s. way to master your financial destiny, then learn from Dan. Subscribe to his channel now.
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
YouTube: http://youtube.danlok.link
Dan Lok Blog: http://blog.danlok.link
Dan Lok Shop: https://shop.danlok.link
Facebook: http://facebook.danlok.link
Instagram: http://instagram.danlok.link
Linkedin: http://mylinkedin.danlok.link
Podcast: http://thedanlokshow.danlok.link
#DanLok #BusinessModelOfThe21stCentury #TheNetworkEffect
Please understand that by watching Dan’s videos or enrolling in his programs does not mean you’ll get results close to what he’s been able to do (or do anything for that matter).
He’s been in business for over 20 years and his results are not typical.
Most people who watch his videos or enroll in his programs get the “how to” but never take action with the information. Dan is only sharing what has worked for him and his students.
Your results are dependent on many factors… including but not limited to your ability to work hard, commit yourself, and do whatever it takes.
Entering any business is going to involve a level of risk as well as massive commitment and action. If you're not willing to accept that, please DO NOT WATCH DAN’S VIDEOS OR SIGN UP FOR ONE OF HIS PROGRAMS.
This video is about The Greatest Money Making Model In The 21st Century.
https://youtu.be/4DpvD50BrKI
https://youtu.be/4DpvD50BrKI
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/4DpvD50BrKI/hqdefault.jpg)
airbnb sharing economy 在 สาระ ศาสตร์ Youtube 的最佳解答
#สาระ #แนวคิด #ความรู้ #สาระศาสตร์
Sharing Economy หรือ gig economy เป็นแนวคิดสังคมเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน โดยได้รับการกล่าวถึงครั้งแรกตั้งแต่ปี 1978 ในบทความเชิงวิชาการเรื่อง “Community Structure and Collaborative Consumption” โดย Marcus Felson และ Joe Spaeth ซึ่งทั้งคู่เป็นนักสังคมศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัย University of Illinois at Urbana-Champaign ในปัจจุบัน แนวคิดนี้สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างรายได้ที่มาจากการแลกเปลี่ยนการบริโภคสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าเชิงเศรษฐกิจจากทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้แล้วระหว่างบุคคลและกลุ่มคนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มรูปแบบต่างๆ เหมือนในนิทานเรื่องนี้
รวบรวมสาระที่เป็นประโยชน์จากเรื่องราวต่างๆที่ได้อ่านและประวัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จไ เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับคนที่รักการพัฒนาตัวเองและอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขี้น
ถ้าสาระเหล่านี้มีประโยชน์อล่าลืมแชร์ให้คนที่คุณรักรอบๆตัวได้อ่าน ได้ฟังกันนะครับ ขอให้สนุกกับการพัฒนาตัวเองและความรู้ทุกท่านครับ
สำหรับคนชอบอ่าน ผมได้เขียนบทความเอาไว้ที่นี่ http://bit.ly/2nTdvYr
สำหรับคนที่อยากอ่านอะไรสั้น ผมได้เขียนเอาไว้ที่นี่ https://twitter.com/M0l30T
สำหรับคนที่เล่นเฟซบุ๊คมากกว่า ผมมีเพจที่นี่ http://bit.ly/2DnkUVM
ขอบคุณทุกคนจากใจจริงที่ยังติดตามและสนับสนุนกันอยู่นะครับ
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/Go6UpVbpJhg/hqdefault.jpg)
airbnb sharing economy 在 Airbnb + Sharing Economy | Live - Facebook 的推薦與評價
Vision: Create an all-inclusive, diverse, multi-partner, industry leader-led live video environment with a multi-purposed focus on Sharing Economy as a... ... <看更多>
airbnb sharing economy 在 The Sharing Economy comes home! The Airbnb IPO (at long ... 的推薦與評價
Airbnb filed the prospectus for its IPO on November 16, 2020, capping years of speculation that it would ... The Sharing Economy comes home! ... <看更多>