Never Have I Ever (สามารถดูได้ใน Netflix)
• อยากดูเพราะเห็นพล็อตเป็นซีรีส์ไฮสคูลเกี่ยวกับเด็กสาวอินเดียที่เติบโตในสังคมอเมริกัน แต่ระหว่างดูเริ่มรู้สึกว่าการดำเนินเรื่องมันไม่ต่างอะไรกับซีรีส์ไฮสคูลทั่วไปเลยนิหว่า ซึ่งกลายเป็นจุดที่ชอบเพราะเนื้อหาดูธรรมชาติพร้อมกับสอดแทรกวัฒนธรรมครอบครัวอินเดียเข้าไปในระดับกำลังดี
• ท่ามกลางตัวละครวัยรุ่นที่ต้องการสลัดทิ้งรากเหง้าของตัวเองเพื่อกลืนไปกับสังคมอเมริกัน ซีรีส์นี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำให้เด็กยุคใหม่ยืดอกภูมิใจในวัฒนธรรมของตัวเอง และยอมรับการอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์
• เห็นว่าสคริปต์เกิดจากประสบการณ์วัยเด็กของ Mindy Kaling แต่เท่าที่ดูคงมีการปรับเนื้อหาให้ร่วมสมัยไม่น้อย เพราะการเปิดตัวเป็นเกย์ ด้วยท่าทีที่ปกติของคนรอบข้าง หรือการเป็นเด็กแอฟริกัน-อเมริกัน / เชื้อสายจีน ที่อยู่ในโรงเรียนกันปกติไม่มีเหยียดผิว ก็คือค่านิยมสมัยใหม่แล้ว
• ถือว่าเป็นซีรีส์วัยรุ่น coming of age ที่สนุกด้วยโทนคอเมดี้ หยอดประเด็นหนักหนาสำหรับวัยรุ่น ที่คนวัย 30 ปีแบบเราดูแล้วอาจจะมองว่าเรื่องขี้ปะติ๋ว แต่พอมองย้อนกลับไปวัยนั้นมันก็เรื่องใหญ่จริงแหละ
• เตือนก่อนว่าตัวละครนำค่อนข้างมีทัศนคติยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ตามประสาวัยรุ่นส่วนใหญ่นะ ระหว่างทางถึงจะเรียนรู้เติบโตกันไปผ่านแบบทดสอบต่าง ๆ
• ตอนท้าย ๆ นี่พาไปทาง Bridget Jones's Diary มาก สงสัยต้องรอดูซีซั่นสอง
• แก๊งนักแสดงหลักอายุไล่กันมาเลย 18-21 ปี มี Ramona Young ที่แสดงเป็นเอเลนอร์ขยับมาหน่อยอายุ 23 ปี ก็ยังพอถูไถ แต่ Darren Barnet ที่รับบทแพ็กซ์ตันคือกระโดดมาอายุ 30 ปีเลย คืออายุจะเท่า Richa Moorjani ที่แสดงเป็นกมลาที่เรียนปริญญาเอกละนะ ฮ่าๆๆ
-------------------------------------
'เดวี่' (Maitreyi Ramakrishnan) เด็กสาวเชื้อสายอินเดียวัย 15 ปี เพิ่งสูญเสียพ่อระหว่างตัวเองแสดงดนตรี เกิดเป็นบาดแผลในใจจนทำให้เดินไม่ได้อยู่ช่วงหนึ่ง พอเปิดเทอมเธอต้องการเป็นเด็กคูล ๆ กับเขาบ้าง เลยชวนสองเพื่อนสนิท 'ฟาบิโอลา' และ 'เอเลนอร์' มาเริ่มต้นหาแฟนหนุ่ม ซึ่งเดวี่ดันไปปิ๊ง 'แพ็กซ์ตัน' หนุ่มนักกีฬาสุดฮอตของโรงเรียนถึงขนาดเอ่ยปากชวนเขามามีอะไรกันแบบไม่ผูกมัด
.
คิดว่า Never Have I Ever มีความเป็นซีรีส์วัยรุ่นสมัยใหม่มาก โดยเฉพาะการเล่นเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดีย-ฮินดู ในสังคมอเมริกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่วัยรุ่นหัวขบถจะมีท่าทีต่อต้านหรือตั้งคำถามกับรากเหง้าของตัวเองในแง่ความไม่คูลและการอยู่ในคุณค่าของโลกสมัยใหม่ที่เคารพเสรีภาพ/ความเสมอภาค/และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำไมต้องมาแต่งชุดผ้าสาหรี่ในโลกที่มีเสื้อยืดกางเกงยีนส์, ทำไมยังต้องกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์, ทำไมยังยอมโดนคลุมถุงชน
.
แต่สุดท้ายมันวนกลับมาสู่ประเด็นที่ว่า วัยรุ่นต่อต้านวัฒนธรรมตัวเองเพราะรู้สึกเรื่องเหล่านี้แปลกแยกจากคนส่วนใหญ่ในสังคมและเป็นเรื่องถูกล้อเลียนหรือเปล่า จึงทำให้เกิดความรู้สึกอับอายจนไม่กล้าแสดงอัตลักษณ์ตัวเอง ความดีงามของซีรีส์คือมันไม่ได้แสดงท่าทีจิกหัวบังคับให้คนต้องเคารพรากเหง้าตัวเอง แค่แสดงให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งว่าการเข้าร่วมชุมชนรากเหง้าตัวเองพร้อม ๆ กับอยู่ในสังคมสมัยใหม่สามารถเดินไปด้วยกันได้ ผ่านการแสวงหาจุดร่วมที่ไม่ขัดแย้งกับคุณค่าของโลกสมัยใหม่ เช่นสามารถเข้าร่วมการนัดดูตัวที่ถูกกำหนดโดยคนในครอบครัว แต่ต่อต้านการคลุมถุงชนที่ไม่ให้อิสระชายและหญิงในการตัดสินใจ, หรือการเต้นแบบบอลลีวูดจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้เฉิ่มเชย กลับเป็นเรื่องคูลเสียอีกทีในการเผยแพร่ความหลากหลายของวัฒนธรรม พร้อมกับที่ซีรีส์แสดงทัศนคติพัฒนาสังคมให้เคารพความหลากหลายของชาติพันธุ์
.
ส่วนต่อมาคือเนื้อหาก้าวพ้นวัยของวัยรุ่น ที่ซีรีส์โยนประเด็นเข้ามาต่อเนื่องตลอดทั้งซีซั่น ทั้งการปกปิดตัวเองว่าเป็น LGBTQ ที่รอวันเปิดเผย ซึ่งท่าทีของฟาบิโอลาที่กลัวพ่อแม่จะรับไม่ได้มันก็ถูกถ่ายทอดแทบจะเป็น soft power ให้วัยรุ่นยุคใหม่ไม่ต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนในการเปิดตัว, หรือการยึดโยงตัวเองของเอเลนอร์กับคนเป็นแม่ที่เป็นต้นแบบให้ฝันอยากเป็นนักแสดง คือสุดท้ายชีวิตมันเป็นของเรา ตัวตนความฝันอยู่ที่เราตัดสินใจหมด กระทั่งบทของเดวี่ จุดศูนย์กลางของเรื่องก็เจอแบบทดสอบเยอะแยะมากมาย ทั้งปัญหากับแม่ที่เข้มงวด ไม่ใจดีเหมือนพ่อ, เรื่องวุ่น ๆ จากการปล่อยเรื่องโกหกดำเนินต่อไป ซึ่งมีจุดหลักจากการยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เรื่องของตัวเองสำคัญสุด สำคัญกว่าปัญหาของเพื่อน จนแทบจะเป็นตัวละครที่ขาดความเข้าใจคนอื่น
.
เรื่องโรแมนติกก็กุ๊กกิ๊กดี เอาจริงแอบเอียนหน่อย ๆ ที่หนังและซีรีส์วัยรุ่นมักจะให้ตัวละครนำมีเป้าหมายเป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียนแทบจะทุกเรื่อง ซึ่งใน Never Have I Ever มันก็แอบขำในโทนการเล่าแบบสายมโน เขาทำนู่นทำนี่แล้วคิดไปไกล แต่เผลอแปปเดียวกลายเป็นมะรุมมะตุ้มรุมรักเดวี่เฉยเลย เพราะนอกจากจะโปรโมทแพ็กซ์ตันเป็นเป้าหมายหลักแล้ว อยู่ดี ๆ ซีรีส์ก็สร้างจังหวะให้ 'เบ็น' ที่รับบทเป็นคู่แข่งด้านการเรียนและกิจกรรมกับเดวี่มาตลอด กลายเป็นตัวสอดแทรกเข้ามาแย่งความสนใจอย่างแนบเนียน
.
โดยรวมแล้วใครมองหาซีรีส์วัยรุ่น แนวก้าวพ้นวัย โทนคอเมดี้ดูสบายแต่ไม่เบาหวิว ก็แนะนำว่าต้องจัดจริง ๆ
Creators: Lang Fisher, Mindy Kaling
10 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 28 นาที)
A-
#หนังโปรดxซีรีส์Netflix
darren barnet 在 Darren Barnet - Pinterest 的推薦與評價
Jul 5, 2020 - Explore Ruchita Gupta's board "Darren Barnet ❤❤" on Pinterest. See more ideas about barnet, never have i ever, really hot guys. ... <看更多>