#เล็กน้อยมหาศาล
.
ในช่วงที่สับสนอลหม่าน มองไปทางไหนก็มีความเครียด มีแต่ปัญหา
แต่เราก็ต้องเป็นเสาหลักให้ลูกให้ได้
หมอคิดถึงหนังเรื่อง Life is beautiful
ซึ่งเป็นหนังที่หมอชอบมากๆอีกเรื่องหนึ่ง
สถานการณ์ตอนนี้
ลูกของเราจะจดจำชีวิตในช่วงนี้ว่าอย่างไร
ขึ้นกับพ่อแม่ว่าตอบสนองต่อปัญหาอย่างไร
เหมือนที่โจชัว แม้จะถูกจับไปที่ค่ายกักกันชาวยิว
แต่เพราะพ่อทำให้จิตใจของโจชัวไม่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงโหดร้ายในครั้งนั้น
.
หมอไม่รู้จะช่วยทุกคนได้อย่างไร
แต่หมอรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้
ไม่ได้กระทบแค่เรื่องงาน เศรษฐกิจ
แต่คนที่รับผลไปเต็มๆคือเด็กน้อยที่บ้านของเรา
เฉพาะการเสียโอกาสในการเติบโต ในการพัฒนาอย่างที่เค้าควรจะเป็น มันก็ประเมินค่าไม่ได้
เราที่เป็นพ่อแม่...ทำได้แต่เพียง ตั้งสติ แล้วเรียงลำดับความสำคัญ แล้วหาปมแรกของเชือกให้ได้ก่อน
.
อยากจะชวนแม่ๆมาลองอ่าน
และใช้วิธีพัฒนาตัวเองที่หมอได้ไปอ่านหนังสือมาค่ะ
ถ้าบ้านไหนกำลังเครียด และรู้สึกว่า
ความเครียดของเรา บวกกับสถานการณ์ ทำให้ลูกถดถอย
เหมาะเลยค่ะ
.
เดือนที่ผ่านมา
หมออ่านหนังสือ 2 เล่ม คือเรื่อง Atomic habit โดย Jame Clear
และเรื่อง การจดบันทึกแบบ Bullet journal โดย Ryder Carroll
และมีอีก 1 เล่มที่อ่านไปก่อนหน้านี้ คือ The power of output โดย ชิออน คาบาซาวะ
.
หมอพบว่า 3 เล่มนี้ มีความเชื่อมโยงกันอย่างมาก
และสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตได้ดีมากโดยเฉพาะในมุมของคนเป็นแม่นะคะ
.
หัวใจของหนังสือทั้ง 3 เล่ม คือ
#การเปลี่ยนแปลงใดใดล้วนเริ่มต้นจากการกระทำเล็กๆ
อย่างที่เรารู้กัน อะตอม เป็นหน่วยที่เล็กของสสาร เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงที่เล็กเหมือนอะตอม
แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ ก็ส่งผลที่ยิ่งใหญ่ได้
1ยกกำลัง 365 = 1 แต่ 1.01 ยกกำลัง 365 = 37.78
ถ้าลงมือทำในสิ่งเล็กๆติดต่อกันทุกวัน เมื่อครบ 1 ปี
เราจะพัฒนามากกว่าจุดตั้งต้น 37 เท่า
เรื่องการพัฒนาความเป็นพ่อแม่ของเราก็เช่นกัน
.
ในหนังสือเรื่อง The power of output
จะมาตอบคำถามเราที่ว่า การหาความรู้เป็นเรื่องดี เหมือนการใส่ input ดีๆให้กับตัวเอง
แต่การใส่แต่ input โดยที่ไม่เคยมี output เลย
ก็ไม่เคยเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ดังนั้นจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนแนะนำคือ input/output = 30/70
นั่นคือ ความรู้ก็สำคัญ แต่การเอาความรู้มาปฏิบัติจะทำให้เกิดวงจรทักษะที่สมบูรณ์
เพราะในขณะที่เราลงมือทำ เราจะมองเห็นอุปสรรค และแก้ปัญหา เมื่อทำให้ครั้งถัดๆไปก็จะทำได้ดีขึ้น
.
และสิ่งที่หนังสือ 3 เล่มนี้ เขียนเหมือนกัน คือ
#ให้ลงมือเขียนสิ่งที่อยากทำหรือต้องทำลงในกระดาษ
ความคิดที่ล่องลอย เมื่อเขียนลงไป มันจับต้องได้
และการลงมือเขียน เหมือนเป็นพันธะสัญญากับตัวเอง
❤ลองดูค่ะ มันได้ผลจริงๆนะ❤
.
แล้วเกี่ยวอะไรกับการเลี้ยงลูก
เกี่ยวแน่นอน ถ้าหนึ่งใน passion ของเรา
คือการเลี้ยงลูก
เพราะฉะนั้น ทักษะการเลี้ยงลูกก็เป็นทักษะอันดับต้นๆที่เราต้องพัฒนาตัวเองทุกๆวัน
แล้วสิ่งที่เราพัฒนาตัวเราเองนั้น
จะเป็น spill over effect ไปยังลูกแน่นอน
💟💟💟💟💟💟💟💟
หมอย่อยขั้นตอนดังนี้ค่ะ
👉1.เขียนความคิดในกระดาษ
ลองให้เวลากับตัวเอง แล้วเขียนบรรยายออกมา
ว่าเป้าหมายในการเลี้ยงลูกของเรา
ณ ปัจจุบัน คืออะไร (แน่นอนเป้าหมายระยะสั้น กลาง เปลี่ยนแปลงได้เสมอ)
ถ้าคิดยาก เอาทีละเดือน เดือนละ 1 เรื่องที่เราอยากพัฒนาก็ได้ค่ะ
บรรยายให้มีตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม วัดผลได้
เช่น เดือนนี้ อยากให้ลูกเป็นคนที่รับมือกับอุปสรรคต่างๆได้ดี ดังนั้น เมื่อเรียนออนไลน์แล้วเกิดปัญหา
สามารถคิดแก้ไขด้วยตัวเองได้เหมาะสมกับอายุ หรือ ควบคุมสติตัวเองได้เมื่อเกิดปัญหา ไม่โทรไปร้องไห้ตลอดเวลา etc.
หรือ เดือนนี้ อยากให้ลูกสนุกกับการอ่านหนังสือด้วยกันให้ได้ (สมมติบ้านที่เพิ่งเข้าสู่วงการอ่านนิทาน)
👉2. ใส่ input ที่จำเป็นให้กับตัวเอง เช่น อยากให้ลูกรับมือกับปัญหาได้ดี มีบทความดีๆเขียนถึง?
หรือ อยากให้ลูกสนุกกับการอ่าน เราเลือกหนังสือยังไงดี หรือหนังสือนิทานแบบไหนที่ลูกน่าจะชอบ เป็นต้น
ที่เราจำเป็นต้องใส่ input ในเรื่องที่เราอยากพัฒนา เป็นเพราะเมื่อสมองของเรามีความรู้ มีมุมมองต่อเรื่องนั้นๆกว้างมากขึ้น ก็จะสามารถวิเคราะห์ ประมวลเมื่อเกิดปัญหาและอุปสรรคได้ดีกว่า....และอย่างที่บอก อย่าเสียเวลาไปกับ input มากเกินไป เอาแค่หลักการ ถ้าใครคิดว่าตัวเองมีความรู้ในเรื่องนั้นๆอยู่แล้ว ข้ามข้อนี้ไปเลย
👉3. เขียนลงกระดาษว่าตัวเราเอง จะมีการปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ลูกเกิดการพัฒนาทักษะที่เราต้องการในข้อ 1
ซึ่งพฤติกรรมใดๆ
ที่เราต้องการให้เกิดขึ้น มีหลักการ 4 ข้อ
❤#ทำให้เห็นได้ชัดเจน อยากให้อ่านหนังสือนิทานต้องเตรียมนิทานไว้ที่หยิบง่าย
อยากให้ทำการบ้าน ตารางงานชัดเจน อุปกรณ์ สถานที่ต้องพร้อม
อยากให้ช่วยงานบ้าน คำสั่งต้องชัดเจน อุปกรณ์เข้าถึงได้ เป็นต้น
❤#ทำให้น่าดึงดูดใจ....ในมุมของแม่ เป็นเรื่องที่น่าท้าทาย น่าทดลอง ว่ามันจะได้ผลมั้ย ในมุมเด็ก ความสนุก ความสุข ที่มาพร้อมกับการทำ เป็นการบ้านที่คุณแม่ต้องไปคิด เพื่อให้เกิดการกระทำนั้น
❤#ทำให้เป็นเรื่องง่าย...พัฒนาแค่เพียงนิดเดียว แม่ก็มองเห็นแล้ว รับรู้ได้ ชื่นชมแล้ว ไม่ได้ยากอะไรเลย
❤#น่าพึงพอใจ.....เมื่อทำสิ่งนั้นดีขึ้น มันดีกับชีวิตอย่างไร ที่แน่ๆแม่มีความสุข แม่ไม่ดุ
เช่น พัฒนาเรื่องความรับผิดชอบในการส่งงานของลูกสาววัยประถม 2
(โปรดจำไว้ว่าเด็กแต่ละวัย แม้เป็นปัญหาเดียวกัน แต่เทคนิคจะไม่เหมือนกัน นี่เป็นเหตุผลว่าเราต้องหา input เพื่อให้ตัวเองเข้าใจเสียก่อน)
□ สร้างแรงจูงใจ หากสามารถทำงานเสร็จเร็ว จะมีเวลาวิ่งเล่นด้วยกันมากขึ้น
□ สอนให้ทำ to do list และได้ขีดฆ่างานที่ตัวเองทำเสร็จแล้ว เกิดความภูมิใจ
□ เมื่อลูกทำได้ ต้องชื่นชม ให้แรงเสริมทางบวก
เป็นต้น
👉4. วางแผนเสร็จแล้ว ก็เป็น habit tracking รายวัน เราอาจทำให้ตัวเราเองเห็นชัดๆ หรือจะทำเป็นสมุดบันทึก แล้วแต่ที่ตัวเองสะดวก
เช่น
– บันทึกว่าสามารถมองเห็นและชื่นชมการพัฒนาของลูกได้ วันนี้นั่งเรียนได้ทั้งคาบโดยไม่วิ่งจากจอเลย วันนี้ตอบคำถามครูได้ วันนี้ยกมือตอบคุณครูด้วย เป็นต้น
- บันทึกว่าอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างสนุกสนานได้อย่างน้อย 30 นาที ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม (เดินหนี แย่งไปอม พูดแทรก ก็ไม่หยุดอ่าน และไม่หงุดหงิด)
- บันทึกว่า วันนี้เรากดดันเรื่องการกินอาหารของลูกลดลง
** สามารถติดตามพฤติกรรมที่เราสนใจได้ทุกอย่าง แล้วแต่เราจะ design**
ข้อควรจำ ตอนนี้ คนที่ต้องเปลี่ยนแปลงหลักคือตัวเราเอง แต่เราเฝ้ามองผลที่จะเกิดขึ้นทีละเล็กละน้อย ผ่านการพัฒนาทักษะที่เราต้องการของลูก อย่าลืมว่า เราต้องมองเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนั้น เราต้องการแค่วันละ +0.1 วันไหนได้มากกว่านั้นคือกำไร ในทางกลับกัน ถ้าวันนี้ขาดทุน พรุ่งนี้ก็เริ่มใหม่ได้เสมอ
เดินไปข้างหน้า ช้าหรือหยุดไม่เป็นไร
ขออย่างเดียว อย่าถอยหลัง
แล้วเราจะพบว่า ไม่ทันรู้ตัว เราก็มาไกลกว่าจุดตั้งต้นมากทีเดียว
...
หมอแพม
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「to do list คือ」的推薦目錄:
- 關於to do list คือ 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的最佳貼文
- 關於to do list คือ 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Facebook 的精選貼文
- 關於to do list คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳解答
- 關於to do list คือ 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於to do list คือ 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於to do list คือ 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於to do list คือ 在 รวมวิธีทำ To-do list ให้ได้งาน! l Future Trends - YouTube 的評價
- 關於to do list คือ 在 วิธีจัดการ ความวุ่นวายให้ได้ผล | การใช้ To-do list ให้มีประสิทธิภาพ 的評價
- 關於to do list คือ 在 สร้าง To-Do List ให้มีประสิทธิภาพ ทำงานที่บ้าน ... 的評價
- 關於to do list คือ 在 EP2 : ความแตกต่างของ To do list กับ Success List - บอย วิสูตร 的評價
to do list คือ 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Facebook 的精選貼文
#พลังงานดียามเช้า
Good moring Good Health Good Vibes,
Shielding ด้วยออร่าจักรวาล 🌈😉
.
กิจวัตรยามเช้าเพื่อสุขภาพกาย ใจ และจิตวิญญาณดีของปุ๋ย เริ่มต้นตอน 6.30 น. ถึง 9.00 น.
.
- Meditation ฝึกลมหายใจและสติ
- ออกกำลังกาย
- อ่านหนังสือ
- Gratitude สำนึกรู้คุณ กล่าวขอบคุณสรรพสิ่ง เขียนขอบคุณตัวเอง 10 อย่าง สิ่งและคนรอบตัว 10 อย่าง
- กล่าวคำยืนยันกับตัวเอง เช่น "ฉันแข็งแรง" "ฉันสดใส" "ฉันยิ้มสวย" "ฉันมีพลัง" ฯลฯ
- Visualization มองเห็นภาพที่ต้องการในอนาคต (ทุกอย่างบนโลกนี้ปรากฎ 2 ครั้ง คือ ในความคิดและความจริง)
- To do list เขียนสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ มีวินัยกับตัวเอง เคารพเวลาตัวเองและผู้อื่น
.
และสำคัญมากตากแดดอ่อนๆ เพิ่มภูมิคุ้มกันโควิดด้วยธรรมชาติในช่วงนี้ค่ะ🌈🌿
แชร์วิธีเหล่าไว้ใน Live และ YouTube คลิปล่าสุดนะคะ ❤
.
"3 วิธีมีความสุขขึ้นในช่วงโควิด"
https://youtu.be/7z01UAb2Vdg
ใครสนใจไปกดฟังกันได้ หวังว่าจะได้ประโยชน์นะคะ
ด้วยรัก,
ปุ๋ย
โค้ชสุขภาพและครูพลังงานบำบัดแบบองค์รวม
.
HealthyChill เฮลตี้สายชิล
#Meditate #Miraclemorning
#Exercise #Bstrong
to do list คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳解答
3วิธีทำเป้าหมายให้เกิดขึ้น(ver.หลังปีใหม่)
(และโตก้าวกระโดดอย่างน้อย200%ใน1ปี)
นี่คือสิ่งที่ผมถูกถามบ่อยๆ
ตั้งแต่เริ่มทำงานประจำ
ยันปัจจุบันที่ทำธุรกิจ
รวมถึงหลังๆจะเริ่มมีถามถึงเคล็ดลับว่า
ทำไมพี่น้องในiClass ต่างๆ
โดยเฉพาะในBig Leap
หรือใน 1YearCLUB
ที่หลังๆตลอด2ปีที่ผ่านมา
มีเคสหลายเคสนับรวมๆเป็น100เคสที่หน้าเพจพวกเรา
ที่โตก้าวกระโดดมากกว่า200%ใน1ปี
มีเคล็ดลับอะไร?
---------“อย่าลืมเตรียมกระดาษปากกา
เพื่อจดสูตรนี้ไปใช้นะครับ”
“ผมเคยแชร์เรื่องที่จะเล่าในวันนี้มาแล้ว2ครั้ง
ตั้งแต่ช่วงปีใหม่2021
และปี2020
และมีพี่น้องที่ตั้งใจอ่านและจด
เอาไปปรับใช้กับตัวเค้า
วันนี้รายได้โตเกิน200%แล้ว”
ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
และผมพูดเรื่องนี้อีกครั้งเพราะ....
มันไม่ได้ใช้ได้แค่ช่วงปีใหม่เท่านั้น
มันใช้ได้ทุกช่วงตลอดทั้งปี
“Keyคือคิดได้เมื่อไหร่
รู้เมื่อไหร่ก็ทำเมื่อนั้นเลย”
อย่างช่วงนี้
บางคนกำลังหาลู่ทาง
บางคนทำงานอยู่บ้าน
บางคนมีเวลาให้ตัวเองได้หยุดคิด
และหลายคนอาจจะสามารถใช้จังหวะนี้
ในการเป็นจุดstart จุดแรก
ในการโตก้าวกระโดดในปีนี้
หรือมันกำลังเป็นจุดก้าวกระโดด
ของคุณที่อ่านอยู่บางคนแล้วก็ได้
และเรื่องในวันนี้อาจจะเป็นสปริงบอร์ด
ทวีคูณให้กับคุณเข้าไปอีก
(เดี๋ยวลองอ่านแล้วปรับตามไปเรื่อยๆนะครับ)
—————ในทุกๆปี....
ตลอด10ปีที่ผ่านมา
ผมจะตั้งเป้าหมายปีต่อไป
ล่วงหน้าตั้งแต่ในช่วงก่อนปีใหม่
และผมจะใช้เวลาคิดถึงมันตลอดเวลา
ผมจะให้เวลา
คิดเพลินกับมัน
จนผมชัวส์กับมันว่า....
“มันเป็นเป้าหมายที่ใช่สำหรับผม”
เป้าหมายที่ผมอยากได้จริงๆ(ไม่ใช่ของคนอื่น)
“ที่ผมจะทำให้สำเร็จในปีนี้”
———
ตั้งแต่ช่วงต้นปี
เมื่อผมชัดเจนกับ...
ฝันหรือเป้าหมายของผมแล้ว
ผมจะทำการ....
“เปลี่ยนจากฝัน ให้มันกลายเป็นแผนการ”
นี่จะเป็นช่วงที่ผม
นั่งคิดคำนวณอย่างจริงจัง
“แล้วมันจะกลายเป็นกระดาษ1ใบ”
ที่สรุปแผนการทุกอย่าง
ใช้ลุย10Xไปตลอดทั้งปี”
(รวมถึงปี2021)
ปีที่แล้วแม้สถานการณ์จะไม่ปกติ
เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีใครคาดคิด
แต่ก็เป็นปีที่ธุรกิจผม
โตเป็นกราฟก้าวกระโดดขึ้นแทบจะมากที่สุดในทุกๆปี
และมีการแตกไลน์ในด้านต่างๆ
และรวมถึงเป้าหมายส่วนตัว
————————และเมื่อต้นปี2020
ผมได้แชร์เทคนิคนี้ส่วนนึง
ที่ผมทำไปที่หน้าเพจ
และแชร์อย่างเข้มข้น
ทุกวิธีการให้กับ
พี่น้องในคลาส Big Leap202x -โตปีนี้แบบก้าวกระโดด
และพี่น้องใน1YearCLUB
และปี2020ที่ผ่านมาทั้งปี
ตั้งแต่3-4เดือนแรก
มีพี่น้องเราหลายคน
ทั้งมาบอกส่วนตัวกับผมเอง
และที่ส่งข้อความเข้ามาหากับทีมผมว่า...
ปีนี้เป็นปีที่เปลี่ยนชีวิต
ปีนี้เค้าก้าวกระโดด
ตั้งแต่2-10เท่า
หรือ150-200% ในธุรกิจที่
โตอยู่ตัวอยู่แล้ว
จากการนำสิ่งนี้ไปใช้ตั้งแต่ต้นปี
หลายคนที่สำเร็จ
กลับมาบอกผมว่า
เคยสงสัยมาก
เวลาที่ผมPostว่า1ปี
มันดีพอที่จะก้าวกระโดด
ตอนแรกเค้าก็คิดว่าแค่1ปี
มันจะก้าวกระโดดได้ยังไง?
(เพราะหลายปีที่ผ่านมาทำเต็มที่แล้ว
ก็ขึ้นเป็นขั้นๆ
หรือแทบไม่ขึ้นเลย
นึกถึงการโต1เท่าตัว
หรือ ก้าวกระโดดมากกว่านั้นไม่ออก)
“แต่.....
หลังจากลองทำตาม
ก็ทำได้
และหลังทำได้
วันนี้เค้าเชื่อสุดหัวใจแล้วว่า1ปีมันดีพอ”
“ถ้าเรามีแผนการ”
———แต่ต้องบอกความจริงอย่างนึงว่า....
ก่อนที่ผมจะเป็นคนที่ตั้งเป้าหมาย
แล้วworkทุกปีตลอด10ปีที่ผ่านมา
จริงๆแล้วผมก็เป็นคนที่เคยตั้งแล้ว
ไม่เคยworkเลยมาก่อน555
ผมเลยเข้าใจพี่น้องหลายคน
ที่หน้าเพจ
ที่อยู่ในคลาส
หรือที่เข้ามาปรึกษา
“สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ”
คือ....
“เค้ามีเป้าหมาย”
หรือ....
“สิ่งที่อยากทำเยอะมากใน1ปี”
เช่นปีนี้....
อยากเริ่มทำธุรกิจ
อยากหุ่นดี
อยากขายทางOnlineเป็น
อยากทำเพจ
อยากทำig
อยากอยากฝึกการพูด
อยากฝึกทำคอนเทนต์
อยากฝึกยิงแอด
อยากฝึก....
อยาก......
อยาก...
บางทีจะเป็น10เกือบ20ข้อ
แล้วผลเกิดขึ้นคือ.....
เรา....
พยามจะจัดตารางแบ่งเวลา
ให้ทำได้ทุกอันใน1วัน
เฉลี่ยๆกันไป
งานนี้ทำ7.00-8.00
เป้านี้ต่อ8.00-10.00
พักกินข้าว10.00-10.30
ลุยเป้า...ต่อ10.30-12.00
ผลคือ.....
รู้สึกสนุกช่วงแรกๆ
แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ
เริ่มมีเรื่องอื่นๆเข้ามารบกวนในชีวิตจริง
ก็เริ่มทำไม่ได้ตามแผนตามเวลา
เริ่มFocusไม่ได้
เริ่มไม่ได้ทำเป้าหมายบางอัน
ก็เริ่มเครียด
เริ่มรู้สึกไม่ดี
แล้วก็เริ่มไม่ได้ทำเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แล้วก็เริ่มรู้สึกว่า...
“แทบไม่เห็นพัฒนาการอันไหนเลยสักอั้น”
และพอผ่านไปได้ไม่นาน...
ก็หมดพลัง!
สุดท้ายก็หยุด!
หรือ....
ก็เลื่อนเป้าหมายออกไปก่อน
ออกไปปีหน้า
ออกไปเรื่อยๆ
——ผมเคยแชร์ไปในiClass5
ในคลาสTime Management
เรื่องบริหารเวลา
ตั้งแต่5ปีก่อนว่า....
“ถ้าคุณวางแผนเวลาเป็นล็อคๆอย่างนั้น”
“คุณจะรู้สึกผิดกับตัวเองตลอดเวลา”
“คุณจะโกรธเวลาใครมาซ้อนทับเวลาคุณ”
โกรธคนรอบตัว
ที่มาทำให้คุณไม่ได้ทำอย่างที่วางแผน
โกรธตัวเอง
ที่รักษาเวลาให้ทำไม่ได้
และเมื่อมันเป็นแบบนี้
ไปกับเป้าหมายที่1,2,3,4,5
เริ่มมีฝันแล้วfail มีฝันแล้วFailไปนานๆหลายๆที
คุณก็จะเผลอคิดไปว่าตัวเองไม่มีประสิทธิภาพ
หรือหนักเข้าFailบ่อยๆจากที่เคยมั่นใจ
อยู่ดีๆก็พาล
ไม่เชื่อในศักยภาพตัวเองไปเลย
————แต่
สิ่งที่เป็น Game Changer ในชีวิต
หรือสิ่งที่คุณสามารถพลิกเกมส์ได้
คือ.....
“การบริหารกิจกรรม”
(ซึ่งลึกๆเดี๋ยวผมจะไปบอกขยายใน2กราฟถัดไป)
แต่จำคำนี้
“การบริหารกิจกรรม”<<
—————Keyคือ
คุณต้องแยกออกมาก่อน....
อะไรคือเป้าหมายที่สำคัญ
ที่จะเปลี่ยนชีวิต หรือธุรกิจ
ของคุณจริงๆที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
———
แล้วส่วนใหญ่จะพบว่า
ที่เขียนๆกันมา
มันจะเป็นกิจกรรมที่คิดว่าต้องทำซะส่วนใหญ่
แต่ไม่ใช่เป้าหมายจริงๆ
เช่น
อย่างพี่น้องที่เข้ามาปรึกษา
ที่ค้าขายทำธุรกิจอยู่
(ตอนแรกเค้าทำธุรกิจ
แต่หลักๆขายได้ทางOffline
มีเพจOnlineแต่ไม่ได้effectมาก)
ต้นปีที่แล้วเค้าเขียนเป้าหมาย
แล้วปรากฏว่ามีหลายเป้ามาก
เช่น....
ต้อง....
ยิงแอด
ทำเพจ
ทำคอนเทนต์
โตยูทูป
โตไอจี
ทำคลิป
Live
จัดระบบ
สร้างระบบให้ไม่ต้องทำงานแต่ก็อยู่ได้
เพิ่มสินค้า
เพิ่ม.....
…
….
….
….
…
ผมบอกให้เค้าลองคัดเหลือ3-4อย่าง
ที่สำคัญจริงๆ
แล้วก็อย่าเพิ่งเขียนเป็นงานกิจกรรม
ว่าต้องทำอะไรแบบนั้น
(เพราะบางอันมันอาจจะไม่ต้องทำก็ได้)
“ให้เขียนเป็นเป้าหมายที่อยากได้ก่อน”
——————
ผมเลยให้เค้าดูคลิปวีดีโอ Preview ของคลาสBig Leap
(ที่มันมีอยู่หน้าเพจ)
หรือหลายคนที่
อยู่ในคลาสOnline TakeOverรุ่น2019-2020
ตอนปีนั้นผมยังให้คลาสBig Leapเป็นBonusอยู่
ก็บอกให้เค้า
เข้าไปในคลาสBig Leap
แล้วเค้าก็ไปทำตามบทเรียน
Do The math( คำนวณความเป็นไปได้)
ซึ่งในบทเรียนมันจะมีการคำนวณจากจุดที่เค้าเป็นจริงๆ
ไปสู่เป้าหมายในแบบที่ทำได้จริงๆ(ไม่ใช่มโนตั้งลอยๆ)
เค้าก็ทำแล้วดูพื้นฐานความเป็นจริง
ทุกอย่างตามสูตรที่เค้าคำนวณในนั้น
แล้วเค้าสรุปมาได้เป้าหมายที่สำคัญที่สุด3ข้อว่า
1)ต้องการมีรายได้โตขึ้น3-5เท่า
(จาก2ล้าน ไป 6-10ล้าน)
2)วางระบบให้ทีมRunได้ไม่ต้องเฝ้า
3)และก็น้ำหนักกลับมาอยู่.....(45)กิโล
FATไม่เกิน20%
นี่คือสิ่งที่สำคัญกับเค้าจริงๆ
นี่คือเป้าหมายจริงๆ
————ผมก็บอกเค้าว่า...
ข้อ3 เรื่องหุ่นผมคงไม่ได้ช่วยแนะนำนะ
เพราะว่าหุ่นผมเอง เมื่อก่อนคงแนะนำได้
แต่ตอนนี้ก็คงแนะนำใครไม่ได้555
คุณต้องไปหาคนเก่งๆในเรื่องนั้นช่วยแล้วล่ะ
——————แต่ยกตัวอย่างข้อ1
ต้องการมีรายได้โตขึ้น3-5เท่า
(จาก2ล้าน ไป 6-10ล้าน)
ตอนนั้นเค้าดูคลาสbig leapมาแล้ว
สรุป
ได้ทั้งไอเดียในการหาธุรกิจใหม่
จากสิ่งที่ตัวเองเป็น
และไอเดียต่อยอดธุรกิจเดิม
ซึ่งตอนนั้น
เค้าก็ไม่รู้จะFocusอะไรก่อน
และจากบทเรียนเกือบๆสุดท้าย
ในBig Leap
ที่ชื่อว่า wealth Creation Formula
ซึ่งจะเป็นตัวกรอง
ให้เค้าตัดสินใจเลือกได้ถูกต้อง
(ซึ่งแต่ละคนจะได้คำตอบไม่เหมือนกัน)
“และเค้าก็ใช้กระบวนการนั้นกรอง
และคำนวนแล้วสำหรับตอนนั้นว่า....”
จะเลือกต่อยอดจากธุรกิจเดิมก่อน
“เพราะเค้ามีลูกค้าเก่าที่เคยซื้อ
มีข้อมูลลูกค้าในมือ
มีการซื้อซ้ำบ้าง
แต่ไม่ได้มีrelationshipต่อกันเท่าไหร่”
“เค้าคำนวณแล้วว่า
ถ้าเค้าทำตรงนี้ดี
ดูแลลูกค้าเก่าดี”
“ยอดขายจากลูกค้าเก่า
น่าจะมาอีกหลายล้านได้”
เค้าเลยได้คำตอบว่า
ต้องเพิ่มไลน์สินค้าใหม่เข้ามา
และสร้างRelationshipดูแลลูกค้าเก่า
———และOfflineเดิมของเค้า
ก็ยังไปได้ดี
แต่ถ้านักขายเค้าเก่งขึ้น
ก็น่าจะเพิ่มยอดได้อีก
และเค้านวณว่า
ถ้าทำOnlineได้
ทำเพจได้
เพิ่มscaleขายบนOnlineได้
ยอดน่าจะก้าวกระโดดขึ้นมาเลย
—————เค้าเลยวิเคราะห์ออกมาว่า
นี่คือskillจริงๆที่ต้องทำ...
-ต้องศึกษาเรื่องการทำเพจ
-ทำคอนเทนต์
-ทำคลิป
-ยิงads
-และ skillการPresent
-Pitching สินค้าให้น่าซื้อ
แบบนี้6-10ล้านเป็นไปได้
--------เนื่องจากเค้าลุยในกลุ่มรายปีอยู่แล้ว
เลยมีคลาสอื่นๆที่สามารถดูได้ด้วยในมืออยู่แล้ว
ตอนนั้นผมเลยแนะนำไปเป็นชุดๆๆ
(จนเกือบพัง
เดี๋ยวผมเล่าจุดClimaxใน2พารากราฟถัดไป)
——————ตอนนั้นตอนแรก
ผมเลยแนะนำให้เค้าและทีมงานเค้า
“ดูiClass 20 Top Sale
เรื่องของMindset
Thx Economy การขาย
ทำยังไงให้ขายได้อย่างยั่งยืน”
iClass29
“เคล็ดลับเปิดการขายกับคนแปลกหน้า”
ทั้งOffline และOnline
ให้ทีมเค้าเอาไปใช้สำหรับ
การออกไปเจอเปิดใจลูกค้าใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จัก
และเป็นแนวทางในการเปิดใจลูกค้า
ในการทำContentหน้าเพจ
ให้ดูiClass22
“เคล็ดลับหาความต้องการที่แท้จริงกับลูกค้า”
ให้ทีมของเค้าเจาะค้นหา
ความต้องการของลูกค้า
ได้และเอาสินค้าตอบโจทย์ได้ตรงจุด
(ลูกค้าไม่หนี)
และผมก็ให้ตัวเจ้าของ
เค้าดูคลาสOTO
Online Take Over
ทำเพจแบบที่ทำให้ลูกค้าวิ่งเข้าหา
แล้วก็เรียนรู้เรื่องยิงads
และ iClass31 Speak to sell
การPresentขาย กับคนจำนวนมาก
ให้เค้าเอาไว้เวลาไป pitching offline
และเอาไว้เวลาLive
หรือทำ Contentขายสินค้า
—————และความพังก็บังเกิดขึ้น
คำตอบที่ผมเจอจากเค้า
เมื่อต้นปีที่แล้วคือ...
เค้าจัดเวลาแล้ว...
“แต่เอาจริงๆทำไม่ได้”
เพราะแบ่งเวลาทำแบบ....
งานนี้ทำ7.00-8.00
เป้านี้ต่อ8.00-10.00
พักกินข้าว10.00-10.30
ลุยเป้า...ต่อ10.30-12.00
แล้วสุดก็มีเรื่องอื่นมารบกวน
แล้วก็ค่อยๆพังทีละเป้าทีละเป้า
จน
ไม่ได้คืบหน้าไปไหน
————ผมเลยบอกว่า
(นี่แหละประเด็นที่ผมทิ้งไว้ด้านบนแต่แรก)
1)ในiClass5
ผมบอกว่าเราแบ่งเวลาแบบนั้นไม่ได้
มันจะมีโอกาสหลุดสูงมาก
สิ่งที่ต้องทำคือ
“เราต้องบริหารกิจกรรมแทน”
อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
และเราต้องทำความเข้าใจว่า
เราไม่สามารถFocusทุกอย่างได้
———และ.....
2)เข้าใจว่า.....
“บางอย่างเราต้องใช้ความเข้มข้นกับมัน”
“เราถึงจะเป็นมันได้”
เช่น.....
“คุณอยากฝึกทำกับข้าว”
”คุณอยากฝึกขับรถ”
”คุณอยากฝึกเล่นเทนนิส”
”คุณอยากเรียนร้องเพลง”
”คุณอยากเรียนเปียโน”
”คุณอยากเรียนว่ายน้ำ”
เช่นสมมุติคุณอยากจะเรียนเรื่องเหล่านี้
เพราะจะได้ไปเอาใจแขกคุณ
หรือคนที่คุณรักได้
แน่นอน
คุณอยาากจะเก่งทุกอย่างพร้อมกันหมด
”แต่ความจริงคือบางอย่างมันเร่งไม่ได้”
ลองคิดสิว่าถ้าคุณเอาทุกอย่างที่...
สมมุติว่าคุณไม่เป็นมันเลยมาก่อน.....
ไม่เป็นทำกับข้าว
ไม่เป็นขับรถ
ไม่เป็นจับไม้เทนนิส ไม่เป็นทุกอย่าง
ใส่เข้าไปในวันเดียว
มันจะเกิดอะไรขึ้น?
คุณจะเครียดไหม?
คุณจะเก่งไวไหม?
แล้วคุณต้องใช้เวลากี่เดือนกี่ปี?
หรือ....
คุณมีโอกาสเลิกไหม?
นั่นแหละคำตอบ
แต่ถ้ากลับกัน
คุณฝึกทีละอย่าง
เดือนละ1อันอย่างเข้มข้น
จุ่มตัวอยู่กับมัน
อัดกับมัน
จนทำได้
จนเรื่องนั้นไม่ต้องใช้สมาธิกับมันมากแล้ว
เราก็ทำมันได้
เช่น
ขับรถจนชินแล้ว(ฟังเพลงได้ คุยโทรศัพท์ไปด้วยยังได้)
ทำอาหารจนชินแล้ว(ไม่ต้องใช้สมาธิจดจ่อมากมาย)
มันทำได้แบบautoแล้วก็
เก่งอันนึงแล้วไปทำอีกอย่างนึงต่อ
ไปเรื่อยๆ เดือนละอัน 2เดือนอัน
ใน6เดือน1ปี
เป็นได้สูงไหมที่คุณจะทำเป็นทั้ง6อย่าง?
(เห็นภาพไหม?)
—————และ…
3)เอาทุกอย่างที่ต้องทำมาเขียนเรียงไว้
แล้วเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
อย่างพี่น้อง1yearอีกหลายคน
เช่นหมอปอ น้ำสักคิ้ว หมอหนึ่ง
และอีกหลายๆคนอีกหลายธุรกิจ
ที่ผมแชร์ความสำเร็จหน้าเพจ
จริงๆแล้วเค้าเหล่านี้
มีหลายที่ต้องทำเหมือนกัน
เริ่มจากจุดเริ่มต้นเหมือนคนอื่นๆ
แต่Keyคือเค้า
ก็ค่อยๆFocus ทีละเรื่อง
เช่น เคสนี้....
เป้าหมายคือ....
ที่เล่าไปข้างบน
ต้องการมีรายได้โตขึ้น3-5เท่า
(จาก2ล้าน ไป 6-10ล้าน)
ผมบอกเค้าว่า....
ในเมื่อOfflineมันขายได้อยู่
และมีข้อมูลลูกค้าในมือแล้ว
ก็เริ่มFocusจากการขายก่อนเลย
เพราะมันทำรายได้ๆเร็วที่สุด
——
เนื่องจากเค้าดูคลาสBig leapมาแล้ว
รู้ว่าจะทำอะไรเพิ่ม?
จะเพิ่มสินค้าอะไร?
และมีกลยุทธ์อะไร?
พร้อมลุยแล้ว
แต่ติดเรื่องขาย สื่อสาร
ผมเลยแนะนำให้เค้าและทีมงาน
ดูiClass 20 Top Sale
iClass29
“เคล็ดลับเปิดการขายกับคนแปลกหน้า”
ให้ดูiClass22
“เคล็ดลับหาความต้องการที่แท้จริงกับลูกค้า”
“การตอบinbox”
เดือนแรกFocusแค่นี้ก่อน
(ซึ่งพอเค้าเรียนแล้วทำ
เค้าก็ได้รายได้เลย
จากการfollowลูกค้าเก่าที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย
และส่วนนึงการFollowก็ได้ไอเดีย
ความต้องการของลูกค้า
เพื่อเอามาพัฒนาทำProductต่อด้วย)
—————เดือนที่2
คุณก็Focus
เรื่องProductที่คุณจะทำเพิ่ม
ว่าสรุปแล้วควรเพิ่มหรือไม่
เพื่อserveลูกค้า
หลังจากได้ข้อมูลมา
แล้วเดือนนี้ก็ศึกษา
iClass31 Speak to sell
การPresentยังไงให้โดน
(ซึ่งเค้าก็ได้คำตอบว่า
มันมีอันอื่นที่ลูกค้าเดิมขาดอยู่
เอาไปใช้คู่กับตัวเดิมได้
เค้าก็follow up นำเสนอกับลูกค้าเก่า
“ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก”
และทีมเค้าก็ขายดีขึ้นทันที
เมื่อศึกษาเรื่องPitching
เวลาออกไปพรีเซนต์
หรือโทรไป)
(ช่วงตอนนี้เค้ายังไม่ได้ทำเพจ
ยิงแอด
หรือทำอะไร
ที่จากเดิมคิดว่าต้องทำอีกหลายอย่างเลย
แต่รายได้
ก็มาร่วมเท่าตัวจากเดิมแล้ว)
และเมื่อมันนิ่งแล้ว
ทีมงานก็เก่งขึ้นแล้วก็...
————เดือนที่3
เค้าก็Focus Online
เค้าดูคลาสOTO
Online Take Over
ทำOnline
ทำเพจแบบที่ทำให้ลูกค้าวิ่งเข้าหา
(ช่วงนี้เค้าก็FocusการทำContent
เต็มที่
ทำบทความ
ทำคลิปอย่างเข้มข้น
ตอนนี้เค้าก็ไม่กังวล
เพราะเดือนที่1และ2
ที่เค้าสร้างไว้
มันทำรายได้ๆอยู่แล้ว
————เดือนที่4,5
เค้าก็เรียนรู้เรื่องยิงads
อย่างเข้มข้น
(และตอนนี้มันเริ่มผสมผสานละ
หลายเดือนที่ทำมา
-Followลูกค้าเก่าดี
-ทีมขายOffline หาลูกค้า เปิดใจลูกค้าใหม่เก่ง
-Adminเก่ง มีRelationshipกับลูกค้า
-มีสินค้าใหม่/เดิม serve ลูกค้าเก่า
-ลูกค้าเก่าHappy บอกต่อ
-ได้ลูกค้าใหม่จากOnline)
โตขึ้นทุกๆstep
เดือนที่6,7,8,9,10
ก็มอนิเตอร์อีกที
ว่าต้องทำอะไรเพิ่มหรือปรับ
ให้ได้เป้าหมาย
นี่เป็น1ในเคสที่ถึงเป้าหมาย
ได้ตั้งแต่ไม่ถึงกำหนด
และอีกหลายเคสที่ผมแชร์หน้าเพจ
เมื่อปีก่อน
ก็สำเร็จไวกว่ากำหนด
“เพราะใช้แผนนี้”
———นี่คือเคล็ดลับที่ผมใช้
และแชร์กับพี่ๆน้อง
เวลาจะลุยเป้าหมายแบบ10X
--------1)เวลามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว
---1.1)อย่าแบ่งเวลาเป็นล็อคๆ
เพราะมีโอกาสถูกรบกวนสูง
แล้วจะทำให้เราเลิกทำ
---1.2 อย่าเพิ่งแยกเป็นงานออกมา
เพราะบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องทำ
ให้เอาเป้าหมายหลักก่อน
แล้วค่อยมาทำการบ้าน
ดูว่ามันต้องทำอะไร
---1.3 จดออกมาว่าอะไรที่เราต้องเรียนรู้เพิ่ม
ปีนี้เราต้องศึกษาความรู้เพิ่มเรื่องอะไร
————2)เข้าใจว่า.....
บางอย่าง(เกือบทุกอย่าง)
มันต้องใช้ความเข้มข้นสูง
Focusกับมัน
คุณถึงจะเป็นมันในเวลารวดเร็ว
--------3)เอาทุกอย่างที่ต้องทำมาเรียง
---3.1แล้วเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
ถ้าต้องเรียน
ก็เรียนรู้ในสิ่งที่สำคัญก่อน
ถ้าเป็นธุรกิจ(ก็คือที่มันสร้างรายให้กับธุรกิจคุณ)
(หรือถ้าคุณไม่ให้ความสำคัญมัน
จะส่งผลต่อธุรกิจคุณได้)
อันนี้ก็ต้องFocusก่อน
---3.2แล้วพอFocusจนเราชำนาญ
ก็ไปเรียนรู้/หรือทำ
อันอื่นๆในListต่อ
ข้อดีของมันคือ
คุณเก่งขึ้นระหว่างทาง
คุณจะได้แต่ละทักษะๆ
และหลายทีๆที่ธุรกิจคุณ
จะมีรายได้เพิ่มหลังจาก
ที่คุณทำทักษะนึงได้
—————และนี่คือเคล็ดลับที่ผมใช้
ที่ผมแชร์ไปกับพี่ๆน้อง หลายคน
รวมถึงใน1yearCLUB
เพราะฉะนั้นในทุกๆปี
ช่วง1-15ม.ค
หลังจากที่ผมได้เป้าหมาย
“ที่ผมจะทำให้สำเร็จในปีนี้แล้ว”
“ผมจะเปลี่ยนจากฝัน ให้มันกลายเป็นแผนการ”
โดยใช้3 ข้อที่ผมบอกกับทุกคนในวันนี้
แล้วความมหัศจรรย์คือ....
มีหลายปีเลย
ที่มันทำได้ก่อนกำหนด
บางเป้าทำได้ตั้งแต่3-4เดือนแรก
เวลามีคนถามว่าเคล็ดลับคืออะไร?
ผมก็บอกว่า .....
หลังตั้งเป้าหมาย Do the mathแล้ว
ว่าเป้าหมายคืออะไร
“ผมก็จะทำ3ข้อนี้อย่างเข้มข้น”
———————
ลองดูครับทุกคน
ปีนี้ผมก็ทำไปแล้ว
ตั้งแต่ช่วงปีใหม่2021
พี่น้องหลายคนก็ทำแล้ว
และมีหลายคน
โต200%แล้วในช่วง4เดือนที่ผ่านมาถึงวันนี้
จากที่ตอนแรกเค้าก็ไม่เชื่อตัวเอง
————และผมว่าช่วง....
ที่เราต้องหยุดกันยาวๆ
เพราะต้องอยู่บ้าน
เพราะเทศกาล
หรือ...
หรือเพราะความจำเป็นในช่วงต่างๆ
นี่เป็นโอกาสดีอีกครั้งนึง
ที่เราจะใช้มัน
เป็นจุดStart
หรือจุดเริ่มต้นในการก้าวกระโดดของเรา
ในปี2021
“ก็ลองดูครับ”
“มันอาจจะจะเปลี่ยนชีวิตคุณในปี2021
หรืออาจจะ4เดือนข้างหน้าก็ได้
“ลองเอาไปใช้กันครับ”
ลุย10X 2021
A10(เอเท็น)
———
และช่วงนี้
ใครที่ตั้งใจแล้วว่าจะลุยจริง
หรือตั้งใจแล้วว่าจะเป็นที่ลุย10x
เพื่อเป้าหมาย
“เพื่อเป็นปีที่ก้าวกระโดด”
“ผมและทีม iClass
ทำPromotion
พร้อมทุกสถานการณ์
Promotion ช่วงสงกรานต์แบบ New Normal
ทุกคลาสลด35% ไว้supportทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
-iCLASS BIG LEAP
(เพื่อให้คุณไปวางแผน โต10Xปีนี้แบบก้าวกระโดด)
-iClass setการขาย
iCLASS20,21,22,29,30
(เพื่อให้คุณและทีมงานนำไปใช้โตยอดขาย)
-iCLASS การ Pitching Present สินค้า
iCLASS 31
(เพื่อยกระดับการนำเสนอProductของคุณ
ให้ยิ่งน่าซื้อน่าสนใจกับคนจำนวนมาก)
-iCLASS การทำ Online
“OTO” Online Take Over
(ทำOnline ทำเพจยังให้ลูกค้าอยากเดินเข้าหา
และเวลาจะซื้อเค้านึกถึงเราเป็นคนแรก)
หรือ iCLASS Classic Collection
iCLASS5 - การบริหารเวลา
iCLASS6- ความมั่นใจ
iCLASS10-การตั้งเป้าหมาย
รายละเอียดแต่ละคลาส
http://mastermindthailand.com/
หรือทักสมัครที่ Line: @iClass
เลือกคลาสที่ต้องการ
เลือกคลาสที่อยากเรียนรู้
ในPromotion
พร้อมทุกสถานการณ์
ช่วงสงกรานต์แบบ New Normal
ลุยครับ
A10(เอเท็น)
iClassUniversity
OnlineTakeOver
1YearCLUB
to do list คือ 在 วิธีจัดการ ความวุ่นวายให้ได้ผล | การใช้ To-do list ให้มีประสิทธิภาพ 的推薦與評價

อาหารสมองกับ The BookTeller รวบรวมสาระ ความรู้ดีๆ การพัฒนาตนเอง จากบทความดีๆ และหนังสือน่าอ่าน มาสรุป มาเล่าให้กันฟังครับ ในแต่ละวันเรามีสิ่งที่ต้องทำมากมาย ... ... <看更多>
to do list คือ 在 สร้าง To-Do List ให้มีประสิทธิภาพ ทำงานที่บ้าน ... 的推薦與評價
นี่คือเหตุผลในเชิงจิตวิทยา ที่ทำให้เราแนะนำว่าคุณควรพยายามเปิด To-Do List ของตัวเองขึ้นมาดูเป็นอย่างแรกของวัน . ใน ... ... <看更多>
to do list คือ 在 รวมวิธีทำ To-do list ให้ได้งาน! l Future Trends - YouTube 的推薦與評價
ทำ To - do list เหมือนไม่ได้ทำ งานยังกองจม move on งานเป็นวงกลมไม่ไปไหน . มีการศึกษาหนึ่งบอกว่า 41% ของงานที่อยู่ใน to - do list ไม่ได้ทำ และ 50% ... ... <看更多>