關於 abc news au ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

*** เหตุน้ำมันดิบไหลลงทะเลครั้งเลวร้ายที่สุด ***

ในช่วงสงครามอ่าว ปี 1991 เมื่อชาติพันธมิตรที่นำโดยอเมริกา เข้าโจมตีกองทัพอิรักในวันที่ 17 มกราคมเพื่อปลดปล่อยคูเวต ซัดดัม ฮุสเซน นายกรัฐมนตรีของอิรัก ณ ขณะนั้น ได้ใช้เล่ห์กลต่างๆ เพื่อต่อสู้กับศัตรูจำนวนมาก ...หนึ่งในกลวิธีของเขาก็คือ การปล่อยน้ำมันดิบลงทะเล

หลังถูกบุกโจมตีไปได้ราวหนึ่งสัปดาห์ กองทัพอิรักทิ้งน้ำมันลงอ่าวเปอร์เซียเพื่อหวังให้ชาติพันธมิตรยกพลขึ้นบกไม่ได้ หรืออย่างน้อยก็ชะลอให้ฝ่ายตรงข้ามเสียทรัพยากร ซึ่งนักวิชาการยังวิเคราะห์อีกด้วยว่า ซัดดัมต้องการทำลายแหล่งน้ำจืดในประเทศใกล้เคียงอย่างซาอุดิอาระเบีย

เมื่อสหประชาชาติออกมาประนามการกระทำครั้งนี้ อิรักได้ปฏิเสธการกระทำ กล่าวว่าพวกตนมิได้จงใจปล่อยให้เกิดการรั่วไหล แต่เป็นเพราะถูกพวกอเมริกาโจมตีทางอากาศไปโดนเรือบรรทุกน้ำมันต่างหาก

อย่างไรก็ตาม ทางทัพพันธมิตรมั่นใจว่า การปล่อยน้ำมันครั้งนี้มาจากแท่นขุดคูเวตซึ่งอยู่ในการควบคุมของอิรัก และน้ำมันที่ออกมา น่าจะมีจำนวนมากถึง 70,000 - 80,000 ตันต่อวันในหนึ่งสัปดาห์ แม้เวลาต่อมา อเมริกาจะเข้าไปยับยั้งปฏิบัติการได้ แต่ก็ต้องพบว่า ยังมีแหล่งอื่นๆ ที่อิรักใช้ปล่อยน้ำมันอยู่อีก

สงครามอ่าวจบลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ แต่ความเสียหายจากการปล่อยน้ำมันกว่า 4,000,000 - 11,000,000 ยูเอสบาร์เรลยังคงอยู่ น้ำมันไหลไปไกลสุดถึง 160 กิโลเมตร บางจุดน้ำมันเกาะตัวหนาถึง 13 เซนติเมตร และซ้ำร้ายไปกว่านั้น ก่อนซัดดัมจะถอยทัพกลับอิรัก เขาตัดสินใจสั่งเผาบ่อน้ำมันคูเวตราว 700 บ่อ หมายให้คูเวตย่อยยับ เกิดเป็นวิกฤตทางสิ่งแวดล้อมทั้งทางบก ทางน้ำ รวมถึงทางอากาศ

เหตุครั้งนี้ถือเป็นวิกฤตน้ำมันไหลลงทะเลครั้งเลวร้ายที่สุดในโลก ระบบนิเวศในอ่าวเปอร์เซียเสียหายอย่างมากยาวมาจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาในปี 2018 พบว่า แม้น้ำมันจะสิ้นสารพิษไปแล้ว แต่มันก็ยังทำให้พืชน้ำไม่ได้รับแสงและอากาศเพียงพอ ทั้งยังทำให้นกหลายสายพันธุ์ต้องตายเนื่องจากน้ำมันติดขน ส่วนบ่อน้ำมันคูเวตที่ลุกไหม้ต่อเนื่องไปเกือบปี ก็สร้างมลภาวะทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างใหญ่หลวง และยังทำให้น้ำมันรั่วไหลลงน้ำเพิ่มอีกด้วย

...ผลกระทบหนึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากทหารฝั่งพันธมิตรในสงครามครั้งนี้จำนวนราว 250,000 - 697,000 คน เจ็บป่วยเรื้อรัง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ฯลฯ จึงเรียกอาการเหล่านี้ว่าเป็น “โรคสงครามอ่าว” (Gulf War Syndrome) นั่นเอง…

::: อ้างอิง :::

- content (ดอต) time (ดอต) com/time/specials/packages/article/0,28804,1986457_1986501_1986442,00.html
- bechtel (ดอต) com/projects/kuwait-reconstruction/
- abc (ดอต) net (ดอต) au/news/2010-05-03/timeline-20-years-of-major-oil-spills/419898
- geology (ดอต) com/articles/largest-oil-spills-map/

*** นิวซีแลนด์ยอมรับอดีตสมาชิก ISIS กลับบ้าน ***

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นิวซีแลนด์ประกาศว่า จะยอมรับหญิงสาวสัญชาตินิวซีแลนด์ - ออสเตรเลียที่ไปเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและลูกของเธอ 2 คน กลับประเทศ หลังเธอโดนเพิกถอนสัญชาติออสเตรเลียเมื่อปีที่แล้ว

หญิงคนดังกล่าวได้รับการเปิดเผยชื่อว่า สุฮายรา อเดน อายุ 26 ปี เป็นคนเชื้อชาติโซมาเลีย เกิดที่นิวซีแลนด์ ก่อนย้ายตามครอบครัวไปออสเตรเลียตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ทำให้เธอถือทั้งสัญชาตินิวซีแลนด์และออสเตรเลีย อเดนเดินทางไปร่วมกับพวกไอซิสซีเรียในปี 2014 และแต่งงานกับนักรบอิสลามสองคน เป็นชาวสวีเดนทั้งคู่ มีบุตรทั้งหมด 3 คน (เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน)

เวลาต่อมา สถานการณ์สู้รบในซีเรียรุนแรงขึ้น จนกระทั่งปี 2017 ไอซิสรบแพ้ สมาชิกแตกพ่ายกระจัดกระจาย บ้างหนีไปประเทศรอบๆ อเดนและลูกเคยอาศัยอยู่ค่ายลี้ภัย ก่อนพยายามหนีจากซีเรียเข้าตุรกีเมื่อต้นปีแต่ก็ถูกจับได้ เมื่อแรกตุรกีให้สถานะเธอเป็นผู้ก่อการร้าย แค่ภายหลังลดโทษแล้วขอให้ประเทศแม่รับครอบครัวดังกล่าวกลับไป

ออสเตรเลียเพิกถอนสัญชาติอเดนไปตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะมองว่าเป็นศัตรูของชาติ ทำให้ภาระตกอยู่กับนิวซีแลนด์ ซึ่งนายกจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ประนามออสเตรเลีย และคิดว่าออสเตรเลียควรรับไปดูแลมากกว่า เนื่องจากอเดนใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียตั้งแต่เด็กแล้ว อย่างไรก็ตามในที่สุด นายกอาร์เดิร์นก็ตัดสินใจรับอเดนกลับนิวซีแลนด์

“มันไม่ใช่หน้าที่ของตุรกี ออสเตรเลียก็ปฏิเสธครอบครัวนี้ มันเลยเป็นหน้าที่เรา” อาร์เดิร์นกล่าว และย้ำกับสื่อว่า เธอทบทวนการตัดสินใจอย่างดี และเห็นชีวิตของชาวนิวซีแลนด์เป็นสำคัญ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐจะทำทุกทางให้พวกเขาจะปลอดภัย (จากกลุ่มก่อการร้าย)

ปัญหาประชาชนจากประเทศที่เจริญแล้วไปเข้าสวามิภักดิ์กลุ่มผู้ก่อการร้ายไม่ใช่เรื่องใหม่ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วนับหมื่นครั้ง มีเคสทั้งจากอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ มีผู้วิเคราะห์สาเหตุไว้หลายอย่าง คนเหล่านั้นอาจเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามที่โดนกดขี่ หรือคนศาสนาอื่นๆ ที่เบื่อหน่ายสังคม หรืออาจแค่อยากผจญภัยและลุกขึ้นสู้เพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญ

ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ปัจจุบันคนที่เคยเข้ากับไอซิสล้วนต้องเผชิญความทุกข์ยากอยู่มุมใดมุมหนึ่งบนโลก หากไม่อยู่อย่างอดอยากในค่ายลี้ภัย ก็ถูกขังคุก และร้ายที่สุดคือกลายเป็นคนไร้รัฐ หมดสิทธิขั้นพื้นฐานไป

::: อ้างอิง :::

- abc (ดอต) net (ดอต) au/news/2021-02-16/jacinda-ardern-australia-stripping-dual-national-turkey-terror/13159300
- nzherald (ดอต) co (ดอต) nz/nz/isis-terrorist-bride-returns-to-nz-suhayra-aden-will-be-closely-monitored-counter-terrorism-expert-says/
- aljazeera (ดอต) com/news/2021/7/26/new-zealand-to-accept-woman-linked-to-islamic-state
- independent (ดอต) co (ดอต) uk/news/world/australasia/new-zealand-isis-return-australia-b1890574

*** ประชาโสมแดงร่ำไห้! ท่านผู้นำผอมซูบ ***

ในช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ภาพ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือที่ปรากฏในข่าวโทรทัศน์นั้นมีลักษณะผ่ายผอมลงผิดหูผิดตา ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสุขภาพของเขา ด้านประชาชนเกาหลีเหนือรู้สึกสะเทือนใจต่อภาพดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง

ข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพที่ทรุดโทรมของเขามีมาไม่ขาดตั้งแต่เขาครองอำนาจในปี 2011 คือไม่นานหลังดำรงตำแหน่ง น้ำหนักของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่กังวลว่าจะเจ็บป่วยเพราะอ้วนเกินไป

ปัจจุบันคิมจองอึนมีอายุ 37 ปี เป็นที่รู้กันว่าเขาสูบบุหรี่จัดและดื่มหนัก ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่าเขาอาจป่วยเป็นโรคเบาหวานและเก๊าต์ และความอ้วนก็จะทำให้โรคต่างๆ แย่ลงอีก แต่สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือไม่เคยพูดถึงสุขภาพของคิมจองอึน จึงทำให้ข้อมูลนี้ไม่มีการยืนยัน

ในปี 2021 นี้ คิมจองอึนพลาดงานฉลองชาตกาล คิมอิลซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ในเดือน เม.ย. ซึ่งถือเป็นงานสำคัญที่เขาไม่ควรพลาดมาแล้ว ทำให้เชื่อว่าเขาน่าจะเจ็บป่วย

และหลังจากไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะมาประมาณ 1 เดือน ในเดือน มิ.ย. ก็มีการเผยแพร่ภาพข่าวคิมจองอึนเข้าร่วมการประชุมพรรคและชมคอนเสิร์ตพบว่าผ่ายผอมลงมาก

มีการประมาณว่าน้ำหนักของเขาอาจลดลงถึง 10-20 กิโลกรัม (คือลดลงเหลือ 120-130 กิโล จากเดิมเชื่อว่าหนักราว 140 กิโล) สื่อของรัฐยังเผยแพร่บทสัมภาษณ์ประชาชนที่ระบุว่า ทุกคนร้องไห้เมื่อได้เห็นสภาพซูบผอมของท่านผู้นำ

มีผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือระบุว่า สื่อของเกาหลีเหนือไม่น่าเผยแพร่ภาพลักษณ์ในด้านลบของคิมจองอึน ดังนั้นการแพร่บทสัมภาษณ์เรื่องการผอม อาจเป็นการบ่งบอกว่าคิมจองอึนตั้งใจแก้ปัญหาให้ประเทศ จนเหนื่อยล้า น้ำหนักลด

ทั้งนี้มีหลักฐานว่าเกาหลีเหนือกำลังประสบปัญหาหนักจริงๆ คือเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ มีภาพคิมจองอึนต่อว่าข้าราชการระดับสูงอย่างรุนแรงในเรื่องมาตรการรับมือโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้เกาหลีเหนืออ้างมาตลอดว่าไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ

นอกจากนั้นการนำเข้าอาหารจากจีนยังลดฮวบถึง 90% ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาโดยไม่ทราบเหตุผล ด้านองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติประเมินว่าเกาหลีเหนือน่าจะเหลือเสบียงอาหารพอเลี้ยงคนในประเทศอีกเพียง 2 เดือนเท่านั้น

การที่คิมจองอึนอ้วนเกินไป แล้วกลับซูบผอมลงนั้นไม่แน่ชัดว่าเป็นผลดีหรือผลเสียต่อสุขภาพของเขาในระยะยาว แต่จากการที่สื่อเกาหลีเหนือพยายามสร้างให้น้องสาวของเขาหรือ คิมโยจอง มีภาพลักษณ์เป็นผู้นำแข็งแกร่งในช่วงหลัง ทำให้เชื่อว่าอาจจะมีการวางตัวคิมโยจองเป็นทายาททางการเมือง กรณีที่คิมจองอึนขาดความสามารถในการปกครองเพราะปัญหาสุขภาพ

::: อ้างอิง :::

bbc ดอต com/news/world-asia-57634593
edition ดอต cnn ดอต com/2021/06/28/asia/kim-jong-un-weight-interview-intl-hnk/index.html
abc ดอต net ดอต au/news/2021-06-28/kim-jong-un-weight-loss-north-korea/100250814
reuters ดอต com/world/asia-pacific/north-koreans-worry-over-emaciated-kim-jong-un-state-media-says-2021-06-27/
apnews ดอต com/article/north-korea-coronavirus-pandemic-health-637c7d5ac552cf16786480fa538d8377