แอนดรูว์ คาร์เนกี เจ้าของธุรกิจเหล็ก ผู้เคยรวยสุด ในสหรัฐอเมริกา /โดย ลงทุนแมน
ทุกวันนี้ “เหล็ก” ถือเป็นส่วนสำคัญ สำหรับสิ่งก่อสร้างแทบทุกชนิด
รู้หรือไม่ว่า การใช้เหล็กเป็นโครงสร้างในทุกวันนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากชายที่มีชื่อว่า “แอนดรูว์ คาร์เนกี”
ในยุคนั้น เขาเป็นเจ้าของธุรกิจเหล็กและได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา
แล้วเรื่องราวของบุรุษเหล็กคนนี้ เป็นอย่างไร ?
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
แอนดรูว์ คาร์เนกี เกิดที่เมืองดันเฟิร์มลิน ประเทศสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ในปี 1835
ในวัยเด็กเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เนื่องจากครอบครัวของเขานั้นมีฐานะยากจน
ครอบครัวของเขาก็ได้อพยพไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาร์เนกีต้องออกไปช่วยทำงานหาเงินตั้งแต่ยังเด็ก
เริ่มต้นจากการเป็นเด็กส่งเอกสารในบริษัทโทรเลขแห่งหนึ่งในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้รับค่าจ้าง 2.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์
โดยตลอดการทำงานเขาได้ทำตามคำแนะนำของลุงของเขา คือ
- การทำงานด้วยความตั้งใจ
- จดจำสถานที่ทางธุรกิจและบุคคลสำคัญ ในเมืองพิตต์สเบิร์ก ให้ได้ทั้งหมด
ด้วยวิธีนี้ทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งและเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับได้รู้จักคนมากมาย
จนกระทั่งวันหนึ่ง ความสามารถของเขา ก็ไปเตะตาของ ทอมัส สกอตต์ ผู้กุมบังเหียน The Pennsylvania Railroad บริษัทรถรางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ที่ได้ชวนคาร์เนกี ให้มาทำงานร่วมกัน
ซึ่งนี่ถือเป็นช่วงที่เขาได้สะสมประสบการณ์ล้ำค่า
โดยสิ่งที่ได้จากการทำงานร่วมกับ ทอมัส สกอตต์ มี 2 อย่างคือ
1. หน้าที่การงานที่เติบโต
ด้วยอุตสาหกรรมรถไฟที่กำลังโตและความสามารถในการทำงานของเขา
ทำให้ แอนดรูว์ คาร์เนกี ในวัย 24 ปี ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ควบคุมรถไฟในทิศตะวันตก
ซึ่งก็ถือเป็นอาชีพที่มั่นคงในยุคนั้น
หากปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว เขาได้รับเงินสูงถึง 43,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 1,400,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว
2. รู้จักการสะสมความมั่งคั่ง
แอนดรูว์ คาร์เนกี ได้รู้จักคำว่า การลงทุน โดยหุ้นตัวแรกที่เขาซื้อคือหุ้น Adams Express
ซึ่งซื้อตามคำแนะนำของ ทอมัส สกอตต์ นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจเรื่องการลงทุน
ด้วยหน้าที่การงานที่ก้าวหน้าควบคู่ไปกับการลงทุน ทำให้ความมั่งคั่งของ แอนดรูว์ คาร์เนกี ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
แล้ว แอนดรูว์ คาร์เนกี เริ่มธุรกิจของตัวเองตั้งแต่เมื่อไร ?
ในช่วงปี 1860 ถึง 1865 ซึ่งเป็นช่วงสงครามกลางเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา
ทำให้มีความต้องการเหล็กเพื่อใช้ในการสร้างอุปกรณ์ และอาคารต่าง ๆ
เมื่อ แอนดรูว์ คาร์เนกี เห็นโอกาสตรงจุดนี้ ทำให้เขาตัดสินใจก่อตั้งโรงผลิตเหล็กขึ้นมา จนในปี 1865 ได้กลายมาเป็น “The Keystone Bridge Company” ซึ่งเป็นบริษัทที่รับสร้างสะพาน รางรถไฟ และโครงสร้างเหล็กสำหรับอาคาร
และภายหลังจากสงครามยุติลง เขาได้ออกจากบริษัท The Pennsylvania Railroad เพื่อมาโฟกัสกับธุรกิจเหล็กอย่างเต็มที่
ด้วยความสัมพันธ์ของเขากับ ทอมัส สกอตต์ ก็ได้ทำให้บริษัท The Keystone Bridge ของเขาได้รับการจ้างงานจากบริษัท The Pennsylvania Railroad อยู่เป็นประจำ
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้งของแอนดรูว์ คาร์เนกี เกิดขึ้นเมื่อปี 1867
เมื่อบริษัท Keystone Bridge ของแอนดรูว์ คาร์เนกี ได้รับมอบหมายงานจากบริษัท The Pennsylvania Railroad ให้สร้างสะพานเดินรถไฟเชื่อมระหว่างฝั่งตะวันตกกับตะวันออก
ซึ่งต้องข้ามแม่น้ำมิสซิสซิปปี ที่มีระยะทางในการข้ามคือ 1 ไมล์ หรือประมาณ 1.6 กิโลเมตร
ที่บอกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญก็เพราะว่าที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน..
โดยวัสดุที่เขาเลือกใช้ก็คือ “เหล็กกล้า” ซึ่งถือเป็นวัสดุที่แข็งแรงที่สุดในยุคนั้น
แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่ยากจึงทำให้มีราคาที่แพงและการใช้งานก็ยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายสำหรับการใช้โครงสร้างขนาดใหญ่ ส่วนมากจะเป็นเพียงใช้ในการสร้างสิ่งของชิ้นเล็ก
แต่ด้วยคุณสมบัติความแข็งแรงของเหล็กกล้า แอนดรูว์ คาร์เนกี ก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้วัสดุดังกล่าวสร้างสะพานขึ้นมา
ในช่วงเริ่มต้น การก่อสร้างเต็มไปด้วยความทุลักทุเล ทั้งเรื่องความยากในการสร้างและต้นทุนที่บานปลาย
แม้จะใช้เวลาในการสร้างนานถึง 4 ปี
แต่ในที่สุดเขาก็สามารถสร้างสะพานสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันก็คือสะพาน “Eads Bridge”
และด้วยความสำเร็จนี้เอง ทำให้ธุรกิจเหล็กของ แอนดรูว์ คาร์เนกี เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ทำให้บริษัทเดินรถไฟต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เหล็กในการทำรางมากขึ้น
อีกเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้อาณาจักรเหล็กของเขาเติบโต คือ
ในช่วงปี 1870 เป็นช่วงฟื้นตัวหลังจากสงครามกลางเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา
ผู้คนมากมายต่างเข้าไปหางานในเมืองใหญ่ เช่น ชิคาโกและนิวยอร์ก ทำให้เกิดการสร้างตึกระฟ้า และ อาคารต่าง ๆ มากมาย เป็นผลดีกับธุรกิจเหล็กของเขา เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นยุคที่รุ่งเรืองช่วงหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ จนในปี 1892 เขาจึงได้มาก่อตั้ง “Carnegie Steel Company”
จนในปี 1901 เหตุการณ์ที่ทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมากที่สุดได้เกิดขึ้น
เมื่อนายธนาคาร John Pierpont Morgan หรือผู้ก่อตั้งธนาคาร J.P. Morgan ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ต้องการที่จะครองตลาดเหล็กในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการซื้อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเหล็กให้ได้มากที่สุด
บริษัท Carnegie Steel ได้รับข้อเสนอสูงถึง 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดีลการซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุคนั้น
หลังจากที่ John Pierpont Morgan สามารถซื้อบริษัท Carnegie Steel และรวบรวมบริษัทเหล็กอื่น ๆ ได้ตามที่ต้องการแล้ว
เขาก็ได้นำบริษัทที่รวบรวมได้ในครั้งนี้มาก่อตั้งเป็นบริษัท United States Steel Corporation หรือที่เราเรียกกันว่า U.S. Steel ซึ่งการควบรวมดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นการก่อตั้งบริษัทที่มีมูลค่าสูงถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแท่นเป็นบริษัทพันล้านดอลลาร์สหรัฐแห่งแรกของโลก ซึ่งถ้าแปลงเป็นมูลค่าเงินปัจจุบันจะมีมูลค่าสูงถึง 43,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว
นอกจากนี้ การขายกิจการของแอนดรูว์ คาร์เนกี ก็ได้ทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีรวยที่สุดของโลก ต่อจากจอห์น ดี. ร็อกกีเฟลเลอร์ เจ้าของอาณาจักรน้ำมันในยุคเดียวกัน
ในตอนนั้น แอนดรูว์ คาร์เนกี มีทรัพย์สินอยู่ที่ 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินของเขาหลังปรับเงินเฟ้อมาถึงปัจจุบัน จะอยู่ที่ 372,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็น 2 เท่าของเจฟฟ์ เบโซส มหาเศรษฐีรวยสุดในยุคนี้..
ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของชีวิต แอนดรูว์ คาร์เนกี ไม่ได้เก็บความร่ำรวยไว้กับตัว
ในทางกลับกัน เขาก็ได้บริจาคทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของตัวเองไปกับการทำการกุศลและบริจาค
โดยเงินบริจาคมหาศาลของเขาก็ได้กลายไปเป็นโครงการต่าง ๆ มากมาย เช่น
- ให้เงินสนับสนุนห้องสมุดในประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือแม้แต่ในแอฟริกาใต้
รวมแล้วมากถึง 3,000 แห่ง
- ตั้งกองทรัสต์เพื่อให้เงินสนับสนุนมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง เช่น Carnegie Trust for the Universities of Scotland
- นอกจากนั้นยังสร้าง Carnegie Institute of Technology และ Mellon Institute of Industrial Research ซึ่งภายหลังได้รวมกันเป็น Carnegie Mellon University
เขาได้ทำการกุศลและบริจาครวมกันเป็นมูลค่าประมาณ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 90% ของมูลค่าสินทรัพย์ของเขาในตอนนั้นเลยทีเดียว จนในปี 1919 แอนดรูว์ คาร์เนกี ได้เสียชีวิตลงในวัย 83 ปี
เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ได้สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าเราจะมีต้นทุนชีวิตมาแบบไหน
เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน
อย่างแอนดรูว์ คาร์เนกี ที่แม้จะเริ่มจากการเป็นผู้อพยพและต้องเริ่มทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาได้
นอกจากเรื่องของต้นทุนชีวิตแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการแบ่งปันต่อเพื่อนมนุษย์
ซึ่งแอนดรูว์ คาร์เนกี ก็ถือเป็นหนึ่งในเศรษฐีที่ถูกยกย่องว่าเป็นผู้ใจบุญ
จากการที่เขาได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวให้กับผู้อื่นอย่างมหาศาล
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้เอง
ก็ได้ทำให้เขาไม่ได้เพียงถูกจดจำแค่ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศ
แต่เขายังถูกจดจำในฐานะ มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ
ที่ชื่อของเขายังคงถูกพูดถึง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Andrew_Carnegie
-https://www.investopedia.com/ask/answers/09/1-billion-market-cap.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/Eads_Bridge
-https://en.wikipedia.org/wiki/Carnegie_Mellon_University
-https://waymagazine.org/andrew-carnegie/
-https://www.stlouis-mo.gov/government/departments/planning/cultural-resources/city-landmarks/eads-bridge.cfm
-https://en.wikipedia.org/wiki/Keystone_Bridge_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/Carnegie_Steel_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/U.S._Steel
-https://www.entrepreneur.com/article/317827
-https://en.wikipedia.org/wiki/John_D._Rockefeller
-https://www.therichest.com/rich-powerful/wealthiest-people-all-time-adjusted-inflation/
-https://en.wikipedia.org/wiki/J._P._Morgan
-https://www.blockdit.com/posts/5c5b37970e48bf1d8358b520
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過110萬的網紅Rachel & Jun's Adventures!,也在其Youtube影片中提到,★Cat Merch! https://crowdmade.com/collections/junskitchen - Science Square Tsukuba: http://www.aist.go.jp/sst/en/ IbakiraTV: https://www.youtube.com/...
「government institute of technology」的推薦目錄:
- 關於government institute of technology 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於government institute of technology 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最讚貼文
- 關於government institute of technology 在 Khairy Jamaluddin Facebook 的精選貼文
- 關於government institute of technology 在 Rachel & Jun's Adventures! Youtube 的最讚貼文
- 關於government institute of technology 在 Government College of Technology - GCT, Coimbatore 的評價
- 關於government institute of technology 在 Full Review|Placements|DINESHPRABHU - YouTube 的評價
government institute of technology 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最讚貼文
[Tổng hợp] Học bổng vi vu đất nước Thái Lan
Hôm nay đã là mùng 5 Tết, chúc cả nhà năm Tân Sửu sẽ có nhiều tin vui học bổng và thành công trong công việc cũng như học hành nha!
Không biết có bạn nào thích Thái Lan như mình không, mình cực kì thích tiếng Thái, mê xem phim Thái và yêu con người Thái lắm. Nên hôm nay tổng hợp lại một số học bổng ở xứ sở Chùa Vàng cho các bạn đang quan tâm nhé.
1. Sirindhorn International Institute of Technology Scholarship, Thammasat University
- Bậc học: sau đại học
- Lĩnh vực: Engineering, Technology, Management
- Học bổng: toàn phần (học phí + sinh hoạt phí + vé máy bay khứ hồi + phí visa + bảo hiểm...)
- Deadline: 15.03.2021
2. Scholarship at Chiang Mai University
- Bậc học: thạc sĩ, tiến sĩ, advanced diploma
- Học bổng:
CMU Presidential Scholarship
Teaching/ Research Assistant (TA/RA)
Research Academic Expenses Support
- Deadline: 25.04.2021 hoặc 10.10.2021
3. Royal Thai Government Scholarships at Asian Institute of Technology
- Bậc học: sau đại học
- Ngành học: cực kì đa dạng, từ MBA, kĩ thuật, công nghệ, phát triển bền vững, môi trường...
- Học bổng: học phí + chỗ ở + sinh hoạt phí...
- Deadline: 28.02.2021
4. Rotary Peace Fellowships at Chulalongkorn University
- Bậc học: Professional Development Certificate
- Lĩnh vực: Peace; International development; Leadership
- Học bổng: học phí + chỗ ở + vé máy bay + một số phí khác
- Deadline: 31.05 hàng năm
5. Học bổng toàn phần Hoàng gia Thái Lan
- Bậc học: sau đại học
- Trường học:
Chiang Mai University
King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang
Mahidol University
Prince of Songkla University
Suranaree University of Technology
Thammasat University
- Học bổng: học phí + sinh hoạt phí + vé máy bay + bảo hiểm + tài liệu học tập...
- Deadline: 19.02.2021 (hơi gấp xíu)
Link học bổng: https://hannahed.co/tong-hop-hoc-bong-vi-vu-dat-nuoc-thai-lan/
☘️✈️Các bạn muốn chuẩn bị xin học bổng cần hướng dẫn, mentor, xin việc thực tốt đừng quên các lớp học bổng HannahEd, chương trình Mentor 1-1, review hồ sơ, tập phỏng vấn HannahEd luôn sẵn sàng để hỗ trợ các bạn tối đa với các nội dung từ a=> z về tìm học bổng, làm hồ sơ trong đó có cả viết CV, essay, tập phỏng vấn nhé:
http://tiny.cc/HannahEdClassInfo
Lịch học mới nhất của các lớp: http://tiny.cc/HannahEdClass.
Link thông tin về lớp:
https://hannahed.co/lop-tim-va-nop-hoc-bong/
Các bạn email thoải mái câu hỏi, CV về [email protected] hoặc nhắn tin cho page nhé.
❤ Like page, tag và share cho bạn bè cả nhà nhé ❤
#HannahEd #duhoc #hocbong #sanhocbong #scholarshipforVietnamesestudents
government institute of technology 在 Khairy Jamaluddin Facebook 的精選貼文
MAJLIS HIGH TECH NATION KETENGAHKAN TEKNOLOGI MASA HADAPAN
Semalam saya telah mempengerusikan Mesyuarat Majlis High-Tech Nation yang bertujuan merangka hala tuju teknologi sedia ada dan masa hadapan yang berpotensi untuk dibangunkan di Malaysia. Majlis ini juga akan melaporkan sebarang perkembangan secara terus kepada Majlis Sains Negara yang dipengerusikan oleh Perdana Menteri.
Program dan dasar yang akan dibentuk di bawah majlis ini adalah berpandukan kepada kerangka MySTIE 10-10 serta Dasar Sains, Teknologi dan Inovasi (DSTIN) 2021-2030 yang telah saya lancarkan minggu lalu. Sebanyak 30 bidang keutamaan telah dikenal pasti menerusi rangka kerja ini dan majlis ini akan merapatkan jurang yang wujud bagi memastikan ia dapat memberi kesan maksimum kepada setiap bidang keutamaan.
Majlis ini juga akan mengambil peranan secara proaktif dalam mengetengahkan teknologi masa hadapan yang akan melonjakkan kedudukan negara sebagai peneraju teknologi.
Saya juga telah memilih untuk mengutamakan beberapa program, hala tuju dan dasar agar sesuai dengan keperluan masa kini yang mendesak.
Antara cadangan yang telah dibentangkan semalam adalah berkenaan perubatan kepersisan (precision medicine) daripada Kementerian Kesihatan Malaysia (KKM). Perubatan kepersisan berasaskan teknologi data raya ini berupaya mendiagnos serta merancang perubatan yang berkualiti dan terjamin bagi seseorang pesakit.
Selain itu, Institut Penyelidikan Hidraulik Kebangsaan Malaysia (NAHRIM) juga telah membentangkan Hala Tuju Inovasi Air Negara yang akan menjamin keselamatan air. Menerusi hala tuju ini, sebanyak lima program telah dikenal pasti iaitu sungai yang bersih, rizab margin air, sistem air pintar, pengurangan risiko bencana dan pembiayaan air.
Kementerian Sains, Teknologi dan Inovasi (MOSTI) pula telah membentangkan 9 hala tuju yang sedang dibangunkan oleh agensi-agensi di bawah kementerian. Kesemua hala tuju yang akan dibentangkan pada pertengahan 2021 ini akan memacu kerajaan untuk merangka pelaburan serta memformulasi dasar terbaik dalam pembangunan teknologi-teknologi tersebut. Pelan itu antara lain akan merangkumi: blok rantai (blockchain); nanoteknologi; robotik; hidrogen; kecerdasan buatan (AI); litar bersepadu dan bahan termaju (advanced materials)
Akademi Sains Malaysia telah membentangkan cadangan untuk menginstitusikan sebuah badan pemecut pengkomersialan teknologi (Tech-Commercialisation Accelerator) bagi mengetuai dan mengkoordinasi usaha-usaha penyelidikan beradasarkan perniagaan serta ekonomi. Penyelidikan dan pembangunan (R&D) serta sistem penyampaian ini akan dibuat berasaskan permintaan serta keperluan pasaran untuk inovasi-inovasi penganggu (disruptive innovations). Saya akan mengumumkan lebih lanjut mengenai perkara ini sedikit masa lagi.
Institut Penyelidikan Keselamatan Jalan Raya Malaysia (MIROS) telah membentangkan kertas kerja ‘Teknologi Motosikal: Penyelesaian Kepada Dilema Kemajuan Ekonomi-Keselamatan’ dan menjelaskan bahawa 66 peratus daripada kematian di jalan raya melibatkan kemalangan motosikal. Kami berharap untuk memberi insentif dalam pembangunan, pengaplikasian dan penggunaan teknologi sedia ada serta akan datang bagi memperbaiki kebolehcapaian kesemua aspek keselamatan jalan raya. Bidang yang berpotensi untuk dibangunkan termasuklah teknologi pengujian serta verifikasi, teknologi penghindaran kemalangan, teknologi mengurangkan kecederaan (dalam kemalangan), teknologi pemaduan kembali sosial (social reintegration technology-merujuk kepada teknologi respons pintar awal dan pemulihan) serta teknologi pengurusan dan perancangan strategik.
Kementerian Alam Sekitar dan Air pula telah membentangkan Hala Tuju Inovasi Teknologi Hijau Kebangsaan yang mensasarkan penggunaan teknologi hijau menjelang 2030 bagi memastikan kemampanan alam sekitar negara. Inovasi-inovasi sektoral di bawah pelan ini termasuk perolehan hijau kerajaan, teknologi grid pintar, proses perindustrian hijau, pengawasan sungai melalui Internet Segala Benda (IoT), skim Waste to Energy (WTE) and wealth, pengaplikasian bangunan hijau dan pintar, kenderaan cekap tenaga dan kenderaan elektrik, pertanian bandar serta IoT pengawasan hutan.
Akhir sekali, dalam kita mengadaptasi perubahan tingkah laku akibat COVID-19, saya telah meminta MOSTI menyediakan satu kertas kerja mengenai Inisiatif Infrastruktur dan Ekonomi Sentuhan Rendah. Ini memerlukan anjakan paradigma bukan sahaja dalam cara kita berinteraksi sesama sendiri, malahan dengan dunia secara keseluruhan. Antaranya termasuklah penggosok lantai berautonomi, robot pembantu (membawa barangan) dan sistem pengurusan sisa pintar di pasar-pasar awam. MOSTI juga telah melancarkan penggunaan robot di hospital dengan kerjasama KKM serta memulakan modul robotik, dron serta AI di ladang-ladang bersama FELDA. Beberapa inisiatif ini akan direalisasikan di bawah Sandbox Teknologi dan Inovasi Nasional (NTIS).
Kebanyakan progam, hala tuju dan dasar sedia ada selama ini telah dimajukan secara berasingan atau bersendirian oleh pelbagai kementerian dan agensi. Majlis High Tech Nation adalah permulaan baharu kepada cara kita membangun dan mengaplikasi teknologi dalam negara bagi memastikan segalanya selaras dan koheren dengan keperluan nasional.
KHAIRY JAMALUDDIN
MENTERI SAINS, TEKNOLOGI DAN INOVASI
18 DECEMBER 2020
-----------------------------------------------------------------
HIGH-TECH NATION COUNCIL WILL CHAMPION UPCOMING TECHNOLOGIES
Yesterday, I chaired the first High-Tech Nation Council meeting, which aims to give strategic direction regarding existing and upcoming technology that has the potential to be developed in Malaysia. The High-Tech Nation Council will report directly to the National Science Council, which is chaired by the Prime Minister.
The programmes, roadmaps and policies under the High-Tech Nation Council are driven by the mySTIE 10-10 and National Science, Technology and Innovation Policy 2021-2030 that I launched last week. 30 niche areas were identified under this framework, and the High-Tech Nation Council will aim to fill in any gaps we have identified to make sure that there is maximum impact in these areas.
This Council will be proactive and champion upcoming technologies that we need to embark on as a nation to position us at the forefront of what is current and what is cutting-edge.
I have chosen to prioritise some of the programmes, roadmaps and policies in line with pressing national needs.
Some of the papers presented yesterday include the Ministry of Health’s paper on precision medicine, which takes a personalised, predictive, preventive and participatory approach to medicine. This will be layered together with big-data analytics to give personalised recommendations to each person.
National Hydraulic Research Institute of Malaysia (NAHRIM) presented on the National Water Innovation Roadmap, to guarantee national water security. This involves five programmes; Clean River, Reserve Margin, Smart Water, Disaster Risk Reduction, and Water Financing.
The Ministry of Science, Technology and Innovation presented nine roadmaps that are currently being developed under our agencies. All of these roadmaps will be unveiled by the middle of 2021. These roadmaps will guide our investments and policy direction in rolling out these technologies. They will cover: blockchain, nanotechnology, robotics, hydrogen, artificial intelligence, integrated circuits and advanced materials among others.
The Academy of Sciences presented on institutionalising a Tech-Commercialisation Accelerator, to spearhead and coordinate economic-oriented research in the form of demand-driven R&D and market-driven delivery systems for disruptive innovations. I will be announcing this in due course.
The Malaysian Institute of Road Safety Research (MIROS) also presented on Motorcycle Technology: Solving a Dilemma between Economic Development and Safety. 66% of the fatalities on the road involve motorcycles. We hope to incentive the development, application and deployment of existing and future technologies to improve accessibility and all aspects of road safety. Potential areas we are looking at include testing and verification technology, crash avoidance technology, injury mitigation technology (in event of crash), social reintegration technology (which refers to smart first response and rehabilitation technology), and management and strategic planning technology.
The Ministry of Environment and Water presented the National Green Technology Innovation Roadmap, which aims to leverage green technology innovation for an environmentally sustainable Malaysia by 2030. Sectoral innovations under this roadmap include government green procurement, smart grid technology, green industrial process, IoT river monitoring, Waste to Energy and Wealth schemes, application of smart and green buildings, energy efficiency vehicles & electric vehicles, vertical & urban farming, and IoT forest monitoring.
Lastly, but not least, in line with behavioural changes due to COVID-19, I asked MOSTI to prepare a paper on Low-Touch Infrastructure and Economic Initiatives. These will require a paradigm shift in how we look interact both with each other and the world around us. Some of the low-touch initiatives we have quickly identified include autonomous floor scrubbers, autonomous power assist robots (to carry your goods) and smart waste management systems in public markets. We’ve also launched robotics in hospitals together with MOH, and robotics, drones and artificial intelligence modules in plantations together with FELDA. Some of these initiatives will be realised via the National Technology & Innovation Sandbox.
Many of these programmes, roadmaps, and policies have existed and been implemented in silos by different ministries and agencies. This is just the start of how we relook at the development and application of technology in this country, to ensure everything is in line with our national needs and part of a coherent whole.
KHAIRY JAMALUDDIN
MINISTER OF SCIENCE, TECHNOLOGY AND INNOVATION
18 DECEMBER 2020
government institute of technology 在 Rachel & Jun's Adventures! Youtube 的最讚貼文
★Cat Merch! https://crowdmade.com/collections/junskitchen
- Science Square Tsukuba: http://www.aist.go.jp/sst/en/
IbakiraTV: https://www.youtube.com/ibaraki
The local government in Ibaraki gave us free reign for three days to film whatever places we wanted, and our second stop was Science Square Tsukuba, a showcase of the cutting edge technologies being researched at AIST (The National Institute of Advanced Industrial Science and Technology). There were A LOT of displays! We mainly filmed the areas that were somewhat interactive to make for a more engaging video, but there was a lot of really interesting information on what technologies are being developed right now! There's information in English on touchscreens next to all the displays and it is not dumbed down for anyone! I super recommend this center if you love science and technology.
This is part of Tsukuba Science City, which is a planned city in Japan that aggregates scientific academies, research institutions, museums, and even JAXA (Japan Aerospace Exploration Agency--Japan's version of NASA). It's right next to the geology museum, and a few blocks away is Tsukuba Expo Center, the site of the 1985 Science Exposition. It now hosts Japan's largest observatory and planetarium. And right near that is the Tsukuba Space Center, one of Tsukuba's most popular attractions. If you're into science and technology at all, Tsukuba Science City is a must!!
★ Patreon! http://patreon.com/rachelandjun
►FOLLOW US ε=┌( ・д・)┘
Our Japan channel ⇀ https://www.youtube.com/RachelandJun
Jun's Kitchen ⇀ https://www.youtube.com/JunsKitchen
Twitch ⇀ https://www.twitch.tv/rachelandjun
Gaming ⇀ https://www.youtube.com/RachelandJunGame
Twitter | Instagram *@RachelandJun*
►EQUIPMENT (Amazon affiliates links) _〆(・∀ ・ )
Camera ⇀ GH5 (http://amzn.to/2GJWsN2)
Vlog camera ⇀ RX100 V (http://amzn.to/2DYBZSI)
Editing program ⇀ Vegas Pro 15 (http://bit.ly/RnJVEGAS)
►MUSIC ♪♪(o*゜∇゜)o~♪♪
Music from Epidemic Sound: https://goo.gl/wiYvVq
Life has no limits! Get out there and do something new today!
*・゜゚・*:.。..。.:*・'ヽ(*^▽^*)ノ'・*:.。. .。.:*・゜゚・*
government institute of technology 在 Full Review|Placements|DINESHPRABHU - YouTube 的推薦與評價
Government College of Technology |Full Review|Placements|DINESHPRABHU. DINESH PRABHU. DINESH PRABHU. 80K subscribers. Subscribe. ... <看更多>
government institute of technology 在 Government College of Technology - GCT, Coimbatore 的推薦與評價
Government College of Technology - GCT, Coimbatore, Coimbatore, Tamil Nadu. 5307 likes · 5 talking about this · 8647 were here. An Autonomous... ... <看更多>