8 มหาเศรษฐี ที่สร้างตัวจากธุรกิจ “คาสิโน”
.
คาสิโน บ่อน การพนัน หากพูดในไทยมันคือหนึ่งในธุรกิจผิดกฎหมาย แต่ถ้ามองในมุมของต่างประเทศ ในหลายๆ ประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา มาเก๊า สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สวีเดน สหราชอาณาจักร มันกลับเป็นธุรกิจถูกกฎหมายที่สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นมูลค่ามหาศาล ถึงขั้นที่ว่า สามารถทำให้เจ้าของคาสิโนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีโด่งดังระดับโลกได้เลยทีเดียว จะมีใครบ้างไปดูกัน!
.
1.Sheldon Adelson มูลค่าทรัพย์สิน 39.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.23 ล้านล้านบาท
มหาเศรษฐีขาวอเมริกัน เจ้าพ่อแห่งคาสิโน เป็นเจ้าของธุรกิจ Sands Hotel & Casino โรงแรมคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา มาเก๊า และสิงคโปร์
ก่อนที่เขาจะเดินเข้าสู่เส้นทางธุรกิจคาสิโน เขาเริ่มทำงานหารายได้เองตั้งแต่เด็ก ด้วยการยืนขายหนังสือพิมพ์ตามท้องถนน แม้เรียนไม่จบ แต่เขาสนใจการทำธุรกิจและผ่านงานหลายอย่าง เช่น โดยเฉพาะการเงิน
.
ธุรกิจแรกที่ทำให้เขาก้าวสู่การเป็นมหาเศรษฐี คือ การจัดนิทรรศการงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองลาสเวกัส เมื่อเริ่มร่ำรวย จึงซื้อโรงแรมควบคู่กับบ่อนคาสิโน ในราคา 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.9 พันล้านบาท แล้วเขาก็ได้ขยายอาณาจักรของเขาให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นธุรกิจที่มีมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.3 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันเขาได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่ตำนานเจ้าพ่อแห่งคาสิโนเท่านั้น
.
2. Lui Che Woo มูลค่าทรัพย์สิน 14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.4 แสนล้านบาท
เจ้าพ่อคาสิโนแห่งเอเชีย เจ้าของธุรกิจ Galaxy Entertainment แม้จะเป็นชาวจีนกวางตุ้งแต่กำเนิด แต่อาณาจักรคาสิโนของเขากว้างขวางและมีอยู่หลายแห่งในมาเก๊า เขาเริ่มต้นจาการเป็นเพียงผู้จัดหาวัสดุก่อสร้าง และต่อมาได้ผันตัวเข้าสู่ธุรกิจคาสิโน การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโรงแรม
.
จนถึงปัจจุบันธุรกิจเหล่านี้ก็ยังคงสร้างเงินทอง ความมั่งคั่งให้กับเขาและครอบครัวอย่างไม่ขาดสาย เขาย้ำเสมอว่า “หากคุณไม่กล้าเสี่ยง คุณก็จะทำอะไรไม่ได้เลย” เรียกได้ว่าสิ่งที่ทำให้เขาร่ำรวยมากขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะความพยายามต่อสู้กับสารพัดอุปสรรคที่ประดังหน้าเข้ามาหาเขา
.
3. Pansy Ho มูลค่าทรัพย์สิน 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.1 แสนล้านบาท
ลูกสาวของ Stanley Ho นักลงทุนคาสิโนชื่อดังในมาเก๊า เธอเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน MGM China นอกจากนี้เธอยังเป็นประธานบริษัท Shun Tak Holdings บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ฮ่องกงและมาเก๊า ครอบคลุมตั้งแต่ โรงแรม เรือเฟอร์รี่ รวมถึงการให้บริการเรือข้ามฟากระหว่างฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยถูกจัดอันดับให้มหาเศรษฐีหญิงที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่องกง แต่ปัจจุบันเธอถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในฮ่องกง เป็นอันดับที่ 25 จากทั้งหมด 50 อันดับ
.
4.Phil Ruffin มูลค่าทรัพย์สิน 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท
ซึ่งเขาไม่ใช่แค่เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมและคาสิโน Treasure Island Hotel & Casino แต่เขายังเป็นเพื่อนกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และเป็นหุ้นส่วนในโรงแรม Trump International Las Vegas hotel อีกด้วย
.
จุดเริ่มต้นของเขา เริ่มจากการที่เขาลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อมาขายแฮมเบอร์เกอรืกับเพื่อนๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เก็บเงินซื้อร้านสะดวก สำนักงานโรงแรม และห้างสรรพสินค้า เมื่อมูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เริ่มซื้อโรงแรมและคาสิโนมากขึ้นด้วย โดยความสำเร็จทางธุรกิจที่โดดเด่นที่สุดของเขา ก็คือ การซื้อ New Frontier Hotel & Casino ในราคา 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1998 และในปี 2007 เขาขายมันในราคาสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วจากนั้นเขาจึงนำเงินสดบางส่วนของเขามาซื้อธุรกิจคาสิโน Treasure Island และเป็นเจ้าของมันมาจนถึงปัจจุบัน
.
5.James Packer มูลค่าทรัพย์สิน 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.8 หมื่นล้านบาท
เขาคือผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหารของ Crown Resorts คาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของออสเตรเลีย แต่หลังจากที่เขาตัดสินใจลาออกจากบอร์ดบริหารเมื่อปี 2018 เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต และต้องการให้ชีวิตกลับเข้าลู่เข้าทาง ละทิ้งหน้าที่ที่เต็มไปด้วยความกดดัน แล้วหันมาเพิ่มความสัมพันธ์กับครอบครัวและลูกๆ
.
ซึ่งหลังจากที่เขาประกาศขายหุ้นบางส่วนไป ส่งผลให้เขามีทรัพย์สินน้อยลง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดในคาสิโนนี้ โดยรายงานประจำปี 2019 ของ Crown Resorts ระบุว่า Packer ได้รับการจดทะเบียนเป็นหุ้นรักษา 249.25 ล้านหุ้น สำหรับตำแหน่งความเป็นเจ้าของ 36.81% ในบริษัท
.
6.Steve Wynn มูลค่าทรัพย์สิน 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.5 หมื่นล้านบาท
เจ้าพ่อแห่งคาสิโนระดับไฮเอนด์ เจ้าของ Wynn Resorts หนึ่งในคาสิโนที่มีชื่อเสียงที่สุดในลาสเวกัส โดยเขาคลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจคาสิโน การพนันมาตั้งแต่ปี 1967 แล้วยังเป็นนักลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Bellagio, Wynn Las Vegas, The Mirage และ Treasure Island นับว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักลงทุนหลายคน รวมถึง “Sheldon Adelson” ด้วย
.
โดยจุดเริ่มต้นการลงทุนทำธุรกิจของเขา เริ่มขึ้นเมื่อตอนเขาอายุ 15 ปี กับการขี่จักรยานแจกจ่ายไอศกรีมให้คนทั่วไป และต่อมาเขามีโอกาสได้สืบทอดธุรกิจบิงโกของพ่อที่กำลังล้มเหลว แล้วสามารถกอบกู้มันขึ้นมาใหม่จนกลายเป็นคาสิโนชื่อดัง ซึ่งตั้งแต่นั้นมา เขาก็สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองและธุรกิจคาสิโนของเขามากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งในเจ้าของคาสิโนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ต่อมาเขาก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับขายหุ้นทั้งหมดไป ท่ามกลางข่าวฉาวเกี่ยวกับความประพฤติผิดทางเพศ
.
7.Elaine Wynn มูลค่าทรัพย์สิน 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท
Elaine Wynn ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งลาสเวกัส” เธอกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดใน Wynn Resorts หลังจากที่ Steve อดีตสามีและผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจคาสิโน ถอนตัวออกจากตำแหน่งทั้งหมดและก้าวลงจากตำแหน่ง CEO โดยเมื่อเธอได้เป็นผู้บริหารอย่างเต็มตัว ได้ทำการยกระดับ Wynn Resorts ให้สูงขึ้นอีกขั้น พร้อมกับมีการบังคับให้ผู้บริหารที่ทำงานมาอย่างยาวนานและภักดีกับอดีตสามีของเธอลาออกจากตำแหน่ง
.
แต่เมื่อปี 2019 เธอ และบรรดาผู้บริหาร Wynn Resorts ได้ถูกสอบปากคำเรื่องที่ บริษัทปกปิดข้อกล่าวหาจากพนักงานเป็นเวลาหลายปีว่า Steve มีความประพฤติผิดทางเพศ โดยไต่สวนเป็นเวลา 3 วันเพื่อขุดคุ้ยวัฒนธรรมองค์กรอันเลวร้ายของ Wynn Resorts ตลอดจนการปกป้อง Steve และได้มีการปรับเงินบริษัท 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โทษฐานที่บริหารจัดการข้อกล่าวหาของพนักงานด้วยวิธีการผิดๆ แต่ยังให้ถือใบอนุญาตดำเนินธุรกิจกาสิโนมูลค่า 2.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบอสตัน
.
8.Lorenzo Fertitta มูลค่าทรัพย์สิน 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.2 หมื่นล้านบาท
เขาคือผู้ประกอบการ นักลงทุนผู้ใจบุญชาวอเมริกัน โดยเขาร่วมกับ Frank Fertitta ในการทำธุรกิจคาสิโน Red Rock Resorts ธุรกิจครอบครัวที่พ่อสร้างขึ้น ซึ่งมันเติบโตและขยายกิจการออกไปกว่า 20 คาสิโน 2 รัฐในสหรัฐอเมริกาอและในช่วงปี 2016 ธุรกิจคาสิโนของครอบครัวเขาก็สามารถระดมทุนกว่า 531.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการเสนอขายหุ้น IPO
.
แต่ก่อนที่จะมาทำธุรกิจคาสิโน Red Rock Resorts สิ่งที่ทำให้เขาร่ำรวยคือ การลงทุนร่วมกับน้องชายในการจัดตั้ง Zuffa, LLC เพื่อซื้อทรัพย์สินของ Ultimate Fighting Championship (UFC) ผู้ให้บริการศิลปะการต่อสู้แบบผสมจากบริษัทแม่ ในราคา 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ]หลังจากนั้นเขาก็ทำงานอย่างหนัก เพื่อจัดตั้งกฎการรวมสำหรับการแข่งขัน MMA ทั่วประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการศึกษาและการกีฬา ด้วยการระดมทุนเพื่อผู้ด้อยโอกาส รวมถึงยังทำงานให้กับทหารผ่านศึก และมีส่วนร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ที่สนับสนุนครอบครัวของทหารผ่านศึกที่บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
.
อย่างไรก็ตาม จากความร่ำรวยของพวกเขาเหล่านี้ เชื่อว่าต้องมีบางคนแอบคิดว่า อยากให้มีคาสิโนในบ้านเราบ้าง เพราะจะได้สร้างเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ ซึ่งแน่นอนคาสิโนคือธุรกิจที่จะช่วยให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน รวมถึงช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศมากขึ้น แต่อย่าลืมว่ามันก็สามารถสร้างผลกระทบทางสังคมที่สูงด้วยเช่นกันหากเรายังไม่มีกลไกหรือการรับมือที่ดีพอ ต่อให้อยากมีธุรกิจคาสิโนในประเทศมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เราจะนำประเด็นนี้มาถกเถียงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าสุดท้ายแล้ว เมื่อธุรกิจคาสิโนถูกกฎหมาย ระหว่างผลดีและผลเสียอะไรจะมีมากกว่ากัน ?
.
ที่มา : https://www.entrepreneurshiplife.com/8-billionaire-casino-owners-in-2020/
https://www.forbes.com/profile/james-packer/?sh=37ef64036de5
https://www.forbes.com/profile/phil-ruffin/?sh=1bd7559b7ec4
https://www.forbes.com/profile/pansy-ho/?sh=5f3949dd7276
https://www.forbes.com/profile/elaine-wynn/?sh=189139d8333e
https://www.forbes.com/profile/lorenzo-fertitta/?sh=3e63627463d1
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#มหาเศรษฐี #ธุรกิจคาสิโน #มาเก๊า #SheldonAdelson #LuiCheWoo #PansyHo #PhilRuffin #JamesPacker #SteveWynn #ElaineWynn #LorenzoFertitta #เจ้าพ่อแห่งคาสิโน
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過1,330的網紅Jitsslo,也在其Youtube影片中提到,A weekend in Macau! Shot 100% with a HERO3+ Music by Bag Raiders "Shooting Stars" https://soundcloud.com/bagraiders...
wynn las vegas casino 在 台灣物聯網實驗室 IOT Labs Facebook 的最佳貼文
AI 臉部辨識將告訴賭場經理,誰是今晚的肥羊
作者 Chen Kobe | 發布日期 2019 年 06 月 27 日 11:35
澳門賭場龍頭業者金沙集團(Las Vegas Sands Corp.)將在賭場內部署隱藏式攝影機與臉部辨識系統,搭配數位化的籌碼與特殊設計的賭桌,快速分辨出哪些賭客最有可能「輸大錢」。
莊家永遠不會輸,而且現在還有人工智慧幫他一把。賭場龍頭業者擁抱尖端科技,透過演算法,判斷賭客在賭桌上的行為,並找出那些喜歡追求高風險的人,藉此來讓賭場利潤最大化,換句話說,莊家有機會更精準的讓肥羊一擲千金。
做為大中華地區唯一的合法賭場,澳門賭場經營雖然利潤極高,但也面臨營收成長趨緩的困境,近日金沙集團高層透露,已經獲得當地監管部門同意,開始部署這項新科技,初期將會安裝在約 100 張賭桌上。其他同業,包括米高梅(MGM Resort International)、銀河酒店(Galaxy Entertainment International)、永利澳門(Wynn Macau Ltd.)也正在跟進。
肥羊是賭場的恩客
為什麼賭場會想要找出潛在肥羊呢?賭桌上總是有輸有贏,俗話說「十賭九輸」,整體而言賭場總是會贏錢,問題是怎麼樣能夠賺更多?這套科技的關鍵在於,當賭客上桌後,系統開始記錄他的決策模式,先找出他是否喜歡追求高風險,例如撲克玩家是否常衝動的梭哈。對賭場來說,這樣的玩家玩得越久,賭場能賺到的錢就越多。因此這個系統的下一步就是在偵測到高風險玩家出現時,即時通知給樓面主管,接著開始竭盡所能的服務這位肥羊,例如贈送免費餐點、高檔調酒,甚至偶而開個六給他,讓他贏莊家 100 塊(誤;參見電影賭俠)。
這套系統甚至還能追蹤荷官與賭客的互動,讓管理人員可以適時調動,避免可能賠錢的組合。甚至,業者還能夠為每一位賭客「打分數」,這個分數可以考量的權重包括:在賭桌上的時間、每次下注的金額、風險偏好、輸贏比例、剩餘籌碼、不良紀錄以及他的「淨值」。
目前提供相關技術的業者約有 3 家:Walker Digital、Dallmeier 和 Angel Playing Cards,雖然每個業者提供的內容略有不同,但基礎架構都是以高解析度隱藏攝影機,搭配內建 RFID 的籌碼與賭桌,將相關資料即時回傳到資料庫,經過演算法分析,建立起賭客的個人檔案,提供給管理者運用。
這樣的科技應用是全球賭場的先鋒,因為背後產生的隱私問題,讓歐美國家的業者卻步。首先,賭客將在不知情的狀態下遭到監控,而侵犯到他的隱私權;其次這些監控得來的個人數據,會否被詐騙集團、政府情治單位等第三方所用,而產生更多傷害也值得擔憂。不過,中國遊客也許不會太在意自己被監控,畢竟臉部辨識已經被廣泛的運用在生活中,從海關出入境開始,未來甚至進出地鐵、銀行都會上鏡,也算是另一種走在時代尖端的表現吧。
附圖:▲ 賭場 AI 分析系統能夠即時顯示賭客個人狀態,甚至打上分數。(Source: Dallmeier)
資料來源:https://technews.tw/2019/…/27/ai-facial-recognition-casino/…
wynn las vegas casino 在 Bao Tranchi Facebook 的最佳貼文
One of our favorite customers, Rafaela Abramova, seen here at the Wynn Las Vegas in our new Seraphina Bodysuit. She combined it with a pair of leather trousers and heels for the perfect look for a night out in #LasVegas #baotranchi #beauty #glamour #bodysuit #sequin #wynnlasvegas #encorelasvegas #customerappreciation #slayallday #ootd @ Encore Las Vegas Hotel/Casino
wynn las vegas casino 在 Jitsslo Youtube 的精選貼文
A weekend in Macau!
Shot 100% with a HERO3+
Music by Bag Raiders "Shooting Stars"
https://soundcloud.com/bagraiders